Shopping cart

เปิดโผ ครม. อุ๊งอิ๊ง 1 ใครคุมกระทรวงไหน? สรุปที่นี่

สารบัญ

การเมืองไทยเดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญอีกครั้งกับการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ภายใต้การนำของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร การเปิดโผ ครม. อุ๊งอิ๊ง 1 ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติ ได้กลายเป็นประเด็นที่สาธารณชนให้ความสนใจอย่างยิ่ง เนื่องจากรายชื่อบุคคลที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในกระทรวงต่างๆ จะเป็นตัวชี้วัดทิศทางการบริหารประเทศในอนาคต

ประเด็นสำคัญที่น่าจับตา

  • คณะรัฐมนตรี “แพทองธาร 1” ประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 35 คน เป็นการรวมตัวของหลายพรรคการเมือง ซึ่งสะท้อนถึงโครงสร้างรัฐบาลผสมที่มีความซับซ้อน
  • พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ได้รับโควต้ารัฐมนตรีมากที่สุดจำนวน 17 ตำแหน่ง ครอบคลุมกระทรวงสำคัญทั้งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง
  • มีการแต่งตั้งรองนายกรัฐมนตรีถึง 5 คน ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญจากพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อทำหน้าที่กำกับดูแลและขับเคลื่อนนโยบายในมิติต่างๆ
  • การจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีในกระทรวงหลัก เช่น กลาโหม คลัง คมนาคม และสาธารณสุข แสดงให้เห็นถึงการกระจายอำนาจและการต่อรองภายในกลุ่มพรรคร่วมรัฐบาล
  • รัฐบาลชุดใหม่นี้มีความท้าทายในการสร้างเอกภาพและบริหารจัดการความคาดหวังจากพรรคร่วมรัฐบาลที่มีจำนวนมากขึ้น รวมถึงการผลักดันนโยบายให้เกิดผลเป็นรูปธรรม

ภาพรวมโครงสร้างคณะรัฐมนตรีชุดใหม่

การเปิดเผยรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ หรือที่เรียกกันว่า “ครม. แพทองธาร 1” หรือ “ครม. อุ๊งอิ๊ง 1” ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญของการเริ่มต้นทำงานของรัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่สองของประเทศไทย โครงสร้างของคณะรัฐมนตรีชุดนี้สะท้อนภาพการเมืองแบบรัฐบาลผสมอย่างชัดเจน โดยมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำหลัก และมีพรรคร่วมรัฐบาลอีกหลายพรรคเข้าร่วม ซึ่งทำให้การจัดสรรตำแหน่งต้องเป็นไปอย่างประนีประนอมเพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเมือง

คณะรัฐมนตรีชุดนี้มีจำนวนสมาชิกรวมทั้งสิ้น 35 คน ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ซึ่งประกอบด้วยนายกรัฐมนตรี 1 คน และรัฐมนตรีอื่นอีก 34 คน รายชื่อทั้งหมดได้ถูกเสนอไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติและความเหมาะสมตามขั้นตอนทางกฎหมาย ก่อนที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป ความสำคัญของการจัดตั้ง ครม. ชุดนี้ ไม่เพียงแต่อยู่ที่ตัวบุคคลที่จะเข้ามาบริหารประเทศเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการจัดวางนโยบายและทิศทางการพัฒนาประเทศในระยะต่อไป ซึ่งเป็นที่จับตามองของทุกภาคส่วน ทั้งภาคธุรกิจ ประชาสังคม และประชาชนทั่วไป เนื่องจากจะส่งผลโดยตรงต่อเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของคนในชาติ

สิ่งที่น่าสนใจในโครงสร้าง ครม. ชุดนี้คือการผสมผสานระหว่างนักการเมืองที่มีประสบการณ์สูงกับบุคลากรที่เป็นคนรุ่นใหม่ ซึ่งถูกมองว่าเป็นความพยายามในการสร้างความสมดุลระหว่างเสถียรภาพทางการเมืองและการตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกยุคใหม่ อย่างไรก็ตาม การบริหารรัฐบาลผสมที่มีหลายพรรคการเมืองเข้าร่วมย่อมมีความท้าทายในตัวเอง โดยเฉพาะการประสานงานนโยบายและการทำงานร่วมกันให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ

การจัดสรรตำแหน่งสำคัญใน ครม. แพทองธาร 1

การจัดสรรตำแหน่งสำคัญใน ครม. แพทองธาร 1

การจัดสรรตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีเป็นหัวใจสำคัญที่สะท้อนถึงสมการอำนาจและการต่อรองของพรรคร่วมรัฐบาล สำหรับ ครม. แพทองธาร 1 การแบ่งโควต้าตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการและรัฐมนตรีช่วยว่าการในกระทรวงต่างๆ เป็นไปตามสัดส่วนจำนวน ส.ส. และข้อตกลงทางการเมืองของแต่ละพรรค

โควต้าพรรคร่วมรัฐบาล: สมการอำนาจทางการเมือง

โครงสร้างการแบ่งสรรตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดใหม่นี้สะท้อนให้เห็นถึงการกระจายอำนาจระหว่างพรรคแกนนำและพรรคร่วมอย่างชัดเจน โดยมีรายละเอียดดังนี้:

  • พรรคเพื่อไทย: ในฐานะพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ได้รับโควต้ามากที่สุดรวม 17 ตำแหน่ง แบ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวง 8 ตำแหน่ง และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง 9 ตำแหน่ง ซึ่งทำให้พรรคเพื่อไทยสามารถควบคุมกระทรวงยุทธศาสตร์ที่สำคัญต่อการขับเคลื่อนนโยบายหลักของพรรคได้
  • พรรคภูมิใจไทย: เป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสอง ได้รับโควต้ารวม 8 ตำแหน่ง ประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการ 4 ตำแหน่ง และรัฐมนตรีช่วยว่าการ 4 ตำแหน่ง การได้รับตำแหน่งจำนวนนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของพรรคภูมิใจไทยในการสร้างเสถียรภาพให้กับรัฐบาล
  • พรรครวมไทยสร้างชาติ: ได้รับการจัดสรรตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีเช่นกัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงในการเข้าร่วมรัฐบาล
  • พรรคประชาธิปัตย์: แม้จะมีเสียงสนับสนุนไม่มากเท่าพรรคอื่น แต่ก็ได้รับการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งเป็นไปตามธรรมเนียมปฏิบัติของการเมืองแบบรัฐบาลผสม
  • กลุ่ม ส.ส.ธรรมนัส: กลุ่มการเมืองนี้ยังคงมีบทบาทสำคัญ โดยได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ 1 ตำแหน่ง และรัฐมนตรีช่วยว่าการ 1 ตำแหน่ง โดยเน้นไปที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นฐานเสียงที่สำคัญ

เปิดรายชื่อ 5 รองนายกรัฐมนตรี: คีย์แมนขับเคลื่อนรัฐบาล

ตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีมีความสำคัญอย่างยิ่งในการบริหารราชการแผ่นดิน เนื่องจากมีหน้าที่กำกับดูแลและประสานงานระหว่างกระทรวงต่างๆ ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย สำหรับรัฐบาลชุดนี้ มีการแต่งตั้งรองนายกรัฐมนตรีถึง 5 คน ซึ่งเป็นแกนนำคนสำคัญจากพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล ดังนี้:

  1. นายภูมิธรรม เวชยชัย: นอกจากจะดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีแล้ว ยังควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงของประเทศ
  2. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ: รับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีหน้าที่รับผิดชอบโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของประเทศ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
  3. นายพิชัย ชุณหวชิร: ได้รับความไว้วางใจให้เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ถือเป็นแม่ทัพเศรษฐกิจของรัฐบาลที่จะต้องดูแลนโยบายการคลัง งบประมาณ และเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโดยรวม
  4. นายสรวงศ์ เทียนทอง: ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเป็นกระทรวงที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างรายได้เข้าประเทศ
  5. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค: เป็นตัวแทนจากพรรคร่วมรัฐบาลที่ได้รับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี สะท้อนถึงการแบ่งปันอำนาจบริหารเพื่อสร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่ง

การมีรองนายกรัฐมนตรีหลายคนแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการแบ่งงานกันรับผิดชอบตามความเชี่ยวชาญ และเพื่อให้การบริหารจัดการนโยบายในภาพใหญ่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

กระทรวงเกรดเอ: ใครกุมทิศทางหลักของประเทศ?

การจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีในกระทรวงสำคัญ หรือที่มักเรียกว่า “กระทรวงเกรดเอ” เป็นสิ่งที่บ่งชี้ได้ดีที่สุดว่าพรรคใดมีอำนาจในการกำหนดทิศทางนโยบายด้านใด สำหรับ ครม. แพทองธาร 1 กระทรวงหลักๆ ส่วนใหญ่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลขนาดใหญ่

การจัดทัพรัฐมนตรีในกระทรวงเศรษฐกิจและความมั่นคง ถือเป็นบทพิสูจน์แรกของรัฐบาลชุดใหม่ในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและประชาชน ว่าจะสามารถขับเคลื่อนประเทศฝ่าฟันความท้าทายต่างๆ ไปได้

  • กระทรวงกลาโหม: อยู่ภายใต้การดูแลของ นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ตำแหน่งนี้ไม่ได้มาจากนายทหารโดยตรง สะท้อนนโยบายที่ต้องการให้พลเรือนเข้ามามีบทบาทในการควบคุมกองทัพมากขึ้น
  • กระทรวงการคลัง: นำโดย นายพิชัย ชุณหวชิร ซึ่งมีภารกิจสำคัญในการบริหารนโยบายการคลังของประเทศ จัดทำงบประมาณแผ่นดิน และผลักดันนโยบายเศรษฐกิจเรือธงของรัฐบาล
  • กระทรวงคมนาคม: บริหารโดย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ มีหน้าที่ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ของประเทศ ซึ่งเป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่มีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว
  • กระทรวงสาธารณสุข: มอบหมายให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นักการเมืองมากประสบการณ์ เข้ามาดูแลระบบสาธารณสุขของประเทศ ซึ่งเป็นประเด็นที่ประชาชนให้ความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะหลังสถานการณ์การระบาดของโรค
  • กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส): มี นายประเสริฐ จันทรลวงทอง เป็นผู้กำกับดูแล ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลและนโยบายด้านเทคโนโลยีของประเทศให้ทัดเทียมนานาชาติ

ตารางสรุปรายชื่อรัฐมนตรีและกระทรวงที่น่าจับตา

เพื่อให้เห็นภาพรวมของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ตารางด้านล่างได้รวบรวมรายชื่อบุคคลที่คาดว่าจะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในกระทรวงสำคัญต่างๆ ซึ่งเป็นที่สนใจของสาธารณชน

รายชื่อคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลแพทองธาร 1 และกระทรวงที่กำกับดูแล (ตามข้อมูลที่ปรากฏ)
ชื่อ-สกุล ตำแหน่ง
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
นายสรวงศ์ เทียนทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
นายประเสริฐ จันทรลวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
นางสาวสุดาหวัง สุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
นายพิชัย นฤพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

ความท้าทายและทิศทางในอนาคตของรัฐบาล

แม้ว่าการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีจะใกล้เสร็จสมบูรณ์ แต่เส้นทางการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดใหม่นี้ยังเต็มไปด้วยความท้าทายหลายประการ ความท้าทายที่สำคัญที่สุดคือการสร้างความเป็นเอกภาพและความเป็นหนึ่งเดียวกันภายในรัฐบาลผสม ซึ่งประกอบด้วยพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์และฐานเสียงที่แตกต่างกัน การประสานนโยบายของแต่ละพรรคให้สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน และการบริหารจัดการความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นจะเป็นบทพิสูจน์เสถียรภาพของรัฐบาล

อีกหนึ่งความท้าทายคือการตอบสนองต่อความคาดหวังของประชาชน โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจและปากท้อง รัฐบาลจะต้องเร่งผลักดันนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมราคาสินค้า การสร้างงาน สร้างรายได้ และการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม นอกจากนี้ การบริหารประเทศท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ผันผวนก็เป็นอีกปัจจัยที่รัฐบาลต้องเตรียมพร้อมรับมือ

ในด้านการเมือง การเข้าสู่ยุคที่คนรุ่นใหม่เป็นแกนนำรัฐบาลถือเป็นทั้งโอกาสและความท้าทาย โอกาสในการนำเสนอมุมมองและแนวทางการทำงานที่ทันสมัย ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่มากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องเผชิญกับความท้าทายในการสร้างการยอมรับจากกลุ่มการเมืองและข้าราชการที่มีประสบการณ์มากกว่า การสร้างสมดุลระหว่างพลังของคนรุ่นใหม่กับความเก๋าเกมของนักการเมืองรุ่นใหญ่จึงเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ

บทสรุปภาพรวม ครม. อุ๊งอิ๊ง 1

โดยสรุป การเปิดโผคณะรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง 1” หรือ “แพทองธาร 1” ได้เผยให้เห็นถึงโครงสร้างรัฐบาลผสมที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ โดยมีการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีให้กับพรรคร่วมรัฐบาลอย่างทั่วถึง คณะรัฐมนตรีชุดนี้ประกอบด้วยสมาชิก 35 คน โดยมีการวางตัวบุคคลสำคัญในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี 5 คน และรัฐมนตรีว่าการในกระทรวงหลักด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง เพื่อขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาล

แม้รายชื่อจะปรากฏออกมาค่อนข้างชัดเจนแล้ว แต่เส้นทางข้างหน้าของรัฐบาลชุดใหม่ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายในการสร้างเอกภาพ การผลักดันนโยบายให้เป็นจริง และการบริหารประเทศภายใต้สภาวะการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การติดตามการทำงานและผลงานของคณะรัฐมนตรีชุดนี้จึงเป็นสิ่งที่ทุกภาคส่วนในสังคมต้องให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดต่อไป เพื่อร่วมกันตรวจสอบและผลักดันให้การบริหารประเทศเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนอย่างแท้จริง

สั่งเสื้อ

พฤศจิกายน 2025
จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส. อา.
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930