Health ID คืออะไร? บัตรสุขภาพคนไทยที่ต้องรู้ก่อนใช้
ระบบสาธารณสุขของประเทศไทยกำลังก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบด้วยการนำเสนอ Health ID ซึ่งเป็นบัตรสุขภาพดิจิทัลที่ออกแบบมาเพื่อปฏิวัติวิธีการเข้าถึงและจัดการข้อมูลสุขภาพของประชาชน Health ID ไม่ได้เป็นเพียงหมายเลขประจำตัว แต่เป็นกุญแจสำคัญที่เชื่อมโยงประวัติการรักษาพยาบาลทั้งหมดไว้ในที่เดียว ตอบสนองนโยบาย “บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่” เพื่อให้การรับบริการทางการแพทย์เป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด
ภาพรวมของ Health ID
- Health ID คือ หมายเลขสุขภาพดิจิทัลที่ใช้แทนบัตรประชาชนในการเข้ารับบริการด้านสุขภาพ เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลการรักษาจากทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ
- เป้าหมายหลัก คือการสนับสนุนนโยบาย “บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่” ทำให้ประชาชนสามารถเข้ารับการรักษาได้ทุกที่โดยใช้ข้อมูลสุขภาพชุดเดียวกัน
- การเข้าถึงบริการ ทำได้ผ่านแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” ซึ่งช่วยให้สามารถดูประวัติการรักษา นัดหมายแพทย์ ปรึกษาออนไลน์ และรับยาดิจิทัลได้
- การลงทะเบียน จำเป็นต้องใช้บัตรประชาชนตัวจริงและสมาร์ทโฟน โดยต้องไปยืนยันตัวตนที่หน่วยบริการสาธารณสุขที่เข้าร่วมโครงการ
- ความปลอดภัย ดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อสร้างความมั่นใจในการจัดเก็บและใช้งานข้อมูลสุขภาพอย่างปลอดภัย
การเปลี่ยนผ่านสู่ระบบสุขภาพดิจิทัลเป็นหนึ่งในวาระสำคัญระดับชาติ โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนคนไทยทุกคน การเกิดขึ้นของ Health ID คืออะไร? บัตรสุขภาพคนไทยที่ต้องรู้ก่อนใช้ จึงเป็นคำถามที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับทุกคนที่ต้องการทำความเข้าใจและเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ Health ID หรือบัตรสุขภาพดิจิทัล ถูกพัฒนาขึ้นโดยกระทรวงสาธารณสุข เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวระบุและยืนยันตัวตนของบุคคลในระบบบริการสุขภาพดิจิทัลของประเทศ ทำหน้าที่เสมือนบัตรประชาชนอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้เฉพาะในวงการแพทย์และสาธารณสุข ทำให้ข้อมูลสุขภาพที่เคยกระจัดกระจายอยู่ตามโรงพยาบาลต่างๆ ถูกรวบรวมและเชื่อมโยงเข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ
ความเกี่ยวข้องของ Health ID กับชีวิตประจำวันนั้นมีมากกว่าที่คิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรัฐบาลผลักดันนโยบาย “บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่” อย่างจริงจัง บัตรสุขภาพดิจิทัลนี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ในสถานพยาบาลทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลรัฐ เอกชน คลินิก หรือร้านขายยา สามารถเข้าถึงประวัติการรักษาที่จำเป็นของผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ช่วยลดความซ้ำซ้อนในการตรวจวินิจฉัย ลดความผิดพลาดในการจ่ายยา และเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาพยาบาลได้อย่างมหาศาล
ทำความเข้าใจ Health ID คืออะไร? บัตรสุขภาพคนไทยที่ต้องรู้ก่อนใช้
นิยามและเป้าหมายหลัก
Health ID มีคำจำกัดความคือ “หมายเลขหรือบัตรสุขภาพดิจิทัล” ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นตัวแทนของบัตรประจำตัวประชาชนในระบบสุขภาพดิจิทัลแห่งชาติ โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการรวบรวมและเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพของประชาชนคนไทยทุกคนไว้บนแพลตฟอร์มกลางที่บริหารจัดการโดยกระทรวงสาธารณสุข แนวคิดนี้เกิดขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาข้อมูลสุขภาพที่แยกส่วนและไม่สามารถแลกเปลี่ยนกันได้อย่างมีประสิทธิภาพระหว่างสถานพยาบาล ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการรักษาพยาบาลที่ต่อเนื่องและครบวงจร
เป้าหมายสูงสุดของการพัฒนา Health ID คือการทำให้วิสัยทัศน์ของนโยบาย “บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่” เกิดขึ้นได้จริงในทางปฏิบัติ โดยมุ่งหวังให้ประชาชนสามารถใช้สิทธิการรักษาพยาบาลของตนเองได้จากสถานพยาบาลทุกแห่งทั่วประเทศอย่างไร้รอยต่อ ไม่ว่าจะเจ็บป่วยในภูมิลำเนาของตนเองหรือขณะเดินทางไปยังจังหวัดอื่น แพทย์ผู้ทำการรักษาสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญ เช่น ประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ และประวัติการรักษาที่ผ่านมาได้ทันที ซึ่งนำไปสู่การวินิจฉัยที่แม่นยำและการวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย
หลักการทำงานเบื้องหลังบัตรสุขภาพดิจิทัล
หลักการทำงานของ Health ID ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการสร้างระบบนิเวศข้อมูลสุขภาพ (Health Information Ecosystem) ที่ปลอดภัยและเป็นหนึ่งเดียว โดยมีองค์ประกอบสำคัญคือ แอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” ซึ่งทำหน้าที่เป็นประตูสำหรับประชาชนในการเข้าถึงและจัดการข้อมูลสุขภาพของตนเอง และ ระบบ SmartHealth ID ซึ่งเป็นระบบหลังบ้านกลางที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล คลินิก หรือร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการ
เมื่อประชาชนลงทะเบียนและยืนยันตัวตนเพื่อสร้าง Health ID สำเร็จ ข้อมูลประจำตัวจะถูกผูกเข้ากับข้อมูลสุขภาพที่มีอยู่ในฐานข้อมูลของสถานพยาบาลต่างๆ เมื่อเข้ารับบริการครั้งต่อไป เพียงแค่แสดง Health ID ผ่านแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” หรือแจ้งหมายเลขบัตรประชาชน เจ้าหน้าที่ก็จะสามารถดึงข้อมูลสุขภาพที่จำเป็นขึ้นมาบนระบบของสถานพยาบาลนั้นๆ ได้ทันที กระบวนการนี้ช่วยลดขั้นตอนที่ยุ่งยากในการลงทะเบียนผู้ป่วยใหม่ การซักประวัติซ้ำซ้อน และลดความเสี่ยงจากการให้ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนของผู้ป่วย ทำให้กระบวนการบริการทั้งหมดรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ประโยชน์และบริการที่ครอบคลุมของ Health ID
การมี Health ID ไม่เพียงแต่เป็นการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานของสถานพยาบาลเท่านั้น แต่ยังมอบประโยชน์และบริการที่หลากหลายแก่ประชาชนโดยตรง ช่วยให้การดูแลสุขภาพกลายเป็นเรื่องที่ง่ายและเข้าถึงได้มากขึ้นผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล
Health ID เป็นเครื่องมือสำคัญในการเสริมสร้างพลังให้ประชาชนสามารถเป็นเจ้าของและจัดการข้อมูลสุขภาพของตนเองได้อย่างแท้จริง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการดูแลสุขภาพเชิงรุกในยุคดิจิทัล
การเข้าถึงข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคล
หนึ่งในประโยชน์ที่สำคัญที่สุดของ Health ID คือการให้สิทธิ์ประชาชนในการเข้าถึงข้อมูลสุขภาพของตนเองได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” จากเดิมที่ประวัติการรักษาเป็นเอกสารที่เก็บไว้ที่โรงพยาบาลและเข้าถึงได้ยาก ประชาชนสามารถดูข้อมูลต่างๆ ได้ด้วยตนเอง อาทิ:
- ประวัติการวินิจฉัยโรค: ตรวจสอบประวัติการเจ็บป่วยและโรคประจำตัวที่เคยได้รับการวินิจฉัย
- ประวัติการแพ้ยาและอาหาร: เข้าถึงข้อมูลสำคัญที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากการได้รับยาหรือสารที่แพ้
- ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ: ดูผลตรวจเลือด ปัสสาวะ หรือผลตรวจอื่นๆ ได้โดยไม่ต้องรอรับเอกสาร
- ประวัติการรับวัคซีน: ตรวจสอบข้อมูลการรับวัคซีนต่างๆ เช่น วัคซีนป้องกันโควิด-19 หรือวัคซีนพื้นฐานอื่นๆ
การเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ประชาชนมีความตระหนักรู้เกี่ยวกับสุขภาพของตนเองมากขึ้น และสามารถให้ข้อมูลแก่บุคลากรทางการแพทย์ได้อย่างถูกต้องเมื่อจำเป็น
ความสะดวกในการนัดหมายและรับบริการ
Health ID ได้เปลี่ยนรูปแบบการนัดหมายแพทย์แบบเดิมๆ ที่ต้องใช้เวลาในการโทรศัพท์หรือเดินทางไปที่โรงพยาบาล ให้กลายเป็นการนัดหมายออนไลน์ที่สะดวกและรวดเร็วผ่านแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” ผู้ใช้งานสามารถเลือกโรงพยาบาล คลินิก เลือกแพทย์ และช่วงเวลาที่ต้องการเข้ารับบริการได้ด้วยตนเอง นอกจากนี้ ระบบยังสามารถส่งการแจ้งเตือนเมื่อใกล้ถึงวันนัดหมาย ช่วยลดปัญหาการลืมนัดและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการคิวของโรงพยาบาล
ยิ่งไปกว่านั้น Health ID ยังเปิดประตูสู่บริการ “การแพทย์ทางไกล” (Telemedicine) หรือการปรึกษาแพทย์ออนไลน์ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ต้องติดตามอาการอย่างสม่ำเสมอ หรือผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยที่ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปโรงพยาบาล ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้อย่างมาก
การรับยาและการเจาะเลือดที่สะดวกขึ้น
ระบบ Health ID ยังเชื่อมต่อกับบริการด้านเภสัชกรรม ทำให้เกิดบริการ “รับยาแบบดิจิทัล” ที่ร้านขายยาใกล้บ้าน หลังจากปรึกษาแพทย์ออนไลน์หรือเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาล แพทย์สามารถออกใบสั่งยาดิจิทัลส่งตรงไปยังแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” ของผู้ป่วย จากนั้นผู้ป่วยสามารถนำใบสั่งยาดิจิทัลนี้ไปแสดงที่ร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการเพื่อรับยาได้ทันที เป็นการลดความแออัดในห้องรอรับยาของโรงพยาบาลและเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ป่วย
นอกจากนี้ ยังมีบริการ “เจาะเลือดล่วงหน้าด้วยใบสั่งยาดิจิทัล” ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วยที่ต้องตรวจเลือดก่อนพบแพทย์ตามนัด สามารถไปเจาะเลือดที่สถานพยาบาลใกล้บ้านหรือจุดบริการที่กำหนดไว้ล่วงหน้าได้ ผลการตรวจจะถูกส่งเข้าสู่ระบบกลางโดยอัตโนมัติ ทำให้เมื่อถึงวันนัดพบแพทย์ แพทย์จะมีข้อมูลพร้อมสำหรับการวินิจฉัยทันที ซึ่งช่วยลดระยะเวลาที่ต้องใช้ในโรงพยาบาลในแต่ละครั้งได้อย่างมีนัยสำคัญ
ขั้นตอนการลงทะเบียนและเริ่มต้นใช้งาน
การเริ่มต้นใช้งาน Health ID นั้นมีขั้นตอนที่ชัดเจนและไม่ซับซ้อน แต่จำเป็นต้องมีการยืนยันตัวตนอย่างเข้มงวดเพื่อความปลอดภัยของข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคล
การเตรียมตัวและสิ่งที่ต้องมี
ก่อนที่จะดำเนินการลงทะเบียน Health ID บุคคลจำเป็นต้องเตรียมสิ่งต่อไปนี้ให้พร้อม เพื่อให้กระบวนการเป็นไปอย่างราบรื่น:
- บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง: เป็นเอกสารสำคัญที่สุดที่ใช้ในการยืนยันตัวตนทางกายภาพ ไม่สามารถใช้สำเนาหรือรูปถ่ายได้
- สมาร์ทโฟน: โทรศัพท์มือถือที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและรองรับการติดตั้งแอปพลิเคชันได้
- แอปพลิเคชัน “หมอพร้อม”: ต้องทำการดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” จาก App Store (สำหรับ iOS) หรือ Google Play Store (สำหรับ Android) ไว้ล่วงหน้า
การเตรียมเอกสารและอุปกรณ์เหล่านี้ให้พร้อมจะช่วยลดระยะเวลาในการดำเนินการที่จุดบริการได้อย่างมาก
กระบวนการยืนยันตัวตนที่หน่วยบริการ
เนื่องจากข้อมูลสุขภาพเป็นข้อมูลที่มีความอ่อนไหวสูง กระบวนการลงทะเบียน Health ID จึงจำเป็นต้องมีการยืนยันตัวตนแบบพบหน้า (Face-to-Face Verification) เพื่อป้องกันการสวมรอยหรือการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีขั้นตอนดังนี้:
- เดินทางไปยังหน่วยบริการสาธารณสุข: นำบัตรประชาชนและสมาร์ทโฟนที่ติดตั้งแอปฯ หมอพร้อมไปยังโรงพยาบาล หรือหน่วยบริการสาธารณสุขที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งจะมีจุดบริการสำหรับลงทะเบียน Health ID โดยเฉพาะ
- แสดงตนต่อเจ้าหน้าที่: ยื่นบัตรประชาชนตัวจริงให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ และเปิดแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” เพื่อเริ่มกระบวนการ
- ดำเนินการตามขั้นตอน: เจ้าหน้าที่จะแนะนำขั้นตอนการยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งอาจรวมถึงการถ่ายภาพใบหน้าเพื่อเปรียบเทียบกับภาพบนบัตรประชาชน และการสร้างรหัสผ่านเพื่อเข้าใช้งาน
- ลงทะเบียนสำเร็จ: เมื่อกระบวนการยืนยันตัวตนเสร็จสมบูรณ์ Health ID จะถูกสร้างและผูกกับบัญชี “หมอพร้อม” ของผู้ใช้งานทันที หลังจากนั้นจะสามารถเริ่มใช้บริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้
มิติด้านกฎหมายและความปลอดภัยของข้อมูล
ความเชื่อมั่นของประชาชนเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดต่อความสำเร็จของระบบ Health ID ดังนั้น การดำเนินงานทั้งหมดจึงอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายที่เข้มงวดและมีมาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่รัดกุม
กรอบกฎหมายที่รองรับการทำงาน
การบริหารจัดการข้อมูลสุขภาพผ่านระบบ Health ID ไม่ได้เกิดขึ้นโดยปราศจากการกำกับดูแล แต่มีการอ้างอิงและปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องของประเทศไทยอย่างเคร่งครัด เพื่อคุ้มครองสิทธิของประชาชนและสร้างมาตรฐานในการให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล กฎหมายฉบับสำคัญที่เกี่ยวข้องได้แก่:
- พระราชบัญญัติการบริหารงานและการให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล พ.ศ. 2562: เป็นกฎหมายแม่บทที่ส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการให้บริการประชาชน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความโปร่งใส
- พระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565: กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการดำเนินงานทางอิเล็กทรอนิกส์ของหน่วยงานรัฐให้มีผลผูกพันทางกฎหมายเช่นเดียวกับการดำเนินการด้วยเอกสารกระดาษ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของใบสั่งยาดิจิทัลและเอกสารทางการแพทย์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ
กฎหมายเหล่านี้ช่วยสร้างกรอบการทำงานที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือ ทำให้การแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพผ่านระบบดิจิทัลเป็นไปอย่างถูกต้องและปลอดภัย
มาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลสุขภาพ
ข้อมูลสุขภาพถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวสูง (Sensitive Personal Data) ดังนั้น ระบบ SmartHealth ID ซึ่งเป็นแกนกลางของ Health ID จึงถูกออกแบบมาพร้อมกับมาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์หลายชั้นเพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยมิชอบ การรั่วไหล หรือการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรการเหล่านี้ครอบคลุมตั้งแต่การเข้ารหัสข้อมูล (Data Encryption) ทั้งในระหว่างการจัดเก็บและระหว่างการส่งผ่านข้อมูล, การกำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลอย่างเข้มงวด (Access Control) โดยบุคลากรทางการแพทย์จะสามารถเข้าถึงข้อมูลได้เฉพาะส่วนที่จำเป็นต่อการรักษาเท่านั้น ไปจนถึงการมีระบบตรวจสอบและเฝ้าระวังการใช้งานที่ผิดปกติ (Monitoring and Auditing) ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้สามารถตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้อย่างทันท่วงที
การเปรียบเทียบระบบบริการสุขภาพก่อนและหลังมี Health ID
คุณสมบัติ/ขั้นตอน | ระบบการรักษาแบบดั้งเดิม | ระบบที่มี Health ID |
---|---|---|
การยืนยันตัวตน | ต้องใช้บัตรประชาชนตัวจริงทุกครั้งที่เข้ารับบริการใหม่ | ใช้ Health ID บนแอปฯ หมอพร้อม หรือบัตรประชาชน (กรณีฉุกเฉิน) |
ประวัติการรักษา | ผู้ป่วยต้องให้ข้อมูลเอง หรือโรงพยาบาลใหม่ต้องทำเรื่องขอประวัติจากที่เก่า ซึ่งใช้เวลานาน | แพทย์สามารถดึงข้อมูลสำคัญจากระบบกลางได้ทันทีเมื่อได้รับความยินยอม |
การรับยา | ต้องรอรับยาที่ห้องยาของโรงพยาบาลเท่านั้น ทำให้เกิดความแออัด | สามารถเลือกรับยาที่โรงพยาบาล หรือรับยาที่ร้านยาใกล้บ้านที่เข้าร่วมโครงการ |
การนัดหมายแพทย์ | ต้องเดินทางไปทำนัดที่โรงพยาบาล หรือโทรศัพท์ติดต่อในเวลาทำการ | สามารถทำนัดหมายออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันได้ตลอด 24 ชั่วโมง |
การเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว | เข้าถึงได้ยาก ส่วนใหญ่จัดเก็บในรูปแบบเอกสารกระดาษที่โรงพยาบาล | ประชาชนสามารถเข้าถึงและตรวจสอบข้อมูลสุขภาพของตนเองได้ง่ายผ่านสมาร์ทโฟน |
อนาคตของระบบสาธารณสุขไทยกับ Health ID
Health ID ไม่ใช่เป็นเพียงโครงการระยะสั้น แต่เป็นโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลด้านสุขภาพที่จะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาระบบสาธารณสุขของประเทศไทยในระยะยาว การมีฐานข้อมูลสุขภาพที่เป็นหนึ่งเดียวจะช่วยให้ภาครัฐสามารถวางแผนนโยบายด้านสาธารณสุขได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น โดยอาศัยข้อมูลเชิงลึก (Data-driven Insights) เกี่ยวกับแนวโน้มของโรคระบาด การกระจายตัวของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง และพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนในแต่ละพื้นที่
ในอนาคต Health ID อาจถูกพัฒนาต่อยอดให้สามารถเชื่อมโยงกับเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น อุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ (Wearable Devices) เพื่อเก็บข้อมูลสุขภาพเชิงไลฟ์สไตล์ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ คุณภาพการนอน หรือระดับกิจกรรมทางกาย ซึ่งจะช่วยให้การดูแลสุขภาพเปลี่ยนจากเชิงรับ (การรักษาเมื่อเจ็บป่วย) ไปสู่เชิงรุก (การป้องกันและส่งเสริมสุขภาพ) ได้อย่างสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
โดยสรุปแล้ว Health ID คือก้าวสำคัญของการปฏิรูประบบสาธารณสุขไทยสู่ยุคดิจิทัล เป็นเครื่องมือที่มอบความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยให้แก่ประชาชนในการเข้าถึงสิทธิการรักษาพยาบาล พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ และเป็นพื้นฐานในการสร้างนวัตกรรมด้านสุขภาพใหม่ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยทุกคน การศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับบัตรสุขภาพดิจิทัลนี้จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับทุกคนเพื่อเตรียมความพร้อมและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ได้อย่างเต็มศักยภาพ