“ฉันไม่คิดว่าฉันมีความใคร่ขนาดนั้น จนกระทั่งฉันเห็นเขาใส่ชุดเล็กๆ นั้น” วูปี้ โกลด์เบิร์ก (Whoopi Goldberg) กล่าวในสารคดีเรื่องใหม่ “Super/Man (ซูเปอร์แมน) : The Christopher Reeve Story” แน่นอนว่าวูปี้ โกลด์เบิร์กกำลังพูดถึงชุดรัดรูปสีน้ำเงินไฟฟ้าและผ้าคลุมสีแดงที่รีฟสวมใส่ในภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันเรื่องแรกของซีรีส์หนังสือการ์ตูนชื่อดังเรื่องนี้
ตั้งแต่นั้นมา ชุดสีน้ำเงิน แดง และเหลืองที่ตัวตนอีกด้านของคลาร์ก เคนท์สวมใส่ก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงมากนักตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับตัวละครที่เป็นฮีโร่ของเขา แม้ว่าแบทแมนจะเลิกใส่กางเกงรัดรูปแล้วหันมาใส่ชุดเกราะที่เข้มกว่าและดุดันกว่า แต่ซูเปอร์แมนยังคงแข็งแกร่งด้วยชุดเกราะที่เหมือนผิวหนังชั้นที่สองของเขา และแม้ว่าเราจะเคยเห็นชุดสีน้ำเงินหลากหลายเฉดสีตั้งแต่สีม่วงอมฟ้าไปจนถึงสีน้ำเงินโคบอลต์ และแม้แต่ชุดสีน้ำเงินครามของดีน เคนจากรายการทีวี “Lois & Clark” ในช่วงทศวรรษ 1990
ยูนิฟอร์มของซูเปอร์แมนยังคงสามารถจดจำได้ทันทีจากทุกยุคทุกสมัย ในความเป็นจริง มีภาพยนตร์เรื่อง Man of Steel ของ Zack Snyder ในปี 2013 เพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่ Superman ไม่ได้สวมกางเกงว่ายน้ำรัดเข็มขัดสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ของเขา
ภาพจาก: collider.com
Michael Wilkinson นักออกแบบเครื่องแต่งกายของภาพยนตร์เรื่องนี้บอกกับ CNN ทางอีเมลว่าชุดดังกล่าวนั้น “ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมของดาวบ้านเกิดของเขา ซึ่งก็คือดาวคริปตัน” Michael Wilkinson ได้รับแรงบันดาลใจจากชุดเกราะที่มีลักษณะเหมือนเกล็ดและรูปร่างกำยำของเผ่าคริปตัน “วันหนึ่ง เราได้วาดชุดดังกล่าวออกมาหลายแบบ โดยเราวาดแบบหนึ่งโดยไม่ใส่กางเกงชั้นใน และดูเหมือนว่าชุดนั้นจะเหมาะกับวิสัยทัศน์ของเรามากที่สุด”
สำหรับเจมส์ กันน์ (James Gunn) ผู้กำกับภาพยนตร์รีเมคเรื่อง “Superman” การฟื้นคืนชีพกางเกงชั้นในแบบหลายชั้นอีกครั้งถือเป็นกลยุทธ์ที่สร้างความประหลาดใจ “เขาต้องการเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังและความคิดบวก ดังนั้นเขาจึงแต่งตัวเหมือนนักมวยปล้ำอาชีพ” เจมส์ กันน์กล่าวในการสัมภาษณ์กับเว็บไซต์บันเทิง CinemaBlend เมื่อปีที่แล้ว “เขาแต่งตัวในแบบที่ทำให้ผู้คนไม่กลัวเขา”
แบรนด์แฟชั่นหรูจำนวนหนึ่งมองว่าฮีโร่ในหนังสือการ์ตูนเป็นแรงบันดาลใจ ในปี 2008 สถาบันเครื่องแต่งกายของพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทันในนิวยอร์กได้จัดนิทรรศการเกี่ยวกับซูเปอร์ฮีโร่ในหัวข้อ “แฟชั่นและแฟนตาซี” โดยมีชุดซูเปอร์ฮีโร่ประมาณ 60 ชุดจัดแสดง ตั้งแต่ชุดในภาพยนตร์ไปจนถึงชุดโอตกูตูร์ หนึ่งในชุดดังกล่าวคือชุดเดรสสีน้ำเงินเข้มของ Bernhard Willhelm นักออกแบบชาวเยอรมันในปี 2006 ที่มีโลโก้รูปตัว S ของ Superman สีเลือด
ภาพจาก: ktvz.com
“ทุกวันนี้ ภาพลักษณ์ของซูเปอร์ฮีโร่ได้แผ่กระจายไปทั่วแทบทุกแง่มุมของวัฒนธรรมสมัยนิยม” แอนดรูว์ โบลตัน (Andrew Bolton) ผู้ดูแลสถาบันกล่าวในตอนนั้น “เครื่องแต่งกายอันเป็นเอกลักษณ์ของซูเปอร์ฮีโร่ ได้แก่ เสื้อคลุม หน้ากาก และชุดรัดรูปนั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงตามแฟชั่นมากมาย แต่การยอมรับซูเปอร์ฮีโร่ในแฟชั่นนั้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่เรื่องของสัญลักษณ์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเรื่องของอัตลักษณ์ รสนิยมทางเพศ และชาตินิยมด้วย” เขากล่าวเสริมว่าแฟชั่นนั้นมีความคล้ายคลึงกับซูเปอร์ฮีโร่ “โดยธรรมชาติแล้ว ความยืดหยุ่นเชิงเปรียบเทียบที่หล่อเลี้ยงความหลงใหลในแนวคิดและอุดมคติของซูเปอร์ฮีโร่”
ไม่กี่ปีต่อมา นักออกแบบแฟชั่นชาวอเมริกันได้ออกแบบชุดเดรสยาวสีน้ำเงินเข้มประดับเลื่อมสำหรับคอลเลกชันฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาวปี 2011 ของ Moschino ด้านหน้ามีโลโก้ “S” ที่ออกแบบใหม่ โดยตัวอักษรถูกแทนที่ด้วยเครื่องหมายคำถาม ขณะที่ผ้าทูลสีแดงที่ติดอยู่กับชุดนั้นลากยาวไปด้านหลังเหมือนเสื้อคลุมที่หรูหรา “คุณควรสนุกกับแฟชั่น” สก็อตต์บอกกับ Vogue ในเวลานั้น
นอกจากนี้เขายังนำเสนอเสื้อกล้ามสีน้ำเงินไฟฟ้าพร้อมเครื่องหมายคำถามแบบเดียวกัน ในปีถัดมา ชาแนลได้จัดแสดงโชว์ฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2012 ภายในสถานที่ที่สื่อมวลชนเปรียบเทียบว่าเป็นรังคริสตัลของ Superman จาก Fortress of Solitude นางแบบเดินไปรอบๆ แร่สีม่วงและสีดำขนาดใหญ่ที่ยื่นออกมาจากพื้นซึ่งปกคลุมไปด้วยทรายสีขาว
ภาพจาก: medium.com
และไม่ใช่แค่เพียงนางแบบเท่านั้นที่สวมโลโก้รูปตัววีอันเป็นเอกลักษณ์ ในช่วงทศวรรษ 1990 และ 2000 Superman “S” ได้กลายเป็นยูนิฟอร์มที่แปลกประหลาดสำหรับผู้คนในยุคปัจจุบัน บิลลี คอร์แกน นักร้องนำวง Smashing Pumpkins สวมเสื้อสเวตเตอร์สีดำที่มีตราสัญลักษณ์เป็นสีชมพูและสีเหลืองเพื่อไปชมการแสดงที่ชิคาโกในปี 1993 (มีคำว่า “Superslut” อยู่บนแขนเสื้อ) วงยังใส่สัญลักษณ์ “S” อันเป็นเอกลักษณ์ลงในสินค้าของตนเองด้วย ในขณะที่เอ็มมิเน็มได้สร้างเวอร์ชั่น “Super-E” ย้อนกลับของเขาเองในปี 2002
ซึ่งแตกต่างจากภาพลักษณ์แบบดั้งเดิมของความเป็นชายที่ไร้ที่ติของคริสโตเฟอร์ รีฟในยุค 1970 มาก โดยเขาออกกำลังกายวันละหลายชั่วโมงเพื่อให้แน่ใจว่า Superman ไม่ใช่ “ถั่วฝักยาว” แต่เมื่อถึงศตวรรษใหม่ ตัวละครในหนังสือการ์ตูนก็ถูกนำไปใช้โดยนักดนตรีและนักสร้างสรรค์จำนวนมากที่มีความสามารถด้านศิลปะมากกว่าด้านกีฬา “เมื่อฉันค้นคว้าเกี่ยวกับชุดซูเปอร์แมนเพื่อเตรียมการออกแบบ ฉันก็รู้ว่าชุดนี้มีความหมายมากเพียงใด” วิลกินสันกล่าว
“มีคนจำนวนมากนำชุดดังกล่าวมาปรับแต่งให้เข้ากับตัวเอง ใช้เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของตนเองจากมุมมองของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวที่แสดงถึงความเคารพ ประชดประชัน หรือเรื่องราวอื่นๆ ฉันคิดว่าชุด Superman กระตุ้นให้เกิดการพูดคุยถึงแนวคิดเรื่อง ‘อุดมคติ’ หรือ ‘ความสมบูรณ์แบบ’ ซึ่งเป็นแนวคิดที่ศิลปินสร้างสรรค์หลงใหลมาเป็นเวลาหลายพันปี”
ภาพจาก: herfashionstore.com
ดูเหมือนว่าวันนี้เราจะเห็นกระแสแฟชั่นซูเปอร์ฮีโร่กลับมาอีกครั้ง เมื่อฤดูร้อนที่แล้ว Marc Jacobs ได้นำเสื้อสเวตเตอร์แคชเมียร์พิมพ์ลายตัว “S” แบบคลาสสิกที่ออกแบบในช่วงปลายทศวรรษ 1990 กลับมาวางจำหน่ายอีกครั้ง เสื้อสเวตเตอร์แบบทันสมัยตัวนี้ผลิตขึ้นโดยร่วมมือกับ Nigo นักออกแบบสตรีทแวร์ โดยทำจากผ้าอัลปาก้าผสมขนแกะเมอริโน และวางจำหน่ายในราคา 495 เหรียญสหรัฐ
ผู้ที่ทราบเรื่องนี้คงเคยเห็นเสื้อจัมเปอร์ตัวนี้ในบรรดาแขกที่มาร่วมงาน London Fashion Week เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ในทำนองเดียวกัน มีคนเห็นเสื้อยืด Superman ที่ดูวินเทจอยู่ด้านนอกโชว์ Coach ประจำฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2024 ที่งาน New York Fashion Week
ไม่ใช่ว่านกหรือเครื่องบิน แต่เป็นโลโก้ของ Superman ที่คุณเห็นอยู่ โดยเฉพาะถ้าคุณอยู่ในงานแสดงรันเวย์
ที่มา edition.cnn.com