ประเทศเบลีซ (Belize) เป็นประเทศขนาดเล็กมีเกาะเล็ก ๆ มากมาย มีการผจญภัย และวัฒนธรรม โดยมีฝั่งทางหนึ่งอยู่ในป่าดงดิบในอเมริกากลางและอีกฝั่งหนึ่งอยู่ในทะเลแคริบเบียน ฝั่งตะวันออกของอเมริกากลาง มีอาณาเขตจรดประเทศเม็กซิโกทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และจรดประเทศกัวเตมาลาทางทิศตะวันตกและทิศใต้ มีประเทศฮอนดูรัสเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียง ห่างออกไปเพียง 75 กิโลเมตร ตามอ่าวฮอนดูรัสทางด้านตะวันออก
ประเทศเบลีซมีทิวทัศน์ธรรมชาติอันงดงามตระการ และมีภูมิประเทศที่เหมาะแก่การออกไปสำรวจและผจญภัยกลางแจ้งอย่างยิ่ง ว่ายน้ำไปกับสัตว์ทะเลหลากสี ท่ามกลางแนวปะการังสวยธรรมชาติในทะเลแคริบเบียน เดินลัดเลาะอุทยานแห่งชาติและเขตป่าสงวน เพื่อออกตามหาสัตว์ป่าท้องถิ่นเบลีซ ชมซากโบราณสถานที่จะทำให้คุณเข้าใจวัฒนธรรมของชาวมายันและชนพื้นเมืองของเบลีซมากขึ้น
ไฮไลต์หลักของประเทศเบลีซ คือ แนวชายฝั่งทะเลแคริบเบียนที่ทอดตัวยาว 386 กิโลเมตร มีแนวปะการังเบลีซซึ่งประกอบด้วยหมู่เกาะและแนวปะการังมากมาย และที่ชาวท้องถิ่นให้การขนานนามว่า “เคยส์ (cayes)” เพลิดเพลินกับประสบการณ์ดำน้ำสุดวิเศษที่ อัมเบอร์กริส เคย์ ว่ายน้ำเคียงข้างปลาฉลามพยาบาลและปลากระเบนที่ เขตสงวนทางทะเลโฮลจัน ลองเล่นวินด์เซิร์ฟและไคต์เซิร์ฟที่ เกาะเคย์ คอล์กเกอร์ กระโดดลงบ่อน้ำลึก 124 เมตรในระหว่างการทัวร์ดำน้ำลึกที่ บลูโฮล
1. เขตอนุรักษ์ทางทะเล Hol Chan
ที่ปลายสุดด้านใต้ของเกาะแอมเบอร์กริส เขตอนุรักษ์ทางทะเล Hol Chan ที่มีพื้นที่ 6.5 ตารางไมล์ อาจเป็นสถานที่ดำน้ำและดำน้ำตื้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเบลีซ พื้นที่แห่งนี้มีแนวปะการังที่สวยงามตระการตา นอกจากนี้ยังมีสัตว์ทะเลมากมายหลากหลายชนิดและอุดมสมบูรณ์ ไม่ต้องพูดถึงความใกล้ชิดกับเกาะต่างๆ Hol Chan เป็นภาษามายาที่แปลว่า “ช่องแคบเล็ก” ซึ่งหมายถึงแนวปะการังที่แยกตัวตามธรรมชาติที่เรียกว่า Hol Chan Cut ผนังช่องแคบปกคลุมไปด้วยปะการังหลากสีสัน ซึ่งเป็นแหล่งอาศัยของปลานานาชนิด เช่น ปลาไหลมอเรย์และปลาเก๋าดำ
ภาพจาก: www.belizehub.com
แม้ว่าแนวปะการังจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของเกาะ Hol Chan แต่เขตอนุรักษ์ทางทะเลยังประกอบไปด้วยทุ่งหญ้าทะเลและป่าชายเลน หญ้าทะเลเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของฉลามพยาบาลและปลากระเบนหางยาว ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ Shark Ray Alley นักดำน้ำตื้นมีโอกาสได้เข้าใกล้สัตว์ทั้งสองสายพันธุ์ เนื่องจากสัตว์เหล่านี้คุ้นเคยกับการให้อาหารจากเรือท่องเที่ยว
2.สะพานแขวน
ภาพจาก: www.travelbelize.org
หัวใจและจิตวิญญาณแห่งชีวิตในเมืองเบลีซแห่งนี้ซึ่งผู้คนเกือบทุกคนต้องผ่านไปมาในแต่ละวัน กล่าวกันว่าเป็นสะพานที่ควบคุมด้วยมือแห่งเดียวที่ยังคงเหลืออยู่ในโลก สะพานแห่งนี้ซึ่งเป็นผลงานจากโรงงานเหล็กของลิเวอร์พูลได้รับการติดตั้งในปี 1923 เพื่อแทนที่สะพานเดิมที่เปิดใช้งานในปี 1897 บริเวณด้านล่างของสะพาน Haulover Creek มักจะเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม โดยมีเรือยอทช์ขนาดเล็กและเรือประมงจำนวนมากจอดทอดสมออยู่
3. พิพิธภัณฑ์เบลีซ
พิพิธภัณฑ์สมัยใหม่แห่งนี้ในเขต Fort George นำเสนอภาพรวมที่ยอดเยี่ยมของเรื่องราวของเบลีซ โดยบอกเล่าผ่านนิทรรศการที่จัดแสดงในเรือนจำหลักในอดีตของประเทศ (สร้างด้วยอิฐในปี 1857) นิทรรศการที่น่าสนใจ ภาพถ่ายทางประวัติศาสตร์ และเอกสารต่างๆ ล้วนเป็นหลักฐานที่ยืนยันถึงยุคอาณานิคมและยุคประกาศอิสรภาพ พร้อมทั้งนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ทาสและหอศิลป์ร่วมสมัยแห่งใหม่
ภาพจาก: commons.m.wikimedia.org
ส่วนสมบัติของชาวมายาที่ชั้นบนมีของโบราณไม่มากนัก (ของมายาชั้นดีส่วนใหญ่ที่ค้นพบในเบลีซถูกนำไปขายยังต่างประเทศ) แต่ก็มีหยกของชาวมายาที่น่าประทับใจอยู่บ้าง รวมทั้งเครื่องปั้นดินเผาและประติมากรรมด้วย นอกจากนี้ คุณยังจะได้พบกับโมเดลที่ให้ข้อมูลและคำอธิบายเกี่ยวกับแหล่งโบราณคดีของชาวมายาที่สำคัญทั่วประเทศอีกด้วย ส่วนอื่นๆ ของพิพิธภัณฑ์จะเน้นที่เหรียญของชาวมายาและแมลงต่างๆ นอกจากนี้ พิพิธภัณฑ์ยังมีร้านขายของที่ระลึกเล็กๆ ที่ดีอีกด้วย
4. อนุสรณ์สถานธรรมชาติฮาล์ฟมูนเคย์
ภาพจาก: caribbeanlifestyle.com
อนุสรณ์สถานธรรมชาติฮาล์ฟมูนเคย์เป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งทำรังของนกบูบี้ตีนแดงที่หายาก แต่ความมหัศจรรย์ของเกาะแห่งนี้ยังมีมากกว่านั้นอีกมาก นอกจากนี้ยังมีประภาคาร ชายหาดที่สวยงาม และกำแพงใต้น้ำอันตระการตาที่เต็มไปด้วยพืชและสัตว์ทะเลมากมาย ทัศนวิสัยใต้น้ำสามารถมองได้ไกลกว่า 200 ฟุตที่นี่ และเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติทอดยาวผ่านส่วนใต้ของเกาะไปจนถึงจุดชมวิวที่ทำให้ผู้ชมสามารถมองเห็นนกบูกบี้และนกนางแอ่นที่ทำรังอยู่ได้ ตลอดเส้นทาง คุณจะเห็นเปลือกหอยหลายพันตัว ซึ่งหลายตัวเป็นที่อยู่อาศัยของปูเสฉวน และอีกัวน่าขนาดใหญ่จำนวนไม่น้อย
5. กอฟฟ์ เคย์ (Goff's Caye)
ภาพจาก: www.travelbelize.org
การดำน้ำตื้นที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดแห่งหนึ่งในเบลีซเกิดขึ้นเพียงว่ายน้ำระยะสั้นๆ จากหาดทรายสีขาวละเอียดของเกาะกอฟฟ์ เกาะเล็กๆ ที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ ซึ่งใช้เวลาเดินทางโดยเรือเพียง 30 นาทีไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองเบลีซ เกาะอันเงียบสงบแห่งนี้ตั้งอยู่ติดกับแนวปะการังเบลีซและเป็นแหล่งรวมของปะการัง กุ้งมังกร หอยสังข์ ปลากระเบน ปลาหลากสีสัน และอีกมากมาย มีเพียงต้นมะพร้าวและโต๊ะปิกนิกที่มุงด้วยฟางเท่านั้น
6. โครงการอนุรักษ์อิกัวนาสีเขียว
ภาพจาก: belizegroundshuttle.com
บนพื้นที่ Macal Valley อันเขียวชอุ่มของ San Ignacio Resort Hotel โปรแกรมที่ยอดเยี่ยมนี้จะรวบรวมและฟักไข่ของอิกัวน่า และเลี้ยงสัตว์เลื้อยคลานเหล่านี้จนกระทั่งผ่านช่วงที่อ่อนแอที่สุด จากนั้นจึงปล่อยอิกัวน่ากลับคืนสู่ธรรมชาติ ในทัวร์พร้อมไกด์ คุณจะได้มีโอกาสลูบไล้และจับอิกัวน่าที่น่ารักเหล่านี้ และเรียนรู้เกี่ยวกับนิสัยและวงจรชีวิตของพวกมัน ทัวร์นี้ยังเดินตามเส้นทางป่าที่คดเคี้ยวผ่านป่าเพื่อการรักษาอีกด้วย
7. ประสบการณ์การใช้ชีวิตแบบชาวมายา
ภาพจาก: tidetours.org
ครอบครัว Kekchí สองครอบครัวในหมู่บ้าน Big Falls ได้เปิดบ้านของพวกเขาให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์ทางวัฒนธรรม และทั้งสองครอบครัวต่างก็เป็นครอบครัวที่ยอดเยี่ยม ครอบครัว Cal แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตของชาวมายาโบราณ ตั้งแต่การทำตอร์ตียาและช็อกโกแลต ไปจนถึงเครื่องมือแบบดั้งเดิมและการสำรวจสวนที่พึ่งพาตนเองได้ ครอบครัว Chiac จะช่วยให้คุณได้เรียนรู้วิธีทำหัตถกรรมทอของชาวมายา เช่น ตะกร้า เปลญวน หรือกระเป๋า
8. อุทยานแห่งชาติเมย์ฟลาวเวอร์โบคาวินา (Mayflower Bocawina)
อุทยานที่สวยงามแห่งนี้มีพื้นที่ 11 ตารางไมล์ มีทั้งป่า ภูเขา น้ำตก เส้นทางเดิน แหล่งเล่นน้ำ และสถานที่ท่องเที่ยวเล็กๆ ของชาวมายา ตั้งอยู่ห่างจากเมือง Dangriga ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 16 ไมล์ และห่างจากเมืองฮอปกินส์ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 12 ไมล์ เส้นทางเดินที่นี่ดีอย่างน้อยเท่ากับเส้นทางที่คนส่วนใหญ่เดินใน Cockscomb Basin ที่อยู่ใกล้เคียง จะเห็นนกจำนวนมาก และอุทยานแห่งนี้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของฝูงลิงฮาวเลอร์สีดำอีกด้วย
ภาพจาก: www.belizeantravel.com
ถนนทางเข้าที่ไม่ได้ลาดยางยาว 4 ไมล์มุ่งไปทางตะวันตกจากทางหลวงสายใต้ ห่างจากหมู่บ้าน Silk Grass ไปทางเหนือ 2 ไมล์ ไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของอุทยาน มีแหล่งโบราณคดี Mayflower Maya ที่ขุดพบบางส่วน พร้อมด้วยปิรามิด 2 แห่งและโครงสร้างอื่นอีก 9 แห่ง ซึ่งเคยถูกใช้ในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 และต้นศตวรรษที่ 10 Antelope Trail ไปตามลำธาร Silk Grass ไปยังเนินวัด Maintzunun ที่ใหญ่กว่าซึ่งยังไม่ได้ขุดพบและปกคลุมไปด้วยต้นไม้บางส่วน ห่างออกไป 250 หลา (สร้างขึ้นเมื่อประมาณคริสตศักราช 800) เดินต่อไปอีก 1.7 ไมล์ ซึ่งมีความชันและยากลำบากในบางจุด โดยมีบันไดไปยังน้ำตก Antelope Falls สูง 100 ฟุตที่สวยงามพร้อมทิวทัศน์อันสวยงาม นอกจากนี้ยังมีการปีนขึ้นไปโดยใช้เชือกช่วยเพื่อไปยังยอดน้ำตกอีกด้วย
ที่มา www.lonelyplanet.com