เปิดตัว ‘ทางรัฐ’ Super App รัฐบาล รับเงินดิจิทัล 10,000
- ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับโครงการเงินดิจิทัลและแอปทางรัฐ
- ทำความรู้จัก Super App ‘ทางรัฐ’ แพลตฟอร์มบริการภาครัฐครบวงจร
- เปิดตัว ‘ทางรัฐ’ Super App รัฐบาล รับเงินดิจิทัล 10,000
- ขั้นตอนการเตรียมความพร้อมเพื่อลงทะเบียนและใช้งาน
- เปรียบเทียบแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ กับ ‘เป๋าตัง’
- ผลกระทบและประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
- บทสรุปและแนวทางการเตรียมตัวในอนาคต
รัฐบาลได้กำหนดให้แอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ เป็นแพลตฟอร์มหลักสำหรับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งสำคัญผ่านการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท การพัฒนานี้ไม่เพียงแต่เป็นการวางโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการดำเนินนโยบายเท่านั้น แต่ยังเป็นการผลักดันให้ประชาชนเข้าสู่ระบบบริการภาครัฐแบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบผ่าน Super App ที่รวบรวมบริการสำคัญไว้ในที่เดียว
ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับโครงการเงินดิจิทัลและแอปทางรัฐ
- ช่องทางหลัก: แอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ ถูกกำหนดให้เป็นช่องทางหลักและเป็นทางการสำหรับการลงทะเบียนและรับสิทธิ์ในโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท
- ศูนย์รวมบริการภาครัฐ: ‘ทางรัฐ’ เป็น Super App ที่รวมบริการจากหน่วยงานภาครัฐต่างๆ มากกว่า 149 บริการ ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลและสิทธิต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบายในแอปเดียว
- คุณสมบัติผู้รับสิทธิ์: ผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการต้องเป็นประชาชนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามเงื่อนไขที่กำหนด
- กรอบเวลาโครงการ: โครงการมีกำหนดการเริ่มดำเนินการในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 ซึ่งครอบคลุมระยะเวลาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 ถึงมีนาคม 2568
- วัตถุประสงค์คู่ขนาน: นอกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการใช้จ่ายแล้ว โครงการยังมุ่งส่งเสริมให้ประชาชนคุ้นเคยกับการใช้บริการภาครัฐผ่านช่องทางดิจิทัล เพื่อยกระดับสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล
โครงการ เปิดตัว ‘ทางรัฐ’ Super App รัฐบาล รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ากับบริการสาธารณะของประเทศไทย แอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ ซึ่งพัฒนาโดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (สพร.) หรือ DGA ได้ถูกยกระดับให้เป็นเครื่องมือเชิงยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล แพลตฟอร์มนี้ไม่ได้เป็นเพียงกระเป๋าเงินดิจิทัล แต่ยังทำหน้าที่เป็นประตูสู่บริการภาครัฐที่หลากหลาย ช่วยลดขั้นตอน ลดระยะเวลา และลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชน การเชื่อมโยงโครงการเงินดิจิทัลเข้ากับ Super App นี้จึงเป็นการสร้างระบบนิเวศดิจิทัลภาครัฐที่สมบูรณ์และตอบสนองต่อวิถีชีวิตสมัยใหม่
ทำความรู้จัก Super App ‘ทางรัฐ’ แพลตฟอร์มบริการภาครัฐครบวงจร
ก่อนที่จะเป็นที่รู้จักในฐานะช่องทางรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท แอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ ได้ถูกพัฒนาและเปิดตัวอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 โดยมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการเป็น “Super App ภาครัฐ” ที่รวบรวมทุกบริการที่จำเป็นสำหรับประชาชนไว้บนแพลตฟอร์มเดียว เพื่อให้การติดต่อราชการเป็นเรื่องง่าย สะดวก และเข้าถึงได้จากทุกที่ทุกเวลา
ที่มาและเป้าหมายการพัฒนา
แอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ เกิดขึ้นจากแนวคิดในการแก้ไขปัญหาความซับซ้อนและความยุ่งยากในการเข้าถึงบริการของหน่วยงานราชการที่กระจัดกระจายอยู่ตามหน่วยงานต่างๆ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA) จึงได้พัฒนาแพลตฟอร์มกลางนี้ขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่เป็นจุดบริการแบบเบ็ดเสร็จ (One-Stop Service) บนสมาร์ทโฟน เป้าหมายหลักของการพัฒนาประกอบด้วย:
- การรวมศูนย์บริการ: นำบริการที่สำคัญและมีการใช้งานบ่อยจากหลายกระทรวงและหน่วยงานมารวมไว้ในที่เดียว เพื่อลดความจำเป็นในการดาวน์โหลดหลายแอปพลิเคชันหรือเข้าหลายเว็บไซต์
- การเพิ่มความสะดวกและลดขั้นตอน: ออกแบบกระบวนการให้ใช้งานง่าย ลดการใช้เอกสาร และทำให้ประชาชนสามารถทำธุรกรรมกับภาครัฐได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องเดินทางไปยังสำนักงาน
- การสร้างความโปร่งใส: ช่วยให้ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิประโยชน์ และสถานะคำขอต่างๆ ได้อย่างโปร่งใสและเป็นปัจจุบัน
- การส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล: ผลักดันให้ประชาชนมีความคุ้นเคยและมั่นใจในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัล
ภาพรวมฟีเจอร์และบริการกว่า 149 รายการ
ความโดดเด่นของ ‘ทางรัฐ’ คือขอบเขตของบริการที่ครอบคลุมหลากหลายมิติในชีวิตประจำวันของประชาชน โดยบริการที่รวบรวมไว้มีมากกว่า 149 รายการ ตัวอย่างบริการที่สำคัญและเป็นประโยชน์ ได้แก่:
- ด้านสิทธิและสวัสดิการ: ตรวจสอบสิทธิประกันสังคม (มาตรา 33, 39, 40), เช็กสิทธิหลักประกันสุขภาพ (สิทธิบัตรทอง), ตรวจสอบเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด
- ด้านการเงินและสินเชื่อ: บริการตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโร (Credit Bureau) ฉบับย่อได้ด้วยตนเอง
- ด้านยานพาหนะและการเดินทาง: ตรวจสอบและชำระใบสั่งจราจร, ค้นหาข้อมูลทะเบียนรถยนต์
- ด้านข้อมูลส่วนบุคคล: คัดสำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนออนไลน์, ตรวจสอบข้อมูลผู้ประกอบวิชาชีพ
- ด้านสาธารณูปโภค: ตรวจสอบและชำระค่าน้ำ ค่าไฟ (ขึ้นอยู่กับพื้นที่ให้บริการ)
การรวบรวมบริการที่หลากหลายเหล่านี้ไว้ในแอปพลิเคชันเดียว ทำให้ ‘ทางรัฐ’ เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนทุกกลุ่มวัย และเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมรองรับนโยบายดิจิทัลของภาครัฐในอนาคต
เปิดตัว ‘ทางรัฐ’ Super App รัฐบาล รับเงินดิจิทัล 10,000
การเลือกใช้แอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ เป็นกลไกหลักในการดำเนินโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ถือเป็นมิติใหม่ของการดำเนินนโยบายภาครัฐที่ผสมผสานระหว่างการกระตุ้นเศรษฐกิจและการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลไปพร้อมกัน
บริบทของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
โครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็นนโยบายเรือธงของรัฐบาลชุดปัจจุบันที่มีเป้าหมายเพื่ออัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจฐานรากโดยตรง โดยมุ่งหวังให้เกิดการใช้จ่ายหมุนเวียนภายในประเทศ ช่วยเหลือค่าครองชีพให้แก่ประชาชน และสร้างสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย การดำเนินโครงการผ่านดิจิทัลวอลเล็ตบนแอป ‘ทางรัฐ’ ช่วยให้รัฐบาลสามารถส่งมอบเงินไปยังผู้มีสิทธิ์ได้อย่างรวดเร็ว โปร่งใส และสามารถติดตามผลกระทบทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คุณสมบัติและเงื่อนไขผู้มีสิทธิ์รับเงิน 10,000 บาท
เพื่อให้โครงการบรรลุวัตถุประสงค์และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างทั่วถึง ได้มีการกำหนดเกณฑ์คุณสมบัติเบื้องต้นสำหรับผู้ที่จะได้รับสิทธิ์ในโครงการไว้ดังนี้:
- สัญชาติ: ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย
- อายุ: มีอายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่เปิดลงทะเบียน
- ทะเบียนบ้าน: มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในประเทศไทย
- การลงทะเบียน: ต้องดำเนินการลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ ตามวันและเวลาที่รัฐบาลประกาศอย่างเป็นทางการ
กรอบเวลาและงบประมาณโครงการ
รัฐบาลได้กำหนดกรอบเวลาการดำเนินโครงการไว้อย่างชัดเจน โดยจะเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนและใช้จ่ายเงินได้ภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 ซึ่งจะเริ่มต้นตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 และคาดว่าจะสิ้นสุดระยะเวลาการใช้จ่ายในเดือนมีนาคม 2568 เพื่อให้มีระยะเวลาเพียงพอต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง สำหรับงบประมาณที่ใช้ในการพัฒนา Super App และระบบที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้มีมูลค่ารวมประมาณ 95 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่งและยั่งยืน
ขั้นตอนการเตรียมความพร้อมเพื่อลงทะเบียนและใช้งาน

เพื่อให้การเข้าร่วมโครงการเป็นไปอย่างราบรื่น ประชาชนผู้ที่คาดว่าจะมีคุณสมบัติตามเกณฑ์สามารถเตรียมความพร้อมล่วงหน้าได้ตามขั้นตอนทั่วไปดังต่อไปนี้
การดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน
ขั้นตอนแรกคือการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ ซึ่งสามารถทำได้ผ่าน App Store สำหรับผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการ iOS และ Google Play Store สำหรับผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการ Android ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นแอปพลิเคชันที่พัฒนาโดย DGA เพื่อความปลอดภัยของข้อมูล
กระบวนการลงทะเบียนและยืนยันตัวตน
หลังจากติดตั้งแอปพลิเคชันแล้ว ผู้ใช้งานจะต้องดำเนินการลงทะเบียนและยืนยันตัวตน ซึ่งโดยทั่วไปมักประกอบด้วยการกรอกข้อมูลส่วนบุคคลตามบัตรประชาชน การถ่ายภาพใบหน้าเพื่อเปรียบเทียบ และการสร้างรหัสผ่านเพื่อเข้าใช้งาน กระบวนการนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันการสวมรอยและรักษาความปลอดภัยของบัญชีผู้ใช้
การใช้จ่ายเงินดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชัน
เมื่อโครงการเริ่มดำเนินการและผู้ได้รับสิทธิ์ได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาทเข้าสู่ดิจิทัลวอลเล็ตในแอป ‘ทางรัฐ’ แล้ว จะสามารถนำไปใช้จ่ายกับร้านค้าและผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยรูปแบบการใช้จ่ายคาดว่าจะคล้ายคลึงกับการสแกน QR Code เพื่อชำระเงิน ซึ่งเป็นรูปแบบที่ประชาชนส่วนใหญ่มีความคุ้นเคยอยู่แล้ว
เปรียบเทียบแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ กับ ‘เป๋าตัง’
เพื่อให้เห็นภาพความแตกต่างและบทบาทของแอปพลิเคชันภาครัฐที่ชัดเจนยิ่งขึ้น การเปรียบเทียบระหว่าง ‘ทางรัฐ’ และ ‘เป๋าตัง’ ซึ่งเป็นแอปที่ประชาชนคุ้นเคยจากโครงการรัฐในอดีต จะช่วยให้เข้าใจถึงวัตถุประสงค์เฉพาะของแต่ละแพลตฟอร์มได้ดียิ่งขึ้น
| คุณสมบัติ | แอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ | ‘แอปพลิเคชัน เป๋าตัง’ |
|---|---|---|
| หน่วยงานพัฒนาหลัก | สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA) | ธนาคารกรุงไทย |
| วัตถุประสงค์หลัก | ศูนย์รวมบริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จ (One-Stop Service) | แพลตฟอร์มการเงินดิจิทัล (e-Wallet) และบริการสุขภาพ |
| บทบาทในโครงการรัฐ | ช่องทางหลักโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท | เคยเป็นช่องทางหลักในโครงการ เราชนะ, ม.33 เรารักกัน, คนละครึ่ง |
| ขอบเขตบริการ | กว้างขวาง ครอบคลุมหลายมิติ เช่น สวัสดิการ, ข้อมูลส่วนบุคคล, การเงิน, สาธารณูปโภค (149+ บริการ) | เน้นด้านการเงิน, การลงทุน, สลากดิจิทัล, และบริการด้านสุขภาพ (Health Wallet) |
ผลกระทบและประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
การดำเนินโครงการนี้ผ่าน Super App ‘ทางรัฐ’ คาดว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์ในวงกว้าง ทั้งในระดับบุคคลและระดับประเทศ
ประโยชน์ต่อภาคประชาชน
- การเข้าถึงบริการที่ง่ายขึ้น: ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการและสิทธิประโยชน์ของตนเองได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปติดต่อหน่วยงานราชการ
- ความช่วยเหลือทางการเงิน: เงินดิจิทัล 10,000 บาท จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพและเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ประชาชนจำนวนมาก
- การส่งเสริมทักษะดิจิทัล: โครงการจะกระตุ้นให้ประชาชนเรียนรู้และใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลในชีวิตประจำวันมากขึ้น ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นในโลกสมัยใหม่
ประโยชน์ต่อภาครัฐและเศรษฐกิจมหภาค
- การกระตุ้นเศรษฐกิจ: การอัดฉีดเม็ดเงินโดยตรงจะช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการรายย่อยและระบบเศรษฐกิจโดยรวม
- ประสิทธิภาพในการทำงาน: ภาครัฐสามารถดำเนินนโยบายและให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดต้นทุนในการบริหารจัดการและลดการใช้ทรัพยากรกระดาษ
- ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data): ข้อมูลการใช้จ่ายและการใช้บริการผ่านแอปพลิเคชันจะเป็นประโยชน์ต่อการวิเคราะห์และวางแผนนโยบายในอนาคตให้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ความท้าทายที่ต้องพิจารณา
แม้ว่าโครงการจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็ยังมีความท้าทายที่ต้องบริหารจัดการอย่างรอบคอบ เช่น การดูแลความเสถียรของระบบเพื่อรองรับผู้ใช้งานจำนวนมากพร้อมกัน, การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล, และการสร้างความเข้าใจรวมถึงการช่วยเหลือกลุ่มประชากรที่อาจเข้าไม่ถึงเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Divide) เพื่อให้ทุกคนสามารถได้รับประโยชน์จากโครงการอย่างเท่าเทียม

