Shopping cart

      วิธีดูแลสุขภาพจิตให้แข็งแรง หลายครั้งที่วิธีดูแลสุขภาพจิตของเราให้แข็งแรงเป็นเรื่องยาก มีปัญหามากมายต่างกระทบต่อจิตใจ จนทำให้บางครั้งเราไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่าร่างกายและจิตใจเราตอนนี้อ่อนแอเกินไป การดูแลสุขภาพจิตให้แข็งแรงจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เพราะสุขภาพจิตของเรามีผลต่อ ความรู้สึก ความคิด และการตอบสนองต่อสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเราเอง หากเรามีสุขภาพจิตที่ดีเราก็จะสามารจัดการกับปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราได้เป็นอย่างดี เราสามารถที่จะดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างปกติและมีความสุขได้ ร่วมถึงรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบตัวของเราด้วย

     ในทางกลับกัน หากเรามีสุขภาพจิตที่ไม่ดี นอกจากจะส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของเราแล้ว ยังส่งผลต่อสุขภาพกายของเราด้วย ไม่ว่าจะเป็น อาการนอนไม่หลับ หรือนอนมากเกินไป เบื่ออาหาร หรือทานอาหารมากจนเกินไป อ่อนเพลีย ท้องเสีย มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็ง ไมเกรน ความดัน โลหิตสูง เบาหวาน หรือโรคซึมเศร้า เป็นต้น

สิ่งที่ส่งผลต่อภาวะอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็น ตื่นเต้น มีความสุข โกรธ เสียใจ ดีใจ กระวนกระวายใจ เครียด หรือเศร้าใจ เป็นสิ่งปกติในชีวิตของมนุษย์ แต่หากเรามีภาวะอารมณ์ในด้านลบ เช่น เครียด หรือเศร้าใจต่อเนื่องกันเป็นเวลายาวนาน และมีความรุนแรง อาจส่งผลต่อสุขภาพจิต ทำให้เราเป็นโรคซึมเศร้า หรือโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวกับภาวะทางจิตใจได้

      ดังนั้นการดูแลสุขภาพจิตของเราให้แข็งแรงและเบิกบานเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้เราสามารถดำเนินชีวิตของเราได้อย่างมีความสุข และมีสติปัญญาที่เบิกบาน และโปร่งใสในการจัดการกับปัญหาต่างๆ ที่อาจเข้ามาในชีวิต

       เรามีบทความจิตวิทยา การดูแลสุขภาพจิตของเราให้แข็งแรง ที่น่าสนใจด้วยกันทั้งหมด 9 วิธี เพื่อให้เรามีจิตใจที่เบิกบานแจ่มใส สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุข มาฝากกันค่ะ

 

9 วิธีดูแลสุขภาพจิตให้แข็งแรง

  1. รักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง

       มีผลการศึกษามากมาย ชี้ให้เห็นว่า ความเหงา เป็นตัวแปรหนึ่งที่เป็นต้นกำเนิดของปัญหาสุขภาพจิต มนุษย์เราเป็นสัตว์สังคม เราต้องการการยอมรับ ต้องการมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบตัว ดังนั้น การรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบตัวจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในวันที่เราประสบปัญหาชีวิต การมีคนที่เราไว้ใจ เช่น เพื่อนสนิท หรือคนในครอบครัว คอยอยู่ข้างๆ และให้กำลังใจ จะช่วยทำให้เราผ่านปัญหา และช่วงเวลาที่ยากลำบากนั้นไปได้ง่ายขึ้น 

      การบอกถึงความรู้สึกของเรา การขอความช่วยเหลือ ไม่ใช่การแสดงความอ่อนแอใดๆ แต่เป็นการแสดงความเข้มแข็ง ในการยอมรับและซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง เมื่อเรายอมรับและอยู่กับความรู้สึกที่เกิดขึ้น จะช่วยให้เราผ่านช่วงเวลาของการเศร้าเสียใจได้เร็วขึ้น

 

  1. การออกกำลังกาย

       การออกกำลังกาย มีส่วนช่วยรักษาและพัฒนาสุขภาพจิต เป็นอย่างมาก นอกจากการออกกำลังกาย จะช่วยให้ร่างกายของเราแข็งแรงแล้ว ยังช่วยทำให้เรานอนหลับได้ง่ายขึ้น ในระหว่างการออกกำลังกาย ร่างกายจะหลั่งสารเอนโดรฟิน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข ช่วยทำให้เรารู้สึกดีขึ้น ดังนั้นการแบ่งเวลาเพื่อออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งต่อสุขภาพกายและใจของเราเอง

 

  1. พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง

       การมีเป้าหมายในชีวิต หรือ การใช้ชีวิตแบบมีจุดมุ่งหมาย เป็นสิ่งที่จะช่วยให้เรามีความสุขอย่างแท้จริง มนุษย์ทุกคนต้องการการเติบโต การมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าเราต้องการอะไร อยากทำอะไรและลงมือทำ เมื่อเราได้เห็นพัฒนาการของตัวเอง สัมผัสถึงความสำเร็จเมื่อเราบรรลุเป้าหมายนั้นๆ จะช่วยทำให้เรามีชีวิตที่มีความหมายมากขึ้น และที่สำคัญ เป็นความสุขอย่างแท้จริง ที่ยั่งยืนในการมีชีวิต

      วันนี้ ให้ลองถามตัวเองว่า มีอะไรบ้างที่เราอยากจะทำ อยากจะเติบโต หรือเรียนรู้ เช่น อยากจะเป็นนักเขียน อยากจะเขียนหนังสือสักเล่ม ก็วางแผน และลงมือทำ เมื่อวันที่เราทำมันสำเร็จ นอกจากเราจะรู้สึกภูมิใจกับความสำเร็จในการบรรลุเป้าหมายนั้น ๆ แล้ว เรายังเติบโตในเชิงของทักษะที่เราพัฒนาระหว่างทางอีกด้วย

 

  1. รู้จักขอบคุณสิ่งต่างๆ ในชีวิต

      บ่อยครั้งที่เราไม่มีความสุขกับชีวิต เครียด เศร้าใจ เพราะเราโฟกัสในสิ่งที่ขาด สิ่งที่เรายังไม่มี ปัญหาของเรา โดยลืมคิดไปว่า ในชีวิตนี้ยังมีเรื่องอื่นๆ และสิ่งอื่นๆ อีกมากมาย ที่มันดีงาม และ เราสามารถสร้างประโยชน์ได้

  • การรู้จักขอบคุณสิ่งต่างๆ รอบตัวในแต่ละวัน แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ จะทำให้เราฝึกมองโลกในแง่ดี
  • มองเห็นสิ่งที่มี และพร้อมที่จะลงมือทำ และสร้างชีวิตของตัวเองให้ดีขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เราสามารถขอบคุณ ในวันที่ตื่นเช้าขึ้นมาแล้วมีร่างกายที่แข็งแรง 

      อย่าลืมว่า ในโลกใบนี้ มีคนอีกจำนวนมากที่ไม่สามารถตื่นขึ้นมาทำในสิ่งที่เรากำลังจะทำได้ เพราะเขากำลังป่วย การมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงก็เป็นเรื่องที่น่าขอบคุณอย่างยิ่งแล้วในชีวิต

 

  1. ตรวจสอบตัวเอง

      การตรวจสอบตัวเองว่าเรายังรู้สึกโอเคอยู่ไหมด้วยคำถามดังต่อไปนี้ จะช่วยให้เรารู้เท่าทันว่าเรากำลังมีสุขภาพจิตที่ดีอยู่หรือไม่

  •  ฉันยังสนใจในเรื่องที่ฉันเคยสนใจอยู่หรือไม่?  
  •  ฉันรู้สึกไม่สบายใจ โกรธ หรือเศร้ามากกว่าปกติหรือไม่?  
  •  ฉันดื่มแอลกอฮอร์มากกว่าที่เคยดื่มหรือเปล่า?  
  •  ฉันมีปัญหาในการนอนหรือไม่ ฉันนอนหลับสนิทหรือไม่ในแต่ละคืน?  
  •  ฉันมีปัญหาเรื่องการกินหรือไม่ ไม่ค่อยอยากทานอาหาร หรือทานอาหารมากเกินไปหรือไม่?  
  •  ฉันรู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรงกว่าปกติหรือไม่  
  •  คนรอบตัวบอกว่าฉันมีภาวะอารมณ์ที่แปรปรวนหรือไม่ 

      หากคุณมีปัญหาข้อหนึ่งข้อใดในคำถามข้างต้น แสดงว่าคุณกำลังมีภาวะปัญหาด้านสุขภาพจิต ที่ควรหันมาสนใจที่จะแก้ไข

 

  1. ฝึกสมาธิ

      การฝึกสมาธิ จะช่วยทำให้เราจดจ่อกับปัจจุบันขณะ เพราะภาวะความเครียดและวิตกกังวล เกิดจากความคิดของเรา ที่เราส่งใจไปคิดถึงอดีต หรืออนาคต และปรุงแต่งเหตุการณ์ต่างๆ ด้วยจินตนาการของเรา

      การฝึกสมาธิ จะช่วยให้เราอยู่กับปัจจุบัน และทำปัจจุบันให้ดี ช่วยให้เรารู้เท่าทันอารมณ์ที่เกิดขึ้นจากการมากระทบของปัจจัยภายนอก เมื่อเรารู้เท่าทันอารมณ์ เราก็เลือกที่จะตอบสนองต่อสิ่งเร้านั้นอย่างถูกต้องและเหมาะสม ไม่เกิดปัญหาตามมาในอนาคต 

 

  1. ดูแลตัวเอง

      การรักตัวเองและหมั่นดูแลตัวเอง เป็นเรื่องสำคัญที่เราไม่จำเป็นต้องรอให้ใครมาบังคับหรือทำให้เราควรแบ่งเวลาในการดูแลตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น การกินอาหารที่มีประโยชน์ ดูแลรูปร่างของเราโดยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอนหลับให้เพียงพอ หาเวลาพักผ่อนหย่อนใจ เช่น หางานอดิเรกที่เราชอบทำ ดูหนัง ฟังเพลง เป็นต้น

  1. นอนหลับให้เพียงพอ

       การนอนหลับให้เพียงพอ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน เป็นเรื่องที่สำคัญ​ ที่จะช่วยให้เราได้พักผ่อน และมีแรงเพื่อทำงาน และจัดการกับชีวิตในวันรุ่งขึ้น การนอนหลับไม่เพียงพอต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะมีผลต่อสุขภาพกายของเรา และอาจทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้ด้วยเช่นกัน

 

  1. อย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือ

      เมื่อใดก็ตามที่เรารู้สึกว่า เรากำลังมีปัญหาด้านสุขภาพจิต นอกจากจะขอความช่วยเหลือจากคนที่เรารักและไว้ใจ การขอความช่วยเหลือหรือพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการดูแลรักษาจิตใจตัวเอง ซึ่งก็เหมือนกับเวลาที่เราเจ็บป่วยและไปหาหมอเช่นกัน

      นี่คือ 9 วิธีดูแลสุขภาพจิตให้แข็งแรง เพื่อชีวิตที่แข็งแรงและมีความสุข สำหรับใครที่กำลังเครียด กังวล คิดมาก ทั้งเรื่องของปัญหา Burn Out จากการทำงาน ปัญหาความสัมพันธ์ต่างๆ ในครอบครัว คนรัก ไปจนถึงภาวะต่างๆ เช่น ซึมเศร้า ทุกปํญหาสำคัญและเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเราเสมอจนเราเองที่ลืมดูแลตัวเอง หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพจิตของเราบ้างเดี๋ยวจะป่วยเอาได้นะคะ มาปรับเปลี่ยนวิธีคิดเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นกันค่ะ 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก: istrong.co

ใส่ความเห็น

พฤศจิกายน 2024
จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส. อา.
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930  
X