กฎใหม่คุม ‘Fin-fluencer’ รีวิวการเงินต้องมีใบอนุญาต?
ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลข่าวสารทางการเงินสามารถเข้าถึงได้ง่ายผ่านปลายนิ้ว บทบาทของอินฟลูเอนเซอร์สายการเงิน หรือ “Fin-fluencer” ได้ทวีความสำคัญขึ้นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม อิทธิพลที่เพิ่มขึ้นนี้ได้นำมาซึ่งคำถามสำคัญเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือและความรับผิดชอบ โดยเฉพาะประเด็นเรื่อง กฎใหม่คุม ‘Fin-fluencer’ รีวิวการเงินต้องมีใบอนุญาต? ซึ่งเป็นหัวข้อที่ได้รับความสนใจและสร้างความกังวลต่อนักลงทุนและผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์จำนวนมาก
ประเด็นสำคัญที่น่าสนใจ
- ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายเฉพาะในประเทศไทยที่บังคับให้ Fin-fluencer ทุกคนต้องมีใบอนุญาตในการให้ข้อมูลหรือรีวิวผลิตภัณฑ์ทางการเงินเป็นการทั่วไป
- หน่วยงานกำกับดูแล เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำลังส่งเสริมให้ Fin-fluencer มีความรู้และความรับผิดชอบในการสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้อง
- ความแตกต่างที่สำคัญอยู่ที่ “การให้ข้อมูลทั่วไป” กับ “การให้คำแนะนำการลงทุน” ซึ่งการกระทำอย่างหลังอาจเข้าข่ายการประกอบธุรกิจที่ต้องมีใบอนุญาตผู้แนะนำการลงทุน (IC License)
- แนวโน้มการกำกับดูแลในระดับสากลมีความเข้มงวดมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นต้นแบบสำหรับกฎระเบียบในประเทศไทยในอนาคต
- นักลงทุนและผู้ติดตามควรใช้วิจารณญาณ ตรวจสอบข้อมูลจากหลายแหล่ง และไม่ตัดสินใจลงทุนโดยอิงจากข้อมูลของบุคคลใดบุคคลหนึ่งเพียงอย่างเดียว
กระแสความสนใจในประเด็น กฎใหม่คุม ‘Fin-fluencer’ รีวิวการเงินต้องมีใบอนุญาต? สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมการเงินดิจิทัลและบทบาทของผู้มีอิทธิพลบนโซเชียลมีเดีย บุคคลเหล่านี้ได้กลายเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญสำหรับคนรุ่นใหม่ในการศึกษาเรื่องการลงทุน ตั้งแต่หุ้น, กองทุนรวม, ไปจนถึงสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างคริปโตเคอร์เรนซี อย่างไรก็ตาม การให้ข้อมูลที่อาจชี้นำการตัดสินใจลงทุนโดยไม่มีการกำกับดูแลที่ชัดเจน ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อนักลงทุนรายย่อยที่อาจขาดความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ซับซ้อน บทความนี้จะเจาะลึกถึงสถานะปัจจุบันของกฎระเบียบในประเทศไทย, เปรียบเทียบกับแนวทางในต่างประเทศ, และวิเคราะห์ทิศทางในอนาคตของการกำกับดูแล Fin-fluencer
ภาพรวมสถานการณ์ Fin-fluencer ในปัจจุบัน
การขยายตัวของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียได้เปิดโอกาสให้ผู้มีความรู้ความสามารถด้านการเงินสามารถแบ่งปันข้อมูลและสร้างชุมชนผู้ติดตามได้อย่างกว้างขวาง ปรากฏการณ์นี้ได้สร้างกลุ่มบุคคลที่เรียกว่า “Fin-fluencer” ซึ่งมีอิทธิพลอย่างสูงต่อทัศนคติและพฤติกรรมการลงทุนของผู้คน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่คุ้นเคยกับการบริโภคข้อมูลผ่านช่องทางออนไลน์
นิยามของ ‘Fin-fluencer’ หรืออินฟลูเอนเซอร์สายการเงิน
Fin-fluencer หรือ อินฟลูเอนเซอร์การเงิน คือบุคคลที่สร้างสรรค์และเผยแพร่เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องการเงิน การออม และการลงทุน ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ เช่น YouTube, Facebook, Instagram, TikTok และเว็บไซต์ส่วนตัว เนื้อหาของพวกเขามีความหลากหลาย ตั้งแต่การให้ความรู้พื้นฐานทางการเงิน, การวางแผนภาษี, การวิเคราะห์ภาพรวมเศรษฐกิจ, ไปจนถึงการรีวิวผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เฉพาะเจาะจง เช่น หุ้นรายตัว, กองทุนรวม, ประกัน, หรือสินทรัพย์ดิจิทัล
จุดเด่นที่ทำให้ Fin-fluencer ได้รับความนิยมคือความสามารถในการย่อยข้อมูลที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่าย ใช้ภาษาที่เป็นกันเอง และนำเสนอในรูปแบบที่น่าสนใจ เช่น วิดีโอสั้น, อินโฟกราฟิก, หรือการเล่าเรื่องผ่านประสบการณ์ส่วนตัว ทำให้การเรียนรู้เรื่องการเงินไม่น่าเบื่อและเข้าถึงได้ง่ายกว่าการอ่านตำราหรือเอกสารจากสถาบันการเงินโดยตรง
ความสำคัญและอิทธิพลต่อการตัดสินใจของนักลงทุนรุ่นใหม่
สำหรับนักลงทุนรุ่นใหม่ Fin-fluencer เปรียบเสมือน “เพื่อน” หรือ “รุ่นพี่” ที่คอยให้คำแนะนำและแบ่งปันประสบการณ์ด้านการลงทุน พวกเขามีบทบาทสำคัญในการจุดประกายความสนใจและส่งเสริมความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) ให้กับคนหนุ่มสาว ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม อิทธิพลดังกล่าวก็มาพร้อมกับความเสี่ยง เนื่องจากผู้ติดตามอาจเชื่อถือและทำตามคำแนะนำโดยขาดการไตร่ตรองอย่างรอบคอบ การรีวิวหุ้นหรือคริปโตเคอร์เรนซีบางครั้งอาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนแอบแฝง เช่น การได้รับค่าจ้างเพื่อโปรโมท หรือการที่ตัว Fin-fluencer เองได้เข้าลงทุนในสินทรัพย์นั้นๆ ก่อนที่จะแนะนำให้ผู้ติดตามเข้ามาซื้อ (ซึ่งอาจเข้าข่าย Pump and Dump) สิ่งนี้ทำให้ความจำเป็นในการมีกลไกกำกับดูแลที่เหมาะสมกลายเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงมากขึ้น
กฎใหม่คุม ‘Fin-fluencer’ รีวิวการเงินต้องมีใบอนุญาต? ข้อเท็จจริงคืออะไร
ประเด็นคำถามว่า กฎใหม่คุม ‘Fin-fluencer’ รีวิวการเงินต้องมีใบอนุญาต? นั้น จำเป็นต้องพิจารณาข้อเท็จจริงและกฎระเบียบที่มีผลบังคับใช้ในปัจจุบัน ซึ่งสถานการณ์ในประเทศไทยยังมีความแตกต่างจากบางประเทศที่มีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดอย่างชัดเจน
สถานะการกำกับดูแลในประเทศไทย
จากการตรวจสอบข้อมูลล่าสุด พบว่าในปัจจุบันประเทศไทย ยังไม่มีกฎหมายหรือกฎระเบียบที่ออกมาเป็นการเฉพาะ เพื่อบังคับให้ Fin-fluencer ทุกคนที่ทำการรีวิวผลิตภัณฑ์ทางการเงินจะต้องมีใบอนุญาตเสมอไป อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีการกำกับดูแลใดๆ เลย
หน่วยงานกำกับดูแลหลัก เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.), ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.), และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ตระหนักถึงความสำคัญและอิทธิพลของ Fin-fluencer และได้มีการทำงานร่วมกันเพื่อส่งเสริมให้ผู้ที่สื่อสารข้อมูลด้านการเงินมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและมีความรับผิดชอบต่อสังคม การดำเนินการส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบของการให้ความรู้, จัดอบรม, และสร้างแนวปฏิบัติที่ดี มากกว่าการออกกฎหมายบังคับเป็นการทั่วไป
หัวใจสำคัญของการกำกับดูแลอยู่ที่การแยกแยะระหว่างการกระทำที่เข้าข่าย “การประกอบธุรกิจหลักทรัพย์” หรือไม่ หากเนื้อหาของ Fin-fluencer มีลักษณะเป็นการ “แนะนำการลงทุน” แบบเฉพาะเจาะจงรายบุคคล หรือชี้ชวนให้ซื้อขายหลักทรัพย์อย่างชัดเจนโดยได้รับค่าตอบแทน อาจถือเป็นการประกอบธุรกิจที่ต้องได้รับใบอนุญาตผู้แนะนำการลงทุน (IC License) ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ความแตกต่างระหว่าง “การให้ข้อมูล” และ “การแนะนำการลงทุน”
เส้นแบ่งที่สำคัญที่สุดซึ่งเป็นตัวกำหนดความจำเป็นในการมีใบอนุญาต คือความแตกต่างระหว่าง “การให้ข้อมูลทางการเงินทั่วไป” (Financial Information/Education) และ “การให้คำแนะนำการลงทุน” (Investment Advice) ซึ่งเป็นเรื่องที่ทั้งผู้สร้างคอนเทนต์และผู้รับสารต้องทำความเข้าใจ
การให้ความรู้ทางการเงินเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์และได้รับการส่งเสริม แต่การชี้นำการลงทุนโดยไม่มีใบอนุญาตอาจนำไปสู่ความเสี่ยงทางกฎหมายและสร้างความเสียหายต่อนักลงทุน
การกระทำที่ถือเป็นการให้ข้อมูลทั่วไปมักเป็นการอธิบายหลักการ, วิเคราะห์แนวโน้มตลาดในภาพกว้าง, สอนวิธีใช้งานเครื่องมือ, หรือรีวิวฟังก์ชันการทำงานของแอปพลิเคชัน โดยไม่มีการระบุว่าผู้รับสาร “ควร” ซื้อหรือขายสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง ณ ราคาเป้าหมายที่กำหนด ในทางกลับกัน การให้คำแนะนำการลงทุนมักมีลักษณะเป็นการชี้เฉพาะเจาะจงสินทรัพย์, ให้ราคาเป้าหมาย, และแนะนำให้ดำเนินการซื้อขายเพื่อให้เหมาะสมกับสถานะทางการเงินของบุคคลนั้นๆ
| ลักษณะ | การให้ข้อมูลทางการเงินทั่วไป | การให้คำแนะนำการลงทุน |
|---|---|---|
| วัตถุประสงค์ | เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจทางการเงิน (Financial Literacy) | เพื่อชี้แนะหรือชี้นำให้ตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่เฉพาะเจาะจง |
| ขอบเขตเนื้อหา | เป็นข้อมูลในภาพกว้าง เช่น หลักการจัดพอร์ต, การวิเคราะห์อุตสาหกรรม | เจาะจงที่สินทรัพย์รายตัว, ให้ราคาเป้าหมาย, แนะนำจังหวะซื้อ/ขาย |
| ตัวอย่างการสื่อสาร | “การลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีมีความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด” | “ควรซื้อหุ้น A ที่ราคาปัจจุบัน และตั้งเป้าขายที่ราคา X บาท” |
| ความจำเป็นของใบอนุญาต IC | ไม่จำเป็น หากเป็นการให้ความรู้ทั่วไปและไม่มีค่าตอบแทนในการชี้นำ | จำเป็น ถือเป็นการประกอบธุรกิจที่ต้องได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. |
แนวทางการกำกับดูแลในต่างประเทศ: บทเรียนสำหรับประเทศไทย
แม้ประเทศไทยจะยังไม่มีกฎที่ชัดเจน แต่หลายประเทศทั่วโลกได้เริ่มบังคับใช้กฎระเบียบที่เข้มงวดกับ Fin-fluencer แล้ว เพื่อคุ้มครองนักลงทุนและรักษาเสถียรภาพของตลาดการเงิน แนวทางเหล่านี้อาจเป็นกรณีศึกษาที่สำคัญสำหรับทิศทางการกำกับดูแลในประเทศไทยในอนาคต
กรณีศึกษา: ออสเตรเลีย, สหรัฐอเมริกา และสเปน
หน่วยงานกำกับดูแลในหลายประเทศได้ออกแนวปฏิบัติและกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนเพื่อจัดการกับความเสี่ยงจาก Fin-fluencer:
- ออสเตรเลีย: คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และการลงทุนของออสเตรเลีย (ASIC) ได้ออกเอกสารคำแนะนำที่ชัดเจน โดยระบุว่าอินฟลูเอนเซอร์ที่หารายได้จากการให้คำแนะนำทางการเงินหรือจัดโปรโมชันเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงิน อาจเข้าข่ายการให้บริการทางการเงินที่ต้องมีใบอนุญาต (Australian Financial Services Licence) การฝ่าฝืนมีโทษรุนแรงทั้งจำคุกและปรับ
- สหรัฐอเมริกา: คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) มุ่งเน้นไปที่การเปิดเผยข้อมูล โดยบังคับให้อินฟลูเอนเซอร์ต้องเปิดเผยอย่างชัดเจนหากได้รับค่าตอบแทนเพื่อโปรโมทหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์ดิจิทัลใดๆ การไม่เปิดเผยข้อมูลถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
- สเปน: หน่วยงานกำกับตลาดหลักทรัพย์แห่งชาติ (CNMV) ได้ออกกฎที่กำหนดให้การโฆษณาสินทรัพย์คริปโตโดยอินฟลูเอนเซอร์ต้องมีการแจ้งเตือนความเสี่ยงอย่างชัดเจน และต้องแจ้งให้หน่วยงานทราบล่วงหน้าก่อนการเผยแพร่แคมเปญขนาดใหญ่
แนวทางจากประเทศเหล่านี้สะท้อนถึงแนวโน้มระดับโลกที่มุ่งเน้นความโปร่งใส, ความรับผิดชอบ, และการคุ้มครองนักลงทุนรายย่อยเป็นสำคัญ
ความท้าทายในการกำกับดูแลบนโลกออนไลน์
การกำกับดูแล Fin-fluencer ไม่ใช่เรื่องง่ายและมีความท้าทายหลายประการ เนื่องจากธรรมชาติของโซเชียลมีเดียที่มีความรวดเร็ว, ไร้พรมแดน, และมีปริมาณเนื้อหาที่มหาศาล การตรวจสอบเนื้อหาทั้งหมดเป็นไปได้ยาก นอกจากนี้ การแยกแยะระหว่างความคิดเห็นส่วนตัว, การให้ข้อมูลเพื่อการศึกษา, และการให้คำแนะนำเพื่อชี้นำการลงทุน ยังคงเป็นพื้นที่สีเทาที่ยากต่อการตีความและบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาค
ผลกระทบและความเสี่ยงสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้อง
การเติบโตของ Fin-fluencer และความไม่ชัดเจนทางกฎระเบียบส่งผลกระทบต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ตัวผู้สร้างคอนเทนต์เองไปจนถึงผู้ติดตามและนักลงทุนทั่วไป
สำหรับ Fin-fluencer: สิ่งที่ต้องตระหนัก
อินฟลูเอนเซอร์สายการเงินจำเป็นต้องตระหนักถึงความเสี่ยงทางกฎหมายและจรรยาบรรณที่มาพร้อมกับการสร้างเนื้อหา:
- ความเสี่ยงทางกฎหมาย: แม้จะยังไม่มีกฎหมายเฉพาะ แต่การกระทำบางอย่างอาจเข้าข่ายกฎหมายที่มีอยู่แล้ว เช่น พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ หรือแม้กระทั่ง พ.ร.ก. การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน หากเนื้อหามีลักษณะหลอกลวงหรือชักชวนในลักษณะของแชร์ลูกโซ่
- ความรับผิดชอบต่อผู้ติดตาม: การให้ข้อมูลที่ผิดพลาดหรือไม่ครบถ้วนอาจสร้างความเสียหายทางการเงินอย่างรุนแรงแก่ผู้ติดตาม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือและชื่อเสียงในระยะยาว
- ความโปร่งใส: ควรเปิดเผยผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างตรงไปตรงมา เช่น การได้รับการสนับสนุนจากแบรนด์ หรือการถือครองสินทรัพย์ที่กำลังรีวิว เพื่อให้ผู้ติดตามสามารถใช้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้อย่างมีวิจารณญาณ
สำหรับผู้ติดตามและนักลงทุน: แนวทางป้องกันความเสี่ยง
ในฐานะผู้บริโภคข้อมูล นักลงทุนควรมีแนวทางในการป้องกันตนเองจากข้อมูลที่อาจมีความเสี่ยงหรือไม่ถูกต้อง:
- Do Your Own Research (DYOR): คำกล่าวสุดคลาสสิกที่ยังคงใช้ได้เสมอ อย่าเชื่อข้อมูลจากแหล่งเดียว ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น เอกสารทางการของบริษัท, บทวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์, หรือข้อมูลจากหน่วยงานกำกับดูแลโดยตรง
- ตั้งคำถามกับเนื้อหา: พิจารณาแรงจูงใจของผู้ให้ข้อมูล เขาได้รับประโยชน์อะไรจากการแนะนำสินทรัพย์นี้หรือไม่? ข้อมูลที่นำเสนอมีหลักฐานอ้างอิงที่ตรวจสอบได้หรือไม่?
- แยกแยะระหว่างข้อเท็จจริงและความคิดเห็น: ฝึกฝนการแยกแยะระหว่างข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง (เช่น ข้อมูลงบการเงิน) กับความคิดเห็นหรือการคาดการณ์ส่วนตัวของผู้พูด
- ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่มีใบอนุญาต: หากต้องการคำแนะนำที่เหมาะกับสถานะทางการเงินและเป้าหมายส่วนบุคคล ควรปรึกษานักวางแผนการเงินหรือผู้แนะนำการลงทุนที่ได้รับการรับรองจาก ก.ล.ต.
อนาคตของการกำกับดูแล Fin-fluencer ในไทย
แม้ปัจจุบันจะยังไม่มีกฎที่ชัดเจน แต่แนวโน้มในอนาคตชี้ให้เห็นว่าการกำกับดูแลอินฟลูเอนเซอร์สายการเงินในประเทศไทยจะมีความชัดเจนและเข้มข้นมากขึ้นอย่างแน่นอน
แนวโน้มและสิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
คาดการณ์ว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า หน่วยงานกำกับดูแลอาจพิจารณาออกแนวปฏิบัติ (Guideline) หรือกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนขึ้นสำหรับ Fin-fluencer โดยอาจอ้างอิงต้นแบบจากต่างประเทศ ประเด็นที่อาจมีการเปลี่ยนแปลง ได้แก่:
- การกำหนดขอบเขตที่ชัดเจน: มีการนิยาม “การให้คำแนะนำการลงทุน” บนโซเชียลมีเดียให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพื่อลดพื้นที่สีเทาทางกฎหมาย
- ข้อกำหนดด้านการเปิดเผยข้อมูล: อาจมีการบังคับให้ Fin-fluencer ต้องเปิดเผยความสัมพันธ์ในเชิงพาณิชย์กับผลิตภัณฑ์ที่รีวิวอย่างชัดเจนและเห็นได้ง่าย
- การส่งเสริมความรู้แก่ผู้สร้างคอนเทนต์: ก.ล.ต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจจัดทำหลักสูตรหรือการทดสอบความรู้พื้นฐานสำหรับ Fin-fluencer เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ให้ข้อมูลมีความเข้าใจในผลิตภัณฑ์และความเสี่ยงอย่างถ่องแท้
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจเกิดขึ้นภายในปี 2569 หรือหลังจากนั้น ตามที่เคยมีการพูดคุยถึงกรอบเวลาในการพัฒนากฎระเบียบใหม่ๆ เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์ทางการเงิน
การเตรียมความพร้อมของทุกฝ่าย
เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น ทุกฝ่ายควรเริ่มเตรียมความพร้อมตั้งแต่ตอนนี้ Fin-fluencer ควรหันมาให้ความสำคัญกับการสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ, อ้างอิงข้อมูลที่ตรวจสอบได้, และยึดมั่นในจรรยาบรรณ ในขณะที่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียก็อาจต้องมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายชุมชนที่ช่วยคัดกรองเนื้อหาที่สุ่มเสี่ยงหรือหลอกลวง สำหรับนักลงทุน การเสริมสร้างความรู้และทักษะการคิดวิเคราะห์ของตนเองคือเกราะป้องกันที่ดีที่สุด
สรุป: ทิศทางในอนาคตและข้อควรปฏิบัติ
โดยสรุป ประเด็นเรื่อง กฎใหม่คุม ‘Fin-fluencer’ รีวิวการเงินต้องมีใบอนุญาต? ในปัจจุบันยังไม่มีข้อบังคับทางกฎหมายที่ชัดเจนในประเทศไทย แต่เส้นแบ่งระหว่างการให้ความรู้และการให้คำแนะนำการลงทุนที่ต้องมีใบอนุญาตนั้นมีอยู่จริงและต้องพิจารณาเป็นรายกรณี
แนวโน้มการกำกับดูแลทั้งในและต่างประเทศกำลังมุ่งหน้าสู่ความเข้มงวดและความโปร่งใสที่มากขึ้น เพื่อคุ้มครองนักลงทุนรายย่อยจากข้อมูลที่ผิดพลาดและผลประโยชน์ทับซ้อน อนาคตของ Fin-fluencer ที่ยั่งยืนจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการสร้างสรรค์เนื้อหาที่น่าเชื่อถือ, มีความรับผิดชอบ, และยึดมั่นในจรรยาบรรณ
สำหรับนักลงทุนและผู้ติดตามทุกคน การตระหนักรู้, การใช้วิจารณญาณ, และการตรวจสอบข้อมูลจากหลากหลายแหล่งที่เชื่อถือได้ ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของการตัดสินใจลงทุนที่ปลอดภัยและรอบคอบในโลกการเงินดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การติดตามข่าวสารจากหน่วยงานกำกับดูแลโดยตรงจะช่วยให้สามารถปรับตัวและเตรียมพร้อมรับมือกับกฎเกณฑ์ใหม่ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างทันท่วงที
