โปรดเกล้าฯ แล้ว! เปิดโผทหาร 2568 ใครคุมเหล่าทัพ
การปรับย้ายนายทหารระดับชั้นนายพลถือเป็นวาระสำคัญประจำปีที่ทุกภาคส่วนให้ความสนใจอย่างใกล้ชิด ล่าสุด เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งและโยกย้ายนายทหารประจำปี 2568 การประกาศครั้งนี้เป็นการสิ้นสุดการรอคอยและให้ความชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางผู้นำของกองทัพไทยในอนาคตอันใกล้
ประเด็นสำคัญของการแต่งตั้งนายทหารปี 2568
- การประกาศอย่างเป็นทางการ: เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2568 แต่งตั้งนายทหารจำนวนทั้งสิ้น 862 นาย โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป
- ผู้บัญชาการเหล่าทัพชุดใหม่: มีการแต่งตั้งผู้บัญชาการทหารสูงสุด, ผู้บัญชาการทหารเรือ และผู้บัญชาการทหารอากาศคนใหม่ ซึ่งจะเข้ามาดำรงตำแหน่งและกำหนดนโยบายของแต่ละเหล่าทัพในปีงบประมาณถัดไป
- การปรับโครงสร้างในกระทรวงกลาโหม: มีการแต่งตั้งรองปลัดกระทรวงกลาโหมหลายตำแหน่งจากทุกเหล่าทัพ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการบริหารงานของกระทรวง
- สถานการณ์พิเศษในตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม: เกิดกรณีพิเศษขึ้นกับตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งเดิมมีการคาดการณ์ตัวบุคคลไว้ แต่เนื่องจากการเสียชีวิต ทำให้ต้องมีการพิจารณาและปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมต่อไป
- การเลื่อนตำแหน่งสำคัญในกองทัพบก: แม้จะยังไม่มีการประกาศชื่อผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่อย่างชัดเจนในเอกสารชุดนี้ แต่มีการขยับตำแหน่งสำคัญอย่างผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงภายในกองทัพบก
บทความนี้จะเจาะลึกรายละเอียดของประกาศดังกล่าว เพื่อให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจนว่าการ โปรดเกล้าฯ แล้ว! เปิดโผทหาร 2568 ใครคุมเหล่าทัพ ครั้งนี้ มีความสำคัญอย่างไร ใครคือบุคคลสำคัญที่ได้รับการแต่งตั้ง และการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อโครงสร้างความมั่นคงของประเทศในมิติใดบ้าง
ภาพรวมคำสั่งโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร 2568

เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้นายทหารรับราชการ ซึ่งเป็นการประกาศรายชื่อการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี 2568 อย่างเป็นทางการ โดยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายทหารระดับชั้นนายพลจำนวนมากถึง 862 นาย ให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ ในหน่วยงานสังกัดกระทรวงกลาโหม ถือเป็นการปรับโครงสร้างกำลังพลครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของปี
ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีฉบับนี้ มีผลให้รายชื่อนายทหารทั้งหมดที่ได้รับการแต่งตั้งเข้ารับตำแหน่งใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นปีงบประมาณใหม่ของภาครัฐ
ความสำคัญของการปรับย้ายประจำปี
การแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี หรือที่เรียกกันว่า “โผทหาร” เป็นกลไกปกติในการบริหารงานบุคคลของกองทัพ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อทดแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายนของทุกปี รวมถึงการเลื่อนตำแหน่งนายทหารที่มีผลงานและความอาวุโสเหมาะสมขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น การปรับย้ายนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อขวัญและกำลังใจของกำลังพลเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงดุลยภาพอำนาจและทิศทางการดำเนินงานของกองทัพในระยะต่อไปด้วย ดังนั้น การประกาศรายชื่อในแต่ละปีจึงเป็นที่จับตามองของสาธารณชนและสื่อมวลชนอย่างกว้างขวาง
ขั้นตอนและผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
กระบวนการแต่งตั้งโยกย้ายจะเริ่มต้นจากการที่คณะกรรมการของแต่ละเหล่าทัพพิจารณาเสนอรายชื่อขึ้นมาตามลำดับชั้น ก่อนจะผ่านการกลั่นกรองจากคณะกรรมการแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพลที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน จากนั้นจึงนำรายชื่อทั้งหมดขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง สำหรับการแต่งตั้งในปี 2568 นี้ มี นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งดำรงตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นับเป็นความสมบูรณ์ตามขั้นตอนของกฎหมายและธรรมเนียมปฏิบัติ
วิเคราะห์ตำแหน่งสำคัญ: ใครคุมเหล่าทัพ ในปี 2568
การเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจที่สุดในการแต่งตั้งครั้งนี้ คือการเปลี่ยนตัวผู้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการในหลายเหล่าทัพ รวมถึงตำแหน่งสำคัญในสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งเปรียบเสมือนศูนย์กลางการบริหารงานของกองทัพทั้งหมด
ตำแหน่งในสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม
สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (สป.) เป็นหน่วยงานหลักที่มีหน้าที่รับผิดชอบงานด้านธุรการ การส่งกำลังบำรุง และการบริหารจัดการงบประมาณของกระทรวงกลาโหมทั้งหมด ตำแหน่ง “ปลัดกระทรวงกลาโหม” จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในฐานะข้าราชการประจำสูงสุดของกระทรวง
อย่างไรก็ตาม ในการแต่งตั้งครั้งนี้เกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นกับตำแหน่งดังกล่าว เนื่องจาก พล.อ.ธราพงศ์ มะละคำ (ตท.24) ซึ่งเดิมมีชื่ออยู่ในประกาศให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงกลาโหม และถูกคาดหมายว่าจะได้รับการเสนอชื่อขึ้นเป็นปลัดกระทรวงกลาโหมคนต่อไป ได้เสียชีวิตไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา ทำให้ตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมยังคงว่างเว้น และคาดว่าจะต้องมีการพิจารณาปรับเปลี่ยนเพื่อหาบุคคลที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งในภายหลัง
ขณะเดียวกัน มีการแต่งตั้ง รองปลัดกระทรวงกลาโหม ถึง 4 นาย ประกอบด้วย:
- พล.อ.ศรันย์ เพชรานนท์ จากตำแหน่ง หัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำปลัดกระทรวงกลาโหม
- พล.อ.วสุ เจียมสุข จากตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก
- พล.ร.อ.ณัฏฐพล เดี่ยววานิช จากตำแหน่ง ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ
- พล.อ.อ.สุชาติ เทพรักษ์ จากตำแหน่ง ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพอากาศ
การแต่งตั้งรองปลัดฯ จากทุกเหล่าทัพนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการสร้างสมดุลและบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม
กองบัญชาการกองทัพไทย และผู้บัญชาการทหารสูงสุดคนใหม่
ตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เป็นตำแหน่งที่มีเกียรติและมีบทบาทสำคัญในการบัญชาการและควบคุมการปฏิบัติการทางทหารร่วมกันของทั้งสามเหล่าทัพในยามสงคราม และทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาหลักด้านการทหารของรัฐบาล สำหรับโผทหาร 2568 ได้มีการแต่งตั้ง พล.อ.อุกฤษฎ์ สกุลพงษ์ ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดคนใหม่ การเข้ารับตำแหน่งของ พล.อ.อุกฤษฎ์ จะเป็นการสานต่อนโยบายการพัฒนากองทัพให้มีความทันสมัยและพร้อมรับมือกับภัยคุกคามทุกรูปแบบต่อไป
ความเคลื่อนไหวในกองทัพบก
กองทัพบก (ทบ.) เป็นเหล่าทัพที่มีขนาดใหญ่และมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงของประเทศ ในการแต่งตั้งครั้งนี้ แม้จะยังไม่มีการประกาศชื่อ ผบ.ทบ. คนใหม่ อย่างเป็นทางการ แต่ก็มีความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาคือการเลื่อนตำแหน่งของ พล.อ.อมฤต จามรศิริ ขึ้นเป็น ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งเป็นหนึ่งในตำแหน่ง “5 ฉลาก ทบ.” ที่มีความสำคัญสูงสุด การขยับตำแหน่งในครั้งนี้เป็นการจัดทัพภายในกองทัพบกเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับโครงสร้างผู้บังคับบัญชาระดับสูงในอนาคต
แม่ทัพเรือคนใหม่แห่งราชนาวีไทย
สำหรับกองทัพเรือ (ทร.) ได้มีการแต่งตั้งผู้บัญชาการทหารเรือคนใหม่ คือ พล.อ.ไพโรจน์ สอนสุภาพ ซึ่งจะเข้ามารับหน้าที่ในการดูแลน่านน้ำและปกป้องอธิปไตยทางทะเลของประเทศไทย การเข้ารับตำแหน่งของผู้บัญชาการทหารเรือคนใหม่นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่กองทัพเรือกำลังเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ทั้งในเรื่องการพัฒนากำลังรบ การจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ และการรับมือกับปัญหาความมั่นคงทางทะเลในภูมิภาค
ผู้นำทัพฟ้าคนใหม่ กองทัพอากาศ
ในส่วนของกองทัพอากาศ (ทอ.) ก็มีการเปลี่ยนแปลงผู้นำเช่นกัน โดยมีการแต่งตั้ง พล.อ.อ.เสกสรร ศักดิ์ดhinไทย ให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารอากาศคนใหม่ ภารกิจสำคัญของผู้บัญชาการทหารอากาศคนใหม่คือการพัฒนากองทัพอากาศให้ก้าวทันเทคโนโลยีการบินและการป้องกันภัยทางอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงการสานต่อนโยบาย “กองทัพอากาศที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพ” (One of the Best Air Forces in ASEAN) เพื่อปกป้องน่านฟ้าของไทยอย่างสมบูรณ์
สรุปรายชื่อแต่งตั้งนายพลคนสำคัญ ปี 2568
เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้นของการปรับเปลี่ยนโครงสร้างผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพไทย สามารถสรุปรายชื่อผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งในตำแหน่งสำคัญตามประกาศราชกิจจานุเบกษาได้ดังตารางต่อไปนี้
| ตำแหน่ง | รายชื่อผู้ได้รับการแต่งตั้ง |
|---|---|
| ปลัดกระทรวงกลาโหม | (อยู่ระหว่างการพิจารณา เนื่องจากผู้ที่คาดว่าจะได้รับการเสนอชื่อได้เสียชีวิต) |
| รองปลัดกระทรวงกลาโหม | พล.อ.ศรันย์ เพชรานนท์ พล.อ.วสุ เจียมสุข พล.ร.อ.ณัฏฐพล เดี่ยววานิช พล.อ.อ.สุชาติ เทพรักษ์ |
| ผู้บัญชาการทหารสูงสุด | พล.อ.อุกฤษฎ์ สกุลพงษ์ |
| ผู้บัญชาการทหารเรือ | พล.อ.ไพโรจน์ สอนสุภาพ |
| ผู้บัญชาการทหารอากาศ | พล.อ.อ.เสกสรร ศักดิ์ดhinไทย |
| ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก | พล.อ.อมฤต จามรศิริ |
นัยสำคัญและทิศทางของกองทัพในอนาคต
การปรับโครงสร้างผู้บังคับบัญชาครั้งนี้ถือเป็นมากกว่าการเปลี่ยนแปลงตัวบุคคล แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณถึงทิศทางของกองทัพในอนาคต การคัดเลือกนายทหารจากรุ่นและเหล่าทัพที่หลากหลายเข้ามาดำรงตำแหน่งบริหารระดับสูง สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการสร้างเอกภาพและความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกระทรวงกลาโหม
ผู้บัญชาการเหล่าทัพชุดใหม่จะต้องเผชิญกับความท้าทายที่ซับซ้อนและหลากหลาย ทั้งภัยคุกคามรูปแบบใหม่ เช่น สงครามไซเบอร์, ภัยพิบัติทางธรรมชาติ, และการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ในระดับภูมิภาคและระดับโลก นอกจากนี้ ยังมีภารกิจต่อเนื่องในการปฏิรูปกองทัพให้มีขนาดที่เหมาะสม ทันสมัย และมีประสิทธิภาพสูงสุดภายใต้งบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด การตัดสินใจและแนวนโยบายของผู้นำชุดใหม่นี้จะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดอนาคตและขีดความสามารถของกองทัพไทยในทศวรรษหน้า
บทสรุป: การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของกองทัพไทย
การประกาศ โปรดเกล้าฯ แล้ว! เปิดโผทหาร 2568 ใครคุมเหล่าทัพ ได้ให้ความชัดเจนเกี่ยวกับโครงสร้างผู้นำของกองทัพไทยที่จะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มีการแต่งตั้งผู้บัญชาการเหล่าทัพคนใหม่หลายตำแหน่ง และมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างในสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งทั้งหมดนี้จะส่งผลโดยตรงต่อการกำหนดนโยบายและทิศทางการดำเนินงานด้านความมั่นคงของประเทศ
แม้จะมีประเด็นที่ยังต้องติดตามต่อในส่วนของตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม แต่ภาพรวมของการแต่งตั้งโยกย้ายทั้ง 862 ตำแหน่งได้เสร็จสิ้นลงแล้วอย่างเป็นทางการ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของปีงบประมาณใหม่ที่กองทัพไทยจะได้ผู้นำชุดใหม่เข้ามาบริหารและขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้าต่อไป การดำเนินนโยบายและการปฏิบัติภารกิจของผู้บัญชาการเหล่าทัพชุดใหม่นี้จะเป็นสิ่งที่สังคมต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่ากองทัพจะยังคงเป็นสถาบันหลักในการปกป้องอธิปไตยและรักษาความมั่นคงของชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

