วิธีดูแลตับและไต…ให้แข็งแรง และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีดูแลตับและไตให้ดี เป็นการช่วยแบ่งเบาภาระของตับและไตไม่ให้ต้องทำงานหนักจนเกินไป ทั้งยังช่วยลดและชะลอความเสื่อมตามอายุที่เพิ่มขึ้นได้ โดยการดูแลทั้งสองอวัยวะนี้จะทำเหมือนกันได้ ด้วยการ…
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว รวมประมาณ 1.5-2 ลิตร หรือจะใช้สูตร น้ำหนักตัว x 2.2 x 30/2 จะได้ปริมาณน้ำที่ควรดื่มเป็นมิลลิลิตร เช่น น้ำหนักตัว 55 กก. x 2.2 x 30/2 จะได้เท่ากับ 1,815 มล. หรือ 1.8 ลิตร การดื่มน้ำน้อยกว่าปริมาณที่ร่างกายต้องการจะทำให้การไหลเวียนเลือดและการขับของเสียด้อยประสิทธิภาพลง
- การรับประทานอาหาร ควรเลือกอาหารที่มีกากใยสูง ผ่านการขัดสีน้อย กินอาหารที่มีโอเมก้า-3 เช่น เนื้อปลา น้ำมันถั่วเหลือง ซึ่งจะช่วยลดการอักเสบของตับ ลดอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง ลดอาหารหวานและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหรือน้ำเชื่อมซึ่งจะมีฟลุกโตสสูง ทำให้แบคทีเรียในลำไส้เติบโตเร็วเพิ่มความเสี่ยงตับอักเสบ นอกจากนี้ยังควรงดอาหารที่อาจปนเปื้อนสารอะฟลาทอกซิน เช่น ถั่วป่น พริกป่น ปลาเค็ม ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุการเกิดมะเร็งตับ
อ่านเพิ่มเติม : อาหารบำรุง ตับ ไต
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 150 นาที จะช่วยลดภาวะดื้ออินซูลิน และลดไขมันเลว (LDL) เพิ่มไขมันดี (HDL) ในเลือด ซึ่งดีต่อตับและไต
- ควบคุมน้ำหนักตัว ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน สำหรับผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินมากๆ การลดน้ำหนักได้ 5-10% จะช่วยลดการเกิดภาวะตับอักเสบ และช่วยลดไขมันสะสมในตับลงได้อย่างมีนัยสำคัญ
- เลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ หรือหากดื่ม ผู้ชายไม่ควรเกิน 2 ดื่ม และผู้หญิงไม่ควรเกิน 1 ดื่ม ต่อวัน
- ลด ละ เลิก การสูบบุหรี่ เพื่อลดการเกิดอนุมูลอิสระที่ส่งผลต่อสุขภาพตับและไต
- ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี ตรวจค่าการทำงานของตับ เอนไซม์ AST (SGOT) และการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ หากไม่มีภูมิคุ้มกันอาจฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี หรือตามที่แพทย์แนะนำ ตรวจระดับการทำงานของไต ดูค่า GFR ว่าไตยังทำหน้าที่กรองของเสียได้ปกติดีหรือไม่ อยู่ในระดับกี่เปอร์เซ็นต์ เพื่อการปรับพฤติกรรมหรือรักษาให้ไตทำงานได้ดีขึ้น
ที่มา: paolohospital.com