Shopping cart

21 ก.ย. วันอัลไซเมอร์โลก: เช็ค 10 สัญญาณเตือน

สารบัญ

ในทุกวันที่ 21 กันยายนของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็นวันอัลไซเมอร์โลก (World Alzheimer’s Day) เพื่อรณรงค์สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโรคสมองเสื่อมที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนนับล้านทั่วโลก การตระหนักรู้ถึงสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้าจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการรับมือและวางแผนการดูแลอย่างเหมาะสม

ประเด็นสำคัญที่น่าสนใจ

  • วันอัลไซเมอร์โลกตรงกับวันที่ 21 กันยายนของทุกปี จัดตั้งขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคอัลไซเมอร์และภาวะสมองเสื่อมในระดับสากล
  • โรคอัลไซเมอร์เป็นโรคสมองเสื่อมที่พบได้บ่อยที่สุด มีลักษณะเด่นคือการสูญเสียความทรงจำและความสามารถในการคิดวิเคราะห์อย่างค่อยเป็นค่อยไป
  • การสังเกต 10 สัญญาณเตือนเริ่มต้น เช่น การลืมสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น หรือความยากลำบากในการทำกิจวัตรเดิมๆ เป็นกุญแจสำคัญในการเข้าสู่กระบวนการวินิจฉัยและการดูแลตั้งแต่เนิ่นๆ
  • ปัจจัยเสี่ยงของโรคมีหลากหลาย ตั้งแต่พันธุกรรม อายุที่เพิ่มขึ้น ไปจนถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การสูบบุหรี่ การขาดการออกกำลังกาย และภาวะเครียดเรื้อรัง
  • แม้ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด แต่การตรวจพบเร็ว การดูแลสุขภาพสมองอย่างสม่ำเสมอ และการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต สามารถช่วยชะลอความรุนแรงของโรคและเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้

บทความนี้จะเจาะลึกในหัวข้อ 21 ก.ย. วันอัลไซเมอร์โลก: เช็ค 10 สัญญาณเตือน เพื่อให้ข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับความสำคัญของวันดังกล่าว ทำความเข้าใจธรรมชาติของโรคอัลไซเมอร์ พร้อมทั้งรายละเอียดของสัญญาณเตือนแต่ละข้อที่อาจเกิดขึ้นกับคนใกล้ชิด เพื่อเป็นแนวทางในการสังเกตและเตรียมความพร้อมในการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุในครอบครัวได้อย่างทันท่วงที

ความสำคัญและที่มาของวันอัลไซเมอร์โลก

วันอัลไซเมอร์โลก (World Alzheimer’s Day) ถูกริเริ่มขึ้นโดยองค์การอัลไซเมอร์ระหว่างประเทศ (Alzheimer’s Disease International – ADI) ในปี ค.ศ. 1994 โดยกำหนดให้วันที่ 21 กันยายนของทุกปีเป็นวันสำหรับกิจกรรมรณรงค์ทั่วโลก วัตถุประสงค์หลักคือเพื่อสร้างความตระหนักรู้และให้ความรู้แก่สาธารณชนเกี่ยวกับโรคอัลไซเมอร์และภาวะสมองเสื่อมในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเป็นภาวะที่ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วย ครอบครัว และผู้ดูแลจำนวนมหาศาล

ความสำคัญของวันนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การให้ข้อมูล แต่ยังมุ่งเน้นไปที่การต่อสู้กับอคติและทัศนคติเชิงลบที่สังคมมีต่อผู้ป่วยสมองเสื่อม หลายครั้งที่อาการของโรคถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเพียงความเสื่อมถอยตามวัยธรรมดา ทำให้ผู้ป่วยไม่ได้รับการวินิจฉัยและการดูแลที่เหมาะสมในเวลาที่ควรจะเป็น การรณรงค์ในวันอัลไซเมอร์โลกจึงเป็นโอกาสสำคัญที่องค์กรด้านสุขภาพ หน่วยงานภาครัฐ และภาคประชาสังคมทั่วโลกจะได้ร่วมมือกันเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้อง กระตุ้นให้เกิดการพูดคุย และส่งเสริมการสนับสนุนงานวิจัยเพื่อหาแนวทางการป้องกันและรักษาที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในอนาคต

โรคอัลไซเมอร์: ภัยเงียบที่ใกล้ตัวกว่าที่คิด

โรคอัลไซเมอร์: ภัยเงียบที่ใกล้ตัวกว่าที่คิด

โรคอัลไซเมอร์ไม่ใช่แค่เพียงอาการหลงๆ ลืมๆ แต่เป็นโรคทางสมองที่ซับซ้อนและส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการใช้ชีวิต การทำความเข้าใจพื้นฐานของโรคจึงเป็นสิ่งจำเป็นอันดับแรก

คำจำกัดความของโรคอัลไซเมอร์

โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s Disease) คือโรคความเสื่อมของระบบประสาทที่ดำเนินไปอย่างช้าๆ (Progressive Neurodegenerative Disease) ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของภาวะสมองเสื่อม (Dementia) โรคนี้เกิดจากการสะสมของโปรตีนผิดปกติในสมอง คือ เบต้า-อะไมลอยด์ (Beta-amyloid) และ เทา (Tau) ซึ่งนำไปสู่การตายของเซลล์สมองและการสูญเสียการเชื่อมต่อระหว่างเซลล์ประสาท ส่งผลโดยตรงต่อการทำงานของสมองในส่วนที่ควบคุมความจำ ความคิด ภาษา และการตัดสินใจ

ในระยะแรก ผู้ป่วยมักมีปัญหาเกี่ยวกับความจำระยะสั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไป อาการจะรุนแรงขึ้นจนส่งผลกระทบต่อการทำกิจวัตรประจำวัน การสื่อสาร และในท้ายที่สุดคือการสูญเสียความสามารถในการดูแลตนเองและความสามารถทางร่างกาย

สถานการณ์ผู้ป่วยในระดับโลก

สถานการณ์ของโรคอัลไซเมอร์และภาวะสมองเสื่อมเป็นปัญหาสาธารณสุขที่น่ากังวลทั่วโลก ข้อมูลระบุว่า ทั่วโลกมีผู้ป่วยสมองเสื่อมรายใหม่เพิ่มขึ้นในอัตราที่น่าตกใจ คือ ทุกๆ 7 วินาทีจะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 1 คน ซึ่งเท่ากับว่าในแต่ละปีมีผู้ป่วยรายใหม่ประมาณ 4.6 ล้านคน การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้เป็นผลมาจากประชากรโลกที่มีอายุยืนยาวขึ้น เนื่องจากอายุที่สูงขึ้นเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุดของโรคนี้

ภาระจากโรคนี้ไม่ได้ตกอยู่กับผู้ป่วยเพียงคนเดียว แต่ยังส่งผลกระทบอย่างหนักต่อครอบครัวผู้ดูแล ทั้งในด้านอารมณ์ สังคม และการเงิน การเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยจึงเป็นความท้าทายอย่างยิ่งต่อระบบสาธารณสุขและเศรษฐกิจของทุกประเทศ

21 ก.ย. วันอัลไซเมอร์โลก: เช็ค 10 สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม

การสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ในพฤติกรรมของคนใกล้ชิดเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง สัญญาณเตือน 10 ประการต่อไปนี้เป็นแนวทางที่ช่วยให้สามารถแยกแยะระหว่างอาการหลงลืมตามวัยปกติกับอาการที่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของโรคอัลไซเมอร์ได้

1. ปัญหาด้านความจำที่กระทบต่อชีวิตประจำวัน

นี่คือสัญญาณที่เด่นชัดที่สุดในระยะแรก ผู้ป่วยจะเริ่มลืมข้อมูลที่เพิ่งได้รับมาใหม่ๆ เช่น ลืมบทสนทนาที่เพิ่งคุยจบไป ลืมวันนัดหมายสำคัญ หรือถามคำถามเดิมซ้ำๆ ลักษณะสำคัญคือ แม้จะพยายามนึกหรือตั้งใจจำ แต่ก็ไม่สามารถจำได้ เช่น การลืมว่าจอดรถไว้ที่ไหน แม้จะพยายามมองหาจุดสังเกตแล้วก็ตาม ซึ่งแตกต่างจากการลืมตามวัยที่อาจจะลืมชื่อคนรู้จักแต่จะนึกออกในภายหลัง

2. ความสามารถในการวางแผนและแก้ปัญหาลดลง

ผู้ป่วยอาจเริ่มประสบปัญหาในการทำตามขั้นตอนที่คุ้นเคย หรือไม่สามารถคิดวิเคราะห์แก้ปัญหาที่เคยทำได้ดีมาก่อน ตัวอย่างเช่น คนที่เคยทำอาหารเก่งอาจลืมลำดับขั้นตอนการปรุง หรือสับสนกับสูตรอาหารง่ายๆ ที่เคยทำเป็นประจำ คนที่เคยทำงานด้านเทคนิคหรือการเงินอาจไม่สามารถจัดการกับตัวเลขหรือแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่เคยเชี่ยวชาญได้อีกต่อไป

สั่งเสื้อ

ตุลาคม 2025
จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส. อา.
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031