งบประมาณปี 69 ผ่านแล้ว! ส่องกระทรวงไหนได้งบเยอะสุด

สภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 อย่างเป็นทางการแล้ว ด้วยวงเงินรวมกว่า 3.78 ล้านล้านบาท การอนุมัติดังกล่าวถือเป็นหมุดหมายสำคัญในการกำหนดทิศทางการพัฒนาประเทศและนโยบายของรัฐบาลในปีถัดไป โดยมีประเด็นที่น่าสนใจคือการจัดสรรงบประมาณให้แก่กระทรวงต่างๆ ซึ่งสะท้อนถึงลำดับความสำคัญของนโยบายภาครัฐ

• สภาผู้แทนราษฎรอนุมัติร่าง พ.ร.บ. งบประมาณปี 2569 ด้วยวงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท
• กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับการจัดสรรงบประมาณสูงสุดที่ประมาณ 238.38 พันล้านบาท ตามมาด้วยกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการอุดมศึกษาฯ
• งบประมาณกว่า 70% เป็นรายจ่ายประจำ ขณะที่งบลงทุนมีสัดส่วนประมาณ 22.9%
• “งบกลาง” ยังคงเป็นรายการที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณสูงถึง 632.968 พันล้านบาท ซึ่งก่อให้เกิดข้อคำถามเกี่ยวกับความโปร่งใสในการใช้จ่าย
• การจัดสรรงบประมาณครั้งนี้จะส่งผลโดยตรงต่อนโยบายรัฐบาลและทิศทางเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต

บทความนี้จะเจาะลึกรายละเอียดเกี่ยวกับ งบประมาณปี 69 ผ่านแล้ว! ส่องกระทรวงไหนได้งบเยอะสุด โดยวิเคราะห์โครงสร้างงบประมาณแผ่นดินที่เพิ่งผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีเป็นกลไกหลักที่รัฐบาลใช้ในการขับเคลื่อนนโยบายและบริหารประเทศ การทำความเข้าใจว่าหน่วยงานใดได้รับงบประมาณมากที่สุดและเพื่อวัตถุประสงค์ใด จะช่วยให้เห็นภาพรวมของยุทธศาสตร์ชาติและประเด็นที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นพิเศษสำหรับปีงบประมาณ 2569 ซึ่งจะเริ่มต้นในวันที่ 1 ตุลาคม 2568 และสิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายน 2569

ภาพรวมงบประมาณแผ่นดินประจำปี 2569

งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ได้รับการอนุมัติด้วยวงเงินมหาศาล เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการดำเนินนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล ตลอดจนกระตุ้นเศรษฐกิจและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน การจัดทำงบประมาณแผ่นดินถือเป็นกระบวนการที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเสถียรภาพและการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยสะท้อนถึงวิสัยทัศน์และเป้าหมายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาและสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับสังคม

สรุปตัวเลขสำคัญ: วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท

สำหรับปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลได้เสนอกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายรวมทั้งสิ้น 3,780,600 ล้านบาท โดยสามารถจำแนกโครงสร้างรายจ่ายออกเป็น 4 ส่วนหลัก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการให้น้ำหนักในแต่ละด้านของการบริหารราชการแผ่นดิน ตั้งแต่รายจ่ายประจำของหน่วยงานภาครัฐไปจนถึงการลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน และการชำระหนี้สาธารณะ

มติสภาผู้แทนราษฎร: เสียงข้างมากไฟเขียว

ร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ได้ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรและได้รับความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงข้างมาก โดยมีผู้ลงมติเห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง และงดออกเสียง 1 เสียง ผลการลงมตินี้สะท้อนให้เห็นถึงการสนับสนุนจากฝ่ายรัฐบาล ขณะเดียวกันก็มีการคัดค้านจากฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นกระบวนการตรวจสอบและถ่วงดุลตามระบอบประชาธิปไตย ก่อนที่ร่างกฎหมายจะถูกส่งต่อไปยังวุฒิสภาเพื่อพิจารณาในขั้นตอนต่อไป

เจาะลึกกระทรวงที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณสูงสุด

การจัดสรรงบประมาณให้แก่กระทรวงต่างๆ ถือเป็นหัวใจสำคัญที่บ่งชี้ทิศทางการพัฒนาประเทศ สำหรับงบประมาณปี 2569 มีหลายกระทรวงที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณในระดับสูง เพื่อขับเคลื่อนภารกิจและนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกๆ

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์: คว้าอันดับหนึ่ง

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยวงเงินประมาณ 238.38 พันล้านบาท งบประมาณก้อนใหญ่นี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการให้ความสำคัญกับภาคเกษตรกรรม ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจและสังคมไทย งบประมาณดังกล่าวคาดว่าจะถูกนำไปใช้ในโครงการต่างๆ เช่น การพัฒนาแหล่งน้ำ การส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ การวิจัยและพัฒนาพันธุ์พืชและสัตว์ รวมถึงการช่วยเหลือและยกระดับรายได้ของเกษตรกรทั่วประเทศ

กระทรวงสาธารณสุข: งบประมาณเพื่อคุณภาพชีวิต

ตามมาเป็นอันดับสองคือ กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งได้รับงบประมาณราว 225.25 พันล้านบาท วงเงินนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาระบบสาธารณสุขของประเทศ โดยจะถูกนำไปใช้ในการยกระดับคุณภาพการบริการทางการแพทย์ การสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค การบริหารจัดการโรงพยาบาลในสังกัด และการรับมือกับสถานการณ์โรคระบาดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อสร้างความมั่นคงทางสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชน

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

กระทรวงการอุดมศึกษาฯ ได้รับการจัดสรรงบประมาณประมาณ 184.96 พันล้านบาท เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศด้วยองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม งบประมาณส่วนหนึ่งจะถูกจัดสรรให้กับโครงการสำคัญ เช่น โครงการขยายโรงพยาบาลรามาธิบดี และการพัฒนาเขตนวัตกรรม ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพสูงเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดแรงงานในยุคดิจิทัล

กระทรวงอื่นๆ ที่น่าจับตา

นอกเหนือจาก 3 กระทรวงข้างต้น ยังมีกระทรวงอื่นๆ ที่ได้รับงบประมาณในจำนวนที่มีนัยสำคัญ เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รับงบประมาณประมาณ 50.52 พันล้านบาท เพื่อใช้ในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ขณะที่กระทรวงการคลังเองก็มีโครงการขนาดใหญ่ที่น่าสนใจ ซึ่งสะท้อนถึงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของหน่วยงานภาครัฐ

วิเคราะห์การจัดสรรงบประมาณ: รายจ่ายลงทุนและโครงการสำคัญ

นอกจากการพิจารณางบประมาณในภาพรวมของแต่ละกระทรวงแล้ว การวิเคราะห์สัดส่วนรายจ่ายลงทุนเทียบกับรายจ่ายประจำ และการศึกษาโครงการขนาดใหญ่ที่ได้รับงบประมาณ จะช่วยให้เข้าใจแนวทางการใช้จ่ายเงินของรัฐบาลได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

สัดส่วนงบลงทุนต่อรายจ่ายประจำ

จากโครงสร้างงบประมาณปี 2569 จะเห็นได้ว่า รายจ่ายประจำ ยังคงมีสัดส่วนสูงที่สุดถึง 70.2% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรภาครัฐ เงินอุดหนุน และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆ ในขณะที่ รายจ่ายลงทุน มีสัดส่วนอยู่ที่ 22.9% หรือประมาณ 864,077.2 ล้านบาท แม้จะเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่า แต่รายจ่ายลงทุนถือเป็นงบประมาณที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาว ผ่านการลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ

โครงการเด่นของกระทรวงการคลัง

หนึ่งในโครงการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในงบประมาณปี 2569 คือ โครงการเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานเพิ่มเติมของศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ โซน C ของกระทรวงการคลัง ซึ่งมีวงเงินสูงถึงกว่า 102.5 พันล้านบาท โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมหน่วยงานราชการให้อยู่ในพื้นที่เดียวกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่มาติดต่อราชการ

ประเด็นที่น่าจับตา: “งบกลาง” กับความโปร่งใส

อีกหนึ่งประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างมากในการพิจารณางบประมาณทุกปีคือ “งบกลาง” หรือ งบประมาณรายจ่ายงบกลาง ซึ่งในปีงบประมาณ 2569 ได้รับการจัดสรรวงเงินสูงถึงประมาณ 632.968 พันล้านบาท งบกลางเป็นงบประมาณที่ไม่ได้ระบุรายละเอียดโครงการหรือแผนการใช้จ่ายไว้อย่างชัดเจนในเอกสารงบประมาณ ทำให้รัฐบาลมีความยืดหยุ่นในการนำไปใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเร่งด่วน

อย่างไรก็ตาม ความยืดหยุ่นดังกล่าวก็ได้สร้างความกังวลในหมู่ประชาชนและฝ่ายค้านเกี่ยวกับความโปร่งใสและประสิทธิภาพในการใช้จ่าย เนื่องจากขาดการตรวจสอบรายละเอียดที่ชัดเจนในขั้นตอนการอนุมัติงบประมาณ จึงเกิดข้อห่วงใยว่าอาจนำไปสู่การใช้จ่ายที่ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์หรือขาดความคุ้มค่าได้

ดังนั้น การติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบกลางจึงเป็นหน้าที่สำคัญของทุกภาคส่วนในสังคม เพื่อให้มั่นใจว่าเงินภาษีของประชาชนจะถูกนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อส่วนรวม

บทสรุปและทิศทางเศรษฐกิจไทยในอนาคต

การผ่านร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ด้วยวงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ถือเป็นก้าวสำคัญในการกำหนดทิศทางของประเทศในปีต่อไป การจัดสรรงบประมาณที่เน้นหนักไปที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการอุดมศึกษาฯ สะท้อนให้เห็นถึงนโยบายหลักของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการพัฒนาภาคเกษตรกรรม การยกระดับคุณภาพชีวิตและระบบสาธารณสุข ควบคู่ไปกับการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี

อย่างไรก็ตาม การที่งบประมาณส่วนใหญ่ยังคงเป็นรายจ่ายประจำ และการจัดสรรงบกลางในวงเงินที่สูง ยังคงเป็นประเด็นที่สังคมต้องเฝ้าจับตาและตรวจสอบอย่างใกล้ชิด การติดตามการดำเนินนโยบายและการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง จะเป็นหลักประกันสำคัญที่ช่วยให้งบประมาณแผ่นดินถูกนำไปใช้อย่างโปร่งใส คุ้มค่า และนำพาเศรษฐกิจของประเทศไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนได้อย่างแท้จริง