เที่ยวทิพย์หลบไป! ‘เที่ยวเมืองรอง’ เทรนด์ใหม่ 2568

ภูมิทัศน์การท่องเที่ยวของไทยกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เมื่อกระแสการเดินทางไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในจังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยมอีกต่อไป แต่กลับขยายตัวไปสู่จุดหมายปลายทางใหม่ๆ ที่มอบประสบการณ์ที่แตกต่างและลึกซึ้งกว่าเดิม

ประเด็นสำคัญของเทรนด์เที่ยวเมืองรอง

• การเติบโตอย่างก้าวกระโดด: สัดส่วนนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เลือกเดินทางไปเมืองรองเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 32.3% ในปี 2562 สู่ระดับ 41.4% ในปี 2568 สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอย่างชัดเจน
• แรงจูงใจที่เปลี่ยนไป: นักท่องเที่ยวในปัจจุบันไม่ได้มองหาแค่สถานที่สวยงาม แต่ยังต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย ค้นหาประสบการณ์ท้องถิ่นที่แท้จริง และสัมผัสกับวิถีชีวิตชุมชนที่เป็นเอกลักษณ์
• เมืองรองดาวเด่น: จังหวัดอย่างสุพรรณบุรี, เชียงราย, สมุทรสงคราม และอุบลราชธานี กลายเป็นจุดหมายที่ได้รับความนิยมสูง มีจำนวนนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปเยือนมากกว่า 2 ล้านคน
• เสน่ห์ที่จับต้องได้: บรรยากาศที่เงียบสงบ ธรรมชาติที่ยังคงความสมบูรณ์ วัฒนธรรมท้องถิ่นที่หลากหลาย และค่าครองชีพที่สบายกระเป๋า คือแม่เหล็กสำคัญที่ดึงดูดนักเดินทาง
• อิทธิพลของโลกดิจิทัล: การรีวิวและแบ่งปันประสบการณ์ผ่านโซเชียลมีเดียมีบทบาทสำคัญในการสร้างการรับรู้และจุดประกายความสนใจในแหล่งท่องเที่ยวที่ยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง (Unseen Thailand)

เจาะลึกเทรนด์ท่องเที่ยวไทยปี 2568: ทำไมเมืองรองถึงมาแรง?

ปรากฏการณ์ เที่ยวทิพย์หลบไป! ‘เที่ยวเมืองรอง’ เทรนด์ใหม่ 2568 ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน แต่เป็นผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลงทางความคิดและพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กระแสนี้บ่งชี้ถึงความต้องการที่ลึกซึ้งกว่าการเดินทางเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ แต่เป็นการเดินทางเพื่อค้นหาความหมาย สัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ และเชื่อมต่อกับรากเหง้าทางวัฒนธรรมของท้องถิ่นอย่างแท้จริง

นิยามและความสำคัญของ ‘การเที่ยวเมืองรอง’

“การเที่ยวเมืองรอง” หมายถึงการเดินทางไปยังจังหวัดที่ไม่ได้ถูกจัดให้เป็นเมืองท่องเที่ยวหลักของประเทศ ซึ่งมักจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวไม่หนาแน่นเท่าเมืองใหญ่ๆ อย่างกรุงเทพฯ, ภูเก็ต, หรือเชียงใหม่ การเดินทางลักษณะนี้มุ่งเน้นไปที่การสัมผัสวิถีชีวิต วัฒนธรรม และธรรมชาติในแบบที่เป็นของแท้ดั้งเดิม (Local Authenticity) โดยปราศจากการปรุงแต่งเพื่อการท่องเที่ยวเชิงพาณิชย์มากจนเกินไป ความสำคัญของเทรนด์นี้ไม่เพียงแต่ช่วยกระจายรายได้สู่เศรษฐกิจฐานรากและชุมชนท้องถิ่น แต่ยังช่วยลดแรงกดดันและผลกระทบจากการท่องเที่ยวที่กระจุกตัวอยู่ในเมืองหลัก (Overtourism) อีกด้วย

ปัจจัยขับเคลื่อนที่ทำให้เมืองรองกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม

ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของเมืองรองมีปัจจัยสนับสนุนหลายประการ ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการของนักเดินทางยุคใหม่ได้อย่างชัดเจน:

1. การหลีกหนีความแออัด: หลังจากเผชิญกับความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน นักท่องเที่ยวจำนวนมากโหยหาความสงบและการพักผ่อนที่แท้จริง เมืองรองซึ่งมีบรรยากาศที่ผ่อนคลายและไม่พลุกพล่านจึงกลายเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์
2. การค้นหาประสบการณ์ท้องถิ่นที่แท้จริง: นักเดินทางยุคใหม่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร การได้เรียนรู้วิถีชีวิตท้องถิ่น ชิมอาหารพื้นเมืองแท้ๆ และมีส่วนร่วมในกิจกรรมของชุมชน กลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากกว่าการไปเยือนแลนด์มาร์กชื่อดัง
3. อิทธิพลของโซเชียลมีเดีย: แพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Instagram, TikTok และ Facebook ได้เปิดมุมมองใหม่ๆ เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก การรีวิวจากบล็อกเกอร์และนักท่องเที่ยวทั่วไปสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการเดินทางตามรอยไปยังจุดหมายปลายทางใหม่ๆ
4. กระแสการท่องเที่ยวเชิงศรัทธา: การเดินทางเพื่อไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเยี่ยมชมศาสนสถานที่มีความสำคัญเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ ซึ่งวัดวาอารามหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงหลายแห่งตั้งอยู่ในจังหวัดเมืองรอง

สถิติที่น่าสนใจ: ตัวเลขที่ยืนยันความนิยมของเมืองรอง

ข้อมูลเชิงสถิติยืนยันอย่างชัดเจนว่าการเที่ยวเมืองรองไม่ใช่เพียงกระแสชั่วคราว แต่เป็นแนวโน้มที่กำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดคือสัดส่วนของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เลือกเดินทางไปยังเมืองรอง

สัดส่วนการเที่ยวเมืองรองของคนไทยในปี 2568 เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 41.4% จากปี 2562 ที่มีสัดส่วนเพียง 32.3% ซึ่งเป็นการเติบโตที่น่าจับตามองและแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของจุดหมายปลายทางเหล่านี้

เมื่อพิจารณาในรายละเอียดจะพบว่าเมืองรองหลายแห่งมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยแซงหน้าจังหวัดท่องเที่ยวหลักบางจังหวัดไปแล้ว สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่านักท่องเที่ยวในประเทศกำลังมองหาทางเลือกใหม่ๆ นอกเหนือจากจุดหมายปลายทางเดิมๆ

เปิดลายแทงเมืองรองน่าจับตา ประจำปี 2568

จากการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่ามีเมืองรองหลายแห่งที่มีศักยภาพและได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดที่มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่โดดเด่น

สุพรรณบุรี: เมืองอู่ข้าวอู่น้ำและประวัติศาสตร์ที่ไม่ควรมองข้าม

สุพรรณบุรีเป็นจังหวัดที่มั่งคั่งด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยทวารวดี อู่ทอง และอยุธยา มีโบราณสถานและวัดวาอารามที่สวยงามมากมาย นอกจากนี้ยังมีชื่อเสียงด้านการเกษตร เป็นแหล่งของตลาดน้ำวิถีชุมชน และมีอาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์ การเดินทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ทำให้สุพรรณบุรีเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนในช่วงสุดสัปดาห์

เชียงราย: ศิลปะ วัฒนธรรม และขุนเขาแห่งล้านนา

แม้จะเป็นจังหวัดทางเหนือเหมือนเชียงใหม่ แต่เชียงรายกลับมีบรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัวกว่า ที่นี่คือดินแดนแห่งศิลปะร่วมสมัยที่สะท้อนผ่านสถาปัตยกรรมอันวิจิตรของวัดร่องขุ่น บ้านดำ และวัดร่องเสือเต้น ท่ามกลางภูมิประเทศที่เป็นขุนเขาสลับซับซ้อนและไร่ชาที่เขียวขจี เชียงรายมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ผสมผสานระหว่างธรรมชาติ วัฒนธรรมล้านนา และศิลปะได้อย่างลงตัว

สมุทรสงคราม: เสน่ห์เมืองสายน้ำและวิถีชีวิตริมคลอง

เมืองเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของวิถีชีวิตริมน้ำ ตลาดน้ำอัมพวาและตลาดร่มหุบคือภาพจำที่หลายคนรู้จัก แต่สมุทรสงครามยังมีมุมอื่นๆ ที่น่าค้นหาอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นการล่องเรือชมหิ่งห้อยยามค่ำคืน การเยี่ยมชมสวนผลไม้และวิถีการทำน้ำตาลมะพร้าวแบบดั้งเดิม ที่นี่คือสถานที่ที่เวลาเดินช้าลงและเปิดโอกาสให้ได้สัมผัสกับความเรียบง่ายที่งดงาม

อุบลราชธานี: ดินแดนแห่งแสงแรกและประเพณีที่ยิ่งใหญ่

ประตูสู่ภาคอีสานตอนใต้ที่มีความหลากหลายทางภูมิศาสตร์และวัฒนธรรม อุบลราชธานีเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ที่ซึ่งสามารถชมแสงแรกของวันได้ก่อนใครในประเทศ นอกจากนี้ยังมีปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอย่างสามพันโบก และมีชื่อเสียงระดับโลกจากประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาที่ยิ่งใหญ่ตระการตา วัฒนธรรมอาหารที่เป็นเอกลักษณ์และวัดวาอารามที่งดงามก็เป็นอีกหนึ่งแม่เหล็กที่ดึงดูดนักเดินทาง

เสน่ห์ของเมืองรอง: สิ่งที่หาไม่ได้จากเมืองท่องเที่ยวหลัก

หัวใจสำคัญที่ทำให้การเที่ยวเมืองรองกลายเป็นเทรนด์ที่แข็งแกร่งคือ “ประสบการณ์” ที่แตกต่างออกไป นักเดินทางไม่ได้เป็นเพียงผู้สังเกตการณ์ แต่ได้เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตและวัฒนธรรมนั้นๆ เสน่ห์ของเมืองรองสามารถสรุปได้ดังนี้:

• ความรู้สึกของการค้นพบ: การเดินทางไปยังสถานที่ที่ยังไม่ถูกบรรจุไว้ในแผนที่ท่องเที่ยวหลักๆ ทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนเป็นนักสำรวจ ได้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ ที่ยังคงความเป็นธรรมชาติและบริสุทธิ์
• ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับชุมชน: ในเมืองรอง นักท่องเที่ยวมีโอกาสได้ปฏิสัมพันธ์กับคนในท้องถิ่นมากขึ้น ได้พูดคุย แลกเปลี่ยนเรื่องราว และเรียนรู้วิถีชีวิตจากเจ้าของพื้นที่โดยตรง ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ
• ความคุ้มค่า: โดยทั่วไปแล้ว ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ที่พัก และอาหารในเมืองรองมักจะถูกกว่าเมืองท่องเที่ยวหลัก ทำให้นักเดินทางสามารถบริหารจัดการงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพและอาจใช้เวลาท่องเที่ยวนานขึ้น
• บรรยากาศโรแมนติกและเงียบสงบ: ธรรมชาติที่ยังไม่ถูกรบกวน ภูมิทัศน์ที่สวยงาม และความไม่เร่งรีบของชีวิตผู้คน ทำให้เมืองรองหลายแห่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายเพื่อไปพักผ่อน ชาร์จพลัง หรือใช้เวลาคุณภาพกับคนพิเศษ

สรุปภาพรวมและแนวโน้มการท่องเที่ยวในอนาคต

แนวโน้มการท่องเที่ยวเมืองรองในปี 2568 สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตทางความคิดของนักท่องเที่ยวชาวไทย ที่เปลี่ยนจากการท่องเที่ยวตามกระแสมาเป็นการท่องเที่ยวเพื่อแสวงหาคุณค่าและประสบการณ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น แม้ว่าการเดินทางไปต่างประเทศจะยังคงได้รับความนิยม แต่ตลาดการท่องเที่ยวในประเทศได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตในกลุ่มเมืองรองอย่างชัดเจน

เทรนด์นี้ไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อนักท่องเที่ยวที่ได้ค้นพบจุดหมายปลายทางใหม่ๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญสำหรับชุมชนท้องถิ่นในการสร้างรายได้และพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน การเลือกเดินทางไปยังเมืองรองจึงเปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่การผจญภัยครั้งใหม่ ที่ซึ่งความงดงามของประเทศไทยในมุมที่หลายคนอาจยังไม่เคยเห็นรอคอยการไปเยี่ยมเยือนอยู่