Shopping cart

พายุเข้าไทย! เช็คพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม-วิธีรับมือฉุกเฉิน

สารบัญ

สถานการณ์พายุเข้าไทย! เช็คพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม-วิธีรับมือฉุกเฉิน กลายเป็นหัวข้อสำคัญที่ต้องให้ความสนใจอย่างยิ่งในทุกฤดูฝน เนื่องจากประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตภูมิอากาศที่ได้รับอิทธิพลจากพายุหมุนเขตร้อนเป็นประจำ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับพื้นที่เสี่ยงและการเตรียมความพร้อมจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการลดความสูญเสียทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน การติดตามประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมอุตุนิยมวิทยา และการเรียนรู้วิธีปฏิบัติตนที่ถูกต้องจะช่วยให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • ประเทศไทยเผชิญกับพายุไต้ฝุ่น 5 ลูกในช่วงปี 2020-2025 ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายและอุทกภัยเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะเหตุการณ์พายุไต้ฝุ่นวิภาในปี 2025 ที่จังหวัดน่าน
  • สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ประกาศพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ครอบคลุม 14 จังหวัด 125 อำเภอ 668 ตำบล
  • การเตรียมความพร้อมรับมือน้ำท่วมแบ่งออกเป็น 3 ระยะสำคัญ คือ ก่อนเกิดเหตุ (การวางแผนและเตรียมการ), ขณะเกิดเหตุ (การอพยพและเอาตัวรอด), และหลังเกิดเหตุ (การตรวจสอบและฟื้นฟู)
  • การติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานราชการอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้สามารถประเมินสถานการณ์และอพยพได้อย่างทันท่วงที
  • การวางแผนล่วงหน้า เช่น การจัดเตรียมชุดยังชีพฉุกเฉิน การกำหนดจุดนัดพบ และการย้ายของขึ้นที่สูง สามารถลดความเสียหายได้อย่างมีนัยสำคัญ

ภาพรวมสถานการณ์พายุและอุทกภัยในประเทศไทย

ประเทศไทยมีลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่เอื้อต่อการได้รับผลกระทบจากพายุหมุนเขตร้อน ซึ่งก่อตัวในทะเลจีนใต้และมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก พายุเหล่านี้เมื่อเคลื่อนตัวเข้าสู่แผ่นดินจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนหรือดีเปรสชัน แต่ยังคงนำมาซึ่งฝนตกหนักและลมกระโชกแรง ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำท่วมฉบับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน ซึ่งเป็นพื้นที่ลาดชันและเป็นต้นน้ำของแม่น้ำสายหลัก การตระหนักถึงความเสี่ยงและเข้าใจวงจรของภัยพิบัติจึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการป้องกันและรับมือ

สถิติและผลกระทบจากพายุในอดีต: กรณีศึกษาพายุไต้ฝุ่นวิภา

จากข้อมูลสถิติในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2020-2025) ประเทศไทยต้องเผชิญหน้ากับพายุไต้ฝุ่นที่มีนัยสำคัญถึง 5 ลูก พายุแต่ละลูกได้สร้างผลกระทบที่แตกต่างกันไปตามเส้นทางการเคลื่อนตัวและความรุนแรง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนกันคือปริมาณฝนที่ตกสะสมเป็นจำนวนมากจนนำไปสู่สถานการณ์อุทกภัยในหลายจังหวัด กรณีศึกษาที่ชัดเจนที่สุดคือผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นวิภา ซึ่งเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยโดยมีศูนย์กลางอยู่ที่จังหวัดน่านในวันที่ 22 กรกฎาคม 2025

อิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นวิภาก่อให้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงในพื้นที่จังหวัดน่านและจังหวัดใกล้เคียง สถานการณ์ดังกล่าวถูกบันทึกว่าเป็นอุทกภัยที่รุนแรงที่สุดในรอบ 100 ปีของจังหวัด สร้างความเสียหายต่อบ้านเรือน พื้นที่เกษตรกรรม และโครงสร้างพื้นฐานอย่างมหาศาล เหตุการณ์นี้เป็นเครื่องย้ำเตือนถึงพลังทำลายล้างของภัยธรรมชาติและกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนต้องให้ความสำคัญกับการวางระบบเตือนภัยและการจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การคาดการณ์แนวโน้มพายุและฤดูฝนปี 2568

สำหรับปี 2568 (ค.ศ. 2025) กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ว่าฤดูฝนจะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 พฤษภาคม ปริมาณฝนโดยรวมคาดว่าจะใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยปกติ แต่จะมีการกระจายตัวที่ไม่สม่ำเสมอ โดยช่วงที่จะมีฝนตกชุกหนาแน่นที่สุดสำหรับพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน จะอยู่ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ

นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่าในช่วงฤดูฝนดังกล่าว จะมีโอกาสที่พายุหมุนเขตร้อนจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยประมาณ 1-2 ลูก ซึ่งพายุเหล่านี้อาจมีกำลังแรงและส่งผลให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องจนเกิดอุทกภัยเป็นวงกว้างได้ ดังนั้น การติดตามประกาศเตือนภัยจาก กรมอุตุฯ เตือนภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง เพื่อเตรียมการรับมือกับ พายุล่าสุด ที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที

พื้นที่เสี่ยงและจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังน้ำท่วม

พื้นที่เสี่ยงและจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังน้ำท่วม

การระบุ พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม เป็นขั้นตอนสำคัญในการวางแผนป้องกันและลดผลกระทบ หน่วยงานภาครัฐได้ใช้ข้อมูลทางสถิติ แบบจำลองทางอุทกศาสตร์ และข้อมูลภูมิประเทศในการประเมินและประกาศพื้นที่เฝ้าระวังให้ประชาชนได้รับทราบล่วงหน้า เพื่อให้สามารถเตรียมตัวได้อย่างเหมาะสม

การประเมินพื้นที่เสี่ยงโดยหน่วยงานภาครัฐ

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะหน่วยงานหลักด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ ได้ออกประกาศเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมในช่วงท้ายฤดูฝน โดยเฉพาะในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่มวลอากาศเย็นจากประเทศจีนเริ่มแผ่ลงมาปะทะกับมวลอากาศชื้นจากอิทธิพลของพายุ ทำให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ จากการประเมินล่าสุด พบว่ามีพื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมจากอิทธิพลของพายุและร่องมรสุมรวมทั้งสิ้น 14 จังหวัด 125 อำเภอ และ 668 ตำบล พื้นที่เหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่มริมแม่น้ำและพื้นที่ที่เคยมีประวัติน้ำท่วมซ้ำซาก การประกาศเตือนนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้หน่วยงานท้องถิ่นและประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวสามารถวางแผนรับมือและเตรียมมาตรการป้องกันไว้ล่วงหน้าก่อนสถานการณ์ น้ำท่วม 2567 จะมาถึง

สั่งเสื้อ

พฤศจิกายน 2025
จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส. อา.
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930