SME รับทรัพย์! ส่องเทรนด์ธุรกิจดาวรุ่งรับปีใหม่ 2569

เมื่อเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของปี บรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองและการจับจ่ายใช้สอยเริ่มคึกคักขึ้นอีกครั้ง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ผู้ประกอบการต่างคาดหวังเม็ดเงินสะพัด โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ที่ต้องเตรียมความพร้อมเพื่อคว้าโอกาสทองนี้ บทความนี้จะพาไป SME รับทรัพย์! ส่องเทรนด์ธุรกิจดาวรุ่งรับปีใหม่ 2569 ซึ่งเป็นแนวโน้มธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตสูง โดยมุ่งเน้นกลุ่มที่สามารถตอบสนองต่อพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบจากเทคโนโลยีดิจิทัล การเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างเต็มรูปแบบ และกระแสการใส่ใจสุขภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การทำความเข้าใจเทรนด์เหล่านี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถวางกลยุทธ์และปรับทิศทางธุรกิจได้อย่างแม่นยำ เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันและสร้างรายได้อย่างยั่งยืนในปีที่กำลังจะมาถึง

ภาพรวมเทรนด์ธุรกิจที่ไม่ควรพลาดในปี 2569

• เมกะเทรนด์ขับเคลื่อนธุรกิจ: ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัล (AI, Cloud), สังคมสูงวัย, สุขภาพ (Health & Wellness) และสัตว์เลี้ยง (Pet Humanization) ยังคงเป็นดาวเด่นที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีนัยสำคัญ
• ดิจิทัลคือหัวใจหลัก: ธุรกิจที่อยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น E-Commerce, Social Media, Content Creator และบริการด้าน Cyber Security มีความต้องการสูง สะท้อนถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้ชีวิตในโลกดิจิทัลมากขึ้น
• การบริการเฉพาะทางมาแรง: ธุรกิจบริการ Outsource สำหรับ SME เช่น การตลาดดิจิทัล การทำบัญชี และการให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ช่วยให้ผู้ประกอบการลดต้นทุนและมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์หลักได้เต็มที่
• ความเชื่อและไลฟ์สไตล์: ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อ (สายมู) และไลฟ์สไตล์เฉพาะกลุ่ม เช่น Street Food, ตลาดนัดกลางคืน, และธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ยังคงสร้างรายได้และตอบโจทย์ความต้องการทางอารมณ์ของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี
• ความยั่งยืนและพลังงานสะอาด: กระแสความใส่ใจสิ่งแวดล้อมส่งผลให้ธุรกิจพลังงานทดแทน โดยเฉพาะโซลาร์เซลล์ และผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อโลกมีโอกาสเติบโตในระยะยาว

การเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์เศรษฐกิจและพฤติกรรมผู้บริโภค

ในปี 2569 เศรษฐกิจโลกและไทยยังคงเผชิญกับความท้าทายหลายมิติ แต่ในขณะเดียวกันก็มีโอกาสใหม่ๆ เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) ซึ่งกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนพฤติกรรมผู้บริโภค การซื้อขายสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์ (E-Commerce) ไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นวิถีชีวิตประจำวัน การชำระเงินแบบดิจิทัลผ่าน PromptPay และ e-Wallet ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย ทำให้การทำธุรกรรมสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น

ปรากฏการณ์นี้ส่งผลโดยตรงต่อผู้ประกอบการ SME ซึ่งจำเป็นต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วนเพื่อความอยู่รอดและการเติบโต การแข่งขันในตลาดไม่ได้จำกัดอยู่แค่หน้าร้านอีกต่อไป แต่ขยายไปสู่โลกออนไลน์ที่ไร้พรมแดน SME ที่สามารถนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ Cloud Service เพื่อจัดการข้อมูล, การใช้ AI เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า หรือการทำตลาดผ่าน Social Media ย่อมมีความได้เปรียบสูงกว่าคู่แข่งที่ไม่ยอมปรับตัว ดังนั้น การทำความเข้าใจและเตรียมพร้อมรับมือกับเทรนด์เหล่านี้จึงเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในยุคที่ทุกอย่างขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี

เจาะลึก 6 กลุ่มธุรกิจ SME ดาวเด่นที่มีศักยภาพเติบโตสูง

จากการวิเคราะห์แนวโน้มตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภค พบว่ามี 6 กลุ่มธุรกิจ SME ที่โดดเด่นและมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดรับกับเมกะเทรนด์สำคัญของโลก ไม่ว่าจะเป็น Pet Humanization, สังคมสูงวัย, กระแสรักสุขภาพ และการปฏิวัติของเทคโนโลยี AI

1. ธุรกิจเพื่อสัตว์เลี้ยงครบวงจร (Pet Wellness)

แนวโน้ม “Pet Humanization” หรือการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเสมือนสมาชิกในครอบครัว ได้ยกระดับอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงไปอีกขั้น ผู้เลี้ยงยุคใหม่ไม่ได้มองหาสินค้าและบริการพื้นฐานเท่านั้น แต่ต้องการสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเพื่อนสี่ขาของตนเอง ทำให้ตลาดสินค้าและบริการระดับพรีเมียมขยายตัวอย่างรวดเร็ว ธุรกิจในกลุ่มนี้จึงมีโอกาสเติบโตสูง ไม่ว่าจะเป็น:

• อาหารและขนมเพื่อสุขภาพ: อาหารเกรดโฮลิสติก, อาหารออร์แกนิก, ขนมขัดฟันเพื่อสุขภาพ หรืออาหารเสริมเฉพาะทางสำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีปัญหาสุขภาพ
• บริการดูแลระดับพรีเมียม: โรงแรมสำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีบริการครบวงจร, สปาสัตว์เลี้ยง, สระว่ายน้ำสำหรับสุนัข, และคลินิกกายภาพบำบัด
• ผลิตภัณฑ์แฟชั่นและอุปกรณ์: เสื้อผ้าตามเทศกาล, ของเล่นเสริมพัฒนาการ, และอุปกรณ์อัจฉริยะ เช่น ปลอกคอ GPS หรือเครื่องให้อาหารอัตโนมัติ
• บริการทางการแพทย์และการเงิน: คลินิกสัตวแพทย์เฉพาะทาง และผลิตภัณฑ์ประกันภัยสัตว์เลี้ยงที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล

ตลาด Pet Wellness สะท้อนให้เห็นถึงกำลังซื้อที่สูงของผู้เลี้ยง ซึ่งยอมจ่ายเพื่อความสุขและสุขภาพที่ดีของสัตว์เลี้ยงอันเป็นที่รัก นี่คือโอกาสสำคัญสำหรับ SME ที่จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะกลุ่มนี้

2. ธุรกิจ Health & Wellness เพื่อสังคมสูงวัย

ประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ (Aged Society) แล้ว และกำลังมุ่งหน้าสู่สังคมผู้สูงวัยระดับสุดยอด (Super-Aged Society) ในไม่ช้า ทำให้ความต้องการสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและการดูแลผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด SME สามารถเข้ามาตอบสนองความต้องการในตลาดนี้ได้หลากหลายรูปแบบ เช่น:

• บริการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน (Home Care): การจัดส่งผู้ดูแลมืออาชีพเพื่อช่วยเหลือในกิจวัตรประจำวัน การพยาบาลเบื้องต้น หรือการเป็นเพื่อนคลายเหงา
• ศูนย์กายภาพบำบัดและฟื้นฟูสุขภาพ: ศูนย์ดูแลกลางวัน (Day Care) สำหรับผู้สูงอายุ หรือศูนย์กายภาพบำบัดเฉพาะทางสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง หรือผู้ที่มีปัญหาการเคลื่อนไหว
• ผลิตภัณฑ์เพื่ออำนวยความสะดวก: อุปกรณ์ช่วยเดิน, เตียงไฟฟ้า, เก้าอี้สำหรับอาบน้ำ, รวมถึงเทคโนโลยี Smart Home ที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยของผู้สูงอายุ
• อาหารและโภชนาการ: บริการจัดส่งอาหารเพื่อสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุที่มีข้อจำกัดด้านการเคี้ยวหรือมีโรคประจำตัว

3. ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพและ Plant-Based

กระแสการใส่ใจสุขภาพไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในกลุ่มผู้สูงอายุ แต่ขยายวงกว้างไปยังคนทุกเพศทุกวัย ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับอาหารการกินมากขึ้น เลือกรับประทานอาหารคลีน อาหารจากธรรมชาติ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารจากพืชเป็นหลัก (Plant-Based) ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เทรนด์นี้เปิดโอกาสให้ SME ในอุตสาหกรรมอาหารสามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ได้มากมาย เช่น:

• ผลิตภัณฑ์เนื้อจากพืช (Plant-Based Meat): การพัฒนาเนื้อสัตว์เทียมจากถั่ว เห็ด หรือโปรตีนพืชอื่นๆ เพื่อใช้ทดแทนเนื้อสัตว์ในเมนูต่างๆ
• นมและผลิตภัณฑ์จากพืช: นมอัลมอนด์, นมข้าวโอ๊ต, โยเกิร์ตจากมะพร้าว ซึ่งเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่แพ้นมวัวหรือผู้ที่ทานมังสวิรัติ
• ร้านอาหารและบริการจัดส่ง: ร้านอาหารเพื่อสุขภาพโดยเฉพาะ หรือบริการจัดคอร์สอาหารคลีนส่งตรงถึงบ้านและที่ทำงาน

4. ธุรกิจบริการเครื่องมือ AI สำหรับ SME

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับ SME การเกิดขึ้นของธุรกิจที่ให้บริการเครื่องมือ AI ที่ใช้งานง่ายและราคาเข้าถึงได้ จึงเป็นอีกหนึ่งธุรกิจดาวรุ่งที่น่าจับตา เครื่องมือเหล่านี้ช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรและลดต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างบริการ AI สำหรับ SME:

• แชตบอต (Chatbot): ระบบตอบคำถามลูกค้าอัตโนมัติ 24 ชั่วโมง ช่วยลดภาระของแอดมินและเพิ่มความพึงพอใจให้ลูกค้า
• การวิเคราะห์ข้อมูล: เครื่องมือวิเคราะห์เทรนด์จากโซเชียลมีเดีย เพื่อให้เข้าใจความต้องการของตลาดและวางแผนการตลาดได้อย่างแม่นยำ
• การสร้างคอนเทนต์: AI ช่วยเขียนแคปชันโฆษณา, บทความ หรือแม้กระทั่งสร้างรูปภาพประกอบ เพื่อประหยัดเวลาและทรัพยากร
• การจัดการทรัพยากรบุคคล (HR): ระบบ AI ช่วยคัดกรองใบสมัครงานเบื้องต้น หรือประมวลผลเอกสารสัญญาต่างๆ

5. ธุรกิจบริการ Outsource ครบวงจร

SME จำนวนมากต้องการลดต้นทุนคงที่จากการจ้างพนักงานประจำในตำแหน่งที่ไม่ใช่ส่วนงานหลักของธุรกิจ ทำให้ธุรกิจบริการรับจ้างภายนอก (Outsource) เติบโตอย่างมาก การใช้บริการ Outsource ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงทีมงานมืออาชีพในราคาที่ยืดหยุ่น และมีเวลาไปมุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าและบริการหลักของตนเองได้อย่างเต็มที่ บริการ Outsource ที่เป็นที่ต้องการสูงได้แก่:

• การตลาดดิจิทัล: รับดูแลการยิงแอดโฆษณา, การทำ SEO, และการจัดการโซเชียลมีเดีย
• บัญชีและภาษี: บริการทำบัญชีรายเดือนและยื่นภาษีโดยผู้เชี่ยวชาญ
• แอดมินดูแลลูกค้า: ทีมงานตอบคำถามและจัดการคำสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์
• งานกราฟิกดีไซน์: บริการออกแบบโลโก้, ภาพโฆษณา, และสื่อส่งเสริมการขายต่างๆ
• ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย: ให้คำปรึกษาและร่างสัญญาทางธุรกิจ

6. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ

นอกเหนือจากการสร้างธุรกิจใหม่ๆ แล้ว การนำเทคโนโลยีดิจิทัลราคาไม่แพงมาปรับใช้ในธุรกิจเดิมก็เป็นแนวทางที่สำคัญในการเพิ่มศักยภาพและลดต้นทุน ผู้ประกอบการควรพิจารณาใช้เครื่องมือดิจิทัลต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เช่น ระบบจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) เพื่อจัดเก็บข้อมูลและดูแลลูกค้าอย่างเป็นระบบ, โปรแกรมบริหารจัดการสต็อกสินค้า, หรือแพลตฟอร์มการทำงานร่วมกันในองค์กร (Collaboration Tools) เพื่อให้ทีมทำงานได้อย่างราบรื่นไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม

10 อันดับธุรกิจดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งปี 2569

ผลสำรวจจากศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้สะท้อนภาพรวมธุรกิจดาวรุ่งในปี 2569 ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยพบว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัลและตอบสนองต่อพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ยังคงครองอันดับต้นๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยกำลังถูกขับเคลื่อนด้วย Cloud, AI และ E-Commerce อย่างเต็มรูปแบบ

เทรนด์ร่วมที่น่าจับตา: จุดตัดของโอกาสทางธุรกิจ

เมื่อพิจารณาข้อมูลจากทั้งสองแหล่ง จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีเทรนด์หลักหลายอย่างที่ทับซ้อนกัน ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญและศักยภาพของธุรกิจในกลุ่มเหล่านี้ จุดตัดที่น่าสนใจซึ่งเป็นโอกาสทองสำหรับ SME ในปี 2569 ได้แก่:

• สัตว์เลี้ยง: ทั้งสองแหล่งข้อมูลระบุว่าธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงเป็นดาวรุ่ง ไม่ว่าจะเป็นสินค้า (อาหาร, อุปกรณ์, แฟชั่น) หรือบริการ (ดูแล, รักษา) สะท้อนให้เห็นว่าตลาดนี้ยังคงมีพื้นที่ให้เติบโตอีกมาก
• AI และเทคโนโลยีดิจิทัล: เทรนด์ AI, Cloud Service และ E-Commerce ปรากฏอยู่ในอันดับต้นๆ ของทั้งสองรายการ แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีคือเครื่องมือที่ขาดไม่ได้สำหรับธุรกิจยุคใหม่ในการเข้าถึงลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพ
• สุขภาพและความงาม: ธุรกิจ Health & Wellness, อาหารเพื่อสุขภาพ, อาหารเสริม และการแพทย์ความงาม ยังคงเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีความต้องการสูงอย่างต่อเนื่อง ตอบรับกับกระแสการดูแลตัวเองของผู้บริโภคทุกช่วงวัย
• E-Commerce และโลจิสติกส์: การเติบโตของการค้าออนไลน์ ย่อมส่งผลให้ธุรกิจด้านโลจิสติกส์, บริการ Delivery และคลังสินค้าเติบโตควบคู่กันไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

การที่เทรนด์เหล่านี้ปรากฏขึ้นพร้อมกันในหลายผลสำรวจ ชี้ให้เห็นว่านี่คือทิศทางหลักของตลาดที่ผู้ประกอบการ SME ไม่สามารถมองข้ามได้ การหาจุดยืนของธุรกิจให้สอดคล้องกับเทรนด์เหล่านี้จะช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จได้อย่างมีนัยสำคัญ

กลยุทธ์สำหรับ SME เพื่อคว้าโอกาสในยุคดิจิทัล

แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจในปี 2569 อาจยังคงมีความท้าทาย และผู้ประกอบการ SME บางส่วนอาจเผชิญกับภาวะกำไรที่ลดลง แต่การปรับตัวและวางกลยุทธ์ที่ถูกต้องจะช่วยให้สามารถพลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้ ผู้ประกอบการควรพิจารณาแนวทางดังต่อไปนี้เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน:

1. มุ่งเน้นความต้องการของผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง: ศึกษาและทำความเข้าใจเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นความต้องการสินค้าเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) เช่น กลุ่มคนรักสัตว์, กลุ่มผู้สูงอายุ หรือกลุ่มคนรักสุขภาพ แล้วพัฒนาสินค้าหรือบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการนั้นๆ อย่างตรงจุด
2. ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์: นำเครื่องมือดิจิทัลและ AI มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน ไม่จำเป็นต้องลงทุนกับเทคโนโลยีราคาแพง แต่เริ่มจากเครื่องมือที่เข้าถึงง่าย เช่น การใช้ Social Media ในการตลาด, การใช้โปรแกรมบัญชีออนไลน์, หรือการใช้แชตบอตเพื่อบริการลูกค้าเบื้องต้น
3. พิจารณาการใช้บริการ Outsource: สำหรับงานที่ไม่ใช่หัวใจหลักของธุรกิจ เช่น การทำบัญชี, การตลาดออนไลน์ หรือการดูแลลูกค้า การใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญภายนอกอาจคุ้มค่ากว่าการจ้างพนักงานประจำ ช่วยให้ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้นและมีเวลาไปโฟกัสกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์
4. สร้างตัวตนบนโลกออนไลน์: การมีหน้าร้านบนแพลตฟอร์ม E-Commerce หรือการสร้างช่องทางโซเชียลมีเดียที่แข็งแกร่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในยุคนี้ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้นและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว

บทสรุปและแนวทางการปรับตัวสำหรับผู้ประกอบการ

การก้าวสู่ปี 2569 ถือเป็นทั้งความท้าทายและโอกาสครั้งสำคัญสำหรับผู้ประกอบการ SME เทรนด์ธุรกิจดาวรุ่งที่เกิดขึ้นล้วนมีรากฐานมาจากการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของสังคมและเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นกระแส Pet Humanization, สังคมสูงวัย, การใส่ใจสุขภาพ และการปฏิวัติทางดิจิทัลที่นำโดย AI และ E-Commerce การปรับตัวและนำเทรนด์เหล่านี้มาประยุกต์ใช้กับธุรกิจจึงไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นหนทางสู่การเติบโตและความสำเร็จที่ยั่งยืน การมุ่งเน้นการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง ควบคู่ไปกับการใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด จะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ SME สามารถคว้าโอกาสและสร้างรายได้อย่างมหาศาลในช่วงเทศกาลปีใหม่และตลอดทั้งปีที่กำลังจะมาถึง

สำหรับองค์กรหรือแบรนด์ที่กำลังมองหาผู้ผลิตเสื้อผ้าคุณภาพเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อพิมพ์ลาย เสื้อกีฬา หรือเสื้อสำหรับองค์กร KDC SPORT พร้อมให้บริการรับผลิตและจำหน่ายด้วยมาตรฐานระดับมืออาชีพ รวมถึงการรับผลิตเสื้อผ้าให้กับแบรนด์อื่นๆ เพื่อต่อยอดทางธุรกิจ สามารถ ติดต่อเรา เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

ที่อยู่ของเรา
888 หมู่ 26 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น 40000

เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ
094-295-9898