เคาะแล้ว! ลงทะเบียนเงินดิจิทัล 10,000 บาท วันไหน-เงื่อนไข

รัฐบาลได้ประกาศความชัดเจนเกี่ยวกับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งสำคัญ โดยได้มีการเปิดเผยข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับไทม์ไลน์และหลักเกณฑ์ต่างๆ ของโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ซึ่งเป็นนโยบายที่ได้รับความสนใจจากสาธารณชนเป็นอย่างมาก การกำหนดวันและเงื่อนไขที่ชัดเจนนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายให้เป็นรูปธรรม

สรุปประเด็นสำคัญของโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท

• วันเปิดลงทะเบียน: ประชาชนทั่วไปจะเริ่มลงทะเบียนได้ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 โดยแบ่งตามกลุ่มผู้ใช้สมาร์ทโฟนและไม่มีสมาร์ทโฟน
• คุณสมบัติผู้รับสิทธิ์: ประชาชนไทยที่มีอายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
• ช่องทางการลงทะเบียน: ช่องทางหลักคือแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบริการภาครัฐแบบครบวงจร
• เงื่อนไขการใช้จ่าย: เงินดิจิทัลสามารถใช้ได้ภายในพื้นที่ที่กำหนดตามที่อยู่ทะเบียนบ้าน และมีระยะเวลาการใช้งาน 6 เดือน
• ช่วงเวลาการใช้จ่าย: คาดว่าจะเริ่มใช้จ่ายเงินได้ในช่วงปลายปี 2567 ประมาณเดือนธันวาคมเป็นต้นไป

บทความนี้จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประเด็นสำคัญของโครงการ เคาะแล้ว! ลงทะเบียนเงินดิจิทัล 10,000 บาท วันไหน-เงื่อนไข อย่างละเอียด เพื่อให้ประชาชนและผู้ประกอบการได้เตรียมความพร้อมและทำความเข้าใจในทุกมิติของนโยบายนี้ ตั้งแต่กำหนดการที่ชัดเจน คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์ ขั้นตอนการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน ไปจนถึงเงื่อนไขการใช้จ่ายที่ต้องปฏิบัติตาม การทำความเข้าใจรายละเอียดเหล่านี้จะช่วยให้การเข้าร่วมโครงการเป็นไปอย่างราบรื่นและใช้ประโยชน์จากนโยบายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

นโยบายนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภาคครัวเรือนและส่งเสริมเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น โดยการกำหนดกรอบเวลาและเงื่อนไขที่ชัดเจนช่วยสร้างความเชื่อมั่นและเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสามารถวางแผนล่วงหน้าได้ ไม่ว่าจะเป็นประชาชนที่รอรับสิทธิ์ หรือร้านค้าที่ต้องการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกลไกกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้ ข้อมูลทั้งหมดจึงถูกรวบรวมและนำเสนออย่างเป็นระบบเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป

ไทม์ไลน์และกำหนดการสำคัญที่ต้องทราบ

การดำเนินโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท มีการกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีลำดับขั้นตอน โดยแบ่งช่วงเวลาการลงทะเบียนสำหรับกลุ่มเป้าหมายต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกและลดความแออัดของระบบ การทำความเข้าใจไทม์ไลน์ของโครงการเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าร่วม

ช่วงเวลาการลงทะเบียนสำหรับประชาชน

รัฐบาลได้แบ่งช่วงเวลาการลงทะเบียนสำหรับประชาชนออกเป็น 2 กลุ่มหลัก เพื่อให้ครอบคลุมและเข้าถึงประชาชนทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง โดยมีรายละเอียดดังนี้:

1. กลุ่มผู้มีสมาร์ทโฟน: กลุ่มนี้สามารถเริ่มลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 ถึงวันที่ 15 กันยายน 2567 โดยช่องทางหลักคือการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่รวบรวมบริการจากภาครัฐไว้ในที่เดียว การลงทะเบียนผ่านช่องทางนี้จะมีความสะดวก รวดเร็ว และสามารถติดตามสถานะได้ด้วยตนเอง
2. กลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน: สำหรับประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน หรือไม่สะดวกในการใช้งานแอปพลิเคชัน จะเปิดให้ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2567 ถึงวันที่ 15 ตุลาคม 2567 โดยกระบวนการสำหรับกลุ่มนี้จะมีการตรวจสอบคุณสมบัติตามข้อมูลทะเบียนบ้านเป็นหลัก เพื่อให้แน่ใจว่าสิทธิ์จะถูกมอบให้กับผู้ที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขอย่างแท้จริง

ช่วงเวลาการลงทะเบียนสำหรับร้านค้า

สำหรับผู้ประกอบการและร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมโครงการ เพื่อเป็นจุดรับชำระเงินดิจิทัล จะสามารถเริ่มลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป โดยรายละเอียดและเงื่อนไขเฉพาะสำหรับร้านค้าจะมีการประกาศเพิ่มเติมจากหน่วยงานที่รับผิดชอบในลำดับถัดไป การเข้าร่วมของร้านค้าถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจฐานรากตามวัตถุประสงค์ของโครงการ

กำหนดการโอนเงินและวันเริ่มใช้จ่าย

หลังจากสิ้นสุดกระบวนการลงทะเบียนและตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว จะมีการประกาศผลผู้ที่ได้รับสิทธิ์ในวันที่ 22 กันยายน 2567 ผ่านแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ จากนั้นเงินจำนวน 10,000 บาทจะถูกโอนเข้าสู่กระเป๋าเงินดิจิทัลของผู้ได้รับสิทธิ์ภายในเดือนตุลาคม 2567 และคาดการณ์ว่าจะสามารถเริ่มใช้จ่ายเงินได้จริงตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม 2567 เป็นต้นไป

การวางกำหนดการที่ชัดเจนนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ทุกภาคส่วนสามารถเตรียมตัวได้ทันท่วงที และเพื่อให้การกระจายเงินเป็นไปอย่างเป็นระบบ ลดผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังในระยะสั้น

คุณสมบัติและเงื่อนไขของผู้มีสิทธิ์รับเงิน

เพื่อให้โครงการบรรลุเป้าหมายในการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างตรงจุดและทั่วถึง รัฐบาลได้กำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการและเงื่อนไขการใช้จ่ายที่ชัดเจน ซึ่งประชาชนทุกคนควรทำความเข้าใจเพื่อรักษาสิทธิ์ของตนเอง

คุณสมบัติพื้นฐานของผู้รับสิทธิ์

ผู้ที่จะได้รับสิทธิ์ในโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะต้องมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ดังต่อไปนี้:

• สัญชาติ: ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย
• อายุ: มีอายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่เปิดให้ลงทะเบียน

คุณสมบัติเบื้องต้นนี้ออกแบบมาเพื่อให้ครอบคลุมประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงานและผู้สูงอายุ เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายและสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้อย่างกว้างขวาง

เงื่อนไขการใช้จ่ายเงินดิจิทัล

นอกเหนือจากคุณสมบัติส่วนบุคคลแล้ว ยังมีเงื่อนไขสำคัญเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินที่ผู้ได้รับสิทธิ์ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ดังนี้:

• ขอบเขตพื้นที่การใช้งาน: เงินดิจิทัลที่ได้รับสามารถใช้จ่ายได้กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการซึ่งตั้งอยู่ในรัศมี 4 กิโลเมตร จากที่อยู่ตามทะเบียนบ้านของผู้ได้รับสิทธิ์เท่านั้น เงื่อนไขนี้มีขึ้นเพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้จ่ายและกระจายรายได้สู่ร้านค้าในชุมชนและท้องถิ่นของผู้รับสิทธิ์โดยตรง
• ระยะเวลาการใช้จ่าย: ผู้ได้รับสิทธิ์จะต้องใช้จ่ายเงินจำนวน 10,000 บาทให้หมดภายในระยะเวลา 6 เดือน นับจากวันที่ได้รับเงินเข้ากระเป๋าดิจิทัล
• การจัดการสิทธิ์ที่ไม่ได้ใช้: หากผู้ได้รับสิทธิ์ไม่ได้ใช้จ่ายเงินภายในระยะเวลาที่กำหนด หรือใช้ไม่หมด เงินในส่วนที่เหลือจะถูกดึงกลับเข้าสู่ระบบและส่งคืนกระทรวงการคลังโดยอัตโนมัติ ดังนั้น ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ควรวางแผนการใช้จ่ายให้ดีเพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์ไป

ขั้นตอนการลงทะเบียนและยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’

แอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ ถูกกำหนดให้เป็นเครื่องมือหลักในการลงทะเบียนและรับสิทธิ์โครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท สำหรับกลุ่มผู้ใช้สมาร์ทโฟน กระบวนการทั้งหมดถูกออกแบบมาให้ง่ายต่อการใช้งานและมีความปลอดภัยสูง

การดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน

ขั้นตอนแรกคือการดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ บนสมาร์ทโฟน โดยสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีจากแหล่งดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอย่างเป็นทางการ:

• สำหรับผู้ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS สามารถดาวน์โหลดได้จาก App Store
• สำหรับผู้ใช้ระบบปฏิบัติการ Android สามารถดาวน์โหลดได้จาก Google Play Store

ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าดาวน์โหลดแอปพลิเคชันจากผู้พัฒนาที่ถูกต้องคือ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

กระบวนการยืนยันตัวตน (e-KYC)

หลังจากติดตั้งแอปพลิเคชันเรียบร้อยแล้ว ผู้ใช้งานจะต้องทำการยืนยันตัวตน หรือที่เรียกว่า e-KYC (Electronic Know Your Customer) เพื่อสร้างบัญชีผู้ใช้และยืนยันว่าเป็นเจ้าของตัวตนจริง ซึ่งเป็นมาตรการความปลอดภัยที่สำคัญ กระบวนการนี้ประกอบด้วยขั้นตอนหลักดังนี้:

1. การสแกนบัตรประจำตัวประชาชน: ผู้ใช้จะต้องเตรียมบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง (ที่เป็น Smart Card) และทำการสแกนหน้าบัตรตามคำแนะนำบนแอปพลิเคชัน
2. การสแกนใบหน้า: ระบบจะ yêu cầuให้ผู้ใช้สแกนใบหน้าของตนเองเพื่อเปรียบเทียบกับภาพบนบัตรประจำตัวประชาชน เป็นการยืนยันตัวตนอีกชั้นหนึ่ง ควรอยู่ในบริเวณที่มีแสงสว่างเพียงพอและไม่มีสิ่งบดบังใบหน้า
3. การตั้งค่าบัญชีผู้ใช้: หลังจากยืนยันตัวตนสำเร็จ ผู้ใช้จะต้องตั้งชื่อผู้ใช้งาน (Username) และรหัสผ่าน (Password) สำหรับเข้าใช้งานแอปพลิเคชันในครั้งต่อไป ควรตั้งรหัสผ่านที่คาดเดาได้ยากเพื่อความปลอดภัย

การยื่นเรื่องขอรับสิทธิ์และการตรวจสอบผล

เมื่อมีบัญชีผู้ใช้บนแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ แล้ว ในช่วงเวลาที่เปิดให้ลงทะเบียน (1 สิงหาคม – 15 กันยายน 2567) จะมีเมนูสำหรับลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาทปรากฏขึ้นมา ให้ดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อยื่นความประสงค์ขอรับสิทธิ์

หลังจากยื่นเรื่องแล้ว ระบบจะทำการตรวจสอบคุณสมบัติ และจะประกาศผลให้ทราบในวันที่ 22 กันยายน 2567 ผ่านทางแอปพลิเคชัน หากผลการตรวจสอบพบว่า ไม่ผ่านเกณฑ์ หรือ ไม่ได้รับสิทธิ์ ระบบจะแจ้งเหตุผลให้ทราบ และผู้ลงทะเบียนมีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ตามช่องทางและระยะเวลาที่จะประกาศต่อไป

การตรวจสอบสถานะและผลการลงทะเบียน

เพื่อให้ผู้ลงทะเบียนสามารถติดตามความคืบหน้าของตนเองได้อย่างใกล้ชิด แอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ ได้ออกแบบระบบตรวจสอบสถานะที่จะแสดงผลเป็นขั้นตอนต่างๆ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ทราบว่าคำขอของตนเองอยู่ในกระบวนการใด โดยสถานะหลักๆ ที่ควรรู้จักมีความหมายดังตารางต่อไปนี้

บทสรุปและแนวทางการเตรียมความพร้อม

โครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ถือเป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่ส่งผลกระทบในวงกว้าง การประกาศไทม์ไลน์และเงื่อนไขที่ชัดเจนจากภาครัฐได้สร้างความมั่นใจและเปิดโอกาสให้ประชาชนและผู้ประกอบการสามารถวางแผนและเตรียมตัวล่วงหน้าได้ การทำความเข้าใจในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นกำหนดการลงทะเบียน คุณสมบัติผู้รับสิทธิ์ ขั้นตอนการยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ และเงื่อนไขการใช้จ่าย เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้การเข้าร่วมโครงการเป็นไปอย่างราบรื่น

สำหรับประชาชนผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ขอแนะนำให้เตรียมความพร้อมตั้งแต่เนิ่นๆ โดยการตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชนให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เตรียมดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ และศึกษาวิธีการยืนยันตัวตนไว้ล่วงหน้า เพื่อที่เมื่อถึงวันเปิดลงทะเบียนจะสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและไม่พลาดโอกาสสำคัญนี้ การติดตามข่าวสารและประกาศอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานภาครัฐอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันที่สุด