Shopping cart

น้ำท่วม 2567: เปิดรายชื่อจังหวัดล่าสุด-เช็คเส้นทางเลี่ยง

สารบัญ

สถานการณ์อุทกภัยในประเทศไทยยังคงน่าเป็นห่วง จากอิทธิพลของพายุที่พาดผ่าน ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ สร้างผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นวงกว้าง การติดตามข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและทันท่วงทีจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อการเตรียมความพร้อมและรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สรุปสถานการณ์สำคัญล่าสุด

  • ผลกระทบวงกว้าง: สถานการณ์น้ำท่วมปี 2567 ได้ขยายวงกว้างครอบคลุมพื้นที่ถึง 57 จังหวัดทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ส่งผลให้ครัวเรือนมากกว่า 67,000 แห่งได้รับความเดือดร้อน
  • พื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ: มี 12 จังหวัดที่ถูกประกาศเป็นพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคกลางตอนบน ซึ่งมีประชาชนได้รับผลกระทบแล้วกว่า 30,000 ครัวเรือน
  • สถานการณ์ภาคใต้: หลายจังหวัดในภาคใต้เผชิญกับภาวะน้ำท่วมสูง จนต้องมีการเร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย และมีการประกาศเตือนฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง
  • มาตรการช่วยเหลือ: หน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้เข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมออกมาตรการเยียวยาเบื้องต้น และเปิดสายด่วนเพื่อรับแจ้งเหตุตลอด 24 ชั่วโมง
  • การสัญจรและเส้นทาง: ประชาชนที่จำเป็นต้องเดินทาง ควรตรวจสอบข้อมูลเส้นทางเลี่ยงน้ำท่วมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากมีถนนหลายสายถูกตัดขาดและไม่สามารถใช้งานได้

จากสถานการณ์ น้ำท่วม 2567: เปิดรายชื่อจังหวัดล่าสุด-เช็คเส้นทางเลี่ยง พบว่าอิทธิพลจากพายุได้ก่อให้เกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในหลายภูมิภาคของประเทศไทย ส่งผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก ทำให้การดำรงชีวิตเป็นไปด้วยความยากลำบาก และยังสร้างความเสียหายต่อพื้นที่เกษตรกรรมและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลสถานการณ์ล่าสุด รายชื่อจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ แนวทางการช่วยเหลือจากภาครัฐ และคำแนะนำในการตรวจสอบเส้นทางเพื่อความปลอดภัยในการสัญจร

ความรุนแรงของสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานราชการที่เชื่อถือได้ เช่น กรมอุตุนิยมวิทยา และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เพื่อให้สามารถประเมินความเสี่ยงและเตรียมการป้องกันได้อย่างทันท่วงที ทั้งในระดับครัวเรือนและชุมชน การรับทราบถึงพื้นที่เสี่ยงและเส้นทางที่ควรหลีกเลี่ยงไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สิน แต่ยังช่วยให้การเดินทางในช่วงเวลานี้เป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยมากที่สุด

ภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วม 2567 ทั่วประเทศ

สถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างอย่างที่ไม่เคยปรากฏบ่อยครั้งนัก โดยข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระบุว่ามีพื้นที่ประสบอุทกภัยกระจายตัวอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ตั้งแต่ภาคเหนือจรดภาคใต้ ทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องเผชิญกับความท้าทายในการใช้ชีวิตประจำวัน และหน่วยงานภาครัฐต้องระดมกำลังเข้าให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

พื้นที่ประสบอุทกภัย 57 จังหวัด

ข้อมูลอย่างเป็นทางการยืนยันว่ามีจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมแล้วทั้งสิ้น 57 จังหวัด คิดเป็นจำนวนครัวเรือนที่เดือดร้อนรวมประมาณ 67,296 ครัวเรือน ซึ่งแต่ละภูมิภาคมีรายละเอียดของจังหวัดที่ประสบภัยดังนี้:

สรุปรายชื่อ 57 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมปี 2567 แบ่งตามภูมิภาค
ภูมิภาค รายชื่อจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ
ภาคเหนือ (9 จังหวัด) เชียงราย, เชียงใหม่, แพร่, ลำปาง, ลำพูน, น่าน, พะเยา, แม่ฮ่องสอน, อุตรดิตถ์
ภาคกลาง (14 จังหวัด) นนทบุรี, นครนายก, นครปฐม, พระนครศรีอยุธยา, พิจิตร, สระบุรี, อ่างทอง, อุทัยธานี, สุพรรณบุรี, เพชรบูรณ์, พิษณุโลก, กำแพงเพชร, นครสวรรค์, สุโขทัย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (16 จังหวัด) กาฬสินธุ์, ขอนแก่น, ชัยภูมิ, นครพนม, นครราชสีมา, บึงกาฬ, อุบลราชธานี, หนองคาย, หนองบัวลำภู, อุดรธานี, มหาสารคาม, มุกดาหาร, ร้อยเอ็ด, เลย, ศรีสะเกษ, สกลนคร
ภาคตะวันออก (6 จังหวัด) จันทบุรี, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ตราด, ปราจีนบุรี, สระแก้ว
ภาคตะวันตก (4 จังหวัด) กาญจนบุรี, ตาก, ระยอง, ราชบุรี
ภาคใต้ (8 จังหวัด) กระบี่, นครศรีธรรมราช, พังงา, ยะลา, ตรัง, ภูเก็ต, สุราษฎร์ธานี, สตูล

เจาะลึกพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษและสถานการณ์วิกฤต

แม้ว่าผลกระทบจะเกิดขึ้นในหลายจังหวัด แต่มีบางพื้นที่ที่สถานการณ์มีความรุนแรงและจำเป็นต้องได้รับการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากระดับน้ำที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่

12 จังหวัดภายใต้การเฝ้าระวังสูงสุด

หน่วยงานภาครัฐได้ประกาศรายชื่อ 12 จังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักและมีแนวโน้มที่ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอีก ประกอบด้วย:

  • ภาคเหนือ: เชียงราย, แม่ฮ่องสอน, น่าน, ตาก, สุโขทัย, พิษณุโลก, เพชรบูรณ์
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: หนองคาย, เลย
  • ภาคกลาง: อ่างทอง, พระนครศรีอยุธยา
  • ภาคตะวันออก: ปราจีนบุรี

ในพื้นที่ 12 จังหวัดดังกล่าว มีรายงานผู้ได้รับผลกระทบแล้วกว่า 30,000 ครัวเรือน ซึ่งเจ้าหน้าที่จากหลายภาคส่วนกำลังเร่งให้ความช่วยเหลือและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องเพื่อประเมินความจำเป็นในการอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย

สถานการณ์น่าเป็นห่วงในพื้นที่ภาคใต้

นอกเหนือจากพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางแล้ว สถานการณ์ในภาคใต้ก็มีความน่าเป็นห่วงไม่แพ้กัน โดยมีรายงานน้ำท่วมสูงใน 4 จังหวัด จนนำไปสู่การเร่งอพยพประชาชนในบางพื้นที่ ตัวอย่างเช่น ในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่และอำเภอหนองจิก จังหวัดสงขลา ที่ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนเป็นอันตราย นอกจากนี้ กรมอุตุนิยมวิทยายังได้ออกประกาศเตือนฝนตกหนักใน 9 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งอาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงจึงควรติดตามประกาศจากทางการอย่างใกล้ชิดและเตรียมพร้อมสำหรับการอพยพหากมีความจำเป็น

ข้อมูลดาวเทียมยืนยันพื้นที่น้ำท่วมขัง

เทคโนโลยีอวกาศได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการติดตามและประเมินสถานการณ์น้ำท่วม โดยภาพถ่ายจากดาวเทียม THEOS-2 เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2567 ได้แสดงให้เห็นภาพรวมของพื้นที่น้ำท่วมขังได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในพื้นที่ทุ่งรับน้ำของภาคกลาง ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการมวลน้ำหลากจากภาคเหนือ

ข้อมูลจากดาวเทียมยืนยันว่ามีปริมาณน้ำท่วมขังจำนวนมากในพื้นที่ทุ่งต่างๆ ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้แก่ ทุ่งผักไห่, ทุ่งบ้านแพน, ทุ่งป่าโมก, ทุ่งเจ้าเจ็ด และทุ่งบางบาล ซึ่งพื้นที่เหล่านี้ถือเป็นจุดสำคัญที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นพื้นที่รองรับน้ำก่อนที่จะไหลลงสู่พื้นที่ตอนล่างและกรุงเทพมหานคร การมีข้อมูลที่แม่นยำจากดาวเทียมช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถวางแผนการระบายน้ำและแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

มาตรการช่วยเหลือและช่องทางติดต่อฉุกเฉิน

มาตรการช่วยเหลือและช่องทางติดต่อฉุกเฉิน

เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้ประสบอุทกภัย รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ออกมาตรการช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้น พร้อมทั้งจัดเตรียมช่องทางในการติดต่อขอความช่วยเหลือฉุกเฉินไว้ตลอด 24 ชั่วโมง

การเยียวยาเบื้องต้นจากภาครัฐ

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการให้ความช่วยเหลือ ได้ดำเนินมาตรการต่างๆ ทั้งการจัดส่งถุงยังชีพ การจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว และการช่วยเหลือในการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง นอกจากนี้ ยังมีมาตรการเยียวยาด้านการเงินสำหรับผู้ที่บ้านเรือนได้รับความเสียหายจากดินโคลนที่มากับน้ำ

สำหรับเจ้าของบ้านที่ได้รับผลกระทบจากดินโคลนเข้าท่วมบ้านเรือนและดำเนินการล้างทำความสะอาดด้วยตนเอง ภาครัฐได้มีมาตรการช่วยเหลือโดยการจ่ายค่าล้างโคลนเป็นจำนวนเงิน 10,000 บาทต่อครัวเรือน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูที่อยู่อาศัย

สายด่วนแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง

ในสถานการณ์ฉุกเฉิน การติดต่อขอความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ประชาชนที่ประสบเหตุอุทกภัยหรือต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน สามารถติดต่อได้ผ่านช่องทางสายด่วนที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

สายด่วน ปภ. 1784 และ สายด่วนนิรภัย 1567 เป็นช่องทางหลักสำหรับประชาชนในการแจ้งเหตุสาธารณภัยและขอรับความช่วยเหลือฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่จะประสานงานหน่วยปฏิบัติในพื้นที่เพื่อเข้าให้การช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด

คำแนะนำการเดินทางและตรวจสอบเส้นทางเลี่ยงน้ำท่วม

สถานการณ์น้ำท่วมส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบคมนาคม ทำให้ถนนหลายสายไม่สามารถสัญจรผ่านได้ตามปกติ การวางแผนและตรวจสอบข้อมูลเส้นทางก่อนออกเดินทางจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงการติดค้างในพื้นที่น้ำท่วม

ความสำคัญของการวางแผนก่อนออกเดินทาง

เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ถนนที่เคยใช้ได้อาจถูกปิดกะทันหัน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือและภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบหนัก การเดินทางโดยไม่มีข้อมูลล่าสุดอาจทำให้ต้องเผชิญกับความเสี่ยงในการขับรถลุยน้ำ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อยานพาหนะและเป็นอันตรายถึงชีวิต ดังนั้น การตรวจสอบเส้นทางเลี่ยงน้ำท่วมจึงไม่ใช่เพียงแค่ทางเลือก แต่เป็นความจำเป็นเพื่อความปลอดภัยสูงสุด

แหล่งข้อมูลอ้างอิงสำหรับตรวจสอบเส้นทาง

เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันที่สุด ควรตรวจสอบสภาพการจราจรและเส้นทางจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ดังนี้:

  • กรมทางหลวง: ติดตามประกาศการปิด-เปิดเส้นทาง และเส้นทางเลี่ยงที่แนะนำผ่านเว็บไซต์หรือสายด่วนของกรมทางหลวง
  • หน่วยงานท้องถิ่น: องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) หรือเทศบาลในพื้นที่ สามารถให้ข้อมูลเส้นทางในระดับท้องถิ่นที่แม่นยำ
  • แอปพลิเคชันแผนที่/นำทาง: ใช้แอปพลิเคชันที่มีการอัปเดตข้อมูลการจราจรแบบเรียลไทม์ ซึ่งมักจะแสดงข้อมูลถนนที่ปิดเนื่องจากน้ำท่วมและแนะนำเส้นทางเลือกอื่นให้โดยอัตโนมัติ

การตรวจสอบข้อมูลจากหลายแหล่งประกอบกันจะช่วยให้การวางแผนการเดินทางมีความแม่นยำและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

สรุปและแนวทางการเตรียมพร้อมรับมือ

สถานการณ์น้ำท่วมปี 2567 เป็นภัยพิบัติที่ส่งผลกระทบในวงกว้างทั่วประเทศ โดยมีจังหวัดที่ประสบภัยถึง 57 จังหวัด และมีพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ 12 จังหวัดที่สถานการณ์ยังคงน่าเป็นห่วง ขณะที่ภาครัฐได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับประชาชนคือการติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิดและเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น

แนวทางการเตรียมความพร้อมที่ดีที่สุดคือการติดตามประกาศเตือนจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ เช่น กรมอุตุนิยมวิทยา และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) อยู่เสมอ จัดเตรียมชุดอุปกรณ์ยังชีพฉุกเฉินไว้ในบ้าน ขนย้ายสิ่งของมีค่าและอุปกรณ์ไฟฟ้าขึ้นที่สูง และศึกษาเส้นทางอพยพที่ปลอดภัยในชุมชนของตนเอง สำหรับผู้ที่จำเป็นต้องเดินทาง ควรตรวจสอบเส้นทางเลี่ยงน้ำท่วมทุกครั้งก่อนออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัย การร่วมมือกันและการเตรียมพร้อมที่ดีจะช่วยลดความสูญเสียและทำให้ทุกคนสามารถผ่านพ้นวิกฤตการณ์ครั้งนี้ไปได้อย่างปลอดภัย

สั่งเสื้อ

พฤศจิกายน 2025
จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส. อา.
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930