Shopping cart

สูงวัยใจสู้! AI ติวเตอร์ส่วนตัว เทรนด์เรียนรู้ตลอดชีวิต

สารบัญ

ในยุคที่โลกหมุนไปอย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยี การเรียนรู้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในวัยเรียนอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นกระบวนการที่ดำเนินไปตลอดชีวิต โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่กำลังเผชิญกับความท้าทายในการปรับตัวให้เข้ากับสังคมดิจิทัล ปรากฏการณ์ใหม่ที่น่าจับตามองคือการเกิดขึ้นของเทรนด์การเรียนรู้สำหรับผู้สูงวัยที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์

  • การเรียนรู้ที่ปรับตามบุคคล: ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทำหน้าที่เป็นติวเตอร์ส่วนตัวที่สามารถปรับเนื้อหาการสอน ความเร็ว และรูปแบบให้สอดคล้องกับความต้องการและศักยภาพของผู้เรียนแต่ละคนได้อย่างแม่นยำ
  • ส่งเสริมทักษะดิจิทัล: เทคโนโลยี AI ช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถเรียนรู้ทักษะที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น การใช้สมาร์ทโฟน แอปพลิเคชันต่างๆ หรือแม้กระทั่งการเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ เพื่อเปิดโลกทัศน์
  • ยกระดับคุณภาพชีวิต: นอกจากการให้ความรู้แล้ว AI ยังถูกนำมาใช้ในระบบดูแลสุขภาพ ช่วยเฝ้าระวังและแจ้งเตือนกิจกรรมที่สำคัญ ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ตามลำพัง
  • อนุรักษ์ภูมิปัญญา: เครื่องมือ AI สามารถช่วยถอดเสียงเรื่องเล่าและประสบการณ์ของผู้สูงอายุให้กลายเป็นข้อมูลลายลักษณ์อักษร ซึ่งเป็นการเก็บรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่นอันล้ำค่าไว้ให้คนรุ่นหลัง
  • ลดช่องว่างทางสังคม: การส่งเสริมให้ผู้สูงอายุเข้าถึงและใช้งานเทคโนโลยี AI เป็นการลดความรู้สึกโดดเดี่ยว ทำให้พวกเขาสามารถมีส่วนร่วมกับสังคมและเชื่อมต่อกับครอบครัวได้อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น

ภาพรวมของการเรียนรู้ยุคใหม่ในสังคมผู้สูงวัย

สูงวัยใจสู้! AI ติวเตอร์ส่วนตัว เทรนด์เรียนรู้ตลอดชีวิต - ai-tutor-lifelong-learning-seniors

ปรากฏการณ์ สูงวัยใจสู้! AI ติวเตอร์ส่วนตัว เทรนด์เรียนรู้ตลอดชีวิต คือการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาประยุกต์ใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับประชากรผู้สูงอายุ ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก เทรนด์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์ด้านการศึกษา ที่ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงวัยเยาว์ แต่ขยายขอบเขตสู่การเป็น “การเรียนรู้ตลอดชีวิต” (Lifelong Learning) ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในยุคที่เทคโนโลยีและโครงสร้างสังคมเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว AI ทำหน้าที่เสมือนผู้ช่วยหรือติวเตอร์ส่วนตัว ที่ช่วยให้ผู้สูงวัยสามารถก้าวข้ามอุปสรรคในการเรียนรู้และปรับตัวเข้ากับโลกยุคดิจิทัลได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

ความเกี่ยวข้องของแนวคิดนี้เพิ่มสูงขึ้นตามโครงสร้างประชากรที่กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย (Aging Society) อย่างเต็มรูปแบบ การส่งเสริมให้ผู้สูงอายุยังคงมีศักยภาพในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยงของภาวะสมองเสื่อม แต่ยังสร้างคุณค่าและความหมายให้กับชีวิตหลังเกษียณอีกด้วย เทคโนโลยี AI ได้เข้ามาตอบโจทย์นี้โดยตรง ผ่านการสร้างสรรค์แพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่น เข้าใจง่าย และออกแบบมาเพื่อผู้ใช้งานสูงวัยโดยเฉพาะ ทำให้การเข้าถึงความรู้และทักษะใหม่ๆ ไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากอีกต่อไป

ทำไมการเรียนรู้ตลอดชีวิตจึงสำคัญสำหรับผู้สูงวัยในยุค AI?

แนวคิดการเรียนรู้ตลอดชีวิตมีความสำคัญต่อผู้สูงอายุในหลายมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของโลกปัจจุบันที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI การเรียนรู้ไม่ได้เป็นเพียงกิจกรรมยามว่าง แต่เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิต สุขภาพกายและใจ รวมถึงการมีส่วนร่วมในสังคม

ประการแรก การเรียนรู้สิ่งใหม่อย่างสม่ำเสมอเป็นกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง ชะลอความเสื่อมของเซลล์ประสาท และลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะสมองเสื่อมหรือโรคอัลไซเมอร์ การเรียนรู้ทักษะดิจิทัล เช่น การใช้สมาร์ทโฟนเพื่อสื่อสารกับลูกหลาน หรือการใช้งานแอปเรียนออนไลน์ ช่วยให้สมองได้ทำงานและสร้างเครือข่ายใยประสาทใหม่ๆ อยู่เสมอ

ประการที่สอง ในยุคที่บริการต่างๆ ถูกย้ายไปอยู่บนแพลตฟอร์มดิจิทัล การมีทักษะทางเทคโนโลยีจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกรรมทางการเงิน การติดต่อหน่วยงานราชการ หรือการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร การเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถพึ่งพาตนเองได้ ลดความรู้สึกเป็นภาระ และใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น

สุดท้าย การเรียนรู้ตลอดชีวิตยังช่วยสร้างคุณค่าทางจิตใจ ผู้สูงอายุหลายคนอาจรู้สึกว่าตนเองหมดคุณค่าลงหลังเกษียณอายุ การได้เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ หรือเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ จะช่วยให้พวกเขารู้สึกมีเป้าหมาย มีความภาคภูมิใจในตนเอง และยังคงเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างมีความสุข เทคโนโลยี AI จึงเปรียบเสมือนสะพานที่เชื่อมโยงผู้สูงอายุเข้ากับโอกาสในการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด

AI ติวเตอร์ส่วนตัว: นวัตกรรมพลิกโฉมการศึกษาสำหรับผู้สูงวัย

การนำ AI มาใช้ในฐานะติวเตอร์ส่วนตัวถือเป็นนวัตกรรมที่กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าของการศึกษาสำหรับผู้สูงวัยอย่างสิ้นเชิง โดยเข้ามาทำลายข้อจำกัดเดิมๆ ของการเรียนรู้ในห้องเรียนแบบดั้งเดิม และเปิดประตูสู่โลกแห่งความรู้ที่กว้างขวางและเข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิม

นิยามและหลักการทำงานของ AI ติวเตอร์

AI ติวเตอร์ คือระบบปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำหน้าที่สอน ให้คำแนะนำ และประเมินผลการเรียนรู้ของผู้ใช้งานแบบหนึ่งต่อหนึ่ง โดยเลียนแบบการทำงานของติวเตอร์ที่เป็นมนุษย์ แต่มีความสามารถในการทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง และปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับผู้เรียนแต่ละคนได้อย่างสมบูรณ์แบบ

หลักการทำงานสำคัญของ AI ติวเตอร์คือ “การเรียนรู้แบบปรับเปลี่ยนได้” (Adaptive Learning) ซึ่งระบบจะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้สูงวัย เช่น ความเร็วในการตอบคำถาม หัวข้อที่มักทำผิดพลาด หรือรูปแบบการเรียนรู้ที่ชอบ จากนั้นจึงนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์เพื่อปรับเนื้อหาบทเรียนให้เหมาะสมที่สุด หากผู้เรียนยังไม่เข้าใจหัวข้อใด ระบบก็จะนำเสนอคำอธิบายเพิ่มเติมหรือแบบฝึกหัดในรูปแบบอื่นจนกว่าผู้เรียนจะเข้าใจ ในทางกลับกัน หากผู้เรียนมีความสามารถในเรื่องใดเป็นพิเศษ ระบบก็จะข้ามไปยังบทเรียนที่ท้าทายขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดความเบื่อหน่าย วิธีการนี้ทำให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพสูงสุดและตรงตามความต้องการของผู้สูงอายุแต่ละคนอย่างแท้จริง

ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ AI เพื่อส่งเสริมทักษะ

เทคโนโลยี AI ถูกนำไปประยุกต์ใช้เพื่อส่งเสริมทักษะผู้สูงอายุในหลากหลายด้าน ตั้งแต่ทักษะพื้นฐานในชีวิตประจำวันไปจนถึงทักษะเชิงลึกเพื่อการพัฒนาตนเอง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนมีดังนี้:

  • การเรียนรู้ทักษะดิจิทัล: แอปพลิเคชันจำนวนมากใช้ AI เพื่อสอนผู้สูงอายุให้รู้จักวิธีการใช้สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์อย่างเป็นขั้นตอน โดยมีบทเรียนแบบอินเทอร์แอคทีฟที่จำลองสถานการณ์จริง เช่น การวิดีโอคอลหาครอบครัว การค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต หรือการใช้แอปพลิเคชันโซเชียลมีเดีย
  • การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ: AI ติวเตอร์สามารถสอนภาษาใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้เทคโนโลยีการรู้จำเสียงพูด (Speech Recognition) เพื่อช่วยฝึกการออกเสียงให้ถูกต้อง และสร้างบทสนทนาจำลองเพื่อให้ผู้เรียนได้ฝึกฝนการใช้งานจริง
  • การฝึกทักษะด้านสุขภาพ: มีการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ใช้ AI เป็นโค้ชสุขภาพส่วนตัว แนะนำท่าออกกำลังกายที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของผู้สูงอายุแต่ละคน รวมถึงให้ความรู้ด้านโภชนาการและการดูแลสุขภาพแบบเฉพาะบุคคล

การใช้ AI เป็นติวเตอร์ส่วนตัวช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถเข้าถึงการเรียนรู้ได้อย่างยืดหยุ่น ปรับให้เหมาะกับความสามารถและไลฟ์สไตล์ของตนเอง โดยไม่ต้องมีข้อจำกัดเรื่องเวลาและสถานที่

มากกว่าการเรียนรู้: AI กับการยกระดับคุณภาพชีวิตผู้สูงวัย

บทบาทของ AI ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในแวดวงการศึกษาเท่านั้น แต่ยังขยายผลไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตโดยรวมของผู้สูงอายุในมิติต่างๆ ทำให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย มีความสุข และมีความหมายมากยิ่งขึ้น

ระบบ AI ช่วยดูแลและเฝ้าระวังสุขภาพ

หนึ่งในนวัตกรรมที่สำคัญคือการพัฒนาระบบดูแลผู้สูงอายุอัจฉริยะ ตัวอย่างเช่น MTEC Well-living systems ซึ่งเป็นระบบที่ใช้เซ็นเซอร์และ AI ในการเรียนรู้พฤติกรรมปกติของผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ตามลำพัง ระบบจะสามารถตรวจจับความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น การล้ม การไม่เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน หรือการลืมทำกิจกรรมที่สำคัญ

ระบบดังกล่าวสามารถตั้งค่าให้แจ้งเตือนกิจกรรมประจำวันที่จำเป็น เช่น การรับประทานยา การดื่มน้ำ หรือการออกกำลังกายเบาๆ เมื่อถึงเวลาที่กำหนด ระบบจะส่งเสียงเตือนหรือข้อความไปยังอุปกรณ์ของผู้สูงอายุ หากไม่มีการตอบสนองหรือตรวจพบเหตุการณ์ผิดปกติ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนไปยังลูกหลานหรือผู้ดูแลทันที เทคโนโลยีนี้จึงเปรียบเสมือนผู้ดูแลที่คอยเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง สร้างความอุ่นใจให้กับทั้งตัวผู้สูงอายุและครอบครัว

การลดช่องว่างทางดิจิทัลผ่านโครงการฝึกอบรม

ความกังวลหรือความกลัวในการใช้เทคโนโลยี (Technophobia) เป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ผู้สูงอายุจำนวนมากไม่กล้าเปิดรับนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อแก้ไขปัญหานี้ หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนจึงได้จัดตั้งโครงการฝึกอบรมและกิจกรรมเชิงปฏิบัติการเพื่อสร้างความคุ้นเคยและทักษะด้าน AI และเทคโนโลยีดิจิทัลให้กับผู้สูงอายุ

โครงการเหล่านี้มุ่งเน้นการสอนแบบค่อยเป็นค่อยไป ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย และมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกมั่นใจและกล้าที่จะทดลองใช้งานเทคโนโลยีมากขึ้น กิจกรรมดังกล่าวไม่เพียงแต่ช่วยลดช่องว่างทางดิจิทัล แต่ยังเป็นพื้นที่ให้ผู้สูงอายุได้พบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน สร้างเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ที่แข็งแกร่งและเกื้อกูล

การบันทึกภูมิปัญญาผ่านเทคโนโลยีถอดเสียง

ผู้สูงอายุเปรียบเสมือนคลังความรู้และประสบการณ์ที่ทรงคุณค่า การถ่ายทอดเรื่องราวและภูมิปัญญาท้องถิ่นจากรุ่นสู่รุ่นเป็นสิ่งสำคัญ แต่ในอดีตกระบวนการบันทึกข้อมูลเหล่านี้ทำได้ค่อนข้างยากและใช้เวลานาน เทคโนโลยี AI ได้เข้ามาปฏิวัติกระบวนการนี้อย่างสิ้นเชิง

เครื่องมือ AI สมัยใหม่ เช่น โปรแกรม Gemini มีความสามารถในการถอดเสียงจากคำบอกเล่าของผู้สูงอายุให้กลายเป็นข้อความที่เรียบเรียงอย่างสละสลวยได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ เทคโนโลยีนี้ช่วยให้เรื่องราวชีวิต ประสบการณ์ ภูมิปัญญาท้องถิ่น หรือนิทานพื้นบ้านที่เคยถูกเก็บไว้ในความทรงจำ สามารถถูกบันทึกและจัดเก็บในรูปแบบดิจิทัลได้อย่างง่ายดาย ข้อมูลเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นมรดกอันล้ำค่าสำหรับลูกหลาน แต่ยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงวิชาการ การวิจัย หรือการพัฒนาชุมชนต่อไปได้อีกด้วย

มุมมองระดับสากลและนโยบายสนับสนุน

เทรนด์การเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับผู้สูงอายุไม่ได้เป็นเพียงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในระดับท้องถิ่น แต่ยังได้รับการยอมรับและผลักดันในระดับนานาชาติ องค์กรระดับโลกอย่าง UNESCO ได้ให้ความสำคัญกับประเด็นนี้อย่างมาก โดยเน้นย้ำถึงบทบาทของ “เมืองแห่งการเรียนรู้” (Learning Cities) ในการสร้างสภาพแวดล้อมและโอกาสทางการศึกษาที่เหมาะสมและครอบคลุมสำหรับประชากรทุกกลุ่มวัย รวมถึงผู้สูงอายุ

แนวคิดเมืองแห่งการเรียนรู้มุ่งส่งเสริมให้เมืองต่างๆ ทั่วโลกพัฒนานโยบายและโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต มีการจัดเวทีสัมมนาและการวิจัยเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เกี่ยวกับวิธีการที่ดีที่สุดในการส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้สูงอายุ ซึ่งรวมถึงการนำเทคโนโลยีอย่าง AI มาประยุกต์ใช้ การสนับสนุนในระดับนโยบายสากลนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความสำคัญของการเตรียมความพร้อมสังคมให้สามารถรองรับประชากรสูงวัยได้อย่างมีคุณภาพ และทำให้แน่ใจว่าพวกเขาจะยังคงมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจได้อย่างเต็มศักยภาพ

สรุปประเด็นสำคัญ: AI กับการเรียนรู้ของผู้สูงวัย

เพื่อให้เห็นภาพรวมของการผสานเทคโนโลยี AI เข้ากับการเรียนรู้ตลอดชีวิตของผู้สูงวัยได้ชัดเจนยิ่งขึ้น สามารถสรุปประเด็นสำคัญต่างๆ ได้ดังตารางต่อไปนี้

ตารางสรุปบทบาทของ AI ในการส่งเสริมการเรียนรู้และคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ
ประเด็นสำคัญ รายละเอียด
AI เป็นติวเตอร์ส่วนตัว ปรับเนื้อหา ความเร็ว และระดับความยากง่ายให้เหมาะสมกับผู้เรียนแต่ละบุคคล ตอบโจทย์การเรียนรู้แบบเฉพาะตัวของผู้สูงวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การถอดเสียงและแปลงเรื่องเล่า เครื่องมือ AI ช่วยถอดเสียงเรื่องเล่าและประสบการณ์ของผู้สูงอายุให้กลายเป็นข้อความหรือบทความ เพื่อเก็บรักษาภูมิปัญญาและสร้างประโยชน์ให้กับสังคมส่วนรวม
ระบบช่วยดูแลผู้สูงอายุ ใช้เซ็นเซอร์และ AI ในการเฝ้าระวังสุขภาพและพฤติกรรม สามารถแจ้งเตือนกิจกรรมสำคัญ เช่น การกินยา หรือแจ้งเหตุฉุกเฉิน เพื่อช่วยดูแลผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียว
โครงการฝึกอบรม AI สำหรับผู้สูงอายุ มีกิจกรรมและหลักสูตรอบรมที่ช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถใช้งาน AI และเทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างชำนาญมากขึ้น ช่วยลดความกลัวและสร้างความมั่นใจในการใช้เทคโนโลยี
การเรียนรู้ตลอดชีวิตกับนโยบายระดับโลก องค์กรอย่าง UNESCO สนับสนุนแนวคิดเมืองแห่งการเรียนรู้ (Learning Cities) เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาที่เหมาะสมและเท่าเทียมสำหรับผู้สูงอายุทั่วโลก

อนาคตของการเรียนรู้ในสังคมผู้สูงวัย

โดยสรุปแล้ว เทรนด์ สูงวัยใจสู้! AI ติวเตอร์ส่วนตัว เทรนด์เรียนรู้ตลอดชีวิต ไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องของเทคโนโลยี แต่เป็นการผสานนวัตกรรมเข้ากับความต้องการของสังคมอย่างลงตัว เพื่อสร้างอนาคตที่ประชากรสูงวัยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ มีสุขภาพดีทั้งกายและใจ และไม่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดนิ่ง ปัญญาประดิษฐ์ได้กลายเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการส่งเสริมให้การเรียนรู้เกิดขึ้นได้ในทุกช่วงวัยอย่างแท้จริง

การส่งเสริมให้เทคโนโลยี AI เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ในสังคมผู้สูงวัยจึงเป็นก้าวที่สำคัญในการสร้างสังคมที่เกื้อกูลและไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เป็นการลงทุนเพื่ออนาคตที่ทุกคนในสังคมสามารถพัฒนาศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่และมีความสุขในทุกช่วงวัยของชีวิต การสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาแอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมความรู้ด้านดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนให้เทรนด์นี้เติบโตและสร้างประโยชน์ให้กับสังคมในวงกว้างต่อไป

สั่งเสื้อ

พฤศจิกายน 2025
จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส. อา.
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930