Shopping cart

      การกินผักผลไม้นั้นมีประโยชน์มากมาย เพราะเป็นแหล่งของวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และมีคุณสมบัติของการเป็นแหล่งใยอาหาร ซึ่งเป็นสารที่ช่วยลดการดูดซึมของคอเลสเตอรอลและไขมัน และยังช่วยทำให้ระบบการย่อย ระบบการขับถ่ายทำงานได้อย่างปกติอีกด้วย นอกจากนี้ผักและผลไม้บางชนิดยังมีสารพิเศษที่ช่วยทำหน้าที่คล้ายยาป้องกันและรักษาโรคบางชนิด

      แต่ก็ยังไม่ค่อยมีใครรู้ว่าการเลือกกินผักผลไม้จะให้ประโยชน์กับเรามากที่สุด เมื่อเราทานให้ถูกวิธีของชนิดของผลผลไม้ชนิดนั้นๆ วันนี้เรามีเคล็ดลับกินผักผลไม้ให้ได้ประโยชน์มากที่สุด มาฝากกันค่ะ

 

3 เคล็ดลับการกินผักผลไม้ ให้ได้ประโยชน์มากที่สุด

1. เทคนิคการเลือกผักผลไม้ 

  • ผักผลไม้ชนิดใดที่ที่สุด? ไม่มีชนิดใดดีที่สุด เพราะสารสำคัญในผักผลไม้ชนิดต่าง ๆ จะทำงานออกฤทธิ์ส่งเสริมเกื้อหนุนกัน 
  • ผักดิบกับผักสุก มีประโยชน์เหมือนกันหรือไม่? ผักสุกอาจสูญเสียวิตามินบางชนิดได้ เช่น วิตามินซี ที่สลายตัวได้ง่ายเมื่อถูกความร้อน แต่บางคนอาจประสบปัญหาท้องผูกจากการรับประทานผักดิบได้ หรือมีอาการท้องเสียเพราะล้างผักไม่สะอาด แต่ผักบางชนิดเองหากรับประทานแบบสุกก็จะมีประโยชน์มากกว่า เช่น มะเขือเทศที่ผ่านการปรุงสุกหรือผ่านกระบวนต่าง ๆ เพราะร่างกายจะนำไลโคปีนไปใช้ได้ดีกว่าแบบดิบหรือสด 
  • น้ำผักผลไม้มีประโยชน์เหมือนผักผลไม้สด ๆ หรือไม่? น้ำผักผลไม้จะไม่มีกากใยอาหารเหมือนกับการรับประทานแบบสด ๆ แต่สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยได้รับประทานผักผลไม้สดก็อาจดื่มน้ำผักผลไม้เสริมก็ได้ แต่ถ้าจะให้ดีควรคั้นดื่มเอง เนื่องจากน้ำผักผลไม้สำเร็จรูปจะมีปริมาณของน้ำตาลที่สูง 
  • ผักผลไม้แห้งดีหรือไม่ดี? ผักผลไม้แห้งบางอย่างที่เติมเกลือ ก็จะมีผลต่อโรคความดันโลหิตสูง จึงควรรับประทานแต่น้อย ส่วนผักผลไม้แห้งที่ใส่น้ำตาลจะให้พลังงานสูงกว่าผักผลไม้สดประมาณ 1 เท่าตัว แต่ถ้ารับประทานมากก็ทำให้อ้วนได้เช่นกัน 
  • ผักผลไม้บรรจุกระป๋องหรือแช่แข็ง มีประโยชน์หรือไม่? กระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพสามารถรักษาคุณค่าทางโภชนาการเอาไว้ได้ แต่ก็อาจทำให้สูญเสียวิตามินบางชนิดไปบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับเสื่อมคุณภาพเสียทีเดียว อย่างไรก็ตามถ้าเป็นผักผลไม้กระป๋องก็ควรเลือกชนิดที่ไม่เติมเกลือและน้ำตาล หรือเลือกชนิดที่ใส่สารแต่งเติมให้น้อยที่สุด ส่วนผักผลไม้แช่แข็งก็ต้องเก็บไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสมเท่านั้น 
  • สารสกัดจากผักผลไม้สามารถทกแทนผักไม้สดได้หรือไม่? ผักผลไม้แปรรูปที่อยู่ในรูปของอาหารเสริมหรือสารสกัดไม่สามารถทดแทนการรับประทานผักผลไม้สดได้ หรือผักผลไม้สดจะมีทั้งกากใบ วิตามิน และเกลือแร่มากมายหลายชนิด

2.เทคนิคการกินผักผลไม้

      อย่างที่เรารู้ ๆ กันว่าผักผลไม้เป็นแหล่งรวมของวิตามินและเกลือแร่ที่จำเป็นต่อร่างกาย อีกทั้งยังมีใยอาหารซึ่งช่วยลดการดูดซึมของไขมันและคอเลสเตอรอลได้ดี ร่วมด้วยไฟเบอร์ที่ทำให้ระบบขับถ่ายสามารถทำงานได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ในผักผลไม้บางชนิดยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องการการเกิดโรคมะเร็งได้อีกด้วย มาดูวิธีที่แนะนำในการกินผลไม้ให้ได้ประโยน์สุงสุด มีอะไรบ้าง ที่เราต้องสังเกตและเองได้ง่าย ๆ

  • ควรเลือกกินผักผลไม้ให้หลากหลายสีสัน หรือรับประทานให้ครบทั้ง 5 สี เนื่องจากผักผลไม้แต่ละสีจะมีคุณค่าทางอาหารที่แตกต่างกันออกไป ไม่ควรรับประทานผักผลไม้ซ้ำ ๆ เดิม ๆ 
  • ให้เลือกกินผักผลไม้โดยดูจากความหวาน โดยควรเลือกรับประทานชนิดที่มีรสหวานจัด (ขนุน, ลิ้นจี่, มะม่วงสุก, ทุเรียน, ลำไย), รสหวานปานกลาง (เงาะ, มะม่วงดิบ, ส้ม, สับปะรด,), และรสหวานน้อย (ชมพู่, ส้มโอ, แอปเปิ้ล) สลับกันไป ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลมากจนเกินไปด้วย 
  • เปลือกผลไม้บางชนิดก็มีประโยชน์ ปอกทิ้งไปก็เสียดาย อย่างเช่นเปลือกแอปเปิ้ล นักวิจัยพบว่าเปลือกแอปเปิ้ลแดงหนึ่งผลมีสารต้านอนุมูลอิสระเทียบเท่ากับวิตามินซี 820 มิลลิกรัม หรือเปลือกมันฝรั่งที่อุดมไปด้วยไปใยอาหารและแร่ธาตุบางชนิดมากกว่าเนื้อมันฝรั่งเสียอีก เป็นต้น
  • ล้างทำความสะอาด ก่อนนำผักผลไม้มารับประทานคุณควรนำมาล้างให้สะอาดเสียก่อน ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยจากสารเคมีต่าง ๆ รวมถึงยาฆ่าแมลง

3. เลือกกินให้ได้ปริมาณที่เหมาะสม/ต่อวัน

       ผักผลไม้นับเป็นอาหารที่ดีต่อการลดน้ำหนักมีไขมันต่ำ ให้พลังงานน้อยสามารถกินได้มาก อีกทั้งใยอาหารในผักและผลไม้ช่วยให้อิ่มท้องและเป็นมิตรต่อระบบย่อยอาหาร โดยปริมาณที่แนะนำต่อวันอยู่ที่ 400 กรัม โดยในแต่ละวันควรแบ่งสัดส่วนในการกินผักปรุงสุก (หลากหลายสี) อยู่ที่ 240 กรัม และผลไม้อยู่ที่ 160 กรัม

 

      จะเห็นได้ว่าผักผลไม้แต่ละชนิดมีวิธีการกินที่แตกต่างกันเพื่อให้ได้ประโยชน์นั้นมากที่สุด และการทานผักผลไม้นั้นยังมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือดได้ด้วย นอกจากนี้เราจึงควรเลือกกินผักผลไม้ให้หลากหลายและครบ 5 สี เพราะผักผลไม้แต่ละสีก็ให้คุณค่าทางอาหารที่แตกต่างกันออกไปเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง

ข้อมูลจาก: medthai.com

ใส่ความเห็น

กุมภาพันธ์ 2025
จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส. อา.
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
2425262728