ใบแปะก๊วย สมุนไพรโบราณที่มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศจีน ถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการรักษาทางการแพทย์แผนจีนมาอย่างช้านาน เพราะมีสรรพคุณทางยาหลายชนิด อีกทั้งยังมีคุณประโยชน์ช่วยบำรุงร่างกายและบรรเทาอาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบสมอง ระบบไหลเวียนโลหิต มีการนำผลแปะก๊วยมาประกอบอาหารในรูปแบบต่างๆ แต่ไม่ใช่ส่วนที่มีสารสำคัญที่ช่วยบำรุงสมอง เพราะสารสำคัญเหล่านั้นอยู่ในส่วนของใบและเรามิได้มีการนำมาประกอบอาหารแต่อย่างใด
10 คุณประโยชน์จากสมุนไพรใบแปะก๊วย
1. เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ
ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย นั่นก็คือ ฟวาโวนไกลโคไซค์ (Flavone Glycoside) และ เทอร์ปีน แลคโตน (Terpene lactone) ซึ่งช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย
2. ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตของร่างกายและสมอง
ทำให้ออกซิเจนสามารถไปเลี้ยงสมอง หัวใจ และอวัยวะต่างๆ ในร่างกายได้ดี ถ้าสมองขาดเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอไม่ว่าจากสาเหตุใด สมองจะเสื่อมสมรรถภาพ และฝ่อไปในที่สุด
3. ช่วยป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์
เนื่องจากไปกระตุ้นการไหลเวียนเลือดให้ไปเลี้ยงสมองได้ดี ซึ่งส่งผลดีในการช่วยปกป้องการสูญเสียความทรงจำ รวมทั้งบำรุงความจำ และบรรเทาอาการโรคอัลไซเมอร์ได้
4. ช่วยลดอาการเวียนหัว เสียงดังในหู หรือหูอื้อลงได้
เมื่อรับประทานสกัดจากใบแปะก๊วย ขนาด 240 มก.ต่อวันเป็นเวลา 12 สัปดาห์ พบว่าสารสกัดจากแปะก๊วยมีประสิทธิภาพในการรักษาอาการเวียนหัวเท่ากับ “เบตาฮีสทีน” (ยาที่ใช้รักษาอาการเวียนหัว) ที่นินยมใช้กันแพร่หลายในปัจจุบัน
5. ช่วยทำให้มีสมาธิ และเพิ่มความจำได้ดีขึ้น
มีผลวิจัยที่ทำในกลุ่มตัวอย่างคนทำงานพบว่า วัยทำงานที่รับประทานแปะก๊วย ในปริมาณ 120-240 มก.ต่อวัน จะมีการพัฒนาทางความคิด ความจำ และสมาธิเพิ่มขึั้น
6. ช่วยต้านโรคซึมเศร้า
สำหรับคนป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบทั่วไป มีการศึกษาพบว่าผู้ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจะมีสภาวะอารมณ์ที่ดีขึ้นเมื่อรับประทานสารสกัดจากใบแปะก๊วยร่วมกับยาที่ใช้รักษาอาการ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ
7. ช่วยบรรเทาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ดี
เพราะสามารถช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดในร่างกายดีขึ้น สามารถแก้ไขปัญหาเลือดไปไหลเวียนในบริเวณอวัยวะเพศไม่สะดวก โดยจากการศึกษาพบว่าการรับประทานสารสกัดจากแปะก๊วยเป็นประจำติดต่อกัน 6 เดือน ช่วยให้อาการดีขึ้นมากถึง 50% โดยเฉพาะในผู้ชายที่มีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งการรับประทานแปะก๊วยจะช่วยให้เลือดไหลเวียนไปยังองคชาตมากขึ้น
8. ช่วยบรรเทาความกังวล
โดยในต่างประเทศมีการวิจัยในกลุ่มตัวอย่างจำนวนหนึ่งเป็นเวลา 4 สัปดาห์ โดยแบ่งกลุ่มตัวอย่างออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งในรับประทานสารสักดจากใบแปะก๊วย ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งในรับประทานยาหลอก ปรากฎว่าเมื่อถึงเวลาสรุปผลการวิจัยพบว่า กลุ่มที่ได้รับสารสกัดจากแปะก๊วย (Ginkgo Extract) มีภาวะทางจิตใจที่ผ่อนคลาย อารมณ์คงที่ มากกว่ากลุ่มที่ให้ยาหลอก
9. ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และกระจ่างใสให้กับผิว
มีการศึกษาโดยการนำเอาชาเขียว (Green Tea) และสารสกัดจากใบแปะก๊วย (Ginkgo Extract) มาทาผิวพบว่า ผิวที่เคยแห้งกร้านกลับมีความชุ่มชื้นเพิ่มมากขึ้น และช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นดีขึ้น
10. ช่วยลดความเสี่ยงการแข็งตัวของหลอดเลือดแดง
ใบแปะก๊วยจะช่วยลดการสะสมของคราบจุลินทรีย์และโรคหัวใจ ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้เป็นภาวะอันตรายที่อาจนำไปสู่โรคหลอดเลือดหัวใจ
การเลือกซื้อสมุนไพรใบแปะก๊วยมารับประทาน
ในปัจจุบันมีการนำเอาใบแปะก๊วยมาสกัดให้อยู่ในรูปแบบแคปซูลเพื่อสะดวกในการรับประทานมากมายหลายยี่ห้อ บางยี่ห้อได้มาตรฐาน แต่บางยี่ห้อก็ไม่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาในประเทศไทย ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคอย่างมาก
ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญจึงได้แนะนำวิธีการเลือกซื้อสารสกัดใบแปะก๊วยที่ถูกต้องโดยมีหลักดังต่อไปนี้
- ควรจะต้องเลือกซื้อในรูปแบบของแคปซูลนิ่ม เพื่อช่วยให้สารสำคัญมีการแตกตัว เพื่อให้ร่างกายดูดซึมได้ดีกว่า
- ควรต้องเลือกยี่ห้อที่ผลิตภายใต้มาตรฐานการผลิตยาสากล ซึ่งจะเป็นการันตีว่าสารสกัดใบแปะก๊วยยี่ห้อนั้น ปลอดภัยและผ่านการรับรอง
- ไม่ควรเลือกซื้อยี่ห้อที่ไม่มีมาตรฐาน ซึ่งจะเป็นการเสี่ยงต่อสารปนเปื้อน สารโลหะหนักที่มีโอกาสะสม และเป็นอันตรายต่อร่างกาย หากรับประทานในระยะยาว
- ก่อนการเลือกซื้อควรปรึกษาเภสัชกร และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อได้รับคำแนะนำในการซื้อ และวิธีการรับประทานอย่างถูกต้อง
การเลือกรับประทานใบแปะก๊วยให้ได้ประโยชน์สูงสุด
ในปัจจุบันมีการนำสารสกัดจากสมันไพรใบแปะก๊วยมาเป็นส่วนผสมอยู่ในเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เช่น นม กาแฟ ชา หรือเครื่องดื่มสารกสัดจากใบแปะก๊วยพร้อมดื่ม สะดวกต่อการรับประทาน แต่เราจะได้รับสารสำคัญจากใบแปะก๊วยปริมาณเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอต่อการดูแลสุขภาพ
การรับประทานใบแปะก๊วยนั้น ไม่ว่าจะรับประทานแบบใดก็ล้วนแต่มีประโยชน์ ให้สรรพคุณที่ดีแก่ร่างกาย และต้องไม่ลืมที่จะรับประทานอาหารอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ควบคู่กันไปด้วย เพราะสารอาหารที่ครบถ้วน คือสิ่งที่ร่างกายมนุษย์เราต้องการมากที่สุดนั่นเอง
ที่มา: megawecare.co.th