นิทรรศการ “สิริราชพัสตราบรมราชินีนาถ” ณ พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เป็นนิทรรศการทรงคุณค่าที่บอกเล่าถึงบทบาทของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงในการเปลี่ยนแปลงวงการแฟชั่นไทย ทั้งในฐานะทูตวัฒนธรรมและสตรีที่แต่งพระองค์งดงามที่สุดในโลก นิทรรศการนี้เผยแพร่พระราชกรณียกิจที่พระองค์ทรงยกระดับมรดกวัฒนธรรมไทยสู่เวทีโลกผ่านฉลองพระองค์ และการออกแบบเครื่องแต่งกายในแต่ละยุคสมัย
วิสัยทัศน์ของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงและชุดประจำชาติ
ในช่วงทศวรรษ 1960 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงมีพระราชวินิจฉัยให้มีชุดประจำชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะให้กับประเทศไทย โดยทรงได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องแต่งกายของสตรีไทยแบบดั้งเดิม พระองค์จึงทรงร่วมมือกับช่างฝีมือและนักวิชาการเพื่อฟื้นฟูและตีความงานฝีมือที่สืบทอดกันมาหลายศตวรรษใหม่ ซึ่งเป็นพระราชปณิธานในการ อนุรักษ์และเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรมไทยสู่ระดับนานาชาติ
ท่ามกลางสงครามเย็นและยุคการปลดอาณานิคม ซึ่งอัตลักษณ์ประจำชาติเป็นวาระสำคัญระดับโลก วิสัยทัศน์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มาถึงจุดสูงสุดด้วยการสถาปนา “ชุดประจำชาติไทย” คอลเลกชันนี้ประกอบด้วยรูปแบบที่แตกต่างกันหลายแบบ ได้แก่:

ภาพจาก: www.thairath.co.th
ชุดไทยบรมพิมาน: ชุดไทยบรมพิมานสวมใส่ในงานพิธีตอนค่ำ เหมาะสำหรับงานพิธีเต็มยศหรือครึ่งยศ เช่น งานอุทยานสโมสร งานพระราชทานเลี้ยงอาหารค่ำ งานพระราชทานเลี้ยงอาหารค่ำอย่างเป็นทางการ หรือสวมใส่ในพิธีแต่งงาน และยังนิยมสวมใส่ในการเข้ารับพระราชทานน้ำสังข์ หรือพิธีรดน้ำสังข์อีกด้วย
ชุดไทยศิวาลัย: ตั้งชื่อตามพระที่นั่งศิวาลัย เป็นชุดไทยของสตรีบรรดาศักดิ์ในสมัยก่อน มีลักษณะคล้ายกับชุดไทยบรมพิมาน คือเสื้อแขนยาว คอตั้งเล็กน้อย แต่ห่มสไบปักลายไทยอย่างสไบชุดไทยจักรพรรดิ แต่ไม่ต้องมีแพรจีบรองพื้นก่อน แล้วห่มทับเสื้อด้านในอีกชั้น ซิ่นเย็บติดกับตัวเสื้อแบบชุดไทยบรมพิมาน เป็นไหมยกดิ้นทอง ตัดแบบหน้านาง มีชายพก คาดเข็มขัด แต่งเครื่องประดับตามสมควร มักใช้ในงานตอนค่ำ งานเลี้ยง งานฉลองสมรส หรืองานพิธีเต็มยศ เหมาะสมสำหรับช่วงอากาศเย็นเพราะมีหลายชั้น
ชุดไทยจักรี: ชุดไทยประกอบด้วยสไบเฉียง ใช้ผ้ายกมีเชิงหรือยกทั้งตัว ซิ่นมีจีบยกข้างหน้า มีชายพกใช้เข็มขัดไทยคาด ส่วนท่อนบนเป็นสไบ
การออกแบบเหล่านี้ผสมผสานศิลปะไทยกับสุนทรียศาสตร์สมัยใหม่ได้อย่างลงตัว จึงเหมาะกับการทูตระหว่างประเทศ พร้อมทั้งเน้นย้ำเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของประเทศไทย
ภาพจาก: www.komchadluek.net
บทบาทของปิแอร์ บัลแมง (Pierre Balmain)
ในปี 1960 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงได้เสด็จพระราชดำเนินเยือน 15 ประเทศทางตะวันตกอย่างเป็นทางการ นับเป็นโอกาสสำคัญที่นานาชาติจะได้รู้จักพระองค์ทั้งสองเป็นครั้งแรก ในการเสด็จฯ เยือนครั้งประวัติศาสตร์ที่กินระยะเวลาถึง 6 เดือนนี้ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงว่าจ้างช่างตัดเสื้อชื่อดังชาวปารีสอย่างปิแอร์ บัลแมง ให้มาออกแบบฉลองพระองค์สำหรับกลางวัน เย็น และค่ำ ซึ่งรับประกันว่าแต่ละชุดจะดูสง่างามเหนือกาลเวลา การออกแบบของพระองค์ประกอบด้วยแจ็คเก็ตและเดรสที่มีเนคไทเส้นเล็ก สายคาดเอวแบบโอบิ เอฟเฟกต์แบบจับจีบ และโบว์อันหรูหรา พร้อมด้วยดอกไม้ไหมขนาดใหญ่บนปกเสื้อหรือเสื้อรัดรูป นอกจากนี้ บัลแมง ยังประสานงานในการซื้อเครื่องประดับทั้งหมด รวมถึงหมวก เสื้อคลุมขนสัตว์ และผ้าคลุมไหล่ โดยทำงานร่วมกับแหล่งข้อมูลทั้งภายในและภายนอกเพื่อสร้างชุดที่เข้าชุดกัน
ภาพจาก: www.royalgrandpalace.th
บัลแมง ร่วมมือกับฟรองซัวส์ เลอซาจ (François Lesage) ช่างปักผ้าทางการของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงอย่างต่อเนื่องตลอด 22 ปีที่ผ่านมาในการพัฒนารูปแบบเสื้อผ้าของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง นอกจากชุดสไตล์ตะวันตกสำหรับใช้ในการเดินเรือต่างประเทศของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงแล้ว บัลแมง และเลอซาจ ยังทำงานเพื่อนำวิสัยทัศน์ของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เกี่ยวกับชุดประจำชาติไทยให้กลายเป็นจริง โดยใช้ผ้าไหมไทยจากหมู่บ้านไทยที่พระองค์ทรงก่อตั้ง มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนา
ในช่วงต้นทศวรรษ 1970 พวกเขาเริ่มใช้วัสดุเหล่านี้เพื่อสร้างชุดแบบตะวันตกของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงด้วยเช่นกัน ความร่วมมือของพวกเขาได้ผสมผสานองค์ประกอบไทยดั้งเดิมเข้ากับแฟชั่นตะวันตกสมัยใหม่ ช่วยจัดแสดงงานฝีมือไทยบนเวทีระดับโลกและส่งเสริมการทำงานของมูลนิธิส่งเสริมอาชีพเสริมและเทคนิคที่เกี่ยวข้อง (มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ) ให้แพร่หลายไปอย่างกว้างขวาง เทคนิคหนึ่งคือการนำวัสดุท้องถิ่นที่ไม่ธรรมดา เช่น ขนนกและกระดองแมลง มาใช้ในกระบวนการทอผ้า สร้างสรรค์งานออกแบบที่มีเอกลักษณ์และละเอียดอ่อน
ภาพจาก: www.royalgrandpalace.th
ดังนั้น ศิลปินเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะสามารถอ้างได้ว่ามีอิทธิพลต่อรสนิยมด้านแฟชั่นของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงได้เท่ากับปิแอร์ บัลแมง ผลงานของเขาสำหรับตู้ฉลองพระองค์ของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงมีรูปร่างที่เหนือกาลเวลาและรายละเอียดที่ซับซ้อนซึ่งเสริมให้ทรงสง่างามและสง่างามยิ่งขึ้น ทำให้ชุดของพระองค์สอดคล้องกับเทรนด์ตะวันตกในขณะที่ยังคงไว้ซึ่งประเพณีไทย ความพยายามสร้างสรรค์ของบัลแมงมีส่วนทำให้สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงเป็นบุคคลที่โดดเด่นไม่เพียงแต่ในโลกแฟชั่นของไทยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบนเวทีแฟชั่นระดับโลกอีกด้วย
พระราชดำริของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงในการอนุรักษ์สิ่งทอ
นอกเหนือจากฉลองพระองค์ที่พระองค์สวมใส่แล้ว สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงริเริ่มโครงการต่างๆ มากมายเพื่ออนุรักษ์และส่งเสริมมรดกสิ่งทอของประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2519 สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงก่อตั้งมูลนิธิส่งเสริมอาชีพเสริมและเทคนิคที่เกี่ยวข้อง (มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ) องค์กรนี้ส่งเสริมชุมชนชนบทโดยฟื้นฟูงานหัตถกรรมดั้งเดิม โดยเฉพาะการทอผ้าไหม ความพยายามของมูลนิธิสนับสนุนทำให้ทั่วโลกหันมาสนใจผ้าไหมไทย และมอบอาชีพที่ยั่งยืนให้กับช่างฝีมือจำนวนนับไม่ถ้วน
การสนับสนุนสิ่งทอของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงยังเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับวิสัยทัศน์ของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยให้แน่ใจว่างานหัตถกรรมแบบดั้งเดิมยังคงมีความเกี่ยวข้องและได้รับการชื่นชมในยุคปัจจุบัน
ภาพจาก: www.royalgrandpalace.th
ไฮไลท์ของงานนิทรรศการ
นิทรรศการ “สิริราชพัสตราบรมราชินีนาถ” จัดแสดงฉลองพระองค์อันเป็นเอกลักษณ์ของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยผู้เข้าชมสามารถพบกับ
ฉลองพระองค์ออกแบบโดยปิแอร์ บัลแมง: ฉลองพระองค์ชุดกระโปรงและฉลองพระองค์ชุดราตรีที่สะท้อนถึงพระสิริโฉมอันสง่างามของพระองค์ และการผสมผสานระหว่างผ้าไหมไทยและแฟชั่นชั้นสูงกันอย่างลงตัว
ฉลองพระองค์ชุดไทยพระราชนิยม: นำเสนอพัฒนาการของฉลองพระองค์ชุดไทยพระราชนิยม พร้อมคำอธิบายถึงความสำคัญทางวัฒนธรรมของแต่ละแบบ
สื่อมัลติมีเดีย: วิดีโอและภาพถ่ายหายากจากการเสด็จฯ เยือนต่างประเทศและการปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่สะท้อนบทบาทของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงในฐานะ ทูตวัฒนธรรมของประเทศไทย
ภาพจาก: www.royalgrandpalace.th
มรดกและความยั่งยืน
วิสัยทัศน์อันกว้างไกลของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงสะท้อนอยู่ในความสง่างามและความแปลกใหม่ของฉลองพระองค์ ซึ่งกลายเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่น ด้วยการผสมผสานระหว่างความคิดสร้างสรรค์และการอนุรักษ์หัตถศิลป์วัฒนธรรม พระองค์ทรงสร้างอัตลักษณ์ที่โดดเด่นให้แก่ชุดไทยพระราชนิยมและทรงยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านศิลปะและวัฒนธรรมระดับโลก นิทรรศการนี้เป็นเครื่องเตือนใจถึงพระราชกรณียกิจอันทรงคุณค่าของพระองค์ในการส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมไทย และการสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างงดงาม
นิทรรศการ สิริราชพัสตราบรมราชินีนาถ จัดแสดง ณ พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงในการอนุรักษ์ศิลปะแห่งแผ่นดินไทย
ภาพจาก: www.royalgrandpalace.th
ข้อมูลสำหรับผู้เข้าชม
เวลาทำการ: เปิดทำการทุกวัน เวลา 09.00 – 16.30 น. (จำหน่ายบัตรเข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 15.30 น.)
ค่าธรรมเนียมเข้าชม:
สำหรับผู้มีบัตรเข้าชมพระบรมมหาราชวัง: สามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และกรุณาแสดงบัตรเข้าพระบรมมหาราชวังที่จุดจำหน่ายบัตรเข้าชมของพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ
**สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าชมเฉพาะพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ **:
ผู้ใหญ่: 150 บาท
ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป): 80 บาท
นักเรียน (แสดงบัตรนักเรียน): 50 บาท
เยาวชน (อายุ 12-18 ปี): 50 บาท
เด็ก (อายุต่ำกว่า 12 ปี): ฟรี
ที่มา www.bangkokartcity.org