การเลือกทานอาหารที่ช่วยบำรุงดวงตาได้อย่างดีคือ การรับประทานผลไม้ในช่วงท้องว่างหรือก่อนมื้ออาหารหลายชั่วโมง เพื่อให้ได้ วิตามินบำรุงสายตา จากผักผลไม้อย่างเต็มที่ ยิ่งหากเป็นการดื่มน้ำผักผลไม้ก็ยิ่งทำให้ร่างกายดูดซึมวิตามินต่าง ๆ โดยเฉพาะวิตามินซีและเกลือแร่ได้อย่างดีทีเดียว สูตรน้ำผักผลไม้เพื่อให้ได้ วิตามินบำรุงสายตา
7 เครื่องดื่มบำรุงสายตาจากผักผลไม้
-
น้ำแช่ผัก ผลไม้ (Infused Water)
คือการนำผักผลไม้ที่ต้องการอย่างเช่น เลม่อน ส้ม แอปเปิ้ล มาหั่นและใส่ในน้ำอาด แช่ไว้ประมาณสองชั่วโมงเพื่อให้น้ำดื่มมีรสชาติของผลไม้ นอกจากทำง่ายแล้วยังเป็นตัวช่วยสำหรับคนไม่ชอบดื่มน้ำเปล่าให้น้ำพอมีรสชาติผลไม้ ดื่มได้ง่ายและสดชื่น ป้องกันร่างกายขาดน้ำซึ่งอาจทำให้ตาแห้ง ตาแดง หรือตาบวมได้
-
สมูทตี้ผักผลไม้รวม
สูตรที่ 1 มะม่วงและสัปปะรดแช่แข็ง ปั่นผสมกับผักใบเขียวอย่างปวยเล้ง และน้ำมะพร้าว เพียงเท่านี้ก็จะได้สมูทตี้ที่เปี่ยมไปด้วยลูทีน ซีแซนทีน และวิตามินซี พร้อมบำรุงร่างกาย รวมไปถึงน้ำมะพร้าวที่เหมาะกับการดื่มหลังออกกำลังกายด้วย
สูตรที่ 2 กล้วย บลูเบอร์รี่ ทับทิม และผักใบเขียว นำมาปั่นรวมกัน ได้ทั้งลูทีน วิตามินซี โพแทสเซียม และไฟเบอร์ เป็นเครื่องดื่มที่ดื่มได้ง่าย มีรสชาติอร่อย บำรุงทั้งดวงตาและระบบอื่นๆในร่างกายด้วย
-
น้ำแครอท
น้ำแครอท อุดมไปด้วยวิตามินเอ ที่มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่ออาการตาฟาง และปัญหาอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อสุขภาพดวงตา ช่วยปรับปรุงสุขภาพจอประสาทตา อีกทั้งยังมีเบต้าแคโรทีน ที่ถือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มาช่วยปกป้องพื้นผิวของดวงตา และยังช่วยยับยั้งจอประสาทตาเสื่อมและต้อกระจก นอกจากนั้นแครอทยังมีลูทีนมาช่วยปกป้องดวงตาจากแสงโทรศัพท์และดวงอาทิตย์ พร้อมด้วยซีแซนทีนที่ก็ดีต่อสุขภาพดวงตาเช่นกันค่ะ
-
น้ำว่านหางจระเข้
น้ำว่านหางจระเข้ ก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพดวงตาเช่นกันค่ะ เนื่องจากว่านหางจระเข้อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี วิตามินอี ที่มีสำคัญต่อดวงตา พร้อมด้วยแร่ธาตุอย่างซีลีเนียม ซิงค์ และแมกนีเซียม ที่ก็มีส่วนช่วยในการมองเห็นอีกด้วยค่ะ
-
น้ำปวยเล้ง ผักเคล บรอกโคลี
น้ำผักใบเขียว ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มที่ดีต่อดวงตาค่ะ โดยเฉพาะปวงเล้ง ผักเคล และบรอกโคลี ดื่มแบบเดี่ยวๆ ก็ดี หรือจะนำมาปั่นรวมกันก็จะทำให้รสชาติอร่อยขึ้นค่ะ ซึ่งผักเคลนั้นอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินเค ที่สำคัญต่อดวงตา พร้อมด้วยลูทีนและซีแซนทีนที่มาช่วยปกป้องเรตินาจากความเสียหายอันเนื่องมาจากแสง และยังช่วยปรับปรุงการมองเห็นของเราได้อีกด้วย นอกจากนั้นผักเคลยังช่วยลดความเสี่ยงของจอประสาทตาเสื่อมและต้อกระจก
สำหรับบรอกโคลี อุดมไปด้วยไฟเบอร์ แคลเซียม และฟอสฟอรัสที่ดีต่อสุขภาพดวงตา อีกทั้งยังมีวิตามินบีและกรดโฟลิค ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงสายตาของเราค่ะ
ในขณะที่ปวยเล้ง อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีส่วนช่วยในเรื่องการมองเห็น อีกทั้งยังมีวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินเค แมกนีเซียม แมงกานีส และธาตุเหล็ก ที่มาช่วยบำรุงทั้งสายตาและลดอาการตึงเครียดทางสายตาจากการจ้องหน้าจออิเล็กทรอนิกส์
-
น้ำแครอท บีท แอปเปิ้ล
อีกหนึ่งการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างแครอท บีท และแอปเปิ้ล ซึ่งล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ต่อดวงตา โดยบีทอุดมไปด้วยลูทีนและซีแซนทีน มาช่วยดูดซับแสงสีฟ้าที่อาจเป็นอันตรายต่อเรตินา ช่วยบำรุงจอประสาทตา ลดความเสี่ยงของจอประสาทตาเสื่อม อีกทั้งยังมีไนเตรต มาช่วยควบคุมความดันโลหิตที่มักจะส่งผลเสียต่อสุขภาพดวงตา
ส่วนแครอท ก็อย่างที่ทราบกันแล้วว่า อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีนที่จะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ซึ่งมีความสำคัญต่อสุขภาพดวงตาโดยรวม ช่วยปกป้องการมองเห็น ช่วยให้ดวงตาแข็งแรง ทำงานได้ดีขึ้น และป้องกันปัญหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการมองเห็นค่ะ
แอปเปิ้ล อุดมไปด้วยไบโอฟลาโวนอยด์ ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องของการส่งเสริมสุขภาพการมองเห็น โดยเฉพาะแอปเปิ้ลสีแดง ที่เป็นแหล่งของวิตามินเอ ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพดวงตาเช่นกันค่ะ
-
น้ำส้ม
น้ำส้ม อุดมไปด้วยวิตามินซีที่มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของต้อกระจก ช่วยป้องกันการพัฒนาของต้อกระจก เนื่องจากวิตามินซีจะช่วยให้หลอดเลือดในดวงตาแข็งแรงและมั่นคง จึงทำให้สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดต้อกระจกได้ อีกทั้งยังมีฟลาโวนอยด์มาช่วยลดความเสี่ยงของจอประสาทตาเสื่อม นอกจากนั้นก็ยังมีโฟเลตซึ่งมีความสำคัญต่อพัฒนาการทางสายตาของทารกในครรภ์อีกด้วยค่ะ
ผักผลไม้ที่เรานำมาแนะนำทั้งหมดมีประโยชน์ที่น่าสนใจมากๆ และที่สำคัญหารับประทานได้ง่าย และสามารถนำไปประกอบได้กับหลายเมนู ใครที่อยากให้ดวงตาคู่สวยอยู่กับเราไปนานๆ อย่าลืมดูแลเอาใจใส่ดวงตาเลือกทานผักผักไม้ที่สดใหม่และสะอาดอยู่เสมอ เพราะเราอยากเห็นทุกคนสุขภาพดี และมีความสุข
ข้อมูลจาก : samitivejchinatown.com