Shopping cart

สุวรรณภูมิเฟส 3 เปิดแล้ว! ส่องอาคารใหม่ รับ 90 ล้านคน

สารบัญ

การพัฒนาท่าอากาศยานนับเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ โครงการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 3 ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค โดยเฉพาะการเปิดใช้งานรันเวย์ที่ 3 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาที่มุ่งเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารและเที่ยวบินให้สอดคล้องกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ประเด็นสำคัญของโครงการ

  • การเปิดใช้งานรันเวย์ที่ 3: เพิ่มขีดความสามารถในการรองรับเที่ยวบินจาก 68 เที่ยวบิน เป็น 94 เที่ยวบินต่อชั่วโมงอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปลายปี 2567
  • เป้าหมายรองรับผู้โดยสาร: เพิ่มศักยภาพการรองรับผู้โดยสารสู่ 90-100 ล้านคนต่อปี และมีแผนระยะยาวเพื่อรองรับผู้โดยสารสูงสุด 150 ล้านคนต่อปี
  • แผนการก่อสร้างในอนาคต: เตรียมเดินหน้าโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Terminal) และรันเวย์ที่ 4 เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
  • ประสิทธิภาพการดำเนินงาน: การขยายสนามบินช่วยลดระยะเวลารอขึ้น-ลงของอากาศยาน และช่วยประหยัดเชื้อเพลิง ซึ่งส่งผลดีต่อสายการบินและสิ่งแวดล้อม
  • การปรับเปลี่ยนแผนงาน: มีการยกเลิกแผนส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ (North Expansion) เพื่อปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาระยะยาวที่ยั่งยืนกว่า

ภาพรวมโครงการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 3

โครงการ สุวรรณภูมิเฟส 3 เปิดแล้ว! ส่องอาคารใหม่ รับ 90 ล้านคน เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของท่าอากาศยานหลักของประเทศไทย การพัฒนานี้เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองต่อปริมาณการเดินทางทางอากาศที่ฟื้นตัวและเติบโตอย่างรวดเร็วหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันและตอกย้ำสถานะการเป็นประตูสู่ประเทศไทยและศูนย์กลางการบินที่สำคัญของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การขยายตัวในเฟส 3 นี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การก่อสร้างอาคารใหม่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญอย่างรันเวย์ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการบริหารจัดการจราจรทางอากาศ การเปลี่ยนแปลงนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมการบิน การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ เนื่องจากช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารและสายการบินต่างๆ ทำให้การเดินทางมีความคล่องตัวและราบรื่นมากยิ่งขึ้น

รันเวย์ที่ 3: เพิ่มศักยภาพการบินครั้งประวัติศาสตร์

หัวใจสำคัญของการพัฒนาในเฟส 3 คือการเปิดใช้งานรันเวย์ที่ 3 อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 รันเวย์เส้นใหม่นี้มีความยาวถึง 4,000 เมตร และใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 65,000 ล้านบาท การเปิดใช้งานรันเวย์ที่ 3 ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะช่วยเพิ่มความสามารถในการรองรับเที่ยวบินของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจากเดิม 68 เที่ยวบินต่อชั่วโมง ขึ้นเป็น 94 เที่ยวบินต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ประโยชน์ที่เห็นได้ชัดเจนจากการมีรันเวย์เพิ่มขึ้นคือการลดความแออัดของการจราจรทางอากาศ ช่วยให้เครื่องบินสามารถขึ้น-ลงได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ลดระยะเวลารอของผู้โดยสารบนเครื่อง และที่สำคัญคือช่วยประหยัดเชื้อเพลิงให้กับสายการบินต่างๆ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน การเพิ่มขีดความสามารถนี้ทำให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิพร้อมรองรับปริมาณเที่ยวบินที่คาดว่าจะสูงถึง 1 ล้านเที่ยวบินต่อปีในอนาคตอันใกล้

ตารางเปรียบเทียบศักยภาพท่าอากาศยานสุวรรณภูมิก่อนและหลังการเปิดใช้งานรันเวย์ที่ 3
คุณสมบัติ ก่อนเปิดใช้งานรันเวย์ที่ 3 หลังเปิดใช้งานรันเวย์ที่ 3
ขีดความสามารถรองรับเที่ยวบิน 68 เที่ยวบินต่อชั่วโมง 94 เที่ยวบินต่อชั่วโมง
ความแออัดของการจราจรทางอากาศ สูงในช่วงเวลาเร่งด่วน ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ระยะเวลารอขึ้น-ลงของอากาศยาน มีระยะเวลารอบ้าง ลดลง ช่วยให้บริหารจัดการเวลาได้ดีขึ้น
ประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง ระดับมาตรฐาน ประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้นจากการลดเวลารอ

แผนการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งอนาคต

นอกจากการเพิ่มรันเวย์แล้ว โครงการเฟส 3 ยังครอบคลุมถึงแผนการขยายพื้นที่อาคารผู้โดยสารเพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนการที่สำคัญดังนี้:

  • อาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Terminal): เป็นโครงการก่อสร้างหลักที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารอีก 15 ล้านคนต่อปี คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 10,000 ล้านบาท และจะเริ่มกระบวนการประมูลงานก่อสร้างในช่วงต้นปี 2568 โดยตั้งเป้าเปิดให้บริการได้ภายในปลายปี 2570
  • ส่วนต่อขยายฝั่งตะวันออก (East Expansion): โครงการนี้ได้รับการอนุมัติในหลักการแล้ว และปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมแผนงานเพื่อขยายพื้นที่ให้บริการเพิ่มเติมทางฝั่งตะวันออกของอาคารผู้โดยสารปัจจุบัน
  • การยกเลิกส่วนต่อขยายฝั่งเหนือ (North Expansion): เดิมทีมีแผนที่จะขยายพื้นที่ทางทิศเหนือ แต่จากการทบทวนแผนแม่บทได้มีการยกเลิกโครงการนี้ไป เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวสามารถรองรับผู้โดยสารได้เพียง 30 ล้านคนต่อปี ซึ่งไม่สอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาวที่ต้องการให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 150 ล้านคนต่อปี การตัดสินใจนี้สะท้อนถึงการวางแผนที่ยืดหยุ่นและมองการณ์ไกลเพื่อให้การลงทุนเกิดประโยชน์สูงสุด

เป้าหมายและวิสัยทัศน์สู่การเป็นศูนย์กลางการบินระดับโลก

เป้าหมายและวิสัยทัศน์สู่การเป็นศูนย์กลางการบินระดับโลก

การพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่เฟส 3 แต่เป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ที่ใหญ่กว่าในการผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางการบิน (Aviation Hub) ชั้นนำของโลก โดยมีแผนการลงทุนและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการในอนาคต

เป้าหมายสูงสุดคือการเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารให้ได้ถึง 150 ล้านคนต่อปี เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันและตอบสนองการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินโลก

เป้าหมายการรองรับผู้โดยสาร 90-100 ล้านคนต่อปี

จากการเปิดใช้งานรันเวย์ที่ 3 และอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) ที่เปิดให้บริการไปก่อนหน้านี้ ทำให้ปัจจุบันท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารได้แล้วประมาณ 90-100 ล้านคนต่อปี ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการในระยะสั้นถึงระยะกลาง อย่างไรก็ตาม ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) หรือ AOT ยังคงมองไปข้างหน้าและเตรียมแผนการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มั่นใจว่าโครงสร้างพื้นฐานจะสามารถรองรับการเติบโตของการท่องเที่ยวไทยและจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นในอนาคตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

โครงการก่อสร้างรันเวย์ที่ 4 และแผนพัฒนาระยะยาว

เพื่อบรรลุเป้าหมายการเป็นศูนย์กลางการบินระดับโลก ได้มีการวางแผนโครงการก่อสร้างรันเวย์ที่ 4 ควบคู่ไปกับการขยายอาคารผู้โดยสาร โดยโครงการรันเวย์ที่ 4 คาดว่าจะใช้งบประมาณลงทุนระหว่าง 20,000-40,000 ล้านบาท มีกำหนดการเปิดประมูลงานก่อสร้างในปี 2570 และคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2573 การมีรันเวย์ครบ 4 เส้นจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการจราจรทางอากาศได้อย่างมหาศาล และลดผลกระทบกรณีที่ต้องมีการปิดซ่อมบำรุงรันเวย์

นอกจากนี้ ยังมีโครงการปรับปรุงคุณภาพดินบริเวณที่จะก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 2 ซึ่งใช้งบประมาณราว 3,000 ล้านบาท และมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 60% โครงการทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนแม่บทการพัฒนาที่ครอบคลุมและยั่งยืน เพื่อให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพ

ผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว

การขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 3 ส่งผลกระทบเชิงบวกในวงกว้างต่อประเทศ โดยเฉพาะในมิติของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว การเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับเที่ยวบินและผู้โดยสารหมายถึงการเปิดโอกาสให้สายการบินต่างๆ สามารถเพิ่มเส้นทางบินและจำนวนเที่ยวบินมายังประเทศไทยได้มากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ สร้างรายได้ให้กับภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่โรงแรม ร้านอาหาร ไปจนถึงแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วประเทศ

นอกจากนี้ การเป็นศูนย์กลางการบินที่แข็งแกร่งยังช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจและการค้าในภูมิภาค โครงการก่อสร้างต่างๆ ยังก่อให้เกิดการจ้างงานและกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศอีกด้วย ดังนั้น การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านการบินจึงไม่ใช่เพียงแค่การอำนวยความสะดวกให้ผู้เดินทาง แต่เป็นการลงทุนเพื่ออนาคตทางเศรษฐกิจของชาติโดยรวม

บทสรุปและก้าวต่อไปของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

โครงการสุวรรณภูมิเฟส 3 โดยเฉพาะการเปิดใช้งานรันเวย์ที่ 3 ได้ประสบความสำเร็จในการยกระดับศักยภาพของท่าอากาศยานหลักของไทยไปอีกขั้น ทำให้สามารถรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินได้อย่างมีประสิทธิภาพและพร้อมแข่งขันในเวทีโลก แผนการพัฒนาที่ยังคงดำเนินต่อไป ทั้งการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารทิศใต้และรันเวย์ที่ 4 แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการบินที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

การพัฒนาเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศไทยในระยะยาว การติดตามความคืบหน้าของโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอย่างต่อเนื่องจึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยว รวมถึงประชาชนทั่วไปที่ใช้บริการท่าอากาศยานแห่งนี้

กันยายน 2025
จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส. อา.
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930