เปิดพิกัด! 5 จังหวัดตัวเต็งสร้าง ‘กาสิโนถูกกฎหมาย’

ประเด็นการจัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex ซึ่งรวมถึงการมีกาสิโนถูกกฎหมาย กำลังเป็นที่จับตามองอย่างกว้างขวางในสังคมไทย หลังจากรัฐบาลแสดงท่าทีชัดเจนในการผลักดันนโยบายนี้ให้เกิดขึ้นจริง คำถามสำคัญที่ตามมาคือการ เปิดพิกัด! 5 จังหวัดตัวเต็งสร้าง ‘กาสิโนถูกกฎหมาย’ ว่าพื้นที่ใดมีศักยภาพและความพร้อมมากที่สุดในการเป็นที่ตั้งของเมกะโปรเจกต์ที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว

• รัฐบาลไทยกำลังผลักดันร่างพระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. เพื่อเปิดทางให้มีการจัดตั้งกาสิโนอย่างถูกกฎหมายเป็นครั้งแรกในประเทศ
• โครงการนี้ไม่ใช่แค่กาสิโน แต่เป็นสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) ที่มีพื้นที่กาสิโนจำกัดเพียง 10% ของพื้นที่ทั้งหมด เพื่อดึงดูดการลงทุนและนักท่องเที่ยว
• เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ถูกวางให้เป็นพื้นที่ตัวเต็งหลักในการจัดตั้งโครงการนำร่อง เนื่องจากมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานและการส่งเสริมการลงทุน
• นักลงทุนระดับโลกหลายราย เช่น Las Vegas Sands และ MGM Resort ได้แสดงความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในโครงการนี้ ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพของตลาดในประเทศไทย
• มีการวางกลไกการกำกับดูแลที่เข้มงวดผ่านคณะกรรมการ 2 ชุด เพื่อควบคุมการดำเนินงานและลดผลกระทบทางสังคมที่อาจเกิดขึ้น

การผลักดันให้เกิด Entertainment Complex และกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทย ถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญที่รัฐบาลชุดปัจจุบันให้ความสนใจ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวหลังสถานการณ์ซบเซาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แนวคิดนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณาหลายครั้งในอดีต ทว่าครั้งนี้มีความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมมากที่สุด โดยมีการยกร่างกฎหมายและผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว ทำให้เกิดการวิเคราะห์ถึงพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงสุดในการรองรับโครงการขนาดใหญ่นี้ ซึ่งจะกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดเม็ดเงินลงทุนมหาศาลจากต่างประเทศและสร้างงานให้กับคนในพื้นที่

ภาพรวมโครงการ Entertainment Complex และกาสิโนถูกกฎหมาย

โครงการสถานบันเทิงครบวงจรเป็นมากกว่าแค่สถานที่สำหรับเล่นการพนัน แต่ถูกออกแบบมาให้เป็นศูนย์รวมความบันเทิงและบริการที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจจากทั่วโลก การทำความเข้าใจนิยามและเป้าหมายของโครงการจึงเป็นสิ่งสำคัญในการประเมินศักยภาพและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น

ที่มาและความสำคัญของนโยบาย

นโยบายการจัดตั้งกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทยมีรากฐานมาจากความพยายามในการหารายได้ใหม่เข้าประเทศและแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายที่แพร่หลายมายาวนาน รัฐบาลมองว่าการนำธุรกิจเหล่านี้ขึ้นมาอยู่บนดินและจัดเก็บภาษีอย่างเป็นระบบ จะสามารถสร้างรายได้มหาศาลเพื่อนำมาพัฒนาประเทศ อีกทั้งยังช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงให้เดินทางมายังประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการโดยรวม

นอกจากนี้ การจัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจรยังถูกมองว่าเป็นเครื่องมือในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในเวทีโลก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์ มาเลเซีย หรือฟิลิปปินส์ ซึ่งมีโครงการในลักษณะเดียวกันและประสบความสำเร็จในการสร้างรายได้และดึงดูดนักท่องเที่ยว การมี Entertainment Complex จะทำให้ประเทศไทยมีจุดขายใหม่ที่สามารถแข่งขันได้และเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนและนักท่องเที่ยว

นิยามของ ‘Entertainment Complex’ มากกว่าแค่กาสิโน

สิ่งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจคือ โครงการนี้ไม่ใช่การเปิด “บ่อนกาสิโน” แบบดั้งเดิม แต่เป็น “สถานบันเทิงครบวงจร” หรือ Entertainment Complex ซึ่งมีองค์ประกอบหลากหลายเพื่อสร้างประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบให้กับผู้มาใช้บริการ ตามร่างพระราชบัญญัติฯ ที่กำลังพิจารณา พื้นที่สำหรับกาสิโนจะถูกจำกัดไว้ไม่เกิน 10% ของพื้นที่ทั้งหมดของโครงการ

ส่วนที่เหลืออีก 90% จะประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น:

• โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว: เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจจากทั่วโลก
• ศูนย์การประชุมและจัดแสดงสินค้า (MICE): สำหรับการจัดงานอีเวนต์ การประชุมนานาชาติ และนิทรรศการขนาดใหญ่
• ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าแบรนด์เนม: เพื่อดึงดูดนักช็อปปิ้งที่มีกำลังซื้อสูง
• ร้านอาหารและภัตตาคารชั้นนำ: รวบรวมร้านอาหารจากเชฟชื่อดังและอาหารนานาชาติ
• โรงละครและสถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ต: สำหรับการจัดกิจกรรมความบันเทิงระดับโลก
• สวนสนุกหรือสวนน้ำ: เพื่อเป็นแหล่งพักผ่อนสำหรับครอบครัว

แนวคิดนี้มีต้นแบบมาจากโครงการที่ประสบความสำเร็จในต่างประเทศ เช่น Marina Bay Sands ในสิงคโปร์ หรือ City of Dreams ในมาเก๊า ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าสามารถสร้างระบบนิเวศทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและดึงดูดผู้คนได้หลากหลายกลุ่ม ไม่ใช่เพียงแค่นักพนันเท่านั้น

ไทม์ไลน์และสถานะล่าสุดของร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงครบวงจร

ความคืบหน้าในการผลักดันกฎหมายเพื่อรองรับการจัดตั้ง Entertainment Complex ถือเป็นหัวใจสำคัญที่บ่งชี้ถึงความจริงจังของรัฐบาลในโครงการนี้ การติดตามสถานะและขั้นตอนทางกฎหมายจะช่วยให้เห็นภาพรวมและทิศทางในอนาคตได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ขั้นตอนการพิจารณาในรัฐสภา

หลังจากที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) ของสภาผู้แทนราษฎรได้ศึกษาและสรุปผลเสนอต่อรัฐบาล ล่าสุดคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในหลักการของร่างพระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. และเตรียมส่งร่างกฎหมายฉบับนี้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของรัฐสภาต่อไป

ขั้นตอนต่อไปคือการนำร่าง พ.ร.บ. เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวาระที่ 1 (รับหลักการ), วาระที่ 2 (พิจารณารายมาตรา), และวาระที่ 3 (ลงมติเห็นชอบ) จากนั้นจะส่งต่อไปยังวุฒิสภาเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบอีกครั้ง ก่อนจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยและประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป ซึ่งคาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะใช้เวลาพอสมควร แต่ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้โครงการมีความเป็นไปได้สูง

กลไกการกำกับดูแลและป้องกันผลกระทบ

หนึ่งในประเด็นที่สังคมให้ความสำคัญคือผลกระทบทางสังคมที่อาจเกิดขึ้นจากการมีกาสิโนถูกกฎหมาย ร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้จึงได้ออกแบบกลไกการกำกับดูแลที่เข้มงวดเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจตามมา โดยจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 2 ชุดเพื่อทำหน้าที่กำกับดูแลโดยเฉพาะ ได้แก่:

1. คณะกรรมการนโยบาย: มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ทำหน้าที่กำหนดนโยบายภาพรวม กำหนดพื้นที่เป้าหมาย และพิจารณาให้ความเห็นชอบการออกใบอนุญาต
2. คณะกรรมการบริหาร: ทำหน้าที่กำกับดูแลการดำเนินงานของผู้ประกอบการให้เป็นไปตามกฎหมายและเงื่อนไขที่กำหนด รวมถึงออกมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบทางสังคม เช่น การกำหนดคุณสมบัติผู้เข้าใช้บริการ การป้องกันปัญหาการติดพนัน และการป้องกันการฟอกเงิน

กลไกการกำกับดูแลที่รัดกุมถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้โครงการ Entertainment Complex สามารถสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจไปพร้อมกับการลดผลกระทบทางสังคมให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้

หลักเกณฑ์และเงื่อนไขสำหรับนักลงทุน

เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล รัฐบาลจึงได้กำหนดคุณสมบัติและเงื่อนไขที่เข้มงวดสำหรับบริษัทเอกชนที่จะเข้ามาลงทุน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้ประกอบการจะมีความมั่นคงทางการเงินและมีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจระดับโลก

คุณสมบัติบริษัทเอกชนผู้ขอใบอนุญาต

ตามข้อมูลที่เปิดเผยเบื้องต้น ร่างกฎหมายได้กำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับใบอนุญาตไว้อย่างชัดเจน โดยผู้ลงทุนจะต้องเป็นบริษัทเอกชนที่มีความพร้อมในหลายด้าน คุณสมบัติที่สำคัญประการหนึ่งคือด้านสถานะทางการเงิน โดยกำหนดให้บริษัทที่ยื่นขอใบอนุญาตจะต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท เพื่อเป็นการคัดกรองและสร้างความเชื่อมั่นว่าผู้ประกอบการมีศักยภาพทางการเงินเพียงพอที่จะดำเนินโครงการขนาดใหญ่นี้ได้ตลอดรอดฝั่ง และสามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขที่รัฐกำหนดได้อย่างครบถ้วน

ความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่

การเคลื่อนไหวของรัฐบาลไทยได้ดึงดูดความสนใจจากผู้ประกอบการ Entertainment Complex ระดับโลกหลายราย ซึ่งต่างมองเห็นศักยภาพของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญของโลก บริษัทชั้นนำที่แสดงความสนใจอย่างเปิดเผย ได้แก่:

• Las Vegas Sands: ผู้ประกอบการรายใหญ่เจ้าของ Marina Bay Sands ในสิงคโปร์ และ The Venetian ในมาเก๊าและลาสเวกัส
• MGM Resorts International: อีกหนึ่งยักษ์ใหญ่จากลาสเวกัส เจ้าของโรงแรมและกาสิโนชื่อดังมากมายทั่วโลก
• Galaxy Entertainment Group: กลุ่มทุนจากฮ่องกงที่เป็นผู้เล่นรายสำคัญในตลาดมาเก๊า

การที่บริษัทระดับโลกเหล่านี้แสดงความสนใจถือเป็นสัญญาณบวกที่ชี้ให้เห็นว่าโครงการ Entertainment Complex ในไทยมีศักยภาพในสายตาของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งจะนำมาซึ่งการแข่งขันในการยื่นข้อเสนอที่ดีที่สุดให้กับรัฐบาลไทย และเป็นการยกระดับมาตรฐานของโครงการให้ทัดเทียมกับสากล

วิเคราะห์พื้นที่ศักยภาพ: จังหวัดตัวเต็งในการจัดตั้งกาสิโน

แม้จะยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่จากการวิเคราะห์ข้อมูลและทิศทางของนโยบาย สามารถประเมินพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงในการเป็นที่ตั้งของโครงการ Entertainment Complex ได้ โดยเกณฑ์การพิจารณาหลักจะขึ้นอยู่กับความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน การเข้าถึงของนักท่องเที่ยว และการเชื่อมโยงกับเขตเศรษฐกิจสำคัญ

กลุ่มเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) – ตัวเลือกอันดับหนึ่ง

พื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ซึ่งครอบคลุม 3 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี, ระยอง, และฉะเชิงเทรา ถือเป็นตัวเต็งอันดับหนึ่งอย่างไร้ข้อโต้แย้ง เนื่องจากเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลให้ความสำคัญในการผลักดันการลงทุนด้านเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมสมัยใหม่ มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นสนามบินอู่ตะเภา, ท่าเรือแหลมฉบังและมาบตาพุด, และโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน การตั้ง Entertainment Complex ในพื้นที่นี้จะช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกันกับแผนพัฒนา EEC ได้เป็นอย่างดี และสามารถดึงดูดทั้งนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในพื้นที่ได้ง่าย

มหานครกรุงเทพฯ – ศูนย์กลางเศรษฐกิจและคมนาคม

กรุงเทพมหานคร เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่มีศักยภาพสูง ด้วยสถานะการเป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศ มีความพร้อมด้านระบบคมนาคมขนส่งทั้งทางบกและทางอากาศ (สนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง) มีโรงแรมที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่แล้ว การมี Entertainment Complex ในกรุงเทพฯ หรือพื้นที่ปริมณฑลจะสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ทันที อย่างไรก็ตาม ความท้าทายอาจอยู่ที่ราคาที่ดินที่สูงและความหนาแน่นของเมือง

เมืองท่องเที่ยวระดับโลก – ภูเก็ต และเชียงใหม่

ภูเก็ต และ เชียงใหม่ เป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกและมีสนามบินนานาชาติที่รองรับเที่ยวบินตรงจากหลายประเทศ การตั้ง Entertainment Complex ในจังหวัดเหล่านี้จะช่วยต่อยอดศักยภาพด้านการท่องเที่ยวที่มีอยู่เดิม และสร้างแรงจูงใจใหม่ๆ ให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายและพำนักในพื้นที่นานขึ้น โดยเฉพาะภูเก็ตซึ่งเป็น “ไข่มุกแห่งอันดามัน” ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มกำลังซื้อสูงจากยุโรปและเอเชียอยู่แล้ว ส่วนเชียงใหม่ก็เป็นศูนย์กลางของภาคเหนือที่มีเสน่ห์ทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่โดดเด่น ทั้งสองจังหวัดจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการกระจายการพัฒนาออกไปยังภูมิภาคอื่น ๆ

ผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจและสังคม

การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่อย่าง Entertainment Complex ย่อมนำมาซึ่งผลกระทบทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ การพิจารณาอย่างรอบด้านจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อวางแผนรับมือและจัดการให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ

ด้านเศรษฐกิจ: การจ้างงานและรายได้ภาครัฐ

ในมิติทางเศรษฐกิจ โครงการนี้คาดว่าจะสร้างประโยชน์มหาศาล ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว:

• การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI): ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนหลายแสนล้านบาทเข้ามาในประเทศ
• การจ้างงาน: สร้างตำแหน่งงานจำนวนมากตั้งแต่ช่วงก่อสร้างไปจนถึงช่วงเปิดดำเนินการ ทั้งในส่วนของโรงแรม กาสิโน ร้านอาหาร และบริการอื่นๆ
• รายได้ภาครัฐ: รัฐบาลสามารถจัดเก็บภาษีและค่าธรรมเนียมจากผู้ประกอบการ ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ
• การกระตุ้นอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง: ส่งผลดีต่อธุรกิจก่อสร้าง, อสังหาริมทรัพย์, การท่องเที่ยว, การบริการ และการเกษตรในพื้นที่

ด้านสังคม: ความท้าทายและมาตรการป้องกัน

ในขณะเดียวกัน ก็มีความกังวลต่อผลกระทบทางสังคมที่อาจเกิดขึ้น เช่น ปัญหาการติดพนัน, ปัญหาอาชญากรรม, และปัญหาครอบครัว ซึ่งภาครัฐจำเป็นต้องมีมาตรการป้องกันที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ เช่น การกำหนดอายุและคุณสมบัติของผู้เข้าใช้บริการที่เป็นคนไทย, การจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือและบำบัดผู้ติดพนัน, และการใช้เทคโนโลยีในการตรวจสอบและป้องกันการฟอกเงิน การเรียนรู้จากบทเรียนของประเทศอื่น ๆ และนำมาปรับใช้กับบริบทของไทยจะเป็นกุญแจสำคัญในการจัดการกับความท้าทายเหล่านี้

บทสรุปและทิศทางในอนาคตของกาสิโนถูกกฎหมายในไทย

การเดินหน้าผลักดันร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงครบวงจร ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของนโยบายเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของไทย แม้จะยังไม่มีการระบุชัดเจนถึงการ เปิดพิกัด! 5 จังหวัดตัวเต็งสร้าง ‘กาสิโนถูกกฎหมาย’ แต่จากศักยภาพและความพร้อม พื้นที่ในเขต EEC, กรุงเทพมหานคร, ภูเก็ต และเชียงใหม่ ล้วนเป็นตัวเลือกที่มีความน่าจะเป็นสูง โดยเฉพาะกลุ่ม EEC ที่ดูจะมีภาษีดีที่สุดในขณะนี้

อนาคตของโครงการนี้ขึ้นอยู่กับกระบวนการทางนิติบัญญัติที่จะเกิดขึ้นในรัฐสภา รวมถึงการออกแบบรายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆ ให้รัดกุม เพื่อให้ประเทศไทยสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการผลกระทบทางสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ การจับตาดูความคืบหน้าของกฎหมายฉบับนี้และการคัดเลือกพื้นที่จะเป็นประเด็นที่น่าสนใจอย่างยิ่งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งจะส่งผลต่อภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาวต่อไป