อำเภอเบตง เป็นอีกหนึ่งอำเภอที่น่าสนใจของภาคใต้ของประเทศไทย โดยเป็นเมืองชายแดน “เมืองเบตง” ตั้งอยู่ในจังหวัดยะลาของประเทศไทย ห่างจากด่านชายแดนไทย-มาเลเซียเพียง 10 กิโลเมตร ทางตอนเหนือของรัฐเปรัก ประเทศมาเลเซีย และอำเภอตั้งอยู่ในแนวทิวเขาสันกาลาคีรี อยู่ห่างจากตัวเมืองยะลาไปประมาณ 140 กิโลเมตร ภูมิประเทศส่วนใหญ่จะเป็นภูเขาสูง ทำให้เบตงอยู่ท่ามกลางบรรยากศดีๆ และมีหมอกตลอดทั้งปีเลย เมืองเบตง มีสิ่งที่น่าสนใจและน่าทำมากมาย ซึ่งทำให้เมืองชายแดนเล็กๆ ที่ไม่เต็มไปด้วยฝุ่นแห่งนี้คุ้มค่าแก่การไปเยี่ยมชม
กิจกรรมที่น่าสนใจในเมืองเบตง ประเทศไทย
ในอำเภอเบตงมีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมต่างๆ มากมาย หลายแห่งอยู่ในระยะที่สามารถเดินไปยังหอนาฬิกาได้ ทำให้ผู้มาเยือนครั้งแรกมีตัวเลือกมากมายสำหรับการเที่ยวชมแบบรวดเร็วโดยไม่ต้องเสียเงินมากกับค่าทัวร์พิเศษหรือทริปหนึ่งวันอันแสนเหนื่อยล้านอกเมือง เพียงแค่พักผ่อนที่โรงแรมและเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวในท้องถิ่นตามอัธยาศัย นอกจากนี้ยังมีโอกาสถ่ายรูปลงอินสตาแกรมมากมาย ดังนั้นอย่าลืมแต่งตัวให้ดีที่สุด
หอนาฬิกาเมืองเบตง
ภาพจาก: www.welikejourney.com
หอนาฬิกาเบตงตั้งอยู่ที่สี่แยกวงเวียนถนนสุขายางและถนนรัตนกิจ ใจกลางเมืองเบตงเป็นสถานที่สำคัญ หอนาฬิกาเบตง เป็นสิ่งก่อสร้างคู่เมืองของเบตงเลยก็ว่าได้ โดยสร้างขึ้นมาจากหินอ่อนของจังหวัดยะลา อีกเสน่ห์ที่อยู่คู่หอนาฬิกานั่นก็คือ นกนางแอ่น กว่าพันๆ ตัวที่จะเกาะสายไฟบริเวณหอนาฬิกาเอาไว้ ซึ่งช่วงที่เยอะมากที่สุดจะเป็นช่วงเดือนกันยายนไปจนถึงมีนาคม เพราะนกนางแอ่นจะบินหนีหนาวมาจากไซบีเรียนั่นเองค่ะ หากคุณสามารถมองเห็นหอนาฬิกาได้ คุณก็จะไม่หลงทาง สถานที่ท่องเที่ยวในท้องถิ่นหลายแห่ง อยู่ในระยะที่สามารถเดินไปยังหอนาฬิกาได้
ตู้ไปรษณีย์เบตง
ภาพจาก: board.postjung.com
ตู้ไปรษณีย์ยักษ์ตู้แรกตั้งอยู่ตรงมุมถนนสุขยางค์ สี่แยกหอนาฬิกา ใจกลางเมืองเบตง สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2467 ก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยคุณสงวน จิรจินดา อดีตนายไปรษณีย์โทรเลขและอดีตนายกเทศมนตรีเมืองเบตง โดยมีวิทยุกระจายเสียงอยู่ตรงส่วนบนของตู้ จุดประสงค์เพื่อใช้รายงานข่าวสารบ้านเมืองให้ชาวเมืองเบตงได้รับฟัง และยังใช้เป็นตู้ไปรษณีย์มาจนทุกวันนี้ ปัจจุบันมีการสร้างตู้ไปรษณีย์ใหม่ใหญ่กว่าเดิมที่บริเวณศาลาประชาคม ถนนสุขยางค์ มีความสูง 9 เมตร เป็นจุดเด่นที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
พิพิธภัณฑ์เมืองเบตง
ภาพจาก: worldwantswandering.com
ตั้งอยู่ริมถนนรัตนกิจ เป็นสถานที่รวบรวมเรื่องราวเมืองเบตงในอดีต พิพิธภัณฑ์เบตง มี 3 ชั้น โดยส่วนของการจัดแสดงมี 2 ชั้น ซึ่งชั้นล่างเป็นพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ข้าวของเครื่องใช้ในสมัยเก่า เช่น ถ้วยชาม เครื่องเคลือบ ตู้ เตียง ตะเกียงเก่า โดยนำมาจัดแสดงไว้ในตู้ไม้กระจกใส ตั้งอยู่หน้าบันไดทางขึ้น ส่วนชั้นที่ 2 มีการจัดแสดงรูปเก่า ๆ หนังสือพิมพ์ประวัติความเป็นมา โดยแขวนไว้บนฝาผนังของห้อง และมีการติดบอร์ดแสดงแหล่งข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของอำเภอเบตง นอกจากนี้ชั้นที่ 3 ยังเป็นหอคอยชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองเบตงทั้งเมืองได้
รูปปั้นไก่เบตง
ภาพจาก: www.bangkokbiznews.com
ประติมากรรมรูปปั้นไก่เบตง สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเบตง เนื่องจากไก่สายพันธุ์นี้มีเฉพาะที่อ.เบตงเท่านั้น ซึ่งลักษณะเด่นของไก่เบตง คือ ตัวผู้มีปากสีเหลืองอ่อน ส่วนตัวเมียปากสีน้ำตาลเข้ม ตานูนใส หงอนจักร หัวกว้าง คอตั้งแข็งแรง มีขนสีเหลืองทองที่หัว ปีกสั้น อกกว้าง ขาใหญ่ หน้าแข้งกลม เล็บสีขาวอมเหลือง ซึ่งในช่วงต้นเดือนเมษายน อ.เบตงมีการจัดงานเทศกาลไก่เบตงขึ้นเป็นประจำทุกปีและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์
ภาพจาก: www.betongcity.go.th
อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ เป็นอุโมงค์รถยนต์ลอดภูเขาแห่งแรกของเมืองไทย ที่ขุดทอดโค้งให้รถวิ่งไป-มาก่อสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก มีความยาวตลอดอุโมงค์ ประมาณ 273 เมตร กว้าง 9 เมตร สูง 7 เมตร ผิวจราจรคู่ กว้าง 7เมตร ทางเท้าเดินกว้างข้างละ 1 เมตร ความเร็วรถสามารถวิ่งได้ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2544 นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถถ่ายรูปกับรูปปั้นไก่เบตงที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับปากอุงโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ ซึ่งไก่เบตงนอกจากจะเป็นอาหารขึ้นชื่อของเมืองเบตงแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของอำเภอเบตงอีกด้วย
สวนสุดสยาม
ภาพจาก: pantip.com
สวนสุดสยาม ตั้งอยู่บนยอดเขาภายในสวนสาธารณะเทศบาลเมืองเบตง มีเนื่อที่ประมาณ 76 ไร่ ในปี พ.ศ. 2560 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดยะลา ในการปรับปรุงสวนสุดสยาม อ.เบตง จ.ยะลาด้วย สวนสุดสยามแห่งนี้เป็นสถานที่ล้อมรอบด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ โดยเฉพาะการก่อสร้างและการออกแบบสวนสุดสยามนั้น ต้องอาศัยศิลปะในการจัดวางที่ได้มาตรฐาน สมดุลกับสภาพภูมิประเทศ หลังจากสร้างเสร็จแล้ว สถานที่แห่งนี้ได้กลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเบตง พร้อมทั้งให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับบรรยากาศที่สงบ สวยงาม และเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังมีสระว่ายน้ำ และสนามเด็กเล่นอันเป็นมุมเล็กๆของเจ้าตัวน้อยด้วย
วัดโพธิสัตโตเจ้าแม่กวนอิมเบตง
ภาพจาก: www.facebook.com/teawwat
สถานที่ตั้งศาลเจ้าอันเป็นที่ประดิษฐานของเทพสำคัญต่างๆหลายองค์ เช่น เจ้าแม่กวนอิม ท่านแป๊ะกง ท่านกวงกง เจ้าแม่จิวหวังเหย่ ยี่หวังต้าตี้ หว่าโก่วเซียนชื่อ ขงจื้อ เป็นต้น และยังมีสถาปัตยกรรมของเจดีย์ 7 ชั้น วัดแห่งนี้ได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ เมื่อปี พ.ศ. 2508 วัดโพธิสัตโตเจ้าแม่กวนอิมเบตงตั้งอยู่บนเนินเขา ในเมืองเบตง สามารถมองเห็นวิวเมืองเบตงได้สวยงาม
วัดพุทธาธิวาส พระอารามหลวง
ภาพจาก: thailandtourismdirectory.go.th
ตั้งอยู่ริมถนนรัตนกิจ เป็นวัดที่สวยงาม ตั้งเด่นสง่าอยู่บนเนินเขาพระประธานในอุโบสถคือรูปเหมือนหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ขนาดเท่าองค์จริง ภายในวัดประดิษฐานพระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ ก่อสร้างแบบศรีวิชัยประยุกต์ สีทองอร่าม มีความสูง 39.9 เมตร ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 60 พรรษาจากบริเวณลานเจดีย์จะมองเห็นทัศนียภาพของวัดและเมืองเบตงในอีกมุมที่สวยงาม นอกจากนี้ ภายในวัดยังประดิษฐานพระพุทธธรรมกายมงคลปยุรเกศานนท์สุพพิธาน เป็นพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์องค์ใหญ่ หล่อมาจากประเทศจีน เป็นปูชนียวัตถุที่สำคัญในพระพุทธศาสนาประจำอ.เบตง
เบตงสตรีทอาร์ต
ภาพจาก: mgronline.com
เบตงสตรีทอาร์ต (Betong Street Art) เป็นแลนด์มาร์กใหม่ของอ.เบตง เป็นผลงานที่ถูกสร้างขึ้น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวประทับใจและได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ภาพที่เขียนส่วนใหญ่ จะเป็นภาพที่บอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิต ความหลากหลายทางวัฒนธรรมของชาวเบตง รวมไปถึงสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่มีอยู่จริงในเมืองเบตง เช่น ตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งภาพถูกวาดทั้งหมด 11 จุด ทั้งบนผนัง กำแพง ใต้สะพาน และตัวอาคารหลายจุดรอบเมืองเบตง สตรีทอาร์ตเบตงทั้งหมดนี้ วาดโดยทีมนักศึกษาและอาจารย์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งนำทีมโดยอาจารย์อํามฤทธิ์ ชูสุวรรณ คณะบดีคณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
ที่มา www.theislanddrum.com