Shopping cart

โปรดเกล้าฯ แล้ว! โผทหาร 2568 ใครคุมกองทัพ เช็คเลย

สารบัญ

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศสำคัญที่หลายฝ่ายจับตามอง เมื่อมีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ แล้ว! โผทหาร 2568 ใครคุมกองทัพ เช็คเลย ซึ่งเป็นการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารระดับชั้นนายพลประจำปี ครอบคลุมตำแหน่งสำคัญในทุกเหล่าทัพ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สะท้อนถึงโครงสร้างผู้นำใหม่ของกองทัพไทยที่จะเข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนนโยบายด้านความมั่นคงของประเทศนับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป

สรุปประเด็นสำคัญของการแต่งตั้งนายทหาร 2568

  • ประกาศอย่างเป็นทางการ: เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้นายทหารรับราชการ โดยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ
  • ตำแหน่งผู้นำสูงสุด: มีการแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งหลัก 4 ตำแหน่ง ได้แก่ ปลัดกระทรวงกลาโหม, ผู้บัญชาการทหารสูงสุด, ผู้บัญชาการทหารเรือ และผู้บัญชาการทหารอากาศ
  • จำนวนการปรับย้าย: การแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ครอบคลุมนายทหารระดับสูงรวมทั้งสิ้น 862 อัตรา สะท้อนถึงการปรับโครงสร้างกำลังพลครั้งสำคัญ
  • วันที่มีผลบังคับใช้: การแต่งตั้งทั้งหมดจะมีผลอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2568 เป็นต้นไป

ภาพรวมการปรับย้ายนายทหารประจำปี 2568

ภาพรวมการปรับย้ายนายทหารประจำปี 2568

การแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปีถือเป็นวาระสำคัญของกองทัพไทย ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงปลายปีงบประมาณเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับโครงสร้างบังคับบัญชาในปีถัดไป สำหรับปี 2568 นี้ การปรับย้ายนายทหารชั้นนายพลยังคงเป็นไปตามกระบวนการและขั้นตอนทางราชการ โดยได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ และเผยแพร่สู่สาธารณะเพื่อความโปร่งใสและเป็นทางการ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ไม่เพียงส่งผลต่อสายการบังคับบัญชาภายในกองทัพ แต่ยังมีความเชื่อมโยงกับทิศทางนโยบายด้านความมั่นคงของประเทศโดยรวม

ความสำคัญของประกาศราชกิจจานุเบกษา

การเผยแพร่ประกาศผ่านทางราชกิจจานุเบกษาถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่ยืนยันความสมบูรณ์และเป็นทางการของการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารทั้งหมด กระบวนการนี้เริ่มต้นจากการพิจารณาของคณะกรรมการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพลของกระทรวงกลาโหม ก่อนจะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ และนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งในที่สุด สำหรับประกาศในปี 2568 นี้ มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2568 ซึ่งเป็นการยืนยันว่ากระบวนการทั้งหมดได้เสร็จสิ้นตามกฎหมายและระเบียบปฏิบัติทุกประการ

จำนวนตำแหน่งและผลบังคับใช้

บัญชีรายชื่อการปรับย้ายนายทหารประจำปี 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 862 ตำแหน่ง ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ระดับผู้บัญชาการเหล่าทัพ, ปลัดกระทรวงกลาโหม, ไปจนถึงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ, ผู้ช่วยผู้บัญชาการ, รองเสนาธิการ, แม่ทัพภาค และตำแหน่งสำคัญอื่นๆ ในสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ จำนวนที่มากนี้แสดงให้เห็นถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างกำลังพลในวงกว้าง ซึ่งเป็นผลมาจากการเกษียณอายุราชการ และการปรับย้ายตามความเหมาะสมเพื่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติภารกิจของกองทัพ

เปิดรายชื่อผู้นำเหล่าทัพและตำแหน่งสำคัญ

จุดสนใจหลักของการปรับย้ายนายทหารในครั้งนี้อยู่ที่ตำแหน่งผู้นำสูงสุดของแต่ละหน่วยงาน ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายและควบคุมการปฏิบัติงานของกำลังพลในภาพรวม โดยตำแหน่งหลักที่มีการเปลี่ยนแปลงและได้รับการจับตามองอย่างใกล้ชิดมีดังนี้

ตารางสรุปรายชื่อผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญในกองทัพไทย ประจำปี 2568
ตำแหน่ง รายชื่อ
ปลัดกระทรวงกลาโหม พลเอก ธราพงศ์ มะละคำ
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พลเอก อุกฤษฎ์ บุญตานนท์
ผู้บัญชาการทหารเรือ พลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์
ผู้บัญชาการทหารอากาศ พลอากาศเอก เสกสรร คันธา

พลเอกธราพงศ์ มะละคำ: ปลัดกระทรวงกลาโหม

พลเอก ธราพงศ์ มะละคำ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นตำแหน่งข้าราชการประจำระดับสูงสุดของกระทรวงกลาโหม มีหน้าที่รับผิดชอบงานด้านธุรการ การบริหารจัดการงบประมาณ และการสนับสนุนการดำเนินงานของทุกเหล่าทัพให้เป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ถือเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการประสานงานระหว่างฝ่ายการเมืองและฝ่ายทหาร เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายด้านความมั่นคงเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

พลเอกอุกฤษฎ์ บุญตานนท์: ผู้บัญชาการทหารสูงสุด

ตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด ซึ่งมี พลเอก อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ เข้ามารับหน้าที่ เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกองทัพไทย มีอำนาจในการควบคุมและสั่งการหน่วยทหารทั้งสามเหล่าทัพในภาพรวม โดยเฉพาะในมิติของการปฏิบัติการร่วม การวางแผนยุทธศาสตร์ป้องกันประเทศ และการประสานงานกับกองทัพมิตรประเทศ บทบาทของผู้บัญชาการทหารสูงสุดจึงมีความสำคัญต่อเอกภาพและความเป็นปึกแผ่นของกองทัพไทย

พลเรือเอกไพโรจน์ เฟื่องจันทร์: ผู้บัญชาการทหารเรือ

พลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการทหารเรือคนใหม่ มีภารกิจในการบังคับบัญชากองทัพเรือ ซึ่งรับผิดชอบการปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติทางทะเล การรักษาความมั่นคงตามแนวชายฝั่ง และการสนับสนุนภารกิจอื่นๆ ที่ได้รับมอบหมาย ผู้นำทัพเรือคนใหม่จะต้องเผชิญกับความท้าทายด้านความมั่นคงทางทะเลในภูมิภาค รวมถึงการพัฒนากำลังรบและเทคโนโลยีของกองทัพเรือให้มีความทันสมัย

พลอากาศเอกเสกสรร คันธา: ผู้บัญชาการทหารอากาศ

ในส่วนของกองทัพอากาศ มี พลอากาศเอก เสกสรร คันธา ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารอากาศ มีหน้าที่รับผิดชอบการป้องกันน่านฟ้าของประเทศไทย การปฏิบัติการทางอากาศเพื่อสนับสนุนเหล่าทัพอื่น และการพัฒนากิจการอวกาศที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ผู้นำทัพฟ้าคนใหม่จะมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจเกี่ยวกับการจัดหายุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย และการเตรียมความพร้อมของกำลังพลเพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางอากาศในทุกรูปแบบ

การปรับเปลี่ยนในตำแหน่งระดับสูงอื่นๆ

นอกเหนือจากตำแหน่งผู้นำสูงสุดทั้ง 4 ตำแหน่งแล้ว การปรับย้ายในปี 2568 ยังครอบคลุมถึงตำแหน่งสำคัญอื่นๆ ที่มีบทบาทในการสนับสนุนและขับเคลื่อนการทำงานของกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพต่างๆ ซึ่งสะท้อนถึงการวางตัวบุคคลเพื่อรองรับโครงสร้างการทำงานใหม่

ทีมรองปลัดกระทรวงกลาโหมชุดใหม่

ตำแหน่งรองปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นอีกหนึ่งกลุ่มตำแหน่งที่มีความสำคัญในการช่วยแบ่งเบาภาระและสนับสนุนการทำงานของปลัดกระทรวงกลาโหม สำหรับรายชื่อผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองปลัดกระทรวงกลาโหมในครั้งนี้ประกอบด้วยนายทหารจากทุกเหล่าทัพ ได้แก่:

  • พลเอก ศรันย์ เพชรานนท์
  • พลเอก วสุ เจียมสุข
  • พลเรือเอก ณัฏฐพล เดี่ยววานิช
  • พลอากาศเอก สุชาติ เทพรักษ์

การมีทีมรองปลัดฯ จากทุกเหล่าทัพช่วยให้การประสานงานและการบริหารจัดการภายในกระทรวงกลาโหมเป็นไปอย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ตำแหน่งสำคัญในกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ

แม้ว่าในข้อมูลเบื้องต้นจะเน้นที่ตำแหน่งผู้บัญชาการเหล่าทัพ แต่ในบัญชีรายชื่อทั้ง 862 ตำแหน่งนั้น ยังรวมถึงการปรับเปลี่ยนในตำแหน่งสำคัญอื่นๆ เช่น ตำแหน่งแม่ทัพภาคของกองทัพบก ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมกำลังรบในพื้นที่ภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ และตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการในแต่ละเหล่าทัพ ซึ่งทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาและสนับสนุนผู้บัญชาการเหล่าทัพในการตัดสินใจเชิงนโยบาย การเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งเหล่านี้ล้วนส่งผลโดยตรงต่อการปฏิบัติงานในระดับพื้นที่และระดับยุทธศาสตร์ของกองทัพ

การแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี 2568 เป็นกลไกสำคัญในการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลระดับสูงของกองทัพ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการบังคับบัญชาและเตรียมความพร้อมในการรับมือกับภารกิจด้านความมั่นคงของชาติในอนาคต

นัยสำคัญของการปรับโครงสร้างผู้นำกองทัพไทย

การปรับเปลี่ยนตำแหน่งผู้นำกองทัพในแต่ละปีไม่ได้เป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงตัวบุคคล แต่ยังมีนัยสำคัญต่อทิศทางและอนาคตของกองทัพไทยในหลายมิติ ตั้งแต่การบริหารจัดการภายในไปจนถึงการวางยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงของประเทศ

การบริหารจัดการกำลังพลและทิศทางกองทัพ

การคัดเลือกบุคคลขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้นำในระดับต่างๆ สะท้อนถึงวิสัยทัศน์และแนวทางการบริหารกำลังพลของผู้มีอำนาจตัดสินใจ ซึ่งมักจะพิจารณาจากประวัติการรับราชการ ความรู้ความสามารถ และความอาวุโส ผู้นำชุดใหม่ที่เข้ามาจะนำพานโยบายและแนวทางการปฏิบัติงานใหม่ๆ มาสู่องค์กร ซึ่งอาจส่งผลต่อการพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพ การปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงาน และการจัดลำดับความสำคัญของภารกิจในอนาคต

ความต่อเนื่องและเสถียรภาพด้านความมั่นคง

ในขณะเดียวกัน การปรับย้ายนายทหารก็มุ่งหวังที่จะสร้างความต่อเนื่องและรักษาเสถียรภาพในการดำเนินงานด้านความมั่นคง การสืบทอดตำแหน่งจากรุ่นสู่รุ่นช่วยให้ภารกิจที่สำคัญดำเนินต่อไปได้อย่างไม่สะดุด แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้บังคับบัญชา การวางตัวบุคคลที่เหมาะสมในตำแหน่งที่ถูกต้องจึงเป็นหัวใจสำคัญในการธำรงไว้ซึ่งความพร้อมรบและประสิทธิภาพของกองทัพในการปกป้องอธิปไตยของชาติ

บทสรุปการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหาร 2568

การประกาศรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี 2568 ที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ อย่างเป็นทางการ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ภายใต้การนำของคณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงชุดใหม่ของกองทัพไทย โดยมี พลเอกธราพงศ์ มะละคำ เป็นปลัดกระทรวงกลาโหม, พลเอกอุกฤษฎ์ บุญตานนท์ เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด, พลเรือเอกไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ เป็นผู้บัญชาการทหารเรือ และ พลอากาศเอกเสกสรร คันธา เป็นผู้บัญชาการทหารอากาศ

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ซึ่งครอบคลุมกว่า 862 ตำแหน่ง จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป และจะเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดทิศทางการดำเนินงานด้านความมั่นคงของประเทศในปีต่อไป สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียดรายชื่อทั้งหมด สามารถตรวจสอบข้อมูลฉบับสมบูรณ์ได้จากประกาศในราชกิจจานุเบกษาโดยตรง เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวและโครงสร้างใหม่ของกองทัพไทยได้อย่างครบถ้วน

กันยายน 2025
จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส. อา.
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930