Shopping cart






แห่รวย! กองทุน AI ไทยปั้นพอร์ตโต ก.ล.ต. สั่งสอบ


แห่รวย! กองทุน AI ไทยปั้นพอร์ตโต ก.ล.ต. สั่งสอบ

สารบัญ

กระแสความสนใจในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้ขยายวงกว้างเข้าสู่โลกการเงินและการลงทุน ส่งผลให้ “กองทุน AI” กลายเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่นักลงทุนชาวไทย ด้วยความคาดหวังในผลตอบแทนที่เติบโตแบบก้าวกระโดด อย่างไรก็ตาม การเติบโตอย่างรวดเร็วนี้นำมาซึ่งคำถามด้านความโปร่งใสและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

  • กองทุน AI กำลังเป็นที่นิยมอย่างสูงในไทย เนื่องจากมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่น่าดึงดูด โดยอาศัยการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก
  • ความซับซ้อนของอัลกอริทึมที่ใช้ในการตัดสินใจลงทุน หรือที่เรียกว่า ‘กล่องดำ’ (Black Box) ถือเป็นความท้าทายสำคัญที่สร้างความกังวลด้านความเสี่ยงและความโปร่งใส
  • หน่วยงานกำกับดูแล เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบและสร้างเกณฑ์กำกับดูแลกองทุนเหล่านี้เพื่อคุ้มครองผู้ลงทุนและรักษาเสถียรภาพของตลาด
  • นักลงทุนจำเป็นต้องศึกษาข้อมูล ทำความเข้าใจลักษณะของกองทุน AI และประเมินระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน

เจาะลึกปรากฏการณ์กองทุน AI ฟีเวอร์ในไทย

กระแสข่าวลือเกี่ยวกับประเด็น แห่รวย! กองทุน AI ไทยปั้นพอร์ตโต ก.ล.ต. สั่งสอบ ได้จุดประกายให้เกิดการถกเถียงและสร้างความสนใจในวงกว้างต่อผลิตภัณฑ์การลงทุนประเภทใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ ปรากฏการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการลงทุนที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งนักลงทุนจำนวนมาก โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ต่างมองหาโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าการลงทุนในสินทรัพย์แบบดั้งเดิม การเกิดขึ้นของกองทุนที่ใช้ AI ในการวิเคราะห์และคัดเลือกสินทรัพย์จึงตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวได้อย่างลงตัว อย่างไรก็ตาม ความร้อนแรงนี้ก็มาพร้อมกับความกังวลถึงความเสี่ยงที่อาจซ่อนอยู่เบื้องหลังอัลกอริทึมที่ซับซ้อน และนั่นคือจุดที่หน่วยงานกำกับดูแลต้องเข้ามามีบทบาทเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเสถียรภาพให้แก่ระบบการเงินโดยรวม

ความน่าสนใจของกองทุน AI เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เทคโนโลยี AI กำลังเข้ามามีบทบาทในทุกอุตสาหกรรมทั่วโลก บริษัทที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา AI, Cloud Computing และ Big Data มีการเติบโตอย่างมหาศาล ทำให้หุ้นของบริษัทเหล่านี้กลายเป็นเป้าหมายหลักของนักลงทุน กองทุน AI ในไทยจึงมักเป็นกองทุนที่ระดมทุนในประเทศเพื่อไปลงทุนต่อในกองทุนหลัก (Master Fund) ในต่างประเทศที่เน้นลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำเหล่านั้น ทำให้นักลงทุนไทยสามารถเข้าถึงโอกาสการเติบโตของตลาดโลกได้ง่ายขึ้น ปรากฏการณ์นี้จึงไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในกลุ่มนักลงทุนสถาบันอีกต่อไป แต่ยังขยายไปสู่นักลงทุนรายย่อยที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิวัติทางเทคโนโลยีครั้งสำคัญนี้

กองทุน AI คืออะไรและทำงานอย่างไร?

เพื่อทำความเข้าใจถึงศักยภาพและความเสี่ยง จำเป็นต้องทราบถึงนิยามและกลไกการทำงานของกองทุนประเภทนี้ให้ชัดเจนเสียก่อน ซึ่งมีความแตกต่างจากการลงทุนที่บริหารโดยผู้จัดการกองทุนที่เป็นมนุษย์ในหลายมิติ

คำจำกัดความของกองทุน AI

กองทุน AI หรือ กองทุนปัญญาประดิษฐ์ สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลักตามลักษณะการใช้เทคโนโลยี AI:

  1. กองทุนที่ลงทุนในธุรกิจ AI (AI-Themed Funds): เป็นกองทุนที่มีนโยบายเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องโดยตรงหรือได้รับประโยชน์จากการเติบโตของเทคโนโลยี AI เช่น บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ AI, ผู้ผลิตชิปประมวลผล, ผู้ให้บริการ Cloud Computing หรือบริษัทที่นำ AI มาใช้เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน การตัดสินใจเลือกหุ้นยังคงทำโดยผู้จัดการกองทุนที่เป็นมนุษย์ แต่มุ่งเน้นไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย
  2. กองทุนที่ใช้ AI บริหารจัดการ (AI-Managed Funds): เป็นกองทุนที่นำอัลกอริทึมปัญญาประดิษฐ์เข้ามาทำหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาล (Big Data) เช่น ข้อมูลราคาหลักทรัพย์, รายงานผลประกอบการ, ข่าวสาร, หรือแม้กระทั่งความรู้สึกของคนในโซเชียลมีเดีย เพื่อค้นหารูปแบบและสัญญาณการลงทุน จากนั้น AI จะทำการตัดสินใจซื้อ-ขายหลักทรัพย์โดยอัตโนมัติหรือให้คำแนะนำแก่ผู้จัดการกองทุน กองทุนประเภทนี้มักถูกมองว่ามีความซับซ้อนและเป็นที่มาของคำว่า ‘กล่องดำ’

กองทุน AI ส่วนใหญ่ที่ปรากฏในตลาดไทยมักเป็นประเภทแรก หรือเป็นกองทุนประเภท Feeder Fund ที่ไปลงทุนในกองทุนหลักในต่างประเทศซึ่งอาจเป็นได้ทั้งสองประเภท

เบื้องหลังอัลกอริทึม ‘กล่องดำ’ (Black Box)

คำว่า “กล่องดำ” ในบริบทของกองทุน AI หมายถึงสถานการณ์ที่กระบวนการตัดสินใจของอัลกอริทึมมีความซับซ้อนสูงมาก จนแม้แต่ผู้สร้างอัลกอริทึมเองก็ไม่สามารถอธิบายเหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจซื้อหรือขายสินทรัพย์แต่ละครั้งได้อย่างชัดเจนและสมบูรณ์ AI อาจตรวจพบความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนในข้อมูลที่มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นได้ และใช้ปัจจัยนับล้านในการตัดสินใจในเสี้ยววินาที

แม้ว่า ‘กล่องดำ’ จะเป็นหัวใจของประสิทธิภาพในการลงทุนของ AI แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นบ่อเกิดของความเสี่ยงที่สำคัญ หากเกิดข้อผิดพลาดในการคำนวณหรือการตีความข้อมูล อาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างรุนแรงและส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในตลาดได้

ความไม่โปร่งใสนี้เองที่สร้างความกังวลให้กับหน่วยงานกำกับดูแล เช่น ก.ล.ต. เนื่องจากเป็นเรื่องยากที่จะตรวจสอบว่าการตัดสินใจของ AI เป็นไปตามกฎระเบียบหรือไม่ หรือมีปัจจัยใดที่อาจนำไปสู่ความเสี่ยงเชิงระบบ (Systemic Risk) ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่การล่มสลายของสถาบันการเงินแห่งหนึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังทั้งระบบได้

ตัวอย่างกองทุน AI ในตลาดประเทศไทย

ในประเทศไทย มีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) หลายแห่งที่นำเสนอผลิตภัณฑ์กองทุนที่เกี่ยวข้องกับ AI เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุน ตัวอย่างเช่น กองทุนที่มีนโยบายลงทุนในบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยี Cloud Computing และ AI ทั่วโลก หรือกองทุนที่เน้นลงทุนในกองทุนหลักต่างประเทศที่ลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) โดยตรง

กองทุนเหล่านี้มักถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มความเสี่ยงสูง (ระดับ 6-7) และเหมาะสำหรับนักลงทุนที่สามารถรับความผันผวนของราคาได้สูงและต้องการโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการเติบโตของเมกะเทรนด์เทคโนโลยีในระยะยาว เอกสารเสนอขายหน่วยลงทุน (Fund Fact Sheet) จะมีการระบุรายละเอียดนโยบายการลงทุน สัดส่วนสินทรัพย์ และค่าธรรมเนียมไว้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่นักลงทุนต้องศึกษา

ศักยภาพและโอกาสในการลงทุนกับ AI

ศักยภาพและโอกาสในการลงทุนกับ AI

แม้จะมีความเสี่ยง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าการลงทุนในธีม AI นั้นมาพร้อมกับโอกาสที่น่าสนใจมากมาย ซึ่งเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลก

โอกาสสร้างผลตอบแทนที่โดดเด่น

เหตุผลหลักที่ทำให้นักลงทุนสนใจกองทุน AI คือศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด อุตสาหกรรม AI ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเติบโตและมีแนวโน้มที่จะขยายตัวอีกมหาศาลในทศวรรษหน้า บริษัทที่เป็นผู้นำในเทคโนโลยีนี้จึงมีโอกาสที่มูลค่ากิจการจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด การลงทุนผ่านกองทุนที่คัดเลือกบริษัทเหล่านี้ไว้ในพอร์ตจึงเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้เติบโตไปพร้อมกับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต

ประตูสู่การลงทุนในตลาดเทคโนโลยีโลก

สำหรับนักลงทุนไทย การลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำของโลกโดยตรงอาจมีขั้นตอนที่ยุ่งยากและใช้เงินทุนสูง กองทุน AI ที่จัดตั้งในไทยส่วนใหญ่จึงทำหน้าที่เป็น ‘Feeder Fund’ ซึ่งเป็นการระดมเงินจากนักลงทุนรายย่อยในประเทศ แล้วนำไปซื้อหน่วยลงทุนของ ‘Master Fund’ ที่จดทะเบียนในต่างประเทศอีกทอดหนึ่ง กองทุนหลักเหล่านี้มักบริหารโดยผู้จัดการกองทุนระดับโลกและมีพอร์ตการลงทุนที่ประกอบด้วยหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เช่น Google, Microsoft, NVIDIA หรือบริษัทสตาร์ทอัพด้าน AI ที่มีศักยภาพ วิธีนี้จึงเปรียบเสมือนการเปิดประตูให้นักลงทุนไทยสามารถกระจายการลงทุนและเข้าถึงหุ้นเติบโตสูงในตลาดโลกได้อย่างสะดวก

เกาะกระแสเมกะเทรนด์แห่งอนาคต

การลงทุนใน AI ไม่ใช่เพียงการเก็งกำไรระยะสั้น แต่คือการลงทุนใน ‘เมกะเทรนด์’ หรือแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างที่สำคัญของโลก ปัญญาประดิษฐ์กำลังจะกลายเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานที่แทรกซึมอยู่ในทุกอุตสาหกรรม ตั้งแต่การแพทย์ การเงิน การผลิต ไปจนถึงการใช้ชีวิตประจำวัน การจัดสรรเงินลงทุนส่วนหนึ่งมาไว้ในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับ AI จึงเป็นการวางตำแหน่งพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในระยะยาว

ความเสี่ยงที่ต้องจับตา: เมื่อ ก.ล.ต. ต้องเข้ามาดูแล

เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ โอกาสในการสร้างผลตอบแทนสูงมักมาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะกับการลงทุนในเทคโนโลยีที่ใหม่และซับซ้อนอย่าง AI

ความผันผวนสูงของตลาดหุ้นเทคโนโลยี

หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีและ AI มักมีความอ่อนไหวต่อสภาวะเศรษฐกิจและข่าวสารสูงกว่าหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมดั้งเดิม ราคาหุ้นสามารถปรับตัวขึ้นลงได้อย่างรุนแรงในระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งอาจเกิดจากความคาดหวังของตลาด, การเปลี่ยนแปลงนโยบายภาครัฐ, หรือการแข่งขันที่รุนแรง ดังนั้น กองทุนที่เน้นลงทุนในสินทรัพย์เหล่านี้จึงมีความผันผวนของมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) ที่สูงตามไปด้วย นักลงทุนจึงต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนและควรมีมุมมองการลงทุนในระยะยาว

ความท้าทายของอัลกอริทึม ‘กล่องดำ’ และความเสี่ยงเชิงระบบ

ดังที่กล่าวไปข้างต้น ความซับซ้อนของอัลกอริทึม AI ที่ใช้บริหารกองทุนถือเป็นความเสี่ยงที่สำคัญ หากกองทุน AI หลายแห่งใช้อัลกอริทึมที่คล้ายคลึงกันหรือเรียนรู้จากข้อมูลชุดเดียวกัน ก็มีความเป็นไปได้ที่ AI เหล่านั้นจะตอบสนองต่อเหตุการณ์ในตลาดในทิศทางเดียวกันพร้อมๆ กัน เช่น การส่งคำสั่งขายหุ้นจำนวนมหาศาลเมื่อตลาดเริ่มปรับตัวลงเล็กน้อย ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดการเทขายอย่างตื่นตระหนก (Panic Sell) และนำไปสู่วิกฤตการณ์ในตลาดหุ้นในที่สุด สิ่งนี้คือภาพสะท้อนของ ‘ความเสี่ยงเชิงระบบ’ ที่หน่วยงานกำกับดูแลให้ความสำคัญอย่างยิ่ง

บทบาทของ ก.ล.ต. ในการกำกับดูแลและคุ้มครองผู้ลงทุน

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีภารกิจหลักในการพัฒนาและกำกับดูแลตลาดทุนของไทยให้มีความน่าเชื่อถือ โปร่งใส และเป็นธรรม รวมถึงการคุ้มครองผู้ลงทุน ในกรณีของกองทุน AI บทบาทของ ก.ล.ต. จะครอบคลุมถึง:

  • การอนุมัติจัดตั้งกองทุน: ตรวจสอบว่า บลจ. มีความพร้อม มีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ และมีระบบบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสมก่อนจะอนุญาตให้เสนอขายกองทุนต่อประชาชน
  • การเปิดเผยข้อมูล: กำหนดให้ บลจ. ต้องเปิดเผยข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับกองทุนอย่างครบถ้วนและโปร่งใสในหนังสือชี้ชวน เช่น นโยบายการลงทุน ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง โครงสร้างค่าธรรมเนียม เพื่อให้นักลงทุนใช้ประกอบการตัดสินใจ
  • การติดตามและตรวจสอบ: ติดตามการดำเนินงานของกองทุนอย่างสม่ำเสมอ หากมีเหตุอันควรสงสัยว่าอาจมีความผิดปกติหรืออาจสร้างความเสียหายต่อนักลงทุนหรือตลาดโดยรวม ก.ล.ต. ก็มีอำนาจในการสั่งให้ตรวจสอบหรือชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมได้ ซึ่งสอดคล้องกับกระแสข่าวลือเรื่องการสั่งสอบสวนกองทุนบางแห่ง
  • การกำหนดหลักเกณฑ์: ในอนาคต ก.ล.ต. อาจจำเป็นต้องออกมาตรการหรือหลักเกณฑ์เฉพาะสำหรับกำกับดูแลการใช้ AI ในการบริหารจัดการกองทุน เพื่อรับมือกับความเสี่ยงรูปแบบใหม่ๆ ที่อาจเกิดขึ้น

เปรียบเทียบแนวทางการลงทุน: กองทุน AI vs. การลงทุนแบบดั้งเดิม

เพื่อให้เห็นภาพความแตกต่างที่ชัดเจนยิ่งขึ้น สามารถเปรียบเทียบการทำงานของกองทุนที่ใช้ AI บริหารจัดการ กับกองทุนแบบดั้งเดิมที่บริหารโดยผู้จัดการกองทุนที่เป็นมนุษย์ได้ดังตารางต่อไปนี้

ตารางเปรียบเทียบคุณลักษณะระหว่างกองทุนที่จัดการโดย AI และกองทุนแบบดั้งเดิม
คุณลักษณะ กองทุนที่จัดการโดย AI กองทุนแบบดั้งเดิม (จัดการโดยมนุษย์)
ผู้ทำการตัดสินใจลงทุน อัลกอริทึมปัญญาประดิษฐ์ ผู้จัดการกองทุนและทีมวิเคราะห์
แหล่งข้อมูลที่ใช้วิเคราะห์ ข้อมูลมหศาล (Big Data) ทั้งที่มีโครงสร้างและไม่มีโครงสร้าง เช่น ข้อมูลราคา, ข่าว, โซเชียลมีเดีย รายงานทางการเงิน, บทวิเคราะห์, การประชุมกับผู้บริหาร, ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาค
ความเร็วในการตัดสินใจ สูงมาก (มิลลิวินาที) สามารถซื้อขายได้ตลอดเวลาตามสัญญาณ ขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์และกระบวนการตัดสินใจของทีมงาน (ชั่วโมง/วัน)
อคติทางอารมณ์ ไม่มีอคติจากอารมณ์ เช่น ความกลัว หรือความโลภ อาจมีอคติทางอารมณ์และการรับรู้ของผู้จัดการกองทุนเข้ามาเกี่ยวข้อง
ความโปร่งใสของกระบวนการ ต่ำ (อาจเป็นแบบ ‘กล่องดำ’) ยากต่อการอธิบายเหตุผลเบื้องหลัง สูง สามารถอธิบายกลยุทธ์และเหตุผลในการเลือกหุ้นแต่ละตัวได้
ความเสี่ยงหลัก ความผิดพลาดของอัลกอริทึม, ความเสี่ยงเชิงระบบจากการตัดสินใจที่เหมือนกัน ความผิดพลาดในการตัดสินใจของมนุษย์, การยึดติดกับมุมมองเดิมๆ

อนาคตของการลงทุนด้วย AI ในประเทศไทย

แนวโน้มการนำ AI มาใช้ในโลกการลงทุนมีแต่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภูมิทัศน์การลงทุนในประเทศไทยในอนาคต

แนวโน้มการเติบโตและผลิตภัณฑ์ใหม่

คาดว่าในอนาคตอันใกล้ บลจ. ในประเทศไทยจะมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์กองทุน AI ที่มีความหลากหลายมากขึ้น อาจมีการพัฒนากองทุนที่ใช้ AI วิเคราะห์ตลาดหุ้นไทยโดยเฉพาะ หรือมีกองทุนที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถเลือกระดับความเสี่ยงของอัลกอริทึมได้ นอกจากนี้ เทคโนโลยี AI อาจถูกนำมาใช้ในบริการที่ปรึกษาการลงทุน (Robo-advisor) อย่างแพร่หลายมากขึ้น เพื่อช่วยวางแผนการเงินและจัดพอร์ตการลงทุนส่วนบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพและเข้าถึงง่ายกว่าเดิม

ความสำคัญของความรู้ทางการเงิน

เมื่อผลิตภัณฑ์การลงทุนมีความซับซ้อนมากขึ้น ความรู้ความเข้าใจทางการเงิน (Financial Literacy) ของนักลงทุนจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งยวด นักลงทุนยุคใหม่จำเป็นต้องมีความสามารถในการทำความเข้าใจผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ซับซ้อน, ประเมินความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง, และไม่หลงเชื่อกระแสการลงทุนตามคำโฆษณาเพียงอย่างเดียว การศึกษาข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น เอกสารของ ก.ล.ต. หรือบทวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผลและเหมาะสมกับเป้าหมายทางการเงินของตนเอง

บทสรุปและข้อคิดสำหรับนักลงทุน

ปรากฏการณ์ความนิยมในกองทุน AI สะท้อนถึงความตื่นตัวของนักลงทุนไทยต่อเทรนด์เทคโนโลยีระดับโลก การลงทุนกับ AI เปิดประตูสู่โอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจและเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตในระยะยาวของอุตสาหกรรมแห่งอนาคต อย่างไรก็ตาม โอกาสนั้นย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยงเฉพาะตัว ทั้งความผันผวนของราคาหุ้นเทคโนโลยี และความท้าทายจากความซับซ้อนของอัลกอริทึมแบบ ‘กล่องดำ’ ที่อาจนำไปสู่ความเสี่ยงเชิงระบบได้

บทบาทของหน่วยงานกำกับดูแลอย่าง ก.ล.ต. จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างสมดุลระหว่างการส่งเสริมนวัตกรรมทางการเงินและการคุ้มครองผู้ลงทุน การติดตามและตรวจสอบกองทุนที่มีลักษณะซับซ้อนจึงเป็นกระบวนการที่จำเป็นเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดทุนโดยรวม สำหรับนักลงทุน การตัดสินใจลงทุนในกองทุน AI ควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจ ไม่ใช่ความคาดหวังลมๆ แล้งๆ จากกระแสสังคม

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะ

กันยายน 2025
จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส. อา.
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930