แองเจล่าเบบี้อาศัยอยู่ที่ฮ่องกงมาตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก นี่คือสถานที่ที่เธอเลือกจากคนในพื้นที่ ตั้งแต่แหล่งช็อปปิ้งบนถนนฮอลลีวูดไปจนถึงการเดินป่าที่ Dragon’s Back
หากเอ่ยชื่อถึงฮ่องกงทำให้ผู้คนนึกถึงบูติกสุดหรู ชีวิตกลางคืนสุดมันส์ อาหารริมทาง และสถาปัตยกรรมอันตระการตา เราขอให้แองเจล่าเบบี้ (หยาง อิ่ง) นักแสดงและนางแบบฮอลลีวูดที่อาศัยอยู่ในฮ่องกงช่วยพาเราไปเยือนใจกลางสถานที่ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาแห่งนี้ซึ่งมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย
แองเจลา หยาง อิง นักแสดงสาวชาวจีน ซึ่งรู้จักกันดีในชื่อแองเจลาเบบี้ ย้ายมาฮ่องกงกับครอบครัวเมื่ออายุได้ 13 ปี โดยเธอเริ่มต้นอาชีพนางแบบและภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง หลังจากนั้น เธอได้แสดงในภาพยนตร์ Mojin: The Lost Legend ซึ่งเมื่อเข้าฉายก็กลายเป็นภาพยนตร์ IMAX ภาษาจีนที่ทำรายได้สูงสุดในจีน และเธอยังได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์ฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์หลายเรื่องอีกด้วย ในปี 2016 เธอได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 30 Under 30 ของนิตยสาร Forbes
นักแสดงและนางแบบชื่อดัง ที่รู้จักกันดีจากการแสดงในรายการเกมโชว์ของจีนเรื่อง Running Man รวมถึงภาพยนตร์แอคชั่นชื่อดังต่างๆ อาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่เธออายุ 13 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่งานของพ่อทำให้เธอต้องย้ายครอบครัวจากเซี่ยงไฮ้บ้านเกิดของพวกเขา
ภาพจาก: unsplash.com/Florian Wehde
“เมื่อฉันมาถึงฮ่องกงครั้งแรก ฉันประทับใจกับเส้นขอบฟ้าและทัศนียภาพของท่าเรือ” แองเจลาเบบี้เล่า “ฮ่องกงเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวามาก ฉันรู้สึกว่าการใช้ชีวิตที่นี่คงจะสนุก”
ในไม่ช้านางแบบในอนาคตก็พบว่าบ้านใหม่ของเธอเป็นการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรม สถาปัตยกรรมสมัยใหม่ และแบบดั้งเดิมได้อย่างน่าตื่นเต้น “ฮ่องกงเป็นการผสมผสานระหว่างตะวันออกและตะวันตกอย่างแท้จริง” แองเจลาเบบี้อธิบายเกี่ยวกับอดีตอาณานิคมของอังกฤษ “สิ่งนี้เห็นได้ชัดโดยเฉพาะในชื่อถนน ซึ่งส่วนใหญ่แปลตรงตัวมาจากภาษาอังกฤษและฟังดูน่าสนใจทีเดียว”
งานเฉลิมฉลองทางวัฒนธรรมของฮ่องกงประกอบด้วยเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ เช่น วันตรุษจีนในเดือนมกราคม เมื่อท้องฟ้าของอ่าววิกตอเรียสว่างไสวด้วยดอกไม้ไฟ เทศกาลซาลาเปา Cheung Chau ที่สืบทอดมาหลายศตวรรษในเดือนพฤษภาคม ซึ่งผู้แข่งขันจะต้องปีนป่ายขึ้นไปบนหอซาลาเปาที่บรรจุน้ำพริกเผา และการแข่งขันเรือมังกรที่อ่าววิกตอเรียในเดือนมิถุนายน “วัฒนธรรมเป็นสิ่งที่ทำให้เมืองนี้พิเศษมาก” แองเจลาเบบี้กล่าว
นี่คือวิธีที่ Angelababy ชื่นชอบในการสำรวจฮ่องกง
1. วัฒนธรรมท้องถิ่นที่ดีที่สุด: ฉ่าช้านแท้ง หรือค่าเฟ่ฮ่องกง
หากต้องการสัมผัสฮ่องกงแท้ๆ แองเจลาเบบี้แนะนำให้คุณไปที่ร้านฉ่าช้านแท้ง (ร้านน้ำชา) “ร้านน้ำชามีรากฐานที่ลึกซึ้งในวัฒนธรรมการทำอาหารของฮ่องกง ชาวฮ่องกงแบบดั้งเดิมชอบไปร้านน้ำชาเพื่อรับประทานอาหารกลางวันกับครอบครัวหรือเพื่อนๆ”
ภาพจาก: www.timeout.com
ทั้งคนในพื้นที่และชาวต่างชาติต่างนั่งรวมกันเป็นกลุ่มรอบโต๊ะในร้านกาแฟแบบเก่าซึ่งตกแต่งด้วยพัดหมุนและกระเบื้องปูพื้นลายต่างๆ ร้านอาหารที่เป็นสัญลักษณ์ของฮ่องกงเหล่านี้ขึ้นชื่อเรื่องการเสิร์ฟอาหารยุโรปที่ผสมผสานความเป็นเอเชีย ดังนั้นเตรียมรับชานมฮ่องกงรสเข้มข้นที่ทำจากนมข้นหวานหรือนมระเหย ทาร์ตไข่กรอบ และขนมปังสับปะรดที่มีพื้นผิวแตกร้าวคล้ายกับผลไม้ที่มีหนามแหลมซึ่งเป็นชื่อเดียวกับร้านได้เลย “ถ้าคุณกำลังทำหนังในฮ่องกง ทุกคนจะต้องหยุดตอน 15.15 น. เพื่อดื่มชายามบ่าย และเราทุกคนก็จะได้เพลิดเพลินกับทาร์ตไข่หรือขนมปังสับปะรด” แองเจลาเบบี้กล่าว นักแสดงสาวหวังว่าจะได้ลองร้านน้ำชาโบราณ Lin Heung Lau ที่เพิ่งปรับปรุงใหม่ ซึ่งเปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 1920 “เพื่อนๆ หลายคนบอกว่าร้านนี้อร่อยมาก แต่เพราะร้านนี้คนเยอะและหาโต๊ะยาก ฉันเลยยังไม่ได้ลองเลย” เธอกล่าว “แต่ฉันรู้ว่าร้านนี้คุ้มค่า คุณต้องดูวิดีโอเท่านั้น”
2. ประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ดีที่สุด: ติ่มซำ
ประเพณีด้านอาหารอีกอย่างหนึ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมฮ่องกงคือติ่มซำ ซึ่งเป็นอาหารจีนแบบดั้งเดิมที่ประกอบด้วยอาหารจานเล็ก ๆ แสนอร่อยหลากหลายชนิดในตะกร้าไม้ไผ่ที่เข็นไปมาในร้านอาหารบนรถเข็นเพื่อแบ่งปันให้คนทั้งโต๊ะรับประทาน แองเจลาเบบี้กล่าวว่า “เป็นช่วงเวลาที่มีคุณภาพกับครอบครัว ไม่ใช่แค่การอิ่มท้องเท่านั้น แต่ยังเป็นประสบการณ์ที่ดีอีกด้วย” ชาวฮ่องกงมักจะตักขนมจีบที่ตุ๋น อบ หรือนึ่ง เช่น ชาร์ซิ่วเปา (หมูย่างหวานปั้นเป็นลูกกลม ๆ ) ซิ่วไม (ขนมจีบแบบเปิดหน้า) หรือขนมจีบซุปที่ใส่น้ำซุปรสเข้มข้น แล้วดื่มชาตามลงไป
ภาพจาก: thehoneycombers.com
เชื่อกันว่าติ่มซำซึ่งแปลว่า “สัมผัสหัวใจ” มีต้นกำเนิดมาจากเมืองท่ากวางโจว และพ่อค้าได้นำติ่มซำมายังฮ่องกงในศตวรรษที่ 19 ปัจจุบันติ่มซำเสิร์ฟในโรงแรมระดับ 5 ดาวและร้านน้ำชาทั่วเมือง แองเจลาเบบี้กล่าวว่า “ชาวฮ่องกงมีรสนิยมที่หลากหลาย และติ่มซำมีอาหารหลากหลายประเภท ตอบสนองรสนิยมของทุกคนได้อย่างสมบูรณ์แบบ ฉันเชื่อว่ารสชาติของติ่มซำฮ่องกงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าคนจากประเทศอื่นจะพยายามเลียนแบบอย่างไร พวกเขาก็ไม่สามารถเลียนแบบรสชาติเหล่านั้นได้”
แองเจล่าเบบี้ชอบแวะทานติ่มซำที่ร้าน Lung Keen Heen ในโรงแรม Four Seasons ที่เพิ่งปรับปรุงใหม่ซึ่งมองเห็นอ่าววิคตอเรีย “ฉันชอบนั่งริมหน้าต่างมากกว่า แต่ก็ไม่ได้รังเกียจที่จะนั่งตรงไหนก็ได้” เธอกล่าว “ฉันพอใจมากถ้าได้โต๊ะนั่งทานอาหารที่นั่น” เมนูที่เธอเลือก: ซาลาเปาสับปะรดอบกับหมูย่างและถั่วสนพร้อมซุปตามฤดูกาล
3. สถานที่ที่ดีที่สุดในการช้อปปิ้งของที่ระลึก: ถนนฮอลลีวูด
ภาพจาก: www.flickr.com
ถนนฮอลลีวูดได้รับการขนานนามว่าเป็นถนนที่เจ๋งเป็นอันดับสองของโลกโดยนิตยสาร Time Out เนื่องด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานและสิ่งที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ถนนสายประวัติศาสตร์ที่ทอดยาวระหว่างย่านเซ็นทรัลและเซิงหว่านแห่งนี้เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญ เช่น วัดหมันโม่ของลัทธิเต๋าในศตวรรษที่ 19 ร้านอาหารมิชลินสตาร์ ร้านขายของเก่า และหอศิลป์ Angelababy แนะนำให้ไปเยี่ยมชม G.O.D (Goods of Desire) ซึ่งมีบ้านแปลกๆ มากมาย “ฉันชอบแวะที่ PMQ ซึ่งเป็นศูนย์รวมศิลปะสร้างสรรค์ของฮ่องกง” เธอกล่าวโดยอ้างถึงอาคารเจ็ดชั้นเก่าของ “บ้านพักของตำรวจ” ซึ่งสร้างขึ้นในช่วงทศวรรษ 1950 ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของตำรวจและครอบครัวของพวกเขา “PMQ มีสตูดิโอและเวิร์กช็อปของนักออกแบบในท้องถิ่นมากมาย เป็นสถานที่ที่น่าสนใจมากสำหรับการสำรวจความคิดสร้างสรรค์ [ฉันจะไปเยี่ยมชม] ตลาดกลางคืนของ PMQ ซึ่งมีสินค้าชิ้นเล็กๆ สินค้าวินเทจ และขนมขบเคี้ยวมากมาย”
4. สถานที่ที่ดีที่สุดในการเดินป่า: เขาหลังมังกร (Dragon's Back)
ภูมิประเทศของฮ่องกงเป็นเนินเขาและภูเขาจึงเหมาะแก่การเล่นกีฬากลางแจ้ง “ถ้าฉันมีแขกมาฮ่องกง ฉันจะพาพวกเขาไปเดินป่า” แองเจลาเบบี้กล่าว “นั่นเป็นสิ่งพิเศษอย่างหนึ่งเกี่ยวกับฮ่องกง ไม่มีเมืองมากนักที่คุณสามารถเดินป่าท่ามกลางธรรมชาติได้ภายใน 30 หรือ 40 นาที คุณแค่ [หยิบขวด] น้ำแล้วออกไปได้เลย”
ภาพจาก: www.expedia
Angelababy แนะนำให้นักท่องเที่ยวสวมรองเท้าเดินป่าแล้วไปที่เขาหลังมังกร ใน Shek O Country Park ซึ่งเป็นเส้นทางเดินป่าบนภูเขาที่คดเคี้ยวและมองเห็นอ่าว Tai Tam Bay “เส้นทางนี้ไม่ยากและยังมีวิวทิวทัศน์แบบพาโนรามาอีกด้วย” เธอกล่าว
ภูเขาหลังมังกรตั้งอยู่ที่มุมตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะฮ่องกง การเดินป่าเริ่มต้นด้วยการเดินช้าๆ ผ่านป่าไปตามสันเขาไปยังจุดชมวิวหลังมังกร ซึ่งสามารถมองเห็นสแตนลีย์ อ่าวไท่ทัม และหมู่เกาะลัมมาได้ “คุณจะรู้สึกราวกับว่าอยู่ห่างจากเมืองไปหลายไมล์ที่ภูเขาหลังมังกร ฉันรู้สึกผ่อนคลายมากเมื่อได้อยู่ที่นั่น” แองเจลาเบบี้กล่าว “ฉัน [ไป] เดินเล่นบนภูเขาหลังมังกร จากนั้นจึงเดินลงไปที่หาดทรายขาวของอ่าวบิ๊กเวฟ”
5. สถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการเที่ยวชมเกาะ: ไท่โอ (Tai O)
ฮ่องกงประกอบด้วยเกาะ 263 เกาะ รวมถึงเกาะลันเตา ซึ่งได้รับฉายาว่า “ปอดของฮ่องกง” เนื่องจากมีป่าพื้นเมืองจำนวนมาก และเกาะลัมมาอันเงียบสงบ ซึ่งเป็นสถานที่ยอดนิยมในการหลีกหนีจากความวุ่นวายในแผ่นดินใหญ่ เกาะไทโออันเงียบสงบที่แองเจลาเบบี้เลือกมาฮ่องกง
คลองไท่โอที่มีลักษณะคล้ายเวนิสเป็นบ้านของชาวเรือ Tanka เรียงรายไปด้วยบ้านไม้ค้ำยันของชาวประมงที่มีอายุกว่า 200 ปี ชาวประมงบนเกาะนี้มีชื่อเสียงในด้านการผลิตกะปิรสเค็มของเกาะซึ่งใช้เพื่อเพิ่มรสชาติและรสอูมามิให้กับแกงและซอสหลายชนิด นักท่องเที่ยวสามารถชมชาวประมงพายเรือสำปั้นสีสันสดใสไปรอบๆ เกาะพร้อมกับปลาที่จับได้สดใหม่ทุกวัน
ภาพจาก: th.tripadvisor.com
เมื่อไม่นานมานี้ ทีมงานสร้างภาพยนตร์ได้ให้ความสนใจเกาะประวัติศาสตร์แห่งนี้ซึ่งมีอาคารร้านค้าแบบวินเทจมากมาย หนึ่งในนั้นยังเคยปรากฏในรายการ Restaurants on the Edge ของ Netflix อีกด้วย แต่แองเจล่าเบบี้กลับชอบไปที่ไทโอเพื่อดูโลมาสีชมพูอันโด่งดังของเกาะแห่งนี้ แม้จะมีชื่อเรียกว่าโลมา แต่สัตว์ที่สวยงามและใกล้สูญพันธุ์เหล่านี้กลับมีสีขาว ซึ่งปรากฏเป็นสีชมพูก็เพราะหลอดเลือดที่วิ่งอยู่ใกล้ผิวหนังเท่านั้น
“ฉันเคยไปเที่ยวเกาะนี้เมื่อตอนเด็กๆ” เธอเล่า “ตอนนี้ฉันพาลูกชายไปดูโลมาสีชมพู คราวที่แล้วเราไปถึงไทโอตอน 10.00 น. จากนั้นนั่งเรือออกไปในทะเลประมาณ 30 นาทีเพื่อดูโลมา ฉันคิดว่าคุณต้องโชคดีสักหน่อยถึงจะเห็นโลมาได้ แต่คงไม่มากนัก ถ้าคุณไปที่นั่นในวันที่อากาศดี คุณก็มีโอกาสดี”
6. สถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัว: โอเชียนปาร์ค
คุณแม่ผู้ภาคภูมิใจอย่างแองเจลาเบบี้แนะนำให้นักท่องเที่ยวลองไปเที่ยวฮ่องกงดิสนีย์แลนด์บนเกาะลันเตาหรือโอเชียนปาร์คของฮ่องกง สวนสนุกที่มีเครื่องเล่นมากกว่า 80 ชนิดแห่งนี้เปิดให้บริการครั้งแรกในช่วงทศวรรษ 1970 และกลายมาเป็นสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก “สวนสนุกแห่งนี้เหมาะกับครอบครัวจริงๆ” แองเจลาเบบี้ซึ่งเคยไปเที่ยวเมื่อตอนเป็นวัยรุ่นกล่าว “สวนสนุกแห่งนี้มี 2 ส่วน มีขนาดใหญ่มากจนต้องนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไป เพราะจะมองเห็นฮ่องกงตอนใต้และภูเขาได้”
ภาพจาก: www.expedia
ภายในอุทยานมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดใหญ่ที่มีปลามากกว่า 5,000 ตัว รวมถึงลิงจมูกเชิดสีทอง เพนกวิน และแพนด้า 6 ตัว “มีแพนด้าใหม่ 2 ตัว และอุทยานยังมีลูกแพนด้าที่เพิ่งเกิดด้วย” แองเจลาเบบี้กล่าว คนไทยอาจมีหมูเด้ง แต่ชาวฮ่องกงมีลูกแพนด้าให้นักท่องเที่ยวได้ชมในเดือนกุมภาพันธ์
ที่มา www.bbc.com