Shopping cart






ไรเดอร์สะเทือน! AI ‘ส่งไว’ โดรนส่งของทั่วกรุง


ไรเดอร์สะเทือน! AI ‘ส่งไว’ โดรนส่งของทั่วกรุง

สารบัญ

ปรากฏการณ์ที่อาจทำให้ ไรเดอร์สะเทือน! AI ‘ส่งไว’ โดรนส่งของทั่วกรุง กำลังกลายเป็นความจริง เมื่อบริการจัดส่งพัสดุด้วยโดรนที่ควบคุมโดยปัญญาประดิษฐ์ (AI) เริ่มเข้ามามีบทบาทในกรุงเทพมหานคร เทคโนโลยีนี้ถูกนำเสนอในฐานะทางออกสำหรับปัญหาการจราจรที่ติดขัดอย่างหนัก โดยมีศักยภาพในการจัดส่งสินค้าถึงมือผู้รับภายในเวลาไม่กี่นาที แต่ในขณะเดียวกันก็จุดประกายให้เกิดคำถามสำคัญเกี่ยวกับอนาคตของอาชีพไรเดอร์และโครงสร้างของระบบโลจิสติกส์ในปัจจุบัน

  • เทคโนโลยีโดรนส่งของที่ขับเคลื่อนด้วย AI กำลังถูกนำมาใช้ในกรุงเทพฯ เพื่อเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพในการจัดส่งพัสดุ และหลีกเลี่ยงปัญหาการจราจร
  • การสาธิตโดรน DJI FlyCart 30 ในใจกลางกรุงเทพฯ ถือเป็นก้าวสำคัญ โดยแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการขนส่งสินค้าน้ำหนักมาก (กว่า 25 กิโลกรัม) อย่างปลอดภัยและถูกกฎหมาย
  • การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่ออาชีพไรเดอร์นับแสนราย เนื่องจากระบบอัตโนมัติเข้ามาทดแทนการพึ่งพาแรงงานมนุษย์
  • บริษัทเทคโนโลยีระดับโลก เช่น Amazon และ DoorDash ได้พัฒนาระบบที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้แนวโน้มที่กำลังจะเกิดขึ้นในตลาดประเทศไทย
  • ประเทศไทยมีการลงทุนและพัฒนาเทคโนโลยีโดรนของตนเอง เช่น ระบบ Horrus ที่ใช้เทคโนโลยี 5G ซึ่งสะท้อนถึงความพร้อมในการปรับตัวเข้าสู่ยุคโลจิสติกส์ทางอากาศ

ภาพรวมของเทคโนโลยีโดรนส่งของด้วย AI

บริการโดรนส่งของด้วย AI คือระบบการขนส่งที่ใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ซึ่งควบคุมและจัดการเส้นทางการบินโดยปัญญาประดิษฐ์ เพื่อนำส่งพัสดุจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งโดยอัตโนมัติ หัวใจสำคัญของระบบนี้คือ AI ที่ทำหน้าที่มากกว่าการควบคุมการบินพื้นฐาน แต่ยังรวมถึงการวางแผนเส้นทางที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแบบเรียลไทม์ การตรวจจับและหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางระหว่างทาง เช่น อาคาร สายไฟฟ้า หรือโดรนลำอื่น ๆ และการปฏิบัติตามกฎระเบียบการบินในเขตเมืองที่ซับซ้อน

เทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาท้าทายสำคัญของการขนส่งในยุคสุดท้าย (Last-mile delivery) โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่มีการจราจรหนาแน่น การใช้โดรนช่วยให้สามารถข้ามผ่านอุปสรรคบนท้องถนนได้อย่างสิ้นเชิง ส่งผลให้ระยะเวลาในการจัดส่งลดลงอย่างมาก จากที่เคยใช้เวลาเป็นชั่วโมงอาจเหลือเพียงไม่กี่นาที นอกจากนี้ การทำงานแบบอัตโนมัติยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการขยายบริการ (Scalability) ให้รองรับปริมาณคำสั่งซื้อจำนวนมากได้พร้อมกัน โดยลดการพึ่งพาพนักงานจัดส่งที่เป็นมนุษย์

การมาถึงของบริการส่งไว AI ในกรุงเทพมหานคร

กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องปัญหาการจราจรติดขัด กำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของโลจิสติกส์ทางอากาศ การเกิดขึ้นของบริการโดรนส่งของที่ขับเคลื่อนด้วย AI ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่อาจปฏิวัติรูปแบบการขนส่งสินค้าในเมืองหลวงของประเทศไทย

ก้าวสำคัญ: การสาธิตโดรน DJI FlyCart 30

จุดเปลี่ยนที่สำคัญเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2024 ในงาน Thailand Drone Exhibition & Symposium 2024 ซึ่งบริษัท Systronics Co., Ltd. ได้ทำการสาธิตการบินของโดรนรุ่น DJI FlyCart 30 ในใจกลางกรุงเทพมหานครอย่างเป็นทางการ เหตุการณ์นี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าการขนส่งทางอากาศในเขตเมืองนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จริงอย่างปลอดภัยและสอดคล้องกับข้อบังคับของประเทศ การสาธิตดังกล่าวไม่เพียงแต่เป็นการทดสอบเทคโนโลยี แต่ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องถึงศักยภาพของโลจิสติกส์รูปแบบใหม่นี้

ศักยภาพและขีดความสามารถในการจัดส่ง

โดรน DJI FlyCart 30 ที่นำมาสาธิตมีความสามารถที่น่าทึ่ง โดยสามารถบรรทุกสินค้าน้ำหนักได้มากกว่า 25 กิโลกรัม ซึ่งเปิดประตูสู่ความเป็นไปได้ในการขนส่งสินค้าที่หลากหลาย ไม่จำกัดอยู่แค่พัสดุขนาดเล็กหรืออาหาร แต่ยังรวมถึงเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีน้ำหนัก ซึ่งการจัดส่งที่รวดเร็วอาจมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด นอกจากนี้ ระบบ AI ยังถูกออกแบบมาเพื่อทำงานร่วมกับการปฏิบัติตามกฎระเบียบการบิน ทำให้การนำทางเป็นไปอย่างแม่นยำและปลอดภัยสูงสุด ศักยภาพในการขนส่งสินค้าที่มีน้ำหนักมากและรวดเร็วเช่นนี้ ชี้ให้เห็นถึงอนาคตที่การจัดส่งสินค้าในกรุงเทพฯ จะมีประสิทธิภาพและตอบสนองต่อความต้องการได้ดียิ่งขึ้น

การนำโดรนที่ขับเคลื่อนด้วย AI มาใช้ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงปฏิรูปสำหรับบริการจัดส่งในเมือง โดยลดการพึ่งพาไรเดอร์ หลีกเลี่ยงปัญหาการจราจร และมอบโซลูชันโลจิสติกส์ช่วงสุดท้ายที่รวดเร็วและปรับขนาดได้ทั่วกรุงเทพฯ

แนวโน้มระดับโลกและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง

แนวโน้มระดับโลกและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง

การพัฒนาบริการโดรนส่งของในกรุงเทพฯ ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างโดดเดี่ยว แต่เป็นส่วนหนึ่งของกระแสการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีโลจิสติกส์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำหลายแห่งได้ลงทุนมหาศาลเพื่อพัฒนาระบบที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งแนวโน้มเหล่านี้มีอิทธิพลต่อทิศทางการพัฒนาในประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

กรณีศึกษาจากยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี

ตัวอย่างที่ชัดเจนคือระบบโดรนส่งของของ Amazon ซึ่งใช้ AI ผสานกับการนำทางด้วย GPS และเซ็นเซอร์ตรวจจับต่างๆ เช่น เซ็นเซอร์ความร้อนและโซนาร์ เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางได้อย่างชาญฉลาด ระบบนี้สามารถจัดส่งพัสดุได้ภายใน 13 นาทีหลังจากสั่งซื้อ ในระยะทางสูงสุด 24 กิโลเมตร และรับน้ำหนักได้ประมาณ 2.3 กิโลกรัม ในขณะเดียวกัน DoorDash ก็ได้พัฒนาระบบโดรน Dash Wing สำหรับการจัดส่งอาหารโดยเฉพาะ ซึ่งใช้การบินอัตโนมัติที่ควบคุมด้วย AI และสามารถบินได้ไกลถึง 20 กิโลเมตรต่อการชาร์จแบตเตอรี่หนึ่งครั้ง กรณีศึกษาเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ AI ในการเพิ่มความเร็ว ความปลอดภัย และประสิทธิภาพการดำเนินงาน ซึ่งเป็นต้นแบบที่น่าจะส่งผลต่อการพัฒนาระบบในกรุงเทพฯ ต่อไป

นวัตกรรมภายในประเทศ: Horrus และเทคโนโลยี 5G

นอกจากการนำเทคโนโลยีจากต่างประเทศเข้ามาปรับใช้แล้ว ประเทศไทยยังมีการลงทุนและพัฒนานวัตกรรมโดรนของตนเองด้วย หนึ่งในนั้นคือระบบโดรน Horrus ซึ่งเป็นระบบที่พัฒนาขึ้นภายในประเทศโดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G การผสมผสานระหว่างโดรนอัตโนมัติ, AI และเครือข่ายการสื่อสารความเร็วสูงอย่าง 5G ช่วยให้การควบคุมและการรับส่งข้อมูลเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีเสถียรภาพ เหมาะสำหรับการใช้งานในภาคอุตสาหกรรม การมีนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นเองนี้เป็นสัญญาณบวกที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของไทยในการสร้างรากฐานทางเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งสำหรับอนาคตของโลจิสติกส์อัตโนมัติ

ตารางเปรียบเทียบรูปแบบการจัดส่งระหว่างไรเดอร์แบบดั้งเดิมกับโดรนส่งของด้วย AI
คุณสมบัติ การจัดส่งโดยไรเดอร์ การจัดส่งโดยโดรน AI
ความเร็วในการจัดส่ง ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรและเส้นทาง อาจล่าช้าได้ง่าย รวดเร็วมาก สามารถบินข้ามการจราจรในเส้นทางตรง
ความสามารถในการบรรทุก จำกัดตามขนาดของกระเป๋าหรือพาหนะ หลากหลาย ตั้งแต่พัสดุขนาดเล็กจนถึงน้ำหนักมากกว่า 25 กก.
อุปสรรคสำคัญ การจราจรติดขัด, อุบัติเหตุบนท้องถนน, การปิดเส้นทาง สภาพอากาศเลวร้าย (ฝนตกหนัก, ลมแรง), เขตห้ามบิน
การพึ่งพาแรงงานมนุษย์ สูงมาก ต้องใช้พนักงานขับขี่ในทุกขั้นตอน ต่ำมาก ควบคุมและดำเนินงานโดยระบบอัตโนมัติเป็นหลัก
ความสามารถในการขยายบริการ จำกัดตามจำนวนไรเดอร์ที่มีในระบบ ขยายได้ง่ายด้วยการเพิ่มจำนวนฝูงโดรน

ผลกระทบต่ออาชีพไรเดอร์และระบบโลจิสติกส์

การเข้ามาของเทคโนโลยีโดรนส่งของอัตโนมัติไม่ได้เป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี แต่ยังส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อโครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อกลุ่มอาชีพไรเดอร์ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของระบบเศรษฐกิจแบบ Gig Economy ในปัจจุบัน

ภูมิทัศน์การจ้างงานที่กำลังเปลี่ยนแปลง

การใช้โดรนที่ควบคุมโดย AI ทำให้ความจำเป็นในการพึ่งพาแรงงานมนุษย์สำหรับงานจัดส่งลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าในช่วงแรกอาจเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างคนกับเทคโนโลยี แต่ในระยะยาว เมื่อระบบมีความเสถียรและครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น แนวโน้มที่งานของไรเดอร์จะถูกทดแทนโดยระบบอัตโนมัติก็มีความเป็นไปได้สูง สิ่งนี้ก่อให้เกิดความกังวลต่อความมั่นคงในอาชีพของไรเดอร์นับแสนรายที่พึ่งพารายได้จากการจัดส่งสินค้าเป็นหลัก การเปลี่ยนแปลงนี้อาจบีบให้เกิดการปรับตัวครั้งใหญ่ในตลาดแรงงาน ซึ่งอาจต้องมีการพัฒนาทักษะใหม่ (Reskilling/Upskilling) เพื่อรองรับตำแหน่งงานรูปแบบใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมและบำรุงรักษาระบบโดรนแทน

ข้อจำกัดและความท้าทายในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบโดรนเต็มรูปแบบยังคงมีความท้าทายอยู่หลายประการ หนึ่งในข้อจำกัดที่สำคัญคือสภาพอากาศ ดังที่เห็นจากกรณีของ DoorDash ซึ่งระบบโดรนยังไม่สามารถทำงานได้ในสภาวะอากาศเลวร้าย เช่น ฝนตกหนักหรือลมกระโชกแรง และต้องเปลี่ยนกลับไปใช้ไรเดอร์ตามเดิมเมื่อเงื่อนไขไม่เอื้ออำนวย นอกจากนี้ยังมีประเด็นด้านกฎระเบียบและข้อบังคับการบินในเขตเมืองที่ต้องมีความชัดเจนและรัดกุม เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างปลอดภัยและไม่รบกวนความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย ความท้าทายเหล่านี้หมายความว่าอาชีพไรเดอร์อาจจะยังไม่หายไปในทันที แต่อาจมีการปรับเปลี่ยนบทบาทและความสำคัญในระบบนิเวศของโลจิสติกส์

อนาคตของการจัดส่งพัสดุในเขตเมือง

การถือกำเนิดของบริการโดรนส่งของด้วย AI ในกรุงเทพมหานครเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าอนาคตของโลจิสติกส์ในเขตเมืองกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง เทคโนโลยีนี้มอบคำตอบที่มีประสิทธิภาพสำหรับปัญหาเรื้อรังอย่างการจราจรติดขัด โดยนำเสนอความเร็ว ความแม่นยำ และความสามารถในการขยายบริการที่เหนือกว่ารูปแบบเดิม

แม้ว่าเทคโนโลยีนี้จะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการนำมาใช้งาน และยังคงมีข้อจำกัดบางประการที่ต้องพัฒนาต่อไป แต่ศักยภาพในการปฏิวัติอุตสาหกรรมการจัดส่งนั้นไม่อาจปฏิเสธได้ การเปลี่ยนผ่านนี้จะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ไม่ใช่แค่กับบริษัทโลจิสติกส์และผู้บริโภค แต่ยังรวมถึงตลาดแรงงาน โดยเฉพาะอาชีพไรเดอร์ที่ต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ ดังนั้น การเกิดขึ้นของ “ส่งไว AI” จึงเป็นจุดเริ่มต้นของบทสนทนาที่สำคัญเกี่ยวกับความสมดุลระหว่างนวัตกรรมทางเทคโนโลยีกับผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจ ซึ่งทุกภาคส่วนจำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึง


กันยายน 2025
จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส. อา.
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930