สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา หรือเจ้าหญิงสิริ ทรงก่อตั้งแบรนด์ Sirivannavari ของพระองค์เองในปีพ.ศ. 2548 และเพิ่งกลับมาจากกรุงปารีสพร้อมประกาศว่า “เจ้าหญิงก็ทำงานได้” และเปรียบเทียบการเตรียมตัวของพระองค์เหมือนกับการฝึกซ้อมของนักกีฬาสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก
ไม่พึงพอใจเลยเหมือนอย่างที่คุณอาจคาดหวังจากราชวงศ์ เจ้าหญิงสิริมีพระชนมายุ 36 พรรษาพระองค์นี้ทรงทำงานจนไต่เต้าขึ้นมาในอุตสาหกรรมแฟชั่นจาก Dior, Bulgari และ Ferragamo และได้รับแรงบันดาลใจจากสไตลิสต์ของ Vogue อย่าง Grace Coddington
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงชี้ให้เห็นว่าเจ้าหญิงนั้นมีความสามารถในการทำงานอย่างหนัก และไม่ได้ใช้เวลาทั้งวันอยู่แต่ในวังหรูหราเท่านั้น
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญามีพระชนมายุ 36 พรรษา ซึ่งเป็นที่รู้จักในนามเจ้าหญิงสิริ ได้เป็นจุดเด่นของงานแสดงแฟชั่นมาตลอดทศวรรษที่ผ่านมา และทำงานเป็นนักออกแบบแฟชั่นมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2548 ซึ่งเป็นปีแรกที่พระองค์ทรงก่อตั้งแบรนด์ Sirivannavari นอกจากนี้ พระองค์ยังเคยทำงานเบื้องหลังให้กับแบรนด์ดังๆ เช่น Dior, Armani, Ferragamo, Balmain และ Bulgari อีกด้วย

ภาพจาก: www.instagram.com/hrhsirivannavari
“การทำงานให้กับแบรนด์เหล่านี้ทำให้ฉันเองมีความมั่นใจมากขึ้น และทำให้ฉันมองเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น รวมถึงมีโอกาสได้ทำงานในระดับนั้นในอุตสาหกรรมจริง” พระองค์หญิงตรัส “ฉันไม่ใช่แค่เจ้าหญิง ฉันทำงานจริงๆ งานก็คือการทำงานจริงๆ ฉันลงมือปฏิบัติจริง และฉันไม่ได้เป็นผู้ช่วยคนแรก แต่เป็นคนที่สี่หรือห้า ดังนั้น ฉันจึงเรียนรู้ได้เร็วและต้องเข้มแข็ง”
โมเมนต์อันยิ่งใหญ่ของแบรนด์ Sirivannavari
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญาทรงสวมแจ็คเก็ตเข้ารูปและกางเกงไบเกอร์ที่ออกแบบเอง ปัจจุบันอยู่ที่กรุงปารีส ซึ่งเป็นบ้านหลังที่สองของพระองค์ โดยพระองค์จัดแสดงคอลเลกชันฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว ปี 2023 ของพระองค์ให้สื่อมวลชนและผู้ซื้อได้ชมในห้องโถงหรูหราที่โรงแรมริตซ์ (Ritz Hotel) บนถนนปลาสวองโดม (Place Vendôme) แม้ว่าพระองค์จะเคยจัดแสดงที่กรุงปารีสมาก่อนแล้ว แต่พระองค์ตรัสว่าครั้งนี้ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับแบรนด์ของพระองค์เอง
“ฉันอยากกลับไปยังกรุงปารีสอีกครั้ง แต่ฉันต้องการแสดงจุดยืนของตัวเอง และมั่นใจและเป็นผู้ใหญ่ขึ้น” พระองค์หญิงตรัส “ฉันใช้เวลาและฝึกฝนฝีมือเหมือนกับนักกีฬาที่ฝึกซ้อมก่อนกีฬาโอลิมปิก ฉันตัดสินใจที่จะย้ายไปบนเวทีที่ใหญ่กว่า แต่ฉันต้องฝึกทีมของฉันเพื่อให้พวกเขาสามารถทำผลงานได้ดี [และเพื่อที่ฉัน] จะรู้สึกพร้อมสำหรับก้าวที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้”
ภาพจาก: www.gqthailand.com
กลับสู่เมืองที่พระองค์ได้เรียนรู้งานฝีมือ
หลังจากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวิจิตรศิลป์และประยุกต์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร ราชอาณาจักรไทย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญาเสด็จไปศึกษาแฟชั่นที่ L’École de la Chambre Syndicale de la Couture Parisienne ในกรุงปารีส และแม้ว่าช่วงเวลาที่พระองค์เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยจะมีความสำคัญ แต่พระองค์ตรัสว่าประสบการณ์ในงานแฟชั่นโชว์ต่างหากที่จุดประกายไฟในตัวพระองค์
พระองค์เล่าว่าตอนเป็นวัยรุ่นผู้ซึ่งรักในแฟชั่น พระองค์รู้สึกสนใจเมื่อบรรณาธิการแฟชั่นพูดคุยเกี่ยวกับคอลเลกชันโปรดของพวกเขา และโดยเฉพาะบรรณาธิการคนหนึ่ง นั่นก็คือ เกรซ ค็อดดิง ตัน (Grace Coddington) สไตลิสต์ชื่อดังระดับตำนานของนิตยสาร Vogue ชาวอเมริกันจะร่างแบบลุคต่างๆ ได้อย่างแนบเนียนในขณะที่นางแบบเดินบนรันเวย์ ทำให้เจ้าหญิงสิริประทับใจ
“ทุกครั้งที่ไปชมงานแสดง ฉันจะเพลิดเพลินกับบรรยากาศและพิจารณาไอเดียของนักออกแบบอย่างรอบคอบ รวมถึงวิธีที่พวกเขาผสมผสานและจับคู่ รวมถึงอารมณ์และแสงไฟและการนำเสนอทั้งหมด” พระองค์หญิงตรัส “ฉันไม่ได้แค่ไปนั่งดูงานแสดงแล้วคิดว่า ‘โอ้ ฉันอยากซื้อสิ่งนั้นจัง’ ฉันคิดไอเดียขึ้นมาแล้ว นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะซึมซับและหยิบไอเดียขึ้นมา ไม่ใช่ลอกเลียน แต่เป็นแรงบันดาลใจ”
ภาพจาก: lofficielthailand.com
พระองค์ได้นำเอาองค์ประกอบไทยดั้งเดิมอันละเอียดอ่อนมาผสมผสานเข้ากับคอลเลกชันล่าสุดของพระองค์เอง
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญาซึ่งทรงสนับสนุนอุตสาหกรรมผ้าไหมไทยมาอย่างยาวนาน ทรงนำเอาองค์ประกอบแบบไทยๆ มาใช้ในคอลเลกชันฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาวล่าสุดของพระองค์ โดยโดดเด่นด้วยชิ้นงานตัดเย็บที่ตัดกันอย่างสวยงามและชุดราตรีแบบผู้หญิง ซึ่งสะท้อนถึงวิธีการแต่งกายของพระองค์เอง “มันเป็นตัวฉันเอง มันต้องเป็นฉัน” พระองค์หญิงตรัส “ฉันมีองค์ประกอบแบบไทยๆ อยู่บ้าง แต่ไม่อยากตะโกนว่า ‘ฉันเป็นแบรนด์ไทย เป็นนักออกแบบไทย’ มันเป็นแค่สัมผัสเล็กๆ น้อยๆ ไม่ใช่การตะโกน”
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญาที่เริ่มต้นอาชีพศิลปินทัศนศิลป์ก่อนที่จะหลงใหลในแฟชั่น ตรัสว่า แม้พระองค์จะประทับใจกับลุคเท่ๆ ที่เห็นในงานแสดงต่างๆ เสมอมา แต่แฟชั่นไอคอนที่แท้จริงของพระองค์ก็ยังคงเป็นพระอัยยิกาของพระองค์เองคือ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ภาพจาก: sirivannavari.com
“พระองค์ท่านคือสัญลักษณ์ของฉันและเป็นไอดอลของฉัน และเป็นผู้หญิงที่สร้างแรงบันดาลใจให้ฉันมากที่สุด ทั้งในด้านสไตล์และบุคลิกภาพของพระองค์ท่าน” พระองค์หญิงตรัส “สไตล์ของพระองค์ท่าน (พระอัยยิกา) แตกต่างจากฉันมาก แต่จนถึงตอนนี้พระองค์ท่านยังคงสวยอยู่”
สำหรับอนาคตของแบรนด์ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ไม่ได้ปิดบังความทะเยอทะยานของพระองค์เอง “ฉันอยากกลับไปยังกรุงปารีสอีกครั้งนึง มันต้องมากกว่าหนึ่งฤดูกาล” พระองค์หญิงตรัส “ฉันมีแผนและอยากเป็นนักออกแบบที่ประสบความสำเร็จ ฉันเป็นนักสู้และอยากให้ผลงานการออกแบบของฉันไปปรากฏอยู่ในห้างสรรพสินค้าและร้านค้าต่างๆ มันต้องเกี่ยวกับแบรนด์และเสื้อผ้า ไม่ใช่เกี่ยวกับตัวฉัน ฉันยังต้องการแสดงให้เห็นว่าเจ้าหญิงก็สามารถทำงานได้ นี่คือตัวตนของฉัน ฉันอยากทำงาน”
ที่มา www.scmp.com