ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี! เช็คสิทธิ์-พิกัดใกล้บ้าน ปี 68
โครงการ ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี! เช็คสิทธิ์-พิกัดใกล้บ้าน ปี 68 เป็นมาตรการสำคัญด้านสาธารณสุขที่จัดขึ้นเพื่อลดความรุนแรงของโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล โดยมุ่งเน้นการให้บริการแก่ประชากรกลุ่มเสี่ยงเพื่อลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงที่อาจนำไปสู่การเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหรือการเสียชีวิต โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ประชาชนกลุ่มเปราะบาง
- กลุ่มผู้มีสิทธิ์: ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยงตามที่กำหนดมีสิทธิ์เข้ารับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
- ระยะเวลาโครงการ: เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2568 หรือจนกว่าวัคซีนจะหมด
- เอกสารสำคัญ: ใช้เพียงบัตรประจำตัวประชาชนใบเดียวในการยืนยันตัวตนเพื่อเข้ารับบริการ
- ช่องทางการตรวจสอบสิทธิ: สามารถตรวจสอบและนัดหมายผ่านหลายช่องทาง เช่น สายด่วน สปสช. 1330 และแอปพลิเคชันเป๋าตัง
- สถานที่ให้บริการ: เข้ารับบริการได้ที่หน่วยบริการในสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและหน่วยบริการประกันสังคมที่เข้าร่วมโครงการ
ภาพรวมโครงการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี ปี 2568
โครงการ ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี! เช็คสิทธิ์-พิกัดใกล้บ้าน ปี 68 เป็นโครงการที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้แก่ประชาชนไทย โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงหากติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ โรคไข้หวัดใหญ่เป็นโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจที่เกิดจากเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza virus) ซึ่งมีการระบาดเป็นช่วงๆ ในแต่ละปี และสามารถเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ได้ตลอดเวลา ทำให้ต้องมีการฉีดวัคซีนเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันเป็นประจำทุกปี
ความสำคัญของโครงการนี้อยู่ที่การสร้างภูมิคุ้มกันหมู่และลดภาระของระบบสาธารณสุขโดยรวม การฉีดวัคซีนไม่เพียงแต่ป้องกันการเจ็บป่วยในบุคคลที่ได้รับวัคซีนเท่านั้น แต่ยังช่วยลดความรุนแรงของโรค ลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต เช่น ปอดอักเสบหรือการติดเชื้อในกระแสเลือด และลดอัตราการนอนโรงพยาบาล โดยในปี 2568 ได้มีการตั้งเป้าหมายการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรกลุ่มเสี่ยงกว่า 4 ล้านคนทั่วประเทศ เพื่อให้การป้องกันโรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
โครงการนี้เปิดให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายเข้ารับบริการได้ตามสถานพยาบาลในสิทธิของตนเอง โดยมีระยะเวลาที่ชัดเจนเพื่อกระตุ้นให้ผู้มีสิทธิ์เข้ารับบริการในช่วงก่อนฤดูกาลระบาดของโรค ซึ่งโดยทั่วไปมักเป็นช่วงฤดูฝน การดำเนินการนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของภาครัฐในการดูแลสุขภาพของประชาชนเชิงรุก เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
กลุ่มเป้าหมาย: 7 กลุ่มเสี่ยงที่มีสิทธิ์รับวัคซีนฟรี
ตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุขและ สปสช. ได้กำหนดกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงจากโรคไข้หวัดใหญ่ไว้ 7 กลุ่มหลัก ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญของโครงการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี การกำหนดกลุ่มเป้าหมายนี้อ้างอิงจากข้อมูลทางระบาดวิทยาและหลักฐานทางการแพทย์ที่ชี้ว่าบุคคลในกลุ่มเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะมีอาการป่วยรุนแรงมากกว่าคนทั่วไปเมื่อติดเชื้อ
การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงเป็นเครื่องมือสำคัญในการลดอัตราการป่วยหนักและเสียชีวิต โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีระบบภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรงเท่าคนทั่วไป
ทำความเข้าใจความเสี่ยงของแต่ละกลุ่ม
เพื่อให้เห็นภาพความสำคัญของการฉีดวัคซีนในกลุ่มเป้าหมาย สามารถอธิบายเหตุผลและความเสี่ยงของแต่ละกลุ่มได้ดังนี้:
กลุ่มเสี่ยง | รายละเอียดและเหตุผลความเสี่ยง |
---|---|
1. หญิงตั้งครรภ์ | การเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาและระบบภูมิคุ้มกันในช่วงตั้งครรภ์ทำให้มีความเสี่ยงสูงต่ออาการป่วยรุนแรง การฉีดวัคซีนยังสามารถส่งต่อภูมิคุ้มกันไปยังทารกในครรภ์ได้อีกด้วย (แนะนำให้ฉีดเมื่ออายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป) |
2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี | เป็นกลุ่มที่ระบบภูมิคุ้มกันยังพัฒนาไม่เต็มที่ ทำให้ไวต่อการติดเชื้อและมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดบวม ได้ง่ายกว่าเด็กโต |
3. ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป | ระบบภูมิคุ้มกันจะเริ่มเสื่อมถอยตามวัย ทำให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ไม่ดีเท่าเดิม และมักมีโรคประจำตัวร่วมด้วย ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงของอาการรุนแรง |
4. ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค | ประกอบด้วย โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง, หอบหืด, หัวใจ, หลอดเลือดสมอง, ไตวาย, ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน ซึ่งโรคเหล่านี้ทำให้ร่างกายอ่อนแอและเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนสูง |
5. ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ | ผู้ป่วยกลุ่มนี้อาจมีปัญหาในการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลและไม่สามารถแสดงอาการป่วยได้ชัดเจน ทำให้การวินิจฉัยล่าช้า และอาจมีปัญหาด้านการหายใจที่เพิ่มความเสี่ยง |
6. โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง | ผู้ป่วยกลุ่มนี้ รวมถึงผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ มีภาวะภูมิคุ้มกันอ่อนแอกว่าคนปกติ ทำให้ไม่สามารถต่อสู้กับการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ |
7. ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก (โรคอ้วน) | ผู้ที่มีดัชนีมวลกาย (BMI) สูง หรือมีน้ำหนักตั้งแต่ 100 กิโลกรัมขึ้นไป มักมีปัญหาการทำงานของปอดและระบบภูมิคุ้มกันที่ด้อยประสิทธิภาพ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยรุนแรง |
ขั้นตอนการเข้ารับบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี
การเข้ารับบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรีในปี 2568 มีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงสามารถเข้าถึงบริการได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง สิ่งสำคัญคือการตรวจสอบสิทธิของตนเองและเตรียมเอกสารให้พร้อมก่อนเดินทางไปยังหน่วยบริการ
การเตรียมตัวและเอกสารที่ต้องใช้
ก่อนเข้ารับบริการ ผู้มีสิทธิ์ควรเตรียมความพร้อมทางร่างกายด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอและไม่มีไข้หรืออาการเจ็บป่วยเฉียบพลันในวันนัดหมาย สำหรับเอกสารที่จำเป็นในการยืนยันตัวตนเพื่อขอรับสิทธิ์นั้น มีเพียงอย่างเดียวคือ:
- บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง
สำหรับผู้ปกครองที่นำเด็กเล็ก (อายุ 6 เดือน – 2 ปี) เข้ารับบริการ ให้นำสูติบัตรของเด็กพร้อมกับบัตรประชาชนของผู้ปกครองมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ณ หน่วยบริการ
ช่องทางการตรวจสอบสิทธิและนัดหมายล่วงหน้า
เพื่อลดความแออัดและวางแผนการเดินทางได้อย่างสะดวก ประชาชนสามารถตรวจสอบสิทธิและทำการนัดหมายล่วงหน้าได้ผ่านช่องทางต่างๆ ที่ สปสช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดเตรียมไว้ ดังนี้
- แอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ (Health Wallet): เป็นช่องทางที่สะดวกสำหรับประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป สามารถเข้าไปที่เมนู “กระเป๋าสุขภาพ” หรือ Health Wallet เพื่อตรวจสอบสิทธิและค้นหาหน่วยบริการใกล้บ้าน พร้อมทำการนัดหมายวันและเวลาเข้ารับบริการได้ทันที
- สายด่วน สปสช. 1330: สามารถโทรศัพท์เพื่อสอบถามข้อมูลสิทธิประโยชน์ และขอคำแนะนำเกี่ยวกับหน่วยบริการที่สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ โดยกด 8 เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ด้านสิทธิหลักประกันสุขภาพ
- LINE Official Account สปสช.: เพิ่มเพื่อน LINE ID @nhso หรือสำหรับผู้ที่อาศัยในกรุงเทพมหานคร สามารถใช้ LINE ID @UCBKK เพื่อสอบถามข้อมูลและตรวจสอบสิทธิต่างๆ ได้เช่นกัน
- ติดต่อหน่วยบริการประจำโดยตรง: สามารถติดต่อโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.), โรงพยาบาลรัฐ หรือศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้านที่ตนเองมีสิทธิการรักษาอยู่ เพื่อสอบถามคิวและนัดหมายวันเข้ารับบริการได้โดยตรง
การนัดหมายล่วงหน้าจะช่วยให้หน่วยบริการสามารถบริหารจัดการวัคซีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้ผู้รับบริการไม่ต้องรอคิวนาน
ค้นหาสถานที่ให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ปี 2568
ประชาชนผู้มีสิทธิ์ใน 7 กลุ่มเสี่ยงสามารถเข้ารับบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้ตามหน่วยบริการในระบบสุขภาพที่ตนเองมีสิทธิอยู่ โดยแบ่งตามประเภทสิทธิการรักษาหลักๆ ได้แก่ สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) และสิทธิประกันสังคม
หน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง)
ผู้มีสิทธิบัตรทองสามารถเข้ารับบริการได้ที่หน่วยบริการประจำของตนเอง หรือสถานพยาบาลในระบบ สปสช. ที่เข้าร่วมโครงการ โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อหน่วยบริการได้จากช่องทางของ สปสช. หรือติดต่อสอบถามโดยตรง
- โรงพยาบาลรัฐทุกแห่งทั่วประเทศ
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.)
- ศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทั้ง 69 แห่ง
- คลินิกเอกชนที่เข้าร่วมโครงการกับ สปสช.
สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร สามารถตรวจสอบรายชื่อศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้านและจองคิวผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” หรือติดต่อผ่านช่องทางของสำนักอนามัย กรุงเทพมหานครได้
สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 และ 39
ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมมาตรา 33 และมาตรา 39 ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป มีสิทธิ์เข้ารับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรีได้เช่นกัน โดยสามารถเข้ารับบริการได้ที่สถานพยาบาลตามสิทธิที่ได้เลือกไว้กับสำนักงานประกันสังคม
ควรติดต่อสอบถามกับสถานพยาบาลตามสิทธิของตนเองล่วงหน้า เพื่อยืนยันการเปิดให้บริการและทำการนัดหมาย เนื่องจากบางสถานพยาบาลอาจมีโควต้าวัคซีนจำนวนจำกัด ระยะเวลาการให้บริการสำหรับผู้ประกันตนจะสิ้นสุดในวันที่ 31 สิงหาคม 2568 เช่นเดียวกัน
สรุปภาพรวมและคำแนะนำ
โครงการ ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี! เช็คสิทธิ์-พิกัดใกล้บ้าน ปี 68 เป็นสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพที่สำคัญสำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่ม การเข้ารับการฉีดวัคซีนไม่เพียงแต่เป็นการป้องกันตนเองจากโรคไข้หวัดใหญ่ แต่ยังเป็นการช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในกลุ่มเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว
ประชาชนผู้มีสิทธิ์ควรใช้โอกาสนี้ในการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ตนเองและคนในครอบครัว โดยสามารถเข้ารับบริการได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ถึง 31 สิงหาคม 2568 หรือจนกว่าวัคซีนจะหมด การเตรียมตัวเพียงเล็กน้อยด้วยการตรวจสอบสิทธิและนัดหมายล่วงหน้าผ่านช่องทางต่างๆ ที่มีให้ จะช่วยให้การเข้ารับบริการเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว การใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียวทำให้การเข้าถึงบริการเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน
ดังนั้น ขอแนะนำให้ผู้ที่อยู่ใน 7 กลุ่มเสี่ยงดำเนินการตรวจสอบสิทธิและติดต่อหน่วยบริการใกล้บ้านเพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุด เพื่อการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ที่มีประสิทธิภาพและทันต่อช่วงเวลาการระบาด