Shopping cart

กองทุนบำนาญ ‘ไรเดอร์-ฟรีแลนซ์’ รัฐเปิดให้สมัครแล้ว!

สารบัญ

โครงการล่าสุดจากภาครัฐได้เปิดโอกาสให้กลุ่มแรงงานอิสระสามารถเข้าถึงระบบการออมเพื่อวัยเกษียณได้อย่างเป็นรูปธรรม โครงการนี้มุ่งเน้นการสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับกลุ่มอาชีพที่เติบโตอย่างรวดเร็วในระบบเศรษฐกิจปัจจุบัน

สรุปประเด็นสำคัญสำหรับแรงงานอิสระ

  • โครงการโดยภาครัฐ: กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เป็นโครงการที่รัฐบาลจัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมการออมเงินเพื่อการเกษียณสำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระโดยเฉพาะ
  • เงินสมทบพิเศษ: รัฐบาลจะมอบเงินสมทบเพิ่มเติมให้แก่สมาชิกตามสัดส่วนของเงินออมและช่วงอายุ โดยมีเพดานสูงสุดที่ 1,800 บาทต่อปี เพื่อเป็นแรงจูงใจในการออม
  • เงื่อนไขผู้สมัคร: เปิดรับผู้มีสัญชาติไทยอายุระหว่าง 15–60 ปี ที่ไม่ได้เป็นข้าราชการ หรือไม่อยู่ในระบบประกันสังคมมาตรา 33, 35 หรือ 40 รวมถึงกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอื่น ๆ
  • ความยืดหยุ่นสูง: สมาชิกสามารถกำหนดจำนวนเงินออมได้ด้วยตนเอง ไม่มีการบังคับยอดตายตัว โดยเริ่มต้นออมได้ตั้งแต่ 50 บาทต่อเดือน
  • หลักประกันวัยเกษียณ: เมื่อสมาชิกมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ จะได้รับเงินคืนในรูปแบบของเงินบำนาญรายเดือน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ

กองทุนบำนาญ ‘ไรเดอร์-ฟรีแลนซ์’ รัฐเปิดให้สมัครแล้ว! ซึ่งถือเป็นข่าวดีสำหรับกลุ่มแรงงานอิสระ หรือ Gig Worker ที่กำลังมองหาเครื่องมือในการสร้างความมั่นคงทางการเงินสำหรับชีวิตหลังเกษียณ โครงการนี้คือ “กองทุนการออมแห่งชาติ” หรือ กอช. ซึ่งเป็นกลไกที่ภาครัฐออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ไม่มีสวัสดิการบำนาญจากนายจ้างหรือหน่วยงานภาครัฐ เช่น ไรเดอร์, ฟรีแลนซ์, ศิลปิน, พ่อค้าแม่ค้า และผู้ประกอบอาชีพอิสระทุกแขนง โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมวินัยการออมและสร้างหลักประกันรายได้เมื่อเข้าสู่วัยชรา

ทำความเข้าใจกองทุนบำนาญสำหรับแรงงานอิสระ

ความสำคัญของการวางแผนเกษียณในยุคเศรษฐกิจ Gig

ในยุคที่รูปแบบการทำงานเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จำนวนของแรงงานในระบบเศรษฐกิจ Gig (Gig Economy) ซึ่งประกอบด้วยผู้รับงานอิสระ เช่น ไรเดอร์ส่งอาหาร, ฟรีแลนซ์ในสายงานต่างๆ, และผู้ค้าออนไลน์ ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าอาชีพเหล่านี้จะมอบความยืดหยุ่นและอิสระในการทำงาน แต่ก็มักจะขาดสวัสดิการพื้นฐานที่พนักงานประจำได้รับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสวัสดิการด้านการออมเพื่อการเกษียณอายุ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) หรือบำเหน็จบำนาญจากราชการ

การขาดระบบการออมภาคบังคับทำให้แรงงานกลุ่มนี้มีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับความไม่มั่นคงทางการเงินในวัยชรา ดังนั้น การมีเครื่องมือทางการเงินที่ภาครัฐให้การสนับสนุนจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อเป็นตาข่ายรองรับทางสังคม (Social Safety Net) และช่วยให้พวกเขาสามารถวางแผนอนาคตได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น

ใครคือกลุ่มเป้าหมายของโครงการนี้

กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ถูกออกแบบมาให้ครอบคลุมกลุ่มประชากรวัยแรงงานที่อยู่นอกระบบสวัสดิการหลักของประเทศ โดยมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน ได้แก่:

  • กลุ่มไรเดอร์และผู้ให้บริการขนส่ง: ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ส่งอาหารและพัสดุ ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของแพลตฟอร์มดิจิทัลต่างๆ
  • กลุ่มฟรีแลนซ์: ผู้ประกอบอาชีพอิสระในทุกสาขา เช่น นักเขียน, นักออกแบบกราฟิก, โปรแกรมเมอร์, ที่ปรึกษา, และศิลปิน
  • กลุ่มผู้ค้าและเกษตรกร: พ่อค้าแม่ค้าในตลาด, ผู้ค้าออนไลน์, รวมถึงเกษตรกรที่ไม่ได้อยู่ในระบบสวัสดิการอื่น
  • นักเรียนและนักศึกษา: ผู้ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป สามารถเริ่มต้นการออมเพื่อสร้างวินัยทางการเงินตั้งแต่อายุยังน้อย
  • แรงงานอิสระทั่วไป: ผู้ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไปที่ไม่มีนายจ้างประจำ

เป้าหมายหลักของโครงการคือการเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการออมเพื่อการเกษียณได้อย่างเท่าเทียม โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

เจาะลึกกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.)

เจาะลึกกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.)

คำจำกัดความและวัตถุประสงค์หลัก

กองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. คือกองทุนบำนาญภาคสมัครใจที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. 2554 โดยมีสถานะเป็นหน่วยงานของรัฐภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง วัตถุประสงค์สำคัญคือการส่งเสริมให้ประชากรไทยที่ประกอบอาชีพอิสระ หรือผู้ที่ไม่มีสวัสดิการบำนาญรูปแบบอื่น ได้มีโอกาสออมเงินไว้ใช้จ่ายยามชราภาพ โดยมีรัฐบาลช่วยสมทบเงินเข้ากองทุนเพื่อเพิ่มพูนผลประโยชน์และสร้างแรงจูงใจในการออมระยะยาว

คุณสมบัติและเงื่อนไขของผู้มีสิทธิ์สมัคร

เพื่อให้โครงการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแท้จริง กอช. ได้กำหนดคุณสมบัติของผู้ที่สามารถสมัครเป็นสมาชิกไว้ดังนี้:

  1. สัญชาติ: ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย
  2. อายุ: มีอายุระหว่าง 15 ปี ถึง 60 ปีบริบูรณ์
  3. สถานะการทำงาน: ต้องเป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระ หรือแรงงานนอกระบบที่ไม่ได้รับความคุ้มครองจากกองทุนเพื่อการชราภาพอื่น ๆ ของรัฐ
  4. เงื่อนไขการยกเว้น: ต้องไม่เป็นสมาชิกของกองทุนใดกองทุนหนึ่งดังต่อไปนี้:
    • ผู้ประกันตนตามกฎหมายว่าด้วยประกันสังคม (มาตรา 33, มาตรา 39 และมาตรา 40 ทางเลือกที่ 2 และ 3 ที่มีการส่งเงินสมทบเพื่อการชราภาพ)
    • ข้าราชการหรือสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)
    • สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของภาคเอกชน (Provident Fund)
    • พนักงานหรือลูกจ้างประจำของหน่วยงานรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ

เงื่อนไขเหล่านี้ถูกกำหนดขึ้นเพื่อป้องกันความซ้ำซ้อนในการรับสวัสดิการ และมุ่งเน้นการช่วยเหลือไปยังกลุ่มประชากรที่ยังขาดหลักประกันด้านการออมเพื่อการเกษียณโดยเฉพาะ

กลไกการทำงานและสิทธิประโยชน์ที่น่าสนใจ

จุดเด่นของ กอช. คือกลไกที่เรียบง่ายและสิทธิประโยชน์ที่จับต้องได้ ซึ่งออกแบบมาเพื่อจูงใจให้แรงงานอิสระเริ่มต้นการออม

รูปแบบการออมที่ยืดหยุ่นและเป็นอิสระ

กอช. เข้าใจถึงความไม่แน่นอนของรายได้ในกลุ่มอาชีพอิสระ จึงออกแบบระบบการออมให้มีความยืดหยุ่นสูง สมาชิกไม่จำเป็นต้องส่งเงินออมทุกเดือน และไม่มีการกำหนดจำนวนเงินที่ตายตัว สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานะทางการเงินในแต่ละช่วงเวลา

  • เงินออมขั้นต่ำ: เริ่มต้นออมได้ด้วยเงินเพียง 50 บาทต่อครั้ง
  • เงินออมสูงสุด: สามารถส่งเงินออมสะสมได้สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี
  • ความถี่ในการออม: สมาชิกสามารถเลือกส่งเงินออมเมื่อไหร่ก็ได้ตามความสะดวก ไม่มีการบังคับส่งรายเดือน หากเดือนไหนไม่มีรายได้ ก็สามารถหยุดพักการออมได้โดยไม่เสียสถานะสมาชิกภาพ

เงินสมทบจากภาครัฐ: สิทธิประโยชน์ที่ไม่ควรมองข้าม

ไฮไลท์สำคัญที่สุดของ กอช. คือการที่รัฐบาลจะช่วยสมทบเงินเข้ากองทุนให้แก่สมาชิกเพิ่มเติม โดยอัตราการสมทบจะคิดเป็นสัดส่วนตามเงินออมของสมาชิกและแบ่งตามช่วงอายุ ซึ่งเป็นการเพิ่มผลตอบแทนให้กับการออมโดยอัตโนมัติ

ตารางแสดงอัตราเงินสมทบจากรัฐบาลตามช่วงอายุของสมาชิก กอช. ข้อมูล ณ วันที่ 14 กันยายน 2568
ช่วงอายุของสมาชิก สัดส่วนเงินสมทบจากรัฐ (ของเงินออม) เงินสมทบสูงสุดต่อปี (บาท)
15 – 30 ปี 50% 1,800
31 – 50 ปี 80% 1,800
51 – 60 ปี 100% 1,800

จากตารางจะเห็นได้ว่า ยิ่งอายุมากขึ้น รัฐจะยิ่งสมทบในสัดส่วนที่สูงขึ้น เพื่อช่วยเร่งการสะสมเงินออมให้เพียงพอต่อการเกษียณ อย่างไรก็ตาม เพดานเงินสมทบสูงสุดจากรัฐถูกจำกัดไว้ที่ 1,800 บาทต่อปีเท่ากันทุกช่วงอายุ

การรับเงินบำนาญเมื่อถึงวัยเกษียณ

เมื่อสมาชิกออมเงินกับ กอช. จนมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ จะสิ้นสุดสถานะสมาชิกภาพและมีสิทธิ์ได้รับเงินคืนในรูปแบบของ “เงินบำนาญรายเดือน” ตลอดชีพ โดยวิธีการคำนวณและจ่ายเงินบำนาญจะขึ้นอยู่กับยอดเงินรวมในบัญชี (ซึ่งประกอบด้วยเงินออมของสมาชิก, เงินสมทบจากรัฐ, และผลประโยชน์จากการลงทุน) ดังนี้:

  • กรณีเงินสะสมถึงเกณฑ์ (150,000 บาทขึ้นไป): สมาชิกจะได้รับเงินบำนาญเป็นรายเดือนตลอดชีพ โดยคำนวณจากสูตรของกองทุน ซึ่งมีอัตราขั้นต่ำที่ 600 บาทต่อเดือน และอาจสูงถึงประมาณ 7,200 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับยอดเงินสะสมทั้งหมด แม้ว่าในอนาคตเงินในบัญชีจะหมดลง สมาชิกจะยังคงได้รับเงินบำนาญในอัตราเดิมไปตลอดชีวิต
  • กรณีเงินสะสมไม่ถึงเกณฑ์ (น้อยกว่า 150,000 บาท): สมาชิกจะได้รับเงินบำนาญในอัตราคงที่ 600 บาทต่อเดือน ไปเรื่อยๆ จนกว่ายอดเงินในบัญชีจะหมดลง

เครื่องมือช่วยวางแผน: แอปพลิเคชัน กอช.

เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับสมาชิกและผู้ที่สนใจ กอช. ได้พัฒนาแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ซึ่งทำหน้าที่เป็นช่องทางหลักในการจัดการบัญชี ผู้ใช้สามารถดำเนินการต่างๆ ได้ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการสมัครสมาชิก, การส่งเงินออม, การตรวจสอบยอดเงินสะสม, และที่สำคัญคือการใช้เครื่องมือคำนวณบำนาญเพื่อวางแผนการออมในอนาคต เพียงแค่ระบุอายุที่เริ่มออมและจำนวนเงินที่ต้องการออมในแต่ละเดือน ระบบจะประเมินยอดเงินบำนาญรายเดือนที่จะได้รับโดยประมาณเมื่ออายุ 60 ปี ซึ่งช่วยให้เห็นภาพเป้าหมายทางการเงินได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ความร่วมมือกับแพลตฟอร์มดิจิทัล: กรณีศึกษา LINE MAN

เพื่อประชาสัมพันธ์และส่งเสริมให้โครงการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง กอช. ได้สร้างความร่วมมือกับแพลตฟอร์มดิจิทัลขนาดใหญ่ที่มีกลุ่มผู้ใช้งานเป็นแรงงานอิสระจำนวนมาก ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือความร่วมมือกับ LINE MAN ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มชั้นนำด้านบริการส่งอาหารและพัสดุ

ความร่วมมือนี้มุ่งเน้นการให้ความรู้และอำนวยความสะดวกให้กลุ่มไรเดอร์ของ LINE MAN สามารถสมัครเป็นสมาชิก กอช. ได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งชี้ให้เห็นถึงสิทธิประโยชน์ที่จับต้องได้ เช่น ไรเดอร์ที่มีอายุระหว่าง 15-30 ปี เมื่อออมเงินกับ กอช. จะได้รับเงินสมทบจากรัฐบาลถึง 50% ของเงินออม (สูงสุดไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี) ซึ่งเป็นการสื่อสารที่ตรงจุดและสร้างแรงจูงใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ การจับมือกับภาคเอกชนเช่นนี้ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้โครงการของรัฐสามารถเข้าถึงและสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนในวงกว้างได้สำเร็จ

เปรียบเทียบ กอช. กับทางเลือกอื่นในการวางแผนเกษียณ

กอช. และ ประกันสังคมมาตรา 40

สำหรับแรงงานอิสระ อีกหนึ่งทางเลือกที่คุ้นเคยกันดีคือ ประกันสังคมมาตรา 40 ซึ่งเป็นระบบประกันสังคมภาคสมัครใจ แม้ทั้งสองจะมีเป้าหมายเพื่อสร้างหลักประกันให้แรงงานนอกระบบ แต่ก็มีความแตกต่างในรายละเอียดและวัตถุประสงค์หลัก

  • กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.): มุ่งเน้นการออมเพื่อ “บำนาญชราภาพ” เป็นหลัก โดยมีจุดเด่นคือเงินสมทบจากรัฐบาลที่ช่วยเพิ่มพูนเงินออมโดยตรง ไม่ครอบคลุมสิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาลหรือการเจ็บป่วย
  • ประกันสังคมมาตรา 40: ให้ความคุ้มครองที่กว้างกว่า ขึ้นอยู่กับทางเลือกที่สมัคร โดยครอบคลุมทั้งกรณีเจ็บป่วย, ทุพพลภาพ, เสียชีวิต และเงินบำเหน็จชราภาพ (เงินก้อน) ซึ่งอาจไม่มีกลไกเงินสมทบเพิ่มเติมจากรัฐในลักษณะเดียวกับ กอช. สำหรับการออมเพื่อบำนาญโดยเฉพาะ

ดังนั้น ผู้ประกอบอาชีพอิสระจำเป็นต้องพิจารณาเป้าหมายของตนเอง หากต้องการเน้นการสร้างเงินบำนาญรายเดือนในระยะยาวโดยมีรัฐช่วยออม กอช. ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

ข้อดีและข้อควรพิจารณาของ กอช.

ข้อดี:

  • มีเงินสมทบจากรัฐ: เป็นผลประโยชน์โดยตรงที่หาไม่ได้จากการออมในรูปแบบอื่น
  • ความยืดหยุ่นสูง: ไม่บังคับออมทุกเดือน เหมาะกับผู้ที่มีรายได้ไม่แน่นอน
  • ความเสี่ยงต่ำ: บริหารจัดการโดยรัฐ มีกฎหมายรองรับ สร้างความเชื่อมั่นได้
  • เริ่มต้นง่าย: ใช้เงินออมขั้นต่ำน้อย ทำให้ทุกคนเข้าถึงได้

ข้อควรพิจารณา:

  • ผลตอบแทนขึ้นอยู่กับวินัยการออม: เนื่องจากเป็นการออมภาคสมัครใจ ยอดเงินบำนาญที่จะได้รับจึงขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอและจำนวนเงินที่สมาชิกส่งออมเป็นสำคัญ
  • อาจไม่เพียงพอเพียงอย่างเดียว: เงินบำนาญจาก กอช. อาจเป็นเพียงส่วนหนึ่งของรายได้หลังเกษียณ การวางแผนการออมและการลงทุนในช่องทางอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วยจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อความมั่นคงสูงสุด

บทสรุป: ก้าวสำคัญสู่ความมั่นคงทางการเงินหลังเกษียณ

การเปิดให้สมัครเข้าร่วมกองทุนบำนาญสำหรับ ‘ไรเดอร์-ฟรีแลนซ์’ ผ่านกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ถือเป็นพัฒนาการเชิงบวกและเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับแรงงานอิสระในการวางแผนเกษียณ ด้วยจุดเด่นด้านความยืดหยุ่น การเริ่มต้นด้วยเงินจำนวนน้อย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้รับเงินสมทบเพิ่มเติมจากภาครัฐ ทำให้ กอช. เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับทุกคนที่อยู่นอกระบบสวัสดิการพนักงานประจำ

สำหรับกลุ่ม Gig Worker ไม่ว่าจะเป็นไรเดอร์, ฟรีแลนซ์, หรือผู้ประกอบการรายย่อย การศึกษาข้อมูลและพิจารณาเข้าร่วมโครงการนี้จึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการสร้างหลักประกันทางการเงินให้ตนเอง เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตในวัยเกษียณได้อย่างมีคุณภาพและปราศจากความกังวลด้านการเงิน การเริ่มต้นออมตั้งแต่วันนี้ คือการลงทุนเพื่ออนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน

กันยายน 2025
จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส. อา.
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930