Shopping cart

       “เทศกาลกินเจ” เป็นเทศกาลที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 15 ตุลาคม ถึงวันที่ 23 ตุลาคม 2566 อาหารเจ คืออาหารที่ปรุงโดยปราศจากเนื้อสัตว์ทั้งปวงและต้องงดเว้นผักที่มีกลิ่นหอมฉุน 5 ชนิด คือ กระเทียม หลักเกียว (กระเทียมโทน) หอมทุกชนิด (ต้นหอม หอมแดง หอมหัวใหญ่) กุยช่าย และ ใบยาสูบ ผู้ที่เลือกกินอาหารเจที่มีประโยชน์ นอกจากจะทำให้สุขภาพดี ยังได้ผลบุญจากการละเว้นชีวิตสัตว์ด้วย

 

อาหารเจกับอาหารมังสวิรัติ แตกต่างกันหรือไม่?

อาหารมังสวิรัติ มี 5 ประเภทหลักๆ คือ 

    1. Lacto-vegetarian คือ มังสวิรัติที่งดเว้นเนื้อสัตว์ทุกชนิด และไข่ แต่สามารถกินนม และผลิตภัณฑ์จากนม เช่น โยเกิร์ต เนย ชีส ได้
    2. Ovo-vegetarian คือ มังสวิรัติที่งดเว้นเนื้อสัตว์ทุกชนิด นมและผลิตภัณฑ์จากนม แต่สามารถกินไข่ได้
    3. Lacto-ovo vegetarian คือ มังสวิรัติที่งดเว้นเนื้อสัตว์ทุกชนิด แต่สามารถกิน ไข่ นมและผลิตภัณฑ์จากนมได้
    4. Pescatarian คือ มังสวิรัติที่งดเว้น ไข่ นมและผลิตภัณฑ์จากนม เนื้อสัตว์ทุกชนิด ยกเว้นปลา
    5. Vegan คือ มังสวิรัติที่งดเว้นทั้ง ไข่ นม และเนื้อสัตว์ทุกชนิด ซึ่งจะใกล้เคียงกับอาหารเจ

       แต่การกินอาหารเจแตกต่างตรงข้อกำหนดที่ต้องงดเว้นผักที่มีกลิ่นหอมฉุน 5 ชนิด ซึ่งได้กล่าวไปแล้ว

 

อาหารเจ…กินโปรตีนจากแหล่งใดได้บ้าง

การงดเว้นเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ในช่วงเทศกาลกินเจ อาจทำให้เราได้รับโปรตีนไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายได้ จึงควรเลือกแหล่งอาหารจากพืชที่ให้โปรตีนสูง ซึ่งได้แก่ 

  1. ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง
  • นมถั่วเหลือง น้ำเต้าหู้ เต้าหู้แข็ง เต้าหู้นิ่ม เต้าหู้หลอด ฟองเต้าหู้ เต้าหู้พวง เต้าฮวย โปรตีนเกษตร
  1. ถั่วอื่นๆที่นอกเหนือจากถั่วเหลือง 
  • ถั่วเมล็ดแห้ง เช่น ถั่วแดง ถั่วดำ ถั่วเขียว ถั่วลันเตา 
  • ถั่วเปลือกแข็ง เช่น ถั่วลิสง อัลมอนด์ เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ พิตาชิโอ แมคคาเดเมีย
  1. เนื้อเทียม

      เนื้อเทียมจากแป้งสาลี (Wheat gluten) หรือที่เรียกว่า “หมี่กึง” เช่น หมูเจ ปลาเจ เนื้อเป็ดเจ ลูกชิ้นเจ ไส้กรอกเจ หมี่กึงนี้คือ โปรตีน“กลูเต็น”(Gluten) ที่ได้มาจากการนวดแป้งสาลีแล้วล้างเอาแป้งออก เหลือเพียงโปรตีนที่มีลักษณะใส สามารถนำไปปั้นหรือแปรรูปให้เป็นเนื้อสัตว์เทียมชนิดต่างๆ ได้ ทำให้มีรูปร่าง ลักษณะคล้ายเนื้อสัตว์ แต่เนื้อสัมผัสจะมีความเด้ง ยืดหยุ่น ไม่เหมือนเนื้อสัตว์จริง เนื่องจากเนื้อเทียมนี้ทำมาจาก กลูเต็น ผู้ที่แพ้กลูเต็นหรือป่วยด้วยโรค Celiac disease ควรหลีกเลี่ยง

  1. เนื้อไร้เนื้อ (Plant-Based Meat) 

      เนื้อไร้เนื้อ (Plant-Based Meat) คือเนื้อเทียมทางเลือกใหม่ที่ใช้ทดแทนเนื้อสัตว์จริง ทำมาจากพืชหลายชนิด เช่น ข้าว ธัญพืช ถั่วเมล็ดแห้ง ถั่วเปลือกแข็ง น้ำมันพืชและพืชชนิดอื่นๆ ซึ่งลักษณะเนื้อสัมผัสมีความคล้ายกับเนื้อสัตว์จริง รวมไปถึงคุณค่าทางโภชนาการที่ใกล้เคียงเนื้อสัตว์จริง เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน นอกจากนี้ ยังมีการเติมสารอาหารจำเป็นที่ไม่มีในพืชลงไปด้วย เนื้อสัตว์ชนิดนี้กำลังเริ่มวางขายในประเทศไทย มีทั้งหมูสับ หมูกรอบ หมูเบอร์เกอร์ แต่ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับเนื้อสัตว์ทั่วไป

*ข้อแตกต่างของโปรตีนจากเนื้อเทียม 2 ชนิดนี้ คือ โปรตีนจากหมี่กึงมีกรดอะมิโนจำเป็นไม่ครบถ้วน ในขณะที่เนื้อไร้เนื้อมีการสังเคราะห์ให้มีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน

ตัวอย่างจานอาหารสุขภาพเจ

      • ข้าวกล้อง + ผัดถั่วงอกใส่เต้าหู้ +  แกงส้มเจใส่โปรตีนเกษตร
      • ข้าวไรซ์เบอร์รี่ + ลาบเต้าหู้เห็ดรวมมิตร + ผักสด + แกงเลียง 
      • ข้าวกล้อง+ ผัดพริกขิงโปรตีนเกษตร + แกงจืดผักกาดขาวฟองเต้าหู้
      • ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กน้ำใสเต้าหู้ โปรตีนเกษตร
      • ข้าวกะเพราโปรตีนเกษตรใส่ผักรวม + ซุปเต้าหู้สาหร่ายวากาเมะ

 

       นอกจากจานอาหารสุขภาพ 1 จานหลักต่อมื้อแล้ว หากเราหิวในช่วงระหว่างวัน เราสามารถเลือกกินอาหารว่างที่มีประโยชน์และเหมาะสมกับช่วงเทศกาลกินเจได้ ซึ่งในครั้งหน้ามาติดตามหัวข้อ อาหารว่างในเทศกาลกินเจกันนะคะ

 

ประโยชน์ของการกินเจ

1.อาหารเจช่วยให้ระบบย่อยอาหารได้หยุดพักจากการทำงานหนักเป็นเวลานาน     

       อาหารเจส่วนใหญ่จะเน้นพืชและผักเป็นหลัก ผสมกับอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต และโปรตีนจากถั่วที่ย่อยได้ง่ายกว่าประเภทเนื้อสัตว์และไขมันมาก จึงทำให้ระบบย่อยอาหารได้หยุดพักจากการทำงานหนัก ๆ มาตลอดทั้งปี ทั้งกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ ถุงน้ำดี ก็จะมีความแข็งแรงมากขึ้นด้วย

 

2.ล้างพิษให้กับร่างกายของเรา

       ผัก ผลไม้ที่เรากินนอกจากจะย่อยง่ายแล้ว ยังเป็นกากใยชั้นเลิศที่ช่วยทำให้ระบบขับถ่ายและการย่อยอาหารของเราทำงานได้ดี เมื่อกินเข้าไปมาก ๆ ก็จะช่วยขับของเสียและสารพิษที่ตกค้างอยู่ในร่างกายของเราออกมา ทั้งยังช่วยแก้ปัญหาท้องผูกที่เป็นปัญหาเรื้อรังสั่งสมมานานของใครหลายคนที่ชอบกินเนื้อ

 

3.ลดความเสี่ยงจากโรคร้าย

       ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดและสมอง ไขมันอุดตันในเส้นเลือด ริดสีดวงทวาร โรคเกาต์ ฯลฯ ต้องชิดซ้าย ถ้าเรากินอาหารเจเป็นประจำ เพราะอาหารเจจำพวกผัก ผลไม้มีเส้นใยอาหารที่ช่วยป้องกันมะเร็ง ช่วยลดคอเลสเตอรอล ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ต่างจากอาหารจำพวกเนื้อแดงและไขมันที่เต็มไปด้วยไขมันที่ไม่ดีและคอเลสเตอรอลตัวร้ายที่คุกคามสุขภาพของเรา

 

4.ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวลขึ้น

       ใครจะเชื่อว่าการกินเจก็ช่วยให้ผิวพรรณสดชื่นขึ้นได้ แต่นี่เป็นความจริงอย่างมิต้องคลางแคลงใจเลย เพราะวิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระและสารพัดสารพฤกษเคมีในผัก ผลไม้ต่าง ๆ ยิ่งกินมากก็ยิ่งช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูเปล่งปลั่ง สดใส ไม่หย่อนคล้อยก่อนวัยอีกด้วย

5.ไม่เจ็บไม่ป่วยง่าย

      เมื่อรับประทานอาหารเจเป็นประจำ จะทำให้เลือดได้รับการฟอกให้สะอาดขึ้นเรื่อย ๆ มีผลให้เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายเสื่อมสลายช้าลง เราจะรู้สึกว่าตัวเองแข็งแรงและมีสุขภาพดีขึ้น ไม่เจ็บไม่ป่วยง่าย ๆ เหมือนเดิมอีกแล้วล่ะ

 

6.ลดน้ำหนักได้ ถ้าหากเลือกกินแต่ของดี มีประโยชน์

       ถึงแม้ว่าอาหารเจจะเน้นกินผักและธัญพืช แต่ก็มีแป้งด้วย แล้วยิ่งเราเลือกหม่ำเมนูที่ใช้น้ำมันผัด ๆ ทอด ๆ หรือปรุงรสด้วยน้ำตาลมากเกินไป ก็ไม่ต้องคิดเลยว่าอาหารเจของเราจะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่จะช่วยลดความอ้วนได้ยังไง ดังนั้นถ้าอยากจะเห็นน้ำหนักที่ลดลงเมื่อกินอาหารเจไปได้สักพัก ก็ต้องเลือกทานอาหารเจให้ผอมตามนี้

  • เลือกกินข้าวหรือแป้งที่ไม่ขัดขาว เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต ลูกเดือย ธัญพืชต่าง ๆ
  • เลือกผักใบมากกว่าพืชหัว เพราะผักใบมีคาร์โบไฮเดรตที่น้อยกว่าพืชหัวมาก ดังนั้น การกินผักใบจะทำให้เราได้พลังงานและปริมาณแป้งน้อยกว่าจึงไม่ทำให้อ้วน
  • เลือกกินของนึ่ง ต้ม ตุ๋น ดีกว่าของทอดและผัด เพราะช่วยให้เลี่ยงการกินน้ำมัน ซึ่งมีไขมันอยู่สูง
  • กินหวานให้น้อยลง ไม่ใช่ว่าเมื่อคุณทานอาหารเจแล้วจะสามารถกินขนมหวานได้เต็มที่ เพราะไม่ว่าจะเป็นอาหารเจหรือไม่เจ ถ้ามีความหวานและผสมน้ำตาลอยู่มากก็อ้วนได้ไม่ต่างกัน
  • ดื่มนมถั่วเหลืองไม่เกินวันละ 2-3 กล่อง
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอควบคู่ไปกับการกินอาหาร

 

       การกินเจไม่ได้แย่อย่างที่หลายๆ คนคิด การทานอาหารเจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ เพราะอาจทำให้ร่างกายได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ และอาจขาดวิตามินบางชนิด แต่จะเห็นได้ว่าการกินอาหารเจนั้นก็มีประโยชน์อยู่ไม่น้อยเช่นกัน หากเราเลือกกินให้เหมาะสม เลือกกินโปรตีนจากพืชให้เพียงพอ และการเสริมวิตามินบางชนิดในรูปแบบอาหารเสริมในผู้ที่กินอาหารเจต่อเนื่องยาวนาน ก็สามารถทำให้เรามีสุขภาพดีได้

  

 

ที่มา: heptarin.com

ใส่ความเห็น

พฤศจิกายน 2024
จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส. อา.
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930  
X