การทำกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวัน ไม่ว่าจะการทำงาน การใช้ชีวิต และรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ สิ่งเหล่านี้อาจทำให้เกิดความเหนื่อยล้าหรือขาดพลังงานได้ อาจเกิดขึ้นได้ทั้งทางร่างกาย จิตใจและอารมณ์ อาการเหล่านี้เป็นอาการทั่วไปที่เกิดได้ที่ส่งผลทำให้เรารู้สึกอ่อนล้าและหมดแรงในการทำสิ่งอื่น ๆ ไปด้วย
ดังนั้นเรามาเริ่มเยียวยาตัวเองให้ผ่อนคลาย มีความสุขเพิ่มขึ้นในทุกๆ วัน กับ 5 วิธี ที่จะฮีลใจตัวเองให้กลับมามีพลังบวกอีกครั้ง อาจช่วยทำให้รู้สึกกระฉับกระเฉงและกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาได้
5 วิธีดูแลตัวเองจากความเหนื่อยล้า
-
เปลี่ยนวิธีคิด (Positive Thinking)
แค่เปลี่ยนวิธีคิดชีวิตก็เปลี่ยน หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินคำนี้ การคิดบวกนั้นไม่ใช่การหลอกตัวเอง แต่เป็นการยอมรับและเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเจอเรื่องร้ายหรือดี ก็พร้อมปรับตัว และยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น พยายามมองหาข้อดีของทุกอย่าง คนที่มี Positive Thinking จะเป็นคนที่มีความสุขมากหากใครได้อยู่ใกล้ๆ ก็จะพลอยได้รับพลังงานบวกและมีความสุขไปด้วย
-
ออกกำลังกาย (Exercise)
ลุกไปออกกำลังกายเรียกเอ็นโดรฟิน ถ้ามัวแต่ทิ้งตัวลงบนเตียงเป็นผัก จะยิ่งทำให้จิตใจรู้สึกดาวน์ลง ให้ลองวิ่งสัก 15 นาที หรือ คาร์ดิโอเบาๆ เรียกเหงื่อ สัก 30 นาที พยายามฝืนตัวเองทำดู นอกจากจะเรียกเหงื่อได้แล้ว ยังทำให้เราเปลี่ยนโฟกัส ทิ้งเรื่องที่เครียดมาทั้งวันไปแบบไม่รู้ตัว แถมหลังจากออกกำลังเสร็จร่างกาย จะหลั่งสารสารแห่งความสุข “เอ็นโดรฟิน” ออกมาทำให้รู้สึกมีความสุข คลายเครียด และดีต่อสุขภาพมากๆ
-
นั่งสมาธิ (Meditate)
ฝึกนั่งสมาธิให้จิตใจสงบ รู้มั้ยครับว่าการนั่งสมาธิให้ได้สักวันละ 15 นาที เช้า-เย็น นอกจากจะทำให้จิตใจสงบแล้ว สมองยังแจ่มใส ผ่อนคลายความเครียดลงได้ และส่งผลให้ร่างกายทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีงานวิจัยยืนยันแล้วด้วย
-
ผ่อนคลาย (Relax)
พัก ปล่อยใจไปกับสิ่งที่ตัวเองชอบ เวลาหลังเลิกงาน ให้ปล่อยใจไปกับสิ่งที่ตัวเองชอบบ้าง เช่น ทานอาหารอร่อยที่ชอบ เลือกดูซีรีส์ ดูหนัง ดูละคร ที่เล็งไว้แต่ยังไม่ได้ดู หรืออาจจะนอนฟังเพลงเพราะๆ ชิลล์ๆ จะช่วยให้สมองผ่อนคลายจากความเครียดความเหนื่อยลงได้
-
พูดคุยระบายกับคนที่ไว้ใจได้ หรือปรึกษาจิตแพทย์
เมื่อมีความรู้สึกไม่สบายใจ หรือเครียดจากงาน หาทางออกไปเจอกับปัญหา อาจลองคุยกับเพื่อนหรือคนรอบข้างดูก่อน การพูดคุยระบายกับคนที่พร้อมรับฟังคนที่ไว้ใจได้ อาจช่วยให้เราสบายใจขึ้น เพราะอย่างน้อยๆ ก็ทำให้เราไม่ต้องแบกความรู้สึกไว้ทั้งหมดคนเดียว อีกทางเลือกหนึ่งคือการพบจิตแพทย์ การพบจิตแพทย์ในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะการพูดคุยปรึกษาและรับคำแนะนำที่ดีจากผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้เรากลับมาเป็นคนที่มีแรงบันดาลใจ มีไฟในการทำงานอย่างเต็มเปี่ยมอีกครั้ง
เป็นยังไงบ้าง! กับ 5 วิธีการดูแลตัวเองจากอาการเหนื่อยล้าที่เรานำมาฝาก คงช่วยให้หาทางออกได้บ้าง สิ่งเรื่องสำคัญ คือเราต้องการจัดการกับความเครียดให้ได้ พร้อมหาพื้นที่ให้กับตัวเองด้วย หากฝื้นมากไปอาจจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี ลองนำไปปรับใช้กันดูนะคะ เผื่อไฟในชีวิตและการทำงานอาจจะมากขึ้นกว่าเดิมโดยที่ไม่รู้ตัวก็ได้
ที่มา: aigencorp.com