รู้จัก ‘พรรคประชาชน’ บ้านใหม่ สส. ก้าวไกล
ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์การเมืองไทย การเกิดขึ้นของพรรคการเมืองใหม่มักเป็นที่จับตามอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพรรคนั้นถือกำเนิดขึ้นจากสถานการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีของ “พรรคประชาชน” ก็เช่นเดียวกัน ซึ่งกลายเป็นที่พักพิงแห่งใหม่สำหรับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ที่เคยสังกัดพรรคก้าวไกล ภายหลังคำสั่งยุบพรรคโดยศาลรัฐธรรมนูญ การทำความเข้าใจที่มา โครงสร้าง และเป้าหมายของพรรคนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการติดตามสถานการณ์การเมืองไทยในปัจจุบัน
- พรรคประชาชนก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นบ้านหลังใหม่ของ สส. จำนวน 143 คน จากพรรคก้าวไกล หลังจากที่พรรคก้าวไกลถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรค
- พรรคอยู่ภายใต้การนำของ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส. บัญชีรายชื่อ วัย 37 ปี ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล
- ชื่อพรรคในภาษาอังกฤษคือ “People’s Party” ซึ่งมีความเชื่อมโยงทางประวัติศาสตร์กับชื่อของ “คณะราษฎร” ที่เปลี่ยนแปลงการปกครองของไทยในปี พ.ศ. 2475
- พรรคประชาชนประกาศเจตนารมณ์ชัดเจนในการสืบทอดอุดมการณ์และนโยบายของพรรคก้าวไกล พร้อมตั้งเป้าหมายในการจัดตั้งรัฐบาลแห่งการเปลี่ยนแปลงในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งถัดไปในปี พ.ศ. 2570
ภาพรวมของพรรคประชาชน

การเมืองไทยได้บันทึกหน้าประวัติศาสตร์อีกครั้งหลังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคก้าวไกล ส่งผลให้ สส. และสมาชิกพรรคจำนวนมากต้องหาที่สังกัดใหม่เพื่อสานต่อภารกิจทางการเมือง การเคลื่อนไหวครั้งสำคัญนี้นำไปสู่การเปิดตัว “พรรคประชาชน” อย่างเป็นทางการในฐานะพรรคการเมืองที่จะรองรับอดีต สส. ของพรรคก้าวไกลทั้งหมด การทำความรู้จัก ‘พรรคประชาชน’ บ้านใหม่ สส. ก้าวไกล จึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับผู้ที่สนใจข่าวการเมือง พรรคนี้ไม่ได้เป็นเพียงพรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นใหม่ตามปกติ แต่เป็นการรวมตัวของกลุ่มการเมืองที่มีฐานเสียงและอุดมการณ์ที่ชัดเจน โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นตัวแทนของประชาชนและผลักดันนโยบายที่ก้าวหน้าต่อไป
พรรคประชาชนถือกำเนิดขึ้นภายใต้สภาวะการณ์ที่บีบคั้นทางการเมือง แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการปรับตัวและเดินหน้าต่อของกลุ่ม สส. เดิมจากพรรคก้าวไกล การเลือกนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคสะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของพรรคที่เน้นการใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีดิจิทัลในการทำงานทางการเมือง การเกิดขึ้นของพรรคประชาชนจึงไม่ใช่แค่การเปลี่ยนชื่อพรรค แต่เป็นการส่งสัญญาณถึงความต่อเนื่องของอุดมการณ์ทางการเมืองที่ต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในสังคมไทย
การถือกำเนิดจากวิกฤตการณ์ทางการเมือง

จุดเริ่มต้นของพรรคประชาชนมีความเชื่อมโยงโดยตรงกับสถานการณ์ทางการเมืองที่นำไปสู่การยุบพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสมการการเมืองของประเทศ การทำความเข้าใจบริบทดังกล่าวจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อที่จะเห็นภาพรวมของการก่อตั้งพรรคใหม่นี้ได้อย่างสมบูรณ์
บริบทการยุบพรรคก้าวไกล
พรรคก้าวไกลซึ่งเป็นพรรคที่ได้รับคะแนนเสียงจากประชาชนมากที่สุดในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2566 ต้องเผชิญกับคดีความทางการเมืองที่นำไปสู่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคในที่สุด คำตัดสินดังกล่าวส่งผลให้คณะกรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง และทำให้ สส. ที่ไม่ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคต้องหาพรรคใหม่สังกัดภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด สถานการณ์นี้สร้างแรงกดดันและความท้าทายอย่างใหญ่หลวงต่อกลุ่ม สส. ดังกล่าวในการที่จะรักษาเอกภาพและสานต่อการทำงานทางการเมืองตามเจตนารมณ์ที่ประชาชนได้มอบความไว้วางใจให้
ปรากฏการณ์ ยุบพรรคก้าวไกล ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์การเมืองไทยสมัยใหม่ หากแต่เป็นความต่อเนื่องของรูปแบบที่เคยเกิดขึ้นกับพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเป็นพรรคต้นกำเนิดของพรรคก้าวไกล บทเรียนจากอดีตทำให้กลุ่ม สส. มีการเตรียมความพร้อมและสามารถเคลื่อนย้ายไปยังพรรคใหม่ได้อย่างเป็นระบบและรวดเร็ว การย้ายเข้าสู่พรรคประชาชนจึงเป็นการดำเนินการเชิงกลยุทธ์ที่วางแผนไว้ล่วงหน้า เพื่อให้การทำงานในสภาผู้แทนราษฎรและการขับเคลื่อนกิจกรรมทางการเมืองสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างไม่สะดุด
การเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
พรรคประชาชนได้จัดงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2566 ณ อาคารไทยซัมมิททาวเวอร์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีความหมายเชิงสัญลักษณ์ เนื่องจากเคยเป็นที่ทำการของทั้งพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกลมาก่อน การจัดงานในสถานที่แห่งนี้เป็นการตอกย้ำถึงความต่อเนื่องทางอุดมการณ์และจิตวิญญาณของพรรค ในงานดังกล่าวมีการประกาศรายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ พร้อมทั้งเปิดตัวหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคอย่างเป็นทางการต่อหน้าสื่อมวลชนและสาธารณชน บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นของเหล่า สส. และสมาชิกที่พร้อมจะเดินหน้าทำงานการเมืองภายใต้ชื่อและโครงสร้างใหม่ แต่ยังคงยึดมั่นในหลักการและเป้าหมายเดิม
พรรคประชาชนถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือในการสานต่อภารกิจที่ยังไม่เสร็จสิ้น และเป็นตัวแทนของประชาชนที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นสำหรับประเทศไทย
โครงสร้างและแกนนำสำคัญของพรรค

องค์ประกอบด้านบุคลากร โดยเฉพาะผู้นำและคณะกรรมการบริหารพรรค เป็นปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดทิศทางและประสิทธิภาพในการทำงานของพรรคการเมือง พรรคประชาชนได้เปิดตัวทีมผู้บริหารที่ผสมผสานระหว่างคนรุ่นใหม่และผู้มีประสบการณ์ทางการเมือง
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ: ผู้นำรุ่นใหม่
ตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาชนตกเป็นของ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส. บัญชีรายชื่อ วัย 37 ปี ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล บทบาทของเขาในสมัยพรรคก้าวไกลมีความโดดเด่นในด้านการผลักดันนโยบายที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจดิจิทัล การปฏิรูปภาครัฐให้มีความทันสมัย และการใช้ข้อมูลเพื่อเพิ่มความโปร่งใสและประสิทธิภาพในการทำงานของรัฐ การเลือกนายณัฐพงษ์ขึ้นมาเป็นผู้นำสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของพรรคที่ต้องการเป็นพรรคการเมืองสมัยใหม่ที่ก้าวทันโลกและสามารถตอบสนองต่อความท้าทายในยุคดิจิทัลได้เป็นอย่างดี ภาพลักษณ์ของผู้นำรุ่นใหม่ยังช่วยสร้างความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้สนับสนุนที่เป็นคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคมาอย่างต่อเนื่อง
คณะกรรมการบริหารและ สส. ผู้ร่วมอุดมการณ์
นอกเหนือจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคแล้ว คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ยังประกอบด้วยบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในด้านต่าง ๆ ตั้งแต่สมัยพรรคก้าวไกล การคัดเลือกทีมผู้บริหารชุดนี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการรักษาความต่อเนื่องและประสบการณ์ในการทำงาน ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้บุคลากรหน้าใหม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางของพรรค
การที่ สส. เดิมของพรรคก้าวไกลจำนวนมากถึง 143 คน ตัดสินใจย้ายเข้าสังกัดพรรคประชาชนอย่างพร้อมเพรียงกัน ถือเป็นปรากฏการณ์ที่สะท้อนถึงเอกภาพและความเป็นปึกแผ่นของกลุ่มการเมืองนี้ การเคลื่อนไหวของ สส.ก้าวไกลย้ายพรรค ในลักษณะที่เป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่เช่นนี้ ช่วยให้พรรคประชาชนสามารถดำรงสถานะเป็นพรรคฝ่ายค้านที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสภาผู้แทนราษฎรได้ทันที และสามารถทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลได้อย่างเต็มศักยภาพต่อไป
| คุณสมบัติ | พรรคอนาคตใหม่ | พรรคก้าวไกล | พรรคประชาชน |
|---|---|---|---|
| ผู้นำคนแรก | ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ | พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ | ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ |
| สถานะปัจจุบัน | ถูกยุบพรรค (2563) | ถูกยุบพรรค (2567) | ดำเนินกิจกรรมทางการเมือง |
| อุดมการณ์หลัก | ประชาธิปไตย, ความเท่าเทียม, ก้าวหน้า | สืบทอดอุดมการณ์อนาคตใหม่ | สืบทอดอุดมการณ์ก้าวไกล |
| ความต่อเนื่อง | พรรคตั้งต้น | พรรคสืบทอดจากอนาคตใหม่ | พรรคสืบทอดจากก้าวไกล |
อุดมการณ์ นโยบาย และเป้าหมายในอนาคต

หัวใจสำคัญของพรรคประชาชนคือการสานต่อเจตนารมณ์ทางการเมืองที่ได้รับการส่งต่อมาจากพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกล โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการขับเคลื่อนสังคมไทยไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์และลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
การสืบทอดเจตนารมณ์ทางการเมือง
พรรคประชาชนได้ประกาศอย่างชัดเจนว่าจะทำงานเพื่อสืบทอดภารกิจและอุดมการณ์ของพรรคก้าวไกล นั่นหมายความว่า นโยบายหลักที่เคยหาเสียงไว้และเป็นที่ยอมรับของประชาชน เช่น การปฏิรูปกองทัพ, การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น, การทลายทุนผูกขาด, การส่งเสริมรัฐสวัสดิการ และการแก้ไขกฎหมายที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน จะยังคงเป็นแกนหลักในการทำงานของพรรคต่อไป การยืนยันในแนวทางเดิมเป็นการรักษาฐานเสียงและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้สนับสนุนว่า แม้พรรคจะเปลี่ยนชื่อไป แต่จิตวิญญาณและเป้าหมายยังคงไม่เปลี่ยนแปลง พรรคยังคงทำหน้าที่เป็น “พรรคมวลชน” ที่เป็นปากเสียงและตัวแทนของประชาชนผู้ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง
ความหมายของชื่อ ‘People’s Party’
การเลือกใช้ชื่อพรรคว่า “พรรคประชาชน” และมีชื่อภาษาอังกฤษว่า “People’s Party” นั้นมีความหมายที่ลึกซึ้งและเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์การเมืองไทย ชื่อดังกล่าวพ้องกับชื่อของ “คณะราษฎร” ซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลที่ทำการเปลี่ยนแปลงการปกครองของสยามจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาสู่ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เมื่อปี พ.ศ. 2475 การเลือกใช้ชื่อนี้จึงเป็นการอ้างอิงถึงมรดกทางความคิดด้านประชาธิปไตยและหลักการที่ว่าอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน ซึ่งสอดคล้องกับอุดมการณ์ของพรรคที่ต้องการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
วิสัยทัศน์สู่การเลือกตั้งปี 2570
เป้าหมายระยะยาวที่พรรคประชาชนได้ประกาศไว้คือ การชนะการเลือกตั้งทั่วไปในปี พ.ศ. 2570 และเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลแห่งการเปลี่ยนแปลงให้สำเร็จ วิสัยทัศน์นี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่การเป็นพรรคฝ่ายค้านที่มีประสิทธิภาพ แต่คือการมุ่งมั่นที่จะเข้าไปเป็นฝ่ายบริหารเพื่อนำนโยบายที่ได้นำเสนอไว้ไปปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนเช่นนี้เป็นการสร้างแรงผลักดันให้แก่สมาชิกพรรคและผู้สนับสนุนให้ทำงานอย่างหนักตลอดช่วงเวลาที่เหลืออยู่ก่อนการเลือกตั้งครั้งหน้า เพื่อสร้างความไว้วางใจและพิสูจน์ให้ประชาชนเห็นว่าพรรคมีความพร้อมที่จะบริหารประเทศ
บทสรุปและทิศทางข้างหน้า

การเดินทางของ “พรรคประชาชน” ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วในฐานะ พรรคใหม่ ที่เป็นบ้านของอดีต สส. พรรคก้าวไกล การก่อตั้งพรรคนี้ถือเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ของความพยายามในการต่อสู้ทางการเมืองภายใต้ระบอบประชาธิปไตยของไทยที่ยังคงเผชิญกับความท้าทายอยู่เสมอ ภายใต้การนำของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ และทีมงาน พรรคประชาชนมุ่งมั่นที่จะสืบสานอุดมการณ์เดิม พร้อมกับปรับตัวให้เข้ากับบริบททางการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป
เส้นทางข้างหน้าของพรรคประชาชนย่อมไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ การสร้างความเชื่อมั่นในชื่อพรรคใหม่ การรักษาฐานเสียงเดิม และการขยายฐานเสียงไปยังกลุ่มใหม่ ๆ ล้วนเป็นภารกิจที่ต้องอาศัยความทุ่มเทและการทำงานอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม การรวมตัวกันอย่างเหนียวแน่นของ สส. กว่า 143 คน และการประกาศเป้าหมายที่ชัดเจนในการเป็นรัฐบาลแห่งการเปลี่ยนแปลงในปี 2570 ก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความพร้อมและความมุ่งมั่นที่จะเผชิญกับทุกความท้าทาย บทบาทและทิศทางการดำเนินงานของพรรคประชาชนนับจากนี้ จะเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่กำหนดอนาคตทางการเมืองของประเทศไทย และเป็นที่น่าจับตามองของทุกภาคส่วนในสังคมต่อไป

