ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2568 ฟรี! เช็คสิทธิ์-พิกัดฉีดที่นี่
- ภาพรวมโครงการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรีประจำปี 2568
- กลุ่มเป้าหมายหลัก: 7 กลุ่มเสี่ยงที่ควรได้รับวัคซีน
- ช่องทางการตรวจสอบสิทธิ์และค้นหาสถานพยาบาล
- สิทธิประโยชน์สำหรับผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม
- เปรียบเทียบสิทธิ์การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี
- คำแนะนำและข้อควรรู้ก่อนเข้ารับบริการ
- สรุปข้อมูลสำคัญและแนวทางการดำเนินการ
โครงการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคประจำปีเปิดให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงสามารถเข้ารับบริการ ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2568 ฟรี เพื่อลดความรุนแรงของโรคและป้องกันการแพร่ระบาด การทำความเข้าใจเงื่อนไข สิทธิ์ และช่องทางการรับบริการจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่อยู่ในเกณฑ์
ประเด็นสำคัญที่ควรรู้
- กลุ่มเป้าหมาย: ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยงตามเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข และผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และ 39 ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป มีสิทธิ์รับวัคซีนฟรี
- ระยะเวลาโครงการ: สามารถเข้ารับบริการได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ถึง 31 สิงหาคม 2568 หรือจนกว่าวัคซีนจะหมด
- ช่องทางการตรวจสอบสิทธิ์: สามารถตรวจสอบและจองคิวผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” หรือติดต่อสายด่วน สปสช. 1330
- หน่วยบริการ: สถานพยาบาลของรัฐ, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.), ศูนย์บริการสาธารณสุขใน กทม. และคลินิก/โรงพยาบาลในเครือข่าย สปสช. และประกันสังคม
- คำแนะนำ: ควรจองคิวล่วงหน้าและตรวจสอบจำนวนวัคซีนกับสถานพยาบาลก่อนเข้ารับบริการเพื่อความสะดวกและแน่นอน
ภาพรวมโครงการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรีประจำปี 2568
โครงการ ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2568 ฟรี เป็นมาตรการด้านสาธารณสุขที่จัดขึ้นโดยหน่วยงานภาครัฐ เพื่อส่งเสริมการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลในกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อลดอัตราการป่วยหนัก การเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และการเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ทุกปี การฉีดวัคซีนจึงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการสร้างภูมิคุ้มกันและลดภาระของระบบสาธารณสุขโดยรวม
ความสำคัญของโครงการนี้อยู่ที่การให้ความคุ้มครองแก่กลุ่มบุคคลที่เปราะบางที่สุด โดยภาครัฐได้จัดสรรวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิด 4 สายพันธุ์ ซึ่งครอบคลุมเชื้อไวรัสที่มีแนวโน้มระบาดในปีนั้นๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย การรับบริการนี้ครอบคลุมทั้งผู้มีสิทธิ์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการป้องกันโรคได้อย่างทั่วถึง
กลุ่มเป้าหมายหลัก: 7 กลุ่มเสี่ยงที่ควรได้รับวัคซีน
หน่วยงานด้านสาธารณสุขได้กำหนดกลุ่มประชากรเป้าหมายที่มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่และอาจเกิดอาการรุนแรงหากเจ็บป่วย ซึ่งเป็นกลุ่มที่ควรได้รับวัคซีนเป็นลำดับแรก การระบุกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้มีพื้นฐานมาจากข้อมูลทางระบาดวิทยาและหลักฐานทางการแพทย์ที่ชี้ว่าบุคคลเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่ายกว่าประชากรทั่วไป
รายละเอียดของประชากร 7 กลุ่มเสี่ยง
ตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข ประชากร 7 กลุ่มเสี่ยงที่ได้รับสิทธิ์ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรีภายใต้โครงการของ สปสช. ประกอบด้วย:
- หญิงตั้งครรภ์: ที่มีอายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป
- เด็กเล็ก: อายุตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 2 ปี
- ผู้มีโรคเรื้อรัง: ซึ่งรวมถึงโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง, หอบหืด, โรคหัวใจ, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคไตวาย, ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับยาเคมีบำบัด และโรคเบาหวาน
- ผู้สูงอายุ: ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
- ผู้พิการทางสมอง: ที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้
- โรคธาลัสซีเมียและผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง: รวมถึงผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ
- ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก: น้ำหนักตั้งแต่ 100 กิโลกรัมขึ้นไป หรือมีดัชนีมวลกาย (BMI) ตั้งแต่ 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตรขึ้นไป
บุคคลที่อยู่ในกลุ่มดังกล่าวถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่ควรเข้ารับการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุดตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันก่อนถึงช่วงฤดูกาลระบาดของโรค
ช่องทางการตรวจสอบสิทธิ์และค้นหาสถานพยาบาล
เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงสามารถเข้าถึงบริการได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และเป็นระบบ ได้มีการจัดเตรียมช่องทางดิจิทัลและช่องทางดั้งเดิมไว้รองรับการตรวจสอบสิทธิ์ จองคิว และค้นหาหน่วยบริการใกล้บ้าน ซึ่งช่วยลดความแออัดและประหยัดเวลาในการเข้ารับบริการ
การใช้แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”
แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เป็นเครื่องมือหลักสำหรับประชาชนทั่วไปในการเข้าถึงสิทธิด้านสุขภาพจากภาครัฐ ผู้ที่อยู่ใน 7 กลุ่มเสี่ยงสามารถดำเนินการได้ดังนี้:
- เข้าสู่ระบบ: เปิดแอปพลิเคชันเป๋าตัง และเลือกเมนู “กระเป๋าสุขภาพ”
- ตรวจสอบสิทธิ์: ระบบจะแสดงสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพที่แต่ละบุคคลได้รับ รวมถึงสิทธิ์ในการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี
- ค้นหาหน่วยบริการ: สามารถค้นหาสถานพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการใกล้บ้าน พร้อมตรวจสอบจำนวนวัคซีนคงเหลือ (หากมีข้อมูล)
- จองคิวล่วงหน้า: ในบางพื้นที่ โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร ผู้ใช้สามารถทำการนัดหมายวันและเวลาเพื่อเข้ารับบริการผ่านแอปพลิเคชันได้โดยตรง
ช่องทางสำหรับประชาชนในกรุงเทพมหานคร
สำหรับประชาชนในเขตกรุงเทพฯ ที่อยู่ใน 7 กลุ่มเสี่ยง นอกจากแอปพลิเคชันเป๋าตังแล้ว ยังมีช่องทางเพิ่มเติมในการจองคิวฉีดวัคซีนฟรี คือการติดต่อผ่านสายด่วน สปสช. หมายเลข 1330 กด 8 ซึ่งเจ้าหน้าที่จะให้ข้อมูลและดำเนินการจองคิว ณ ศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้านให้
รายชื่อหน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการ
ประชาชนกลุ่มเสี่ยงสามารถเข้ารับบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรีได้ที่สถานพยาบาลในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ดังต่อไปนี้:
- โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ทุกแห่ง
- ศูนย์บริการสาธารณสุข ทั้ง 69 แห่งในเขตกรุงเทพมหานคร
- คลินิกชุมชนอบอุ่นที่เข้าร่วมโครงการ
- สถานพยาบาลตามสิทธิที่ไปรับการรักษาเป็นประจำ
แนะนำให้โทรศัพท์สอบถามสถานพยาบาลที่ต้องการไปใช้บริการล่วงหน้า เพื่อยืนยันวัน-เวลาทำการ และตรวจสอบว่าวัคซีนยังมีเพียงพอหรือไม่ เพื่อความแน่นอนและลดระยะเวลารอคอย
สิทธิประโยชน์สำหรับผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม
นอกเหนือจากสิทธิ์ของประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยงภายใต้ สปสช. แล้ว สำนักงานประกันสังคมยังได้จัดสวัสดิการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้กับผู้ประกันตนอีกด้วย โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มผู้ประกันตนที่มีอายุมาก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อโรคไข้หวัดใหญ่
เงื่อนไขและคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์
ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่มีสิทธิ์เข้ารับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ฟรี ประจำปี 2568 ต้องมีคุณสมบัติดังนี้:
- เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 (ลูกจ้างในสถานประกอบการ) หรือ มาตรา 39 (ผู้ประกันตนโดยสมัครใจ)
- มีอายุตั้งแต่ 50 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
ผู้ที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์สามารถติดต่อโรงพยาบาลตามสิทธิ์ประกันสังคมของตนเอง หรือโรงพยาบาลอื่น ๆ ที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อทำการนัดหมายเข้ารับบริการได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย การให้บริการนี้จะดำเนินไปจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2568 หรือจนกว่าวัคซีนจะหมด เช่น โรงพยาบาลลานนา เป็นหนึ่งในสถานพยาบาลที่เข้าร่วมให้บริการแก่ผู้ประกันตน
เปรียบเทียบสิทธิ์การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี
เพื่อให้เห็นภาพรวมของสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันระหว่างกลุ่มประชากรภายใต้การดูแลของ สปสช. และสำนักงานประกันสังคม สามารถสรุปรายละเอียดได้ดังตารางต่อไปนี้
ประเภทผู้รับบริการ | สิทธิ์และสถานที่ฉีดวัคซีน | ช่วงเวลาให้บริการ | วิธีจอง/ตรวจสอบสิทธิ์ |
---|---|---|---|
7 กลุ่มเสี่ยง (สิทธิ์ สปสช.) | โรงพยาบาลรัฐ, รพ.สต., ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม., คลินิกชุมชนอบอุ่น และสถานพยาบาลตามสิทธิ์ | 1 พฤษภาคม – 31 สิงหาคม 2568 | แอปฯ เป๋าตัง (เมนูกระเป๋าสุขภาพ) หรือโทร 1330 กด 8 |
ผู้ประกันตน ม.33 และ ม.39 (อายุ 50 ปีขึ้นไป) | โรงพยาบาลในเครือข่ายประกันสังคมที่เข้าร่วมโครงการ | วันนี้ – 31 สิงหาคม 2568 | ติดต่อโรงพยาบาลตามสิทธิ์ประกันสังคมโดยตรง |
ประชาชนทั่วไป (นอกกลุ่มเสี่ยง) | สถานพยาบาลเอกชนหรือคลินิกที่ให้บริการ (มีค่าใช้จ่าย) | ตลอดทั้งปี (ขึ้นอยู่กับสถานพยาบาล) | ติดต่อสถานพยาบาลโดยตรง (ราคาประมาณ 450-800 บาท) |
คำแนะนำและข้อควรรู้ก่อนเข้ารับบริการ
การเตรียมความพร้อมและการทราบข้อมูลที่จำเป็นจะช่วยให้การเข้ารับบริการฉีดวัคซีนเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด
ช่วงเวลาและกำหนดการสำคัญ
โครงการฉีดวัคซีนฟรีสำหรับ 7 กลุ่มเสี่ยงและผู้ประกันตนมีกำหนดการที่ชัดเจน คือตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ถึง 31 สิงหาคม 2568 หรือจนกว่าวัคซีนที่ได้รับการจัดสรรในแต่ละสถานพยาบาลจะหมดลง เนื่องจากวัคซีนมีจำนวนจำกัด การเข้ารับบริการในช่วงต้นของโครงการจึงเป็นทางเลือกที่ดีเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่พลาดสิทธิ์ดังกล่าว
การเตรียมความพร้อมก่อนฉีดวัคซีน
- ตรวจสอบสิทธิ์ของตนเอง: เช็คให้แน่ใจว่าตนเองอยู่ในกลุ่มเป้าหมายที่มีสิทธิ์รับวัคซีนฟรี
- จองคิวล่วงหน้า: หากเป็นไปได้ ควรทำการนัดหมายผ่านช่องทางที่กำหนด เช่น แอปพลิเคชันเป๋าตัง หรือโทรศัพท์ติดต่อสถานพยาบาล
- พักผ่อนให้เพียงพอ: ควรมีสุขภาพแข็งแรงในวันที่ไปฉีดวัคซีน หากมีไข้หรือไม่สบาย ควรเลื่อนการฉีดออกไปก่อน
- เตรียมเอกสาร: นำบัตรประจำตัวประชาชนติดตัวไปด้วยเสมอ และอาจเตรียมเอกสารยืนยันโรคประจำตัว (ถ้ามี)
- สังเกตอาการหลังฉีด: หลังฉีดวัคซีน ควรพักสังเกตอาการที่สถานพยาบาลอย่างน้อย 30 นาที และสังเกตอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง
สรุปข้อมูลสำคัญและแนวทางการดำเนินการ
โครงการ ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2568 ฟรี เป็นสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยงและผู้ประกันตนสูงอายุ การดำเนินการเชิงรุกเพื่อป้องกันโรคไม่เพียงแต่ช่วยปกป้องสุขภาพของตนเอง แต่ยังช่วยลดภาระของระบบสาธารณสุขโดยรวมอีกด้วย
สำหรับผู้ที่เข้าเกณฑ์ตามที่กำหนด ไม่ว่าจะเป็นหนึ่งใน 7 กลุ่มเสี่ยง หรือเป็นผู้ประกันตนอายุ 50 ปีขึ้นไป ควรดำเนินการตรวจสอบสิทธิ์และนัดหมายเข้ารับบริการโดยเร็วที่สุดภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2568 การใช้ช่องทางดิจิทัลอย่างแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” หรือการติดต่อสถานพยาบาลโดยตรง จะช่วยให้การรับบริการเป็นไปอย่างสะดวกและมั่นใจได้ว่าจะได้รับวัคซีนตามสิทธิ์ที่พึงมี