Shopping cart

วีซ่า Digital Nomad 2569: อยู่ไทยครบ 180 วันเสียภาษี?

สารบัญ

การเข้ามาของวีซ่าประเภทใหม่สำหรับกลุ่ม Digital Nomad ในประเทศไทย หรือที่เรียกว่า Destination Thailand Visa (DTV) ได้เปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติที่ทำงานทางไกลสามารถพำนักในประเทศได้ยาวนานขึ้น อย่างไรก็ตาม การพำนักระยะยาวนี้มาพร้อมกับประเด็นสำคัญด้านกฎหมายภาษี โดยเฉพาะคำถามที่ว่าการอยู่ไทยครบ 180 วัน จะส่งผลให้ต้องเสียภาษีในประเทศไทยหรือไม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจอย่างละเอียดเพื่อการวางแผนการเงินที่ถูกต้อง

ประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณา

วีซ่า Digital Nomad 2569: อยู่ไทยครบ 180 วันเสียภาษี? - thailand-digital-nomad-tax-2026

  • เกณฑ์ 180 วัน: การพำนักในประเทศไทยครบ 180 วันในหนึ่งปีปฏิทิน (1 มกราคม – 31 ธันวาคม) เป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดสถานะ “ผู้มีถิ่นที่อยู่ทางภาษี” (Tax Resident)
  • ภาระภาษี: เมื่อมีสถานะเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ทางภาษี รายได้จากแหล่งเงินได้ในต่างประเทศที่นำเข้ามาในประเทศไทยในปีภาษีเดียวกัน จะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามกฎหมายไทย
  • ข้อจำกัดของวีซ่า: ผู้ถือวีซ่า Digital Nomad (DTV) ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานกับบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศไทย รายได้ทั้งหมดต้องมาจากแหล่งนอกประเทศเท่านั้น
  • การยื่นแบบภาษี: หากเข้าเกณฑ์ต้องเสียภาษี จะต้องดำเนินการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 90) ตามกำหนดเวลาของกรมสรรพากร
  • การวางแผนทางการเงิน: ความเข้าใจในกฎเกณฑ์ภาษีเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับ Digital Nomad เพื่อการวางแผนจัดการรายได้และการโอนเงินเข้าประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ

บทความนี้จะเจาะลึกถึงรายละเอียดของ วีซ่า Digital Nomad 2569: อยู่ไทยครบ 180 วันเสียภาษี? เพื่อให้ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับเงื่อนไข ข้อกำหนด และผลกระทบทางภาษีที่เกี่ยวข้องกับการพำนักระยะยาวในประเทศไทยสำหรับผู้ทำงานทางไกลจากทั่วโลก

ภาพรวมของวีซ่า Digital Nomad และสถานะทางภาษีในประเทศไทย

ประเทศไทยได้กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับกลุ่ม Digital Nomad หรือผู้ที่ทำงานทางไกลโดยไม่ยึดติดกับสถานที่ ด้วยปัจจัยสนับสนุนหลายด้าน เช่น ค่าครองชีพที่สมเหตุสมผล วัฒนธรรมที่น่าสนใจ และโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองต่อแนวโน้มดังกล่าว รัฐบาลไทยจึงได้ริเริ่มวีซ่าประเภทใหม่ที่เรียกว่า “Destination Thailand Visa” (DTV) ซึ่งออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้ชาวต่างชาติกลุ่มนี้สามารถพำนักในประเทศได้ในระยะยาว

การมาถึงของวีซ่า DTV สร้างความชัดเจนในด้านการเข้าเมือง แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ประเด็นด้านภาษีกลายเป็นหัวข้อที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณาอย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎเกณฑ์การนับระยะเวลาพำนัก 180 วัน ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการกำหนดสถานะทางภาษีของบุคคลนั้น ๆ ในประเทศไทย ความเข้าใจในหลักการนี้จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชาวต่างชาติทุกคนที่วางแผนจะใช้ชีวิตและทำงานทางไกลจากประเทศไทย เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามกฎหมายและวางแผนการเงินส่วนบุคคลได้อย่างถูกต้องและรอบคอบ

เจาะลึก Destination Thailand Visa (DTV) สำหรับ Digital Nomad

Destination Thailand Visa (DTV) คือวีซ่าประเภทใหม่ที่ออกมาเพื่อรองรับกลุ่มชาวต่างชาติที่ต้องการพำนักในประเทศไทยระยะยาว โดยเฉพาะกลุ่ม Digital Nomad, ฟรีแลนซ์, และผู้ที่ทำงานทางไกลให้กับบริษัทในต่างประเทศ วีซ่านี้มีลักษณะเป็นวีซ่าประเภทเข้า-ออกได้หลายครั้ง (Multiple-Entry) มีอายุการใช้งานนานถึง 5 ปี

ผู้ถือวีซ่า DTV สามารถพำนักในประเทศไทยได้ในแต่ละครั้งสูงสุด 180 วัน และมีสิทธิ์ขอขยายระยะเวลาพำนักเพิ่มเติมได้อีก 180 วัน ทำให้สามารถอยู่ในประเทศได้ต่อเนื่องเกือบหนึ่งปีต่อการเดินทางหนึ่งครั้ง

คุณสมบัติและเงื่อนไขสำคัญ

เพื่อให้ได้รับการอนุมัติวีซ่า DTV ผู้สมัครจำเป็นต้องมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดพื้นฐานที่หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองกำหนดไว้ ดังนี้:

  • อายุ: ผู้สมัครต้องมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
  • หลักฐานทางการเงิน: จำเป็นต้องแสดงหลักฐานว่ามีเงินฝากในบัญชีธนาคารเป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 500,000 บาท โดยเงินจำนวนนี้จะต้องคงอยู่ในบัญชีเป็นระยะเวลาต่อเนื่องอย่างน้อย 3 เดือนก่อนวันยื่นขอวีซ่า
  • สถานะทางการเงิน: แม้จะไม่มีการกำหนดเกณฑ์รายได้ขั้นต่ำรายเดือนหรือรายปีไว้อย่างชัดเจน แต่ผู้สมัครต้องสามารถแสดงหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้ว่ามีแหล่งรายได้ที่มั่นคงจากต่างประเทศ

ข้อจำกัดด้านการทำงานและแหล่งที่มาของรายได้

หนึ่งในเงื่อนไขที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้ถือวีซ่า DTV คือข้อจำกัดด้านการทำงาน ผู้ถือวีซ่าประเภทนี้ ไม่ได้รับอนุญาต ให้ทำงานหรือเป็นลูกจ้างของบริษัทใด ๆ ที่จดทะเบียนและดำเนินกิจการในประเทศไทยโดยเด็ดขาด วัตถุประสงค์หลักของวีซ่าคือเพื่อสนับสนุนให้บุคคลที่มีรายได้จากต่างประเทศเข้ามาใช้จ่ายและอาศัยอยู่ในไทย

ดังนั้น ผู้สมัครจะต้องเตรียมเอกสารเพื่อพิสูจน์ว่าตนเองมีสัญญาจ้างงานกับบริษัทต่างชาติ, เป็นเจ้าของธุรกิจในต่างประเทศ, หรือมีแหล่งรายได้อื่น ๆ ที่มาจากนอกราชอาณาจักรไทยอย่างชัดเจน การละเมิดเงื่อนไขนี้อาจนำไปสู่การเพิกถอนวีซ่าและผลทางกฎหมายอื่น ๆ ตามมา

กฎเกณฑ์ 180 วัน: จุดชี้ขาดสถานะผู้มีถิ่นที่อยู่ทางภาษี

ประเด็นที่สำคัญที่สุดสำหรับ Digital Nomad ที่พำนักในไทยภายใต้วีซ่า DTV คือความเชื่อมโยงระหว่างระยะเวลาการพำนักกับภาระทางภาษี กฎหมายสรรพากรของไทยมีหลักการที่ชัดเจนในการกำหนดสถานะของผู้เสียภาษี โดยใช้เกณฑ์ระยะเวลาการอยู่ในประเทศเป็นตัวชี้วัดหลัก

คำนิยามของ “ผู้มีถิ่นที่อยู่ทางภาษี” ในประเทศไทย

ตามประมวลรัษฎากรของไทย บุคคลใดก็ตามที่พำนักอยู่ในประเทศไทยเป็นระยะเวลาทั้งหมดรวมกันถึง 180 วันหรือมากกว่านั้นภายในหนึ่งปีปฏิทิน (นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม ของปีใดปีหนึ่ง) จะถูกพิจารณาให้มีสถานะเป็น “ผู้มีถิ่นที่อยู่ทางภาษี” (Tax Resident) ในปีภาษีนั้น ๆ

สิ่งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจคือ สถานะนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับประเภทของวีซ่าที่ถือครอง สัญชาติ หรือวัตถุประสงค์ในการเดินทาง แต่ขึ้นอยู่กับจำนวนวันที่บุคคลนั้นปรากฏตัวอยู่ในราชอาณาจักรไทยเป็นหลัก ดังนั้น ผู้ถือวีซ่า DTV ที่ใช้สิทธิ์พำนักและขยายเวลาจนครบหรือเกิน 180 วัน จะเข้าข่ายตามคำนิยามนี้โดยอัตโนมัติ

ผลกระทบเมื่อเข้าเกณฑ์เป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ทางภาษี

เมื่อบุคคลใดมีสถานะเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ทางภาษีของประเทศไทย จะเกิดภาระผูกพันทางภาษีตามมา หลักการสำคัญคือ:

  1. รายได้จากแหล่งในประเทศ: เงินได้ทุกประเภทที่เกิดขึ้นในประเทศไทยจะต้องเสียภาษี (ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับ Digital Nomad ที่มีรายได้จากต่างประเทศเท่านั้น)
  2. รายได้จากแหล่งนอกประเทศ: นี่คือส่วนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ Digital Nomad โดยกฎหมายระบุว่า เงินได้จากแหล่งนอกประเทศไทย (เช่น เงินเดือนจากบริษัทต่างชาติ, รายได้จากธุรกิจในต่างประเทศ) ที่บุคคลผู้มีถิ่นที่อยู่ทางภาษี นำเข้ามาในประเทศไทยในปีภาษีเดียวกันกับที่เกิดเงินได้นั้น จะต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในประเทศไทย

ตัวอย่างเช่น หาก Digital Nomad พำนักในไทย 200 วันในปี 2569 และได้รับเงินเดือนจากบริษัทในสิงคโปร์ในเดือนมิถุนายน 2569 หากมีการโอนเงินเดือนส่วนนั้นเข้ามายังบัญชีธนาคารในประเทศไทยภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2569 เงินจำนวนดังกล่าวจะถือเป็นเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษีในไทย แต่หากนำเงินที่ได้รับในปี 2568 (ปีก่อนหน้า) เข้ามาในปี 2569 เงินก้อนนั้นอาจไม่เข้าเกณฑ์การเสียภาษี การทำความเข้าใจเงื่อนไขเรื่องปีภาษีจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

กระบวนการยื่นภาษีสำหรับ Digital Nomad (ภ.ง.ด. 90)

เมื่อ Digital Nomad เข้าเงื่อนไขเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ทางภาษีและมีเงินได้จากต่างประเทศที่นำเข้ามาในปีภาษีเดียวกัน ขั้นตอนต่อไปคือการปฏิบัติตามหน้าที่ของผู้เสียภาษีในประเทศไทย ซึ่งก็คือการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ทำความเข้าใจแบบแสดงรายการภาษี ภ.ง.ด. 90

แบบ ภ.ง.ด. 90 คือแบบฟอร์มมาตรฐานสำหรับผู้มีเงินได้บุคคลธรรมดาทั่วไปที่ไม่ได้มีรายได้จากเงินเดือนเพียงอย่างเดียว ซึ่งครอบคลุมถึงกรณีของ Digital Nomad ที่มีรายได้จากแหล่งต่างประเทศด้วย การยื่นแบบฯ จะต้องทำภายในช่วงเวลาที่กรมสรรพากรกำหนด ซึ่งโดยปกติคือระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 31 มีนาคม ของปีถัดจากปีภาษีที่มีเงินได้

ตัวอย่างเช่น เงินได้ที่เกิดขึ้นและนำเข้ามาในประเทศไทยตลอดปี 2569 จะต้องทำการยื่นแบบ ภ.ง.ด. 90 ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2570 การยื่นล่าช้าหรือไม่ยื่นเลยอาจมีเบี้ยปรับและเงินเพิ่มตามที่กฎหมายกำหนด

หลักการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเบื้องต้น

การคำนวณภาษีในประเทศไทยใช้ระบบอัตราภาษีแบบก้าวหน้า (Progressive Rate) หมายความว่าผู้ที่มีรายได้สุทธิสูงกว่า จะต้องเสียภาษีในอัตราที่สูงขึ้นตามลำดับขั้น โดยมีขั้นตอนการคำนวณเบื้องต้นดังนี้:

  1. รวมเงินได้พึงประเมิน: นำเงินได้จากต่างประเทศที่นำเข้ามาในไทยตลอดทั้งปีภาษีมารวมกัน
  2. หักค่าใช้จ่าย: กฎหมายอนุญาตให้หักค่าใช้จ่ายตามที่กำหนดเพื่อคำนวณเงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย
  3. หักค่าลดหย่อน: นำค่าลดหย่อนต่าง ๆ มาหักออก เช่น ค่าลดหย่อนส่วนตัว, ค่าลดหย่อนบุตร, หรือค่าลดหย่อนอื่น ๆ ตามเงื่อนไข
  4. คำนวณเงินได้สุทธิ: เงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน จะเรียกว่า “เงินได้สุทธิ”
  5. คำนวณภาษี: นำเงินได้สุทธิไปคำนวณภาษีตามอัตราภาษีก้าวหน้า ซึ่งเริ่มต้นที่ 5% และสูงสุดที่ 35% (เงินได้สุทธิ 0-150,000 บาทแรกได้รับการยกเว้น)

การศึกษาและทำความเข้าใจรายการค่าลดหย่อนต่าง ๆ จะช่วยให้สามารถวางแผนเพื่อลดภาระภาษีได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

การวางแผนภาษีและข้อควรพิจารณาเพิ่มเติม

สำหรับ Digital Nomad การวางแผนภาษีอย่างรอบคอบเป็นกุญแจสำคัญในการบริหารจัดการการเงินอย่างมีประสิทธิภาพเมื่อพำนักอยู่ในประเทศไทย การทำความเข้าใจความแตกต่างของภาระภาษีระหว่างการพำนักระยะสั้นและระยะยาวจะช่วยให้สามารถตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม

ตารางเปรียบเทียบภาระภาษีตามระยะเวลาการพำนักในประเทศไทย
เกณฑ์พิจารณา สถานะ: พำนักน้อยกว่า 180 วัน สถานะ: พำนัก 180 วันขึ้นไป
สถานะผู้มีถิ่นที่อยู่ทางภาษี ไม่เข้าเกณฑ์ (Non-Resident) เข้าเกณฑ์ (Tax Resident)
ภาระภาษีเงินได้จากต่างประเทศ ไม่มีภาระภาษีต่อรายได้ที่นำเข้า มีภาระภาษีต่อรายได้ที่นำเข้าในปีภาษีเดียวกัน
ความจำเป็นในการยื่น ภ.ง.ด. 90 ไม่มีความจำเป็น (สำหรับรายได้ต่างประเทศ) มีความจำเป็นต้องยื่นแบบฯ
กลยุทธ์การวางแผน บริหารจัดการวันเดินทางเพื่อไม่ให้เกินเกณฑ์ วางแผนการโอนเงินและศึกษาค่าลดหย่อนภาษี

กรณีศึกษาพิเศษ: พลเมืองสหรัฐอเมริกา

เป็นที่น่าสังเกตว่า พลเมืองของบางประเทศมีภาระผูกพันทางภาษีกับประเทศของตนเองโดยไม่คำนึงถึงสถานที่พำนัก ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือพลเมืองสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีกฎหมายกำหนดให้ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีต่อหน่วยงานสรรพากรของสหรัฐฯ (IRS) ทุกปี โดยจะต้องรายงานรายได้จากทั่วโลก ไม่ว่าจะอาศัยอยู่ที่ใดก็ตาม

ดังนั้น Digital Nomad สัญชาติอเมริกันที่พำนักในไทยเกิน 180 วัน อาจมีภาระภาษีซ้อน คือต้องยื่นภาษีทั้งในประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม มักจะมีข้อตกลงภาษีซ้อน (Double Taxation Agreement) และเครดิตภาษีต่างประเทศ (Foreign Tax Credit) ที่สามารถช่วยบรรเทาภาระดังกล่าวได้ ซึ่งเป็นรายละเอียดที่ต้องศึกษาเพิ่มเติมหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีระหว่างประเทศ

บทสรุป: การเตรียมความพร้อมด้านภาษีสำหรับ Digital Nomad ในไทย

สรุปได้ว่า คำถาม “วีซ่า Digital Nomad 2569: อยู่ไทยครบ 180 วันเสียภาษี?” มีคำตอบที่ชัดเจนว่า “ใช่ มีโอกาสต้องเสียภาษี” หากเข้าเงื่อนไขการเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ทางภาษีและมีการนำเงินได้จากต่างประเทศเข้ามาในปีภาษีเดียวกัน วีซ่า Destination Thailand Visa (DTV) เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการอำนวยความสะดวกด้านการพำนักระยะยาว แต่ไม่ได้ให้สิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาโดยอัตโนมัติ

ดังนั้น สำหรับชาวต่างชาติที่วางแผนจะใช้ชีวิตและทำงานทางไกลในประเทศไทย การเตรียมความพร้อมด้านภาษีจึงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถละเลยได้ การนับจำนวนวันที่พำนักในแต่ละปีปฏิทินอย่างแม่นยำ การบันทึกแหล่งที่มาและช่วงเวลาของรายได้ รวมถึงการวางแผนการโอนเงินเข้าประเทศ ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้สามารถบริหารจัดการภาระภาษีได้อย่างถูกต้องและสอดคล้องกับกฎหมายไทย การศึกษาข้อมูลและวางแผนอย่างรอบคอบคือหัวใจสำคัญสู่ความสำเร็จในการทำงานทางไกลจากประเทศไทยอย่างราบรื่นและไร้กังวล

สั่งเสื้อ

ตุลาคม 2025
จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส. อา.
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031