Shopping cart

เปิดตัว ‘ทางรัฐ’ Super App รัฐบาล รับเงินดิจิทัล 10,000

สารบัญ

การเปิดตัว ‘ทางรัฐ’ Super App รัฐบาล รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท นับเป็นก้าวสำคัญของการปฏิรูปบริการภาครัฐสู่ระบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ แอปพลิเคชันนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นศูนย์กลางในการเข้าถึงบริการต่างๆ ของรัฐบาล พร้อมทั้งทำหน้าที่เป็นช่องทางหลักสำหรับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ผ่านนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท การพัฒนานี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย ลดขั้นตอนที่ซับซ้อน และสร้างความโปร่งใสในการดำเนินงานของภาครัฐให้แก่ประชาชนทุกคน

ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับ Super App ‘ทางรัฐ’ และเงินดิจิทัล 10,000

  • ศูนย์กลางบริการภาครัฐ: แอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ ถูกพัฒนาให้เป็น Super App ที่รวบรวมบริการของหน่วยงานรัฐมากกว่า 100 บริการไว้ในที่เดียว เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถทำธุรกรรมและตรวจสอบสิทธิต่างๆ ได้โดยไม่ต้องเดินทางไปติดต่อหลายหน่วยงาน
  • ช่องทางหลักรับเงินดิจิทัล: รัฐบาลกำหนดให้แอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ เป็นแพลตฟอร์มหลักในการลงทะเบียนและรับสิทธิ์โครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาทสำหรับผู้ที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์
  • เงื่อนไขผู้มีสิทธิ์ชัดเจน: โครงการกำหนดคุณสมบัติผู้รับสิทธิ์ ได้แก่ ประชาชนสัญชาติไทยอายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป มีรายได้ไม่เกิน 840,000 บาทต่อปีภาษี และมีเงินฝากในบัญชีรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท
  • กรอบเวลาดำเนินโครงการ: คาดว่าระบบการชำระเงินของโครงการจะเริ่มเปิดให้บริการในช่วงเดือนตุลาคม 2567 และดำเนินโครงการไปจนถึงเดือนมีนาคม 2568 เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจ
  • เป้าหมายทางเศรษฐกิจ: นโยบายนี้มุ่งหวังให้เกิดการหมุนเวียนของเงินในระบบเศรษฐกิจฐานราก สนับสนุนร้านค้าขนาดเล็กและขนาดใหญ่ทั่วประเทศ และส่งเสริมการปรับตัวเข้าสู่สังคมดิจิทัลของประชาชน

บทนำสู่มิติใหม่ของบริการภาครัฐดิจิทัล

ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน การปรับตัวของภาครัฐให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงจึงเป็นสิ่งจำเป็น การพัฒนาแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการยกระดับการให้บริการประชาชนให้มีความสะดวก รวดเร็ว และเข้าถึงง่ายยิ่งขึ้น แนวคิด “Super App” คือการรวมบริการที่หลากหลายไว้ภายใต้แพลตฟอร์มเดียว ลดความจำเป็นในการติดตั้งและเรียนรู้การใช้งานหลายแอปพลิเคชัน ซึ่งตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน

โครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่จะถูกส่งผ่านแอปพลิเคชันนี้ ไม่เพียงแต่เป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ยังเป็นกลไกสำคัญที่ผลักดันให้ประชาชนจำนวนมากหันมาใช้บริการดิจิทัลของภาครัฐอย่างจริงจัง ซึ่งจะส่งผลดีในระยะยาวต่อการสร้างฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ที่เป็นประโยชน์ต่อการวางแผนนโยบายสาธารณะในอนาคต โครงการนี้จึงมีความสำคัญต่อประชาชนทุกคนที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ และเป็นที่จับตามองจากทุกภาคส่วนถึงประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น

ทำความรู้จัก Super App ‘ทางรัฐ’ ประตูสู่บริการรัฐในมือคุณ

นิยามและเป้าหมายหลัก

แอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ คือแพลตฟอร์มบริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จ (One-Stop Service) ที่พัฒนาโดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ สพร. โดยเปิดตัวครั้งแรกในเดือนกันยายน 2564 และมีการปรับปรุงฟังก์ชันการใช้งานมาอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายหลักของการพัฒนาแอปพลิเคชันนี้คือเพื่อเป็น “ประตูสู่บริการรัฐ” ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลและบริการต่างๆ ของรัฐได้จากทุกที่ทุกเวลาผ่านสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว

หัวใจสำคัญของ ‘ทางรัฐ’ คือการบูรณาการข้อมูลและบริการจากหน่วยงานต่างๆ ของรัฐเข้ามาไว้ด้วยกัน ช่วยลดความซ้ำซ้อนในการยื่นเอกสารและการเดินทางไปติดต่อหน่วยงานราชการโดยตรง ซึ่งไม่เพียงแต่ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายของประชาชน แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของภาครัฐให้มีความคล่องตัวและทันสมัยมากขึ้น

รวมฟีเจอร์เด่นและบริการครบวงจร

แอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ ได้รวบรวมบริการที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันของประชาชนไว้มากมาย โดยสามารถแบ่งกลุ่มบริการหลักๆ ได้ดังนี้:

  • การตรวจสอบสิทธิประโยชน์และสวัสดิการ: ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบข้อมูลสิทธิส่วนบุคคลได้อย่างสะดวก เช่น สิทธิการรักษาพยาบาล (สิทธิบัตรทอง), สิทธิประกันสังคม (ตรวจสอบยอดเงินสมทบชราภาพ, สถานะผู้ประกันตน), เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด, และเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
  • การชำระค่าบริการและภาษี: อำนวยความสะดวกในการชำระค่าบริการต่างๆ ของภาครัฐ เช่น การชำระค่าปรับจราจร (ใบสั่ง), ค่าน้ำ, ค่าไฟ และการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
  • ข้อมูลทะเบียนราษฎร: สามารถคัดสำเนาทะเบียนบ้านและตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับงานทะเบียนได้
  • ข้อมูลด้านการศึกษา: ตรวจสอบข้อมูลวุฒิการศึกษาผ่านระบบเชื่อมโยงข้อมูลกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
  • การยืนยันตัวตนดิจิทัล (Digital ID): ใช้เป็นเครื่องมือในการยืนยันตัวตนเพื่อเข้าใช้บริการออนไลน์ของภาครัฐได้อย่างปลอดภัย

การรวมบริการเหล่านี้ไว้ในที่เดียว ทำให้แอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการลดภาระและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง

เจาะลึกโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’

เจาะลึกโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านแอปพลิเคชัน 'ทางรัฐ'

วัตถุประสงค์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ

นโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท มีวัตถุประสงค์หลักเพื่ออัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยตรง โดยมุ่งเน้นการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ รัฐบาลคาดหวังว่าการใช้จ่ายของประชาชนผู้ได้รับสิทธิ์จะก่อให้เกิดการหมุนเวียนของเงินในระบบหลายรอบ (Multiplier Effect) ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการรายย่อย ร้านค้าชุมชน และภาคธุรกิจต่างๆ ทั่วประเทศ นอกจากนี้ โครงการยังถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนและร้านค้าปรับตัวเข้าสู่ระบบการชำระเงินแบบดิจิทัล (Digital Payment) ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลในระยะยาว

คุณสมบัติและเงื่อนไขผู้มีสิทธิ์รับเงิน

เพื่อให้โครงการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการความช่วยเหลือและสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ รัฐบาลได้กำหนดเกณฑ์คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์รับเงินดิจิทัล 10,000 บาทไว้อย่างชัดเจน ซึ่งผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการควรตรวจสอบคุณสมบัติของตนเองให้ครบถ้วน

ตารางสรุปเงื่อนไขและคุณสมบัติผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท
เงื่อนไข รายละเอียด
สัญชาติ ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย
อายุ มีอายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป (นับจากวันที่ลงทะเบียน)
ที่อยู่ มีที่อยู่ในทะเบียนบ้านตามที่กำหนด
รายได้ มีรายได้พึงประเมินไม่เกิน 840,000 บาท ในปีภาษี 2566
เงินฝาก มีเงินฝากในบัญชีธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันทุกบัญชีไม่เกิน 500,000 บาท (นับยอด ณ วันที่กำหนด)

ขั้นตอนการลงทะเบียนและใช้งานที่คาดการณ์

แม้ว่ารายละเอียดขั้นตอนอย่างเป็นทางการจะยังต้องรอประกาศจากรัฐบาล แต่จากแนวทางของโครงการที่ผ่านมา คาดการณ์ว่าขั้นตอนการลงทะเบียนและใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ จะมีลักษณะดังนี้:

  1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน: ประชาชนที่ยังไม่มีแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ จะต้องดาวน์โหลดและติดตั้งจาก App Store หรือ Google Play Store
  2. ยืนยันตัวตน: ทำการลงทะเบียนและยืนยันตัวตนผ่านระบบ Digital ID หรือ D.DOPA ซึ่งอาจต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชนในการสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตน
  3. ตรวจสอบคุณสมบัติ: ระบบจะทำการเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมสรรพากร และสถาบันการเงิน เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติด้านรายได้และเงินฝากของผู้ลงทะเบียน
  4. รอรับการแจ้งเตือน: เมื่อผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ ผู้มีสิทธิ์จะได้รับการแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชันเพื่อยืนยันการรับสิทธิ์
  5. เริ่มใช้งาน: เงินดิจิทัล 10,000 บาท จะถูกโอนเข้าวอลเล็ตในแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ และสามารถนำไปใช้จ่ายกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด

กรอบระยะเวลาการดำเนินโครงการ

ตามข้อมูลที่เปิดเผย รัฐบาลได้วางแผนการดำเนินโครงการไว้อย่างเป็นขั้นตอน โดยใช้งบประมาณ 95 ล้านบาทในการพัฒนาแพลตฟอร์มการชำระเงินให้พร้อมใช้งาน คาดการณ์ว่าระบบจะสามารถเปิดให้ประชาชนและร้านค้าเริ่มใช้งานได้ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 (ประมาณเดือนตุลาคม) และโครงการจะสิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2568 ซึ่งเป็นกรอบเวลาที่เปิดโอกาสให้ประชาชนได้วางแผนการใช้จ่ายและกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง

เปรียบเทียบแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ และ ‘เป๋าตัง’

ประชาชนจำนวนมากคุ้นเคยกับแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ จากโครงการของรัฐในอดีต การมาถึงของ ‘ทางรัฐ’ ในฐานะช่องทางหลักของโครงการใหม่ ทำให้เกิดคำถามถึงความแตกต่างของทั้งสองแอปพลิเคชัน ซึ่งสามารถเปรียบเทียบในมิติต่างๆ ได้ดังนี้

ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ และ ‘เป๋าตัง’
มิติการเปรียบเทียบ แอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ แอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’
เป้าหมายหลัก เป็น Super App ศูนย์กลางบริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จ (One-Stop Government Service) เป็นแพลตฟอร์มการเงินดิจิทัล (Digital Financial Platform) ของธนาคารกรุงไทย
ขอบเขตบริการ เน้นการเข้าถึงบริการของรัฐ เช่น ตรวจสอบสิทธิ, ข้อมูลทะเบียนราษฎร, ชำระค่าปรับ เน้นบริการทางการเงิน เช่น G-Wallet, สุขภาพ, การลงทุนในพันธบัตรและหุ้นกู้
บทบาทในโครงการรัฐ เป็นช่องทางหลักสำหรับโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท และโครงการอื่นๆ ในอนาคต เคยเป็นช่องทางหลักในโครงการต่างๆ เช่น เราเที่ยวด้วยกัน, คนละครึ่ง, บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
หน่วยงานผู้พัฒนา สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
ทิศทางการพัฒนา มุ่งสู่การเป็น Digital ID ของคนไทยเพื่อเข้าถึงทุกบริการภาครัฐ มุ่งสู่การเป็น Open Platform ด้านการเงินที่เชื่อมต่อกับบริการหลากหลาย

ผลกระทบและประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

ต่อภาคประชาชน

ประโยชน์ที่ชัดเจนที่สุดสำหรับประชาชนคือความสะดวกสบายในการติดต่อกับหน่วยงานราชการ การรวมบริการไว้ในแอปพลิเคชันเดียวช่วยลดขั้นตอน ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง นอกจากนี้ โครงการเงินดิจิทัลยังช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพและเพิ่มกำลังซื้อให้กับครัวเรือน ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นโอกาสให้ประชาชนได้เรียนรู้และปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งจะกลายเป็นทักษะที่สำคัญในอนาคต

ต่อระบบเศรษฐกิจ

ในภาพรวม การอัดฉีดเม็ดเงินกว่า 5 แสนล้านบาท (โดยประมาณ) เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านการบริโภค จะช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจในทุกระดับ ตั้งแต่ร้านค้าปลีก ตลาดสด ไปจนถึงภาคการผลิตและบริการที่เกี่ยวข้อง เมื่อร้านค้ามีรายได้เพิ่มขึ้น ก็จะเกิดการสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อไปยังผู้ผลิตและเกษตรกรเป็นทอดๆ การหมุนเวียนของเงินในลักษณะนี้จะช่วยพยุงการเติบโตของเศรษฐกิจและอาจนำไปสู่การจ้างงานที่เพิ่มขึ้นในบางภาคส่วน

ความท้าทายที่อาจเกิดขึ้น

แม้ว่าโครงการจะมีประโยชน์หลายด้าน แต่ก็มีความท้าทายที่ต้องพิจารณาเช่นกัน ประการแรกคือความพร้อมของระบบในการรองรับผู้ใช้งานจำนวนมากพร้อมกัน ซึ่งอาจเกิดปัญหาความล่าช้าหรือระบบล่มได้ในช่วงแรก ประการที่สองคือความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล (Digital Divide) ซึ่งประชาชนบางกลุ่ม โดยเฉพาะผู้สูงอายุหรือผู้ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล อาจประสบปัญหาในการเข้าถึงสมาร์ทโฟนหรือการใช้งานแอปพลิเคชัน สุดท้ายคือประเด็นความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีมาตรการป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลที่รัดกุมและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน

สรุปและแนวทางการเตรียมความพร้อม

การเปิดตัว ‘ทางรัฐ’ Super App รัฐบาล รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท ถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญทั้งในมิติของการยกระดับบริการภาครัฐและการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ แอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการเชื่อมต่อระหว่างประชาชนกับภาครัฐ ขณะที่นโยบายเงินดิจิทัลจะเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสู่สังคมไร้เงินสดในวงกว้าง

สำหรับประชาชนทั่วไป การเตรียมความพร้อมที่ดีที่สุดคือการติดตามข่าวสารจากหน่วยงานภาครัฐอย่างใกล้ชิด ตรวจสอบคุณสมบัติของตนเองตามเงื่อนไขที่ประกาศ และเตรียมความพร้อมด้านเอกสารและข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นปัจจุบัน เช่น ข้อมูลรายได้ที่ยื่นกับกรมสรรพากร และการตรวจสอบยอดเงินฝากในบัญชีธนาคาร การเตรียมตัวล่วงหน้าจะช่วยให้กระบวนการลงทะเบียนเมื่อโครงการเปิดตัวเป็นไปอย่างราบรื่น และสามารถใช้ประโยชน์จากนโยบายนี้ได้อย่างเต็มศักยภาพ

สั่งเสื้อ

พฤศจิกายน 2025
จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส. อา.
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930