หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน หรือ หมู่เกาะเวอร์จินของอังกฤษ (British Virgin Islands) เป็นดินแดนโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักร ประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่กว่า 50 เกาะ มีที่ตั้งอยู่ในทะเลแคริบเบียน ทางตะวันออกของประเทศจาเมกา เดิมนั้นเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิดัตช์ (Dutch Empire) ภายหลังอังกฤษเข้ามาครอบครอง เมื่อ พ.ศ. 2215 ผู้ตั้งชื่อหมู่เกาะนี้คือ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส โดยตั้งชื่อนามนักบุญ Ursula ซึ่งตามตำนานกล่าวว่าท่านมีสาวกเป็นหญิงสาวพรหมจารีถึง 11,000 คน
เกาะทอร์โทล่า (Tortola)
ภาพจาก: www.travelandleisure.com
ทอร์โทล่า ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน เป็นที่รู้จักในฐานะเมืองหลวงแห่งเรือยอทช์แห่งทะเลแคริบเบียน เกาะแห่งนี้มีบรรยากาศที่ผ่อนคลาย และมีชายหาดทรายขาวสะอาดอยู่ทางตอนเหนือเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งสามารถว่ายน้ำและดำน้ำตื้นได้อย่างเพลิดเพลิน
เกาะเวอร์จิน กอร์ดา (Virgin Gorda)
ภาพจาก: www.villasvirgingorda.com
เกาะเวอร์จิน กอร์ดาเป็นเกาะที่มีลักษณะเป็นภูเขา มีต้นปาล์มและกระบองเพชรกระจายอยู่ทั่วไป เกาะเวอร์จิน กอร์ดาเป็นเกาะ 3 เกาะในเกาะเดียว เกาะทางใต้เป็นเกาะที่ราบเรียบ มีก้อนหินขนาดใหญ่และพืชพรรณบางๆ ส่วนเกาะตรงกลางเป็นเกาะที่มียอดเขากอร์ดาและชายหาดที่สวยงามหลายแห่ง มีทะเลสีฟ้าครามและแนวปะการังที่สวยงาม เหมาะสำหรับการดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก เกาะทางเหนือตั้งอยู่รอบๆ นอร์ธซาวด์พร้อมกับเกาะอื่นๆ อีกประมาณ 6 เกาะ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการเล่นกีฬาทางน้ำ เกาะเวอร์จิน กอร์ดาเป็นเกาะที่มีเนินเขา ชายหาดที่สวยงาม และโครงสร้างทางธรณีวิทยาที่งดงาม สถานที่ที่ควรไปเยี่ยมชมคือ “The Baths” ซึ่งมีก้อนหินขนาดใหญ่กระจายอยู่ตามชายหาดที่สวยงาม
จอสท์ แวน ไดค์ (Jost Van Dyke)
ภาพจาก: www.shoreexcursionsgroup.com
จอสท์ แวน ไดค์ ตั้งชื่อตามโจรสลัดชาวดัตช์ มีชื่อเสียงในเรื่องสไตล์สบายๆ หาดทรายขาวที่สวยงาม และความบันเทิงในท้องถิ่นอย่าง Foxy’s ตัว Foxy เองก็เป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมที่ทำให้ผู้ฟังหลงใหลไปกับดนตรีพื้นบ้านของเขา เกาะแห่งนี้ยังคงเสน่ห์ของวันวานไว้ได้ และแน่นอนว่าเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับผู้ที่พักบนเกาะทอร์โทล่า และเป็นสถานที่ที่ต้องไปสำหรับเรือยอทช์เช่าทุกลำ
อเนกาดา (Anegada)
ภาพจาก: www.bvitourism.com
เกาะอเนกาดา เป็นเกาะปะการังเพียงแห่งเดียวในมีชายหาดที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในทะเลแคริบเบียน เกาะแห่งนี้มีแนวปะการังที่สวยงามและซากเรือมากกว่าเกาะอื่นๆ ในทะเลแคริบเบียน จึงเหมาะจะเป็นจุดหมายปลายทางที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักดำน้ำและนักดำน้ำตื้น ชายหาดที่รกร้างยาวหนึ่งไมล์บนเกาะเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการจิบเครื่องดื่มค็อกเทลและชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม อย่าลืมลองชิมกุ้งมังกร อเนกาดาที่มีชื่อเสียงที่อ่าว Cow Wreck หรืออ่าว Loblolly ซึ่งเป็นอาหารทะเลที่ดีที่สุดในทะเลแคริบเบียน! เกาะ อเนกาดายังขึ้นชื่อในเรื่องสัตว์ป่า โดยเฉพาะอิเกวียน่าและนกฟลามิงโกสีชมพู
เกาะนอร์มัน (Norman Island)
ภาพจาก: boataffair.com
เกาะนอร์มันซึ่งเป็นหนึ่งในเกาะทางตอนใต้ของหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน ตั้งอยู่ใกล้กับเส้นแบ่งเขตระหว่างหมู่เกาะเวอร์จินของอังกฤษและหมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐอเมริกา เกาะแห่งนี้มีพื้นที่กว่า 600 เอเคอร์ มีความยาวประมาณ 2.5 ไมล์ โดยมีสันเขาตรงกลางทอดยาวไปตลอดความยาวของเกาะ แนวชายฝั่งประกอบด้วยอ่าวหลายแห่งและแนวปะการังนอกชายฝั่ง ทำให้เหมาะแก่การดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก
เกาะปีเตอร์ (Peter Island)
ภาพจาก: preferredhotels.com
เกาะปีเตอร์ซึ่งเป็นเกาะส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน ตั้งอยู่ห่างจากเมืองทอร์โทล่าไปทางใต้ประมาณ 4 ไมล์ เกาะแห่งนี้มีพื้นที่ 1,200 เอเคอร์ มีลักษณะภูมิประเทศเป็นเนินเขา เหมาะสำหรับการเดินป่าและปั่นจักรยาน มีพืชพรรณเขียวชอุ่ม และชายหาดทรายขาวที่เรียงรายไปด้วยต้นปาล์ม
เกาะเดดเชส (Dead Chest)
เกาะเดดเชส เป็นหินก้อนใหญ่ที่อยู่ระหว่างเกาะปีเตอร์และเกาะซอลต์ เชื่อกันว่าเป็นสถานที่ที่โจรสลัดชาวอังกฤษชื่ออาเธอร์ ทีช ทิ้งลูกน้อง 15 คนที่เขาไม่พอใจที่สุดไว้บนเกาะพร้อมกับขวดเหล้ารัมเพียงขวดเดียว จึงเป็นที่มาของเพลง “15 คนบนหีบของคนตาย โยโฮโฮ และขวดเหล้ารัม”! เกาะเดดเชสเป็นอุทยานแห่งชาติที่ไม่มีคนอาศัย มีจุดดำน้ำ 3 จุด ได้แก่ Coral Gardens ที่เหมาะสำหรับนักดำน้ำมือใหม่และนักดำน้ำตื้น เกาะเดดเชสตะวันตกและ Painted Walls ซึ่งอาจเป็นจุดดำน้ำที่มีมุมถ่ายภาพสวยที่สุดแห่งหนึ่งในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน
เกาะซอลต์ (Salt Island)
ภาพจาก: en.wikipedia.org
เกาะซอลต์มีชื่อเสียงจากบ่อน้ำเกลือสามบ่อซึ่งเป็นแหล่งอาหารสำหรับเกาะต่างๆ และเรือที่แล่นผ่าน ปัจจุบันที่นี่ยังคงเก็บเกลืออยู่ เกาะแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงจากเรือ RMS Rhone ที่จมลงจากเกาะในเหตุการณ์พายุเฮอริเคนที่เกิดขึ้นในปี 1867 โดยเป็นซากเรือที่สวยงามที่สุดและได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีในทะเลแคริบเบียน จึงเป็นจุดดำน้ำยอดนิยม ซากเรือ Rhone แบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือบริเวณหัวเรือที่ระดับความลึก 60-90 ฟุต ซึ่งนักดำน้ำสามารถว่ายน้ำภายในเรือและชื่นชมกับปลานานาพันธุ์ เช่น ปลาเทวดา ปลานกแก้ว ปลาสแนปเปอร์ ปลากะพง และปลาบลูแทง ส่วนอีกครึ่งหนึ่ง (15-60 ฟุต) เป็นบริเวณที่ทำรังของเสากระโดงหน้าและอีกา รวมถึงหม้อน้ำ ประแจ และรอกอีกด้วย ปลานานาพันธุ์ที่นี่ได้แก่ ปลาบาราคูด้า ปลากระเบน รวมทั้งปลากระเบนราหู และเต่าทะเล
Cooper Island
ภาพจาก: www.chilloutchartersbvi.com
เกาะเล็กๆ ที่ยังคงความสมบูรณ์อยู่ห่างจากทอร์โทลาไปทางช่องแคบเซอร์ฟรานซิส เดรคประมาณ 5 ไมล์ ที่นี่คุณจะพบกับชายหาดทรายขาว ไม่มีถนน และพืชพันธุ์แปลกๆ เช่น เฟื่องฟ้า ดอกลั่นทม ต้นยัคคา และกล้วยไม้ เกสต์เฮาส์และบีชคลับไม่กี่แห่งให้บริการผู้มาเยือนในการพักผ่อนอย่างผ่อนคลายจากความวุ่นวายของชีวิตสมัยใหม่ Cooper Island Beach Club เป็นรีสอร์ทเล็กๆ บนอ่าวแมนชิโอนีล ทางมุมตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะ นอกจากบีชคลับและพนักงานแล้ว ยังมีครอบครัวท้องถิ่นหนึ่งครอบครัว บ้านพักตากอากาศห้าหลัง และแพะจำนวนมากบนเกาะ
เกาะจิงเจอร์ (Ginger Island)
เกาะจิงเจอร์ไม่มีคนอาศัยอยู่เลย มีชื่อเสียงในเรื่องแหล่งดำน้ำที่น่าทึ่ง เช่น ‘อลิซส์ แดนมหัศจรรย์’ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทางใต้ ‘จิงเจอร์ สเต็ปส์ ที่ปลายสุดของอ่าวเซาท์ และ ‘อลิซส์ แบ็คไซด์/จิงเจอร์ แพตช์’ ทางด้านเหนือของเกาะ ทั้งหมดนี้ล้วนมีปะการังขนาดใหญ่และสัตว์ทะเลหลากหลายชนิด เช่น ปลาไหลมอเรย์ ปลากระเบนราหู ปลาหมึก เต่า และกุ้งมังกร
Fallen Jerusalem
ภาพจาก: unsinkable2.com
เกาะที่ไม่มีคนอาศัยอยู่แห่งนี้ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติในปี 1974 เนื่องจากมีความสำคัญในการเป็นเขตรักษาพันธุ์นกหลายสายพันธุ์ รวมถึงนกเขตร้อนปากแดงซึ่งเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ เกาะแห่งนี้มีกิจกรรมดูนกที่ผ่อนคลายริมชายฝั่ง ซึ่งคุณจะได้เห็นนกบูกบี้สีน้ำตาล นกกระทุง นกนางนวล นกโนดดี และนกนางนวลหัวดำ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมดำน้ำตื้นที่ดีที่อ่าว North Lee
Prickly Pear
Prickly Pear ตั้งอยู่ใน North Sound และได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติในปี 1988 ชายฝั่งทางเหนือและตะวันออกมีชายหาดที่สวยงาม 2 แห่งซึ่งเหมาะสำหรับการว่ายน้ำและดำน้ำตื้น สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินป่า มีเส้นทางเดินป่าที่ทอดยาวจาก Sand Box Bar ลงไปยัง North Beach Prickly Pear เป็นที่อยู่อาศัยของนกประจำถิ่นและนกอพยพ
Necker Island
ภาพจาก: preferredhotels.com
กาะ Necker เป็นของ Richard Branson (เจ้าของ Virgin Atlantic) ตั้งแต่ปี 1970 เป็นสถานที่พักผ่อนส่วนตัวที่สมบูรณ์แบบสำหรับคนรวยและคนดัง โดยให้บริการชั้นหนึ่งแก่ทุกคนที่เข้าพักในรีสอร์ทส่วนตัวบนเกาะแห่งนี้ เกาะ Necker มีอสังหาริมทรัพย์หลายแห่ง ได้แก่ Great House ซึ่งเป็นวิลล่าสไตล์บาหลีโปร่งสบายที่สร้างขึ้นบน Devil’s Hill และกระท่อมสไตล์บาหลีอีกสามหลัง แนวปะการังที่สวยงามเกือบจะโอบล้อมเกาะไว้
เกาะบีฟ (Beef Island)
ภาพจาก: th.tripadvisor.com
เกาะบีฟเป็นที่ตั้งของสนามบินนานาชาติ Terrence B Lettsome (EIS) ของหมู่เกาะเวอร์จินของอังกฤษและเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางมา เกาะแห่งนี้เชื่อมต่อกับเกาะ ทอร์โทล่าด้วยสะพานที่สร้างใหม่ (สะพานเดิมเป็นสะพานเก็บค่าผ่านทางแห่งเดียวของหมู่เกาะเวอร์จินของอังกฤษ) ซึ่งเป็นโครงสร้างแคบ ๆ ที่มีช่องทางเดียวที่ทอดข้ามช่องแคบยาว 300 ฟุต เกาะบีฟ มักถูกเรียกว่าเกาะ Elisabeth ดังนั้นจึงมีรหัสสนามบินว่า EIS นอกจากสนามบินแล้ว เกาะบีฟ ยังมีบริการเรือข้ามฟากจากอ่าว Trellis ไปยัง Marina Cay และเกาะเวอร์จิน กอร์ดา
Great Camanoe and Little Camanoe
เกาะเหล่านี้ตั้งอยู่ใกล้เกาะบีฟ ส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัย แต่เหมาะแก่การดำน้ำตื้นและดำน้ำลึกในอ่าวแคมและลี สามารถเดินทางไปยังเกาะเหล่านี้ได้โดยทางเรือเท่านั้น
Guana Island
Guana Island เป็นรีสอร์ทบนเกาะส่วนตัวเช่นเดียวกับเกาะ Necker ดังนั้นเฉพาะแขกเท่านั้นที่สามารถขึ้นฝั่งได้ เกาะแห่งนี้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและมีนกอาศัยอยู่กว่า 50 สายพันธุ์ นอกจากนี้ยังมีจุดดำน้ำตื้นที่ยอดเยี่ยมสองสามแห่งที่ White Bay และ Monkey Point ซึ่งคุณสามารถพบเห็นปลากระโทงแทงขนาดใหญ่ เต่าทะเล และสัตว์ทะเลมากมาย
Dog Islands
หินรูปร่างต่างๆ เป็นแหล่งดำน้ำที่ยอดเยี่ยมใน George, Great, West และซีลด็อก ซึ่งมีแนวหินปะการังจำนวนมากที่ก่อตัวเป็นหุบเขาและซุ้มประตูโค้ง ปกคลุมด้วยปะการังอ่อนและฟองน้ำ สามารถพบเห็นสัตว์ทะเลมากมาย เช่น ปลาสแนปเปอร์ ปลาไหลมอเรย์ ปลากระเบน ฉลามพยาบาล และฉลามแนวปะการัง
ที่มา bestofbvi.com