เปิดโผ ครม. อุ๊งอิ๊ง 1 ใครคุมกระทรวงไหน? สรุปที่นี่
การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองนำมาซึ่งการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เสมอ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการบริหารประเทศ การเปิดเผยรายชื่อบุคคลที่คาดว่าจะดำรงตำแหน่งต่างๆ จึงเป็นที่จับตามองของสาธารณชนอย่างยิ่ง
ประเด็นสำคัญที่น่าจับตามอง
- การจัดทัพรองนายกรัฐมนตรี: มีการวางตัวรองนายกรัฐมนตรีถึง 5 คน ซึ่งสะท้อนถึงการกระจายอำนาจการบริหารและดูแลกระทรวงต่างๆ อย่างครอบคลุม
- กระทรวงสำคัญภายใต้การนำของแกนนำรัฐบาล: ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกรด A ส่วนใหญ่อยู่ภายใต้การดูแลของบุคคลสำคัญในพรรคแกนนำ โดยเฉพาะตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจและความมั่นคง
- ตำแหน่งที่ยังไม่ลงตัว: เก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยยังคงเป็นตำแหน่งที่มีการคาดการณ์หลากหลาย และยังไม่มีความชัดเจนที่สิ้นสุด ซึ่งสะท้อนถึงการต่อรองทางการเมืองที่ยังดำเนินอยู่
- การจัดสรรโควต้าพรรคร่วม: มีการแบ่งสรรตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการให้กับพรรคร่วมรัฐบาลอย่างชัดเจน เพื่อสร้างเสถียรภาพและตอบสนองต่อข้อตกลงในการจัดตั้งรัฐบาล
ภาพรวมโผคณะรัฐมนตรีชุดใหม่
ท่ามกลางความเคลื่อนไหวทางการเมืองไทย ประเด็นที่ได้รับความสนใจสูงสุดคือการ เปิดโผ ครม. อุ๊งอิ๊ง 1 ใครคุมกระทรวงไหน? สรุปที่นี่ ซึ่งหมายถึงรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่คาดว่าจะได้รับการแต่งตั้งภายใต้การนำของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี หรือที่เรียกกันอย่างไม่เป็นทางการว่า “ครม. แพทองธาร 1” รายชื่อที่ปรากฏขึ้นนี้เป็นภาพสะท้อนเบื้องต้นของการจัดสรรอำนาจ การวางยุทธศาสตร์ในการบริหารประเทศ และการประนีประนอมผลประโยชน์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อทิศทางนโยบายของประเทศในอนาคต
การจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่นี้เกิดขึ้นภายหลังจากการเลือกตั้งทั่วไป โดยพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ดำเนินการรวบรวมพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อสร้างเสถียรภาพทางการเมือง กระบวนการคัดเลือกและวางตัวบุคคลในตำแหน่งรัฐมนตรีจึงเป็นขั้นตอนที่ซับซ้อนและต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย ทั้งความรู้ความสามารถของตัวบุคคล ประสบการณ์ทางการเมือง โควต้าของแต่ละพรรค และความสัมพันธ์ภายในกลุ่มการเมืองต่างๆ โผ ครม. ที่หลุดออกมาจึงเป็นเสมือนจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ทำให้สาธารณชน นักลงทุน และผู้สังเกตการณ์ทางการเมือง สามารถประเมินแนวโน้มและเสถียรภาพของรัฐบาลชุดใหม่ได้ล่วงหน้า แม้ว่ารายชื่อดังกล่าวยังอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้จนกว่าจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ก็ถือเป็นพิมพ์เขียวที่บ่งบอกถึงโครงสร้างอำนาจของฝ่ายบริหารได้อย่างชัดเจน
เจาะลึกตำแหน่งสำคัญ ใน ครม. แพทองธาร 1
โครงสร้างของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่สะท้อนให้เห็นถึงการวางกลยุทธ์ในการบริหารประเทศ โดยเน้นการใช้บุคคลที่มีประสบการณ์ทางการเมืองสูงเข้ามาควบคุมกระทรวงสำคัญ โดยเฉพาะตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและกระทรวงเกรด A ซึ่งเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล
ทีมรองนายกรัฐมนตรี: ขุนพลหลักขับเคลื่อนนโยบาย
ตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีมีความสำคัญอย่างยิ่งในโครงสร้างฝ่ายบริหาร ทำหน้าที่กำกับดูแลและประสานงานระหว่างกลุ่มกระทรวง (Cluster) ต่างๆ เพื่อให้นโยบายของรัฐบาลถูกนำไปปฏิบัติอย่างมีเอกภาพและประสิทธิภาพ สำหรับโผ ครม. แพทองธาร 1 มีการวางตัวรองนายกรัฐมนตรีไว้ 5 คน ดังนี้
- นายภูมิธรรม เวชยชัย: นักการเมืองอาวุโสที่มีบทบาทสำคัญในพรรคเพื่อไทยมาอย่างยาวนาน การได้รับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีควบกับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สะท้อนถึงความไว้วางใจอย่างสูงในการดูแลงานด้านความมั่นคง ซึ่งเป็นเสาหลักสำคัญของประเทศ
- นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ: อีกหนึ่งนักการเมืองที่มีประสบการณ์โชกโชน โดยเฉพาะงานด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม การกลับมาคุมกระทรวงคมนาคมอีกครั้งพร้อมตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี บ่งชี้ถึงความตั้งใจในการผลักดันเมกะโปรเจกต์และโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของประเทศ
- นายพิชัย ชุณหวชิร: บุคคลที่มีชื่อเสียงและประสบการณ์สูงในแวดวงการเงินและธุรกิจ การได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ถือเป็นความหวังในการเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน
- นายอนุทิน ชาญวีรกูล: ในฐานะหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล การดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีเป็นไปตามธรรมเนียมปฏิบัติทางการเมือง เพื่อเป็นตัวแทนของพรรคในการร่วมตัดสินใจและกำกับดูแลกระทรวงในโควต้าของตนเอง
- นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค: หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลอีกพรรคหนึ่งที่ได้รับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการยืนยันถึงการมีส่วนร่วมในการบริหารประเทศและสะท้อนถึงการแบ่งสรรอำนาจภายในรัฐบาลผสม
กระทรวงเกรด A: หัวใจหลักของฝ่ายบริหาร
กระทรวงที่เรียกว่า “เกรด A” หมายถึงกระทรวงที่มีอำนาจ งบประมาณ และผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง การจัดสรรตำแหน่งในกระทรวงเหล่านี้จึงเป็นที่จับตามองเป็นพิเศษ
การจัดวางบุคคลในกระทรวงหลักด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่ชี้วัดทิศทางและเสถียรภาพของรัฐบาลชุดใหม่
- กระทรวงการคลัง: อยู่ภายใต้การดูแลของ นายพิชัย ชุณหวชิร ซึ่งควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีด้วย ภารกิจหลักคือการบริหารนโยบายการคลังของประเทศ จัดทำงบประมาณแผ่นดิน ดูแลเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และผลักดันนโยบายสำคัญอย่างโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัล ซึ่งเป็นนโยบายเรือธงของรัฐบาล
- กระทรวงกลาโหม: มี นายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นรัฐมนตรีว่าการ นับเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจซึ่งนักการเมืองพลเรือนเข้ามาควบคุมดูแลงานด้านความมั่นคงโดยตรง มีหน้าที่รับผิดชอบในการกำหนดนโยบายป้องกันประเทศ บริหารจัดการกองทัพ และดูแลงบประมาณกลาโหม
- กระทรวงคมนาคม: นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กลับมาดำรงตำแหน่งนี้อีกครั้งเพื่อสานต่อนโยบายด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งระบบราง ถนน ท่าเรือ และสนามบิน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
- กระทรวงมหาดไทย: ตำแหน่งนี้ยังคงเป็นที่จับตามองและยังไม่มีความชัดเจน 100% โดยมีชื่อของ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง และ นายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นตัวเลือกสำคัญ กระทรวงมหาดไทยมีอำนาจในการปกครองส่วนภูมิภาค แต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอทั่วประเทศ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อกลไกการบริหารราชการแผ่นดินและการเมืองในระดับท้องถิ่น
สรุปรายชื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอื่นๆ

นอกเหนือจากกระทรวงหลักแล้ว การจัดสรรตำแหน่งในกระทรวงอื่นๆ ก็มีความสำคัญไม่แพ้กันในการขับเคลื่อนนโยบายเฉพาะด้านให้บรรลุเป้าหมายตามที่รัฐบาลได้วางไว้ รายชื่อรัฐมนตรีว่าการในกระทรวงที่น่าสนใจตามโผ ครม. อุ๊งอิ๊ง 1 มีดังนี้
| กระทรวง | รายชื่อรัฐมนตรีว่าการ (ตามโผ) | บทบาทและความสำคัญ |
|---|---|---|
| กระทรวงสาธารณสุข | นายสมศักดิ์ เทพสุทิน | ดูแลนโยบายด้านสุขภาพและระบบสาธารณสุขของประเทศ |
| กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม | นายประเสริฐ จันทรรวงทอง | ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล วางโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสาร |
| กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา | นายสรวงศ์ เทียนทอง | ส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศ |
| กระทรวงพาณิชย์ | นายพิชัย นริพทะพันธุ์ | ดูแลนโยบายการค้าทั้งในและต่างประเทศ การส่งออก และค่าครองชีพ |
| กระทรวงการต่างประเทศ | นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ | ดำเนินนโยบายต่างประเทศและสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ |
| กระทรวงวัฒนธรรม | นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล | ส่งเสริมและอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณี และสนับสนุน Soft Power |
การวางตัวบุคคลในกระทรวงเหล่านี้สะท้อนถึงความพยายามในการนำผู้มีประสบการณ์เข้ามาดูแลงานในด้านที่ตนเองมีความเชี่ยวชาญ เช่น การมอบหมายกระทรวงสาธารณสุขให้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ซึ่งเป็นนักการเมืองอาวุโส หรือการให้กระทรวงพาณิชย์อยู่ภายใต้การดูแลของนายพิชัย นริพทะพันธุ์ ซึ่งมีความรู้ความเข้าใจในด้านเศรษฐกิจเป็นอย่างดี
โควต้าพรรคร่วมรัฐบาลและตำแหน่งรัฐมนตรีช่วย
เพื่อให้รัฐบาลผสมมีความมั่นคง การจัดสรรตำแหน่งให้กับพรรคร่วมรัฐบาลจึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยโผ ครม. ชุดนี้ได้จัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงให้กับพรรคต่างๆ อย่างชัดเจน เช่น พรรคประชาธิปัตย์ มีชื่อของ นายชัยชนะ เดชเดโช เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ได้รับโควต้ารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขเช่นกัน
ในส่วนของพรรคแกนนำอย่างเพื่อไทย ก็มีการวางตัวรัฐมนตรีช่วยว่าการในกระทรวงสำคัญเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระและขับเคลื่อนงานให้รวดเร็วยิ่งขึ้น อาทิ:
- นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
- นางมนพร เจริญศรี และ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
นอกจากนี้ยังมีตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งทำหน้าที่ช่วยงานนายกรัฐมนตรีโดยตรง โดยมีชื่อของ นายจักรพงษ์ แสงมณี, นางสาวจิราพร สินธุไพร, และ นายชูศักดิ์ ศิรินิล ปรากฏในโผครั้งนี้ การจัดสรรตำแหน่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการสร้างสมดุลอำนาจและตอบแทนการสนับสนุนจากกลุ่มต่างๆ ภายในพรรคร่วมรัฐบาล
บทสรุปและทิศทางการเมืองไทย
โผคณะรัฐมนตรี “ครม. อุ๊งอิ๊ง 1” หรือ “ครม. แพทองธาร 1” ที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ เป็นภาพร่างเบื้องต้นที่สะท้อนถึงโครงสร้างอำนาจและการจัดทัพของรัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย การวางตัวบุคคลสำคัญในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกรด A แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการใช้บุคลากรที่มีประสบการณ์ทางการเมืองสูงเพื่อขับเคลื่อนนโยบายหลัก ทั้งด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง และโครงสร้างพื้นฐาน
อย่างไรก็ตาม รายชื่อทั้งหมดยังคงเป็นเพียงข้อมูลที่คาดการณ์ ณ ช่วงกลางปี 2025 และยังคงต้องรอการประกาศอย่างเป็นทางการ ซึ่งอาจมีการปรับเปลี่ยนในรายละเอียดเล็กน้อยได้เสมอ โดยเฉพาะตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูงและเป็นที่จับตามอง การประกาศรายชื่อคณะรัฐมนตรีฉบับสมบูรณ์อย่างเป็นทางการ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการกำหนดทิศทางการบริหารประเทศและนโยบายสาธารณะในอีกหลายปีข้างหน้า ผู้ที่สนใจสถานการณ์การเมืองไทยควรติดตามข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้เพื่อรับทราบความคืบหน้าที่ชัดเจนต่อไป

