ลาก่อนคิวยาว! วีซ่าเชงเกนดิจิทัล คนไทยทำได้แล้ว
- ประเด็นสำคัญที่ควรรู้เกี่ยวกับวีซ่าเชงเกนสำหรับคนไทย
- ไขข้อเท็จจริงสถานะวีซ่าเชงเกนสำหรับคนไทยในปัจจุบัน
- เจาะลึกกระบวนการยื่นวีซ่าเชงเกนฉบับทางการสำหรับพลเมืองไทย
- ความจริงเกี่ยวกับ “วีซ่าเชงเกนดิจิทัล” และระบบ ETIAS
- เปรียบเทียบความเข้าใจและข้อเท็จจริง: วีซ่าเชงเกนสำหรับคนไทย
- แนวโน้มและอนาคต: การพัฒนาระบบวีซ่าเชงเกน
- สรุปและคำแนะนำสำหรับผู้ที่วางแผนเดินทางไปยุโรป
กระแสข่าวเกี่ยวกับการเดินทางไปยุโรปด้วยระบบออนไลน์ที่สะดวกสบายขึ้นได้สร้างความตื่นเต้นในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทย อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับกระบวนการขอวีซ่าเชงเกนยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเพื่อการวางแผนการเดินทางที่ราบรื่น
ประเด็นสำคัญที่ควรรู้เกี่ยวกับวีซ่าเชงเกนสำหรับคนไทย
- สถานะปัจจุบัน: ข้อมูล ณ เดือนกันยายน 2568 พลเมืองไทยยังคงต้องยื่นขอวีซ่าเชงเกนในรูปแบบดั้งเดิม (แบบเอกสาร) เพื่อเดินทางไปยังกลุ่มประเทศเชงเกน
- ไม่มีระบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ: ยังไม่มีการประกาศใช้ระบบวีซ่าเชงเกนดิจิทัลอย่างเป็นทางการสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางไทย
- ระบบ ETIAS ไม่เกี่ยวข้อง: ระบบ ETIAS เป็นระบบอนุมัติการเดินทางทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับประเทศที่ได้รับการยกเว้นวีซ่า ซึ่งไม่สามารถใช้กับพลเมืองไทยที่จำเป็นต้องขอวีซ่า
- กระบวนการยังคงเดิม: การยื่นคำร้องยังจำเป็นต้องดำเนินการด้วยตนเอง ณ สถานทูต สถานกงสุล หรือศูนย์บริการรับยื่นคำร้องขอวีซ่าที่ได้รับอนุญาต พร้อมกับการเก็บข้อมูลไบโอเมตริกซ์ (ลายนิ้วมือ)
- การเตรียมตัวล่วงหน้า: ผู้สมัครสามารถยื่นคำร้องล่วงหน้าได้สูงสุด 6 เดือนก่อนวันเดินทาง และควรเผื่อระยะเวลาดำเนินการซึ่งโดยปกติใช้เวลาถึง 15 วันตามปฏิทิน
ไขข้อเท็จจริงสถานะวีซ่าเชงเกนสำหรับคนไทยในปัจจุบัน
หัวข้อ “ลาก่อนคิวยาว! วีซ่าเชงเกนดิจิทัล คนไทยทำได้แล้ว” ได้สร้างความสนใจและคำถามมากมายในกลุ่มผู้ที่วางแผนจะเดินทางไปเที่ยวยุโรป อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลที่เป็นทางการล่าสุด ณ วันที่ 6 กันยายน 2568 สถานการณ์จริงสำหรับพลเมืองไทยยังคงแตกต่างจากความเข้าใจดังกล่าว การทำความเข้าใจสถานะที่ถูกต้องของกระบวนการขอวีซ่าเชงเกนจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนและสร้างความมั่นใจในการเตรียมตัวเดินทาง
ความนิยมในการเดินทางไปยังกลุ่มประเทศเชงเกนของนักท่องเที่ยวชาวไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้กระบวนการและข้อกำหนดในการขอวีซ่าเป็นที่จับตามอง การเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เกิดขึ้นย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้เดินทางจำนวนมาก บทความนี้จะชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกระบวนการขอวีซ่าเชงเกนสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางไทย โดยอ้างอิงจากข้อมูลที่เป็นทางการ เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้รับทราบถึงขั้นตอนที่ถูกต้องและสามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างแม่นยำและไร้กังวล
เจาะลึกกระบวนการยื่นวีซ่าเชงเกนฉบับทางการสำหรับพลเมืองไทย
แม้ว่าแนวโน้มทั่วโลกจะมุ่งไปสู่ระบบดิจิทัล แต่กระบวนการยื่นขอวีซ่าเชงเกนสำหรับพลเมืองไทยยังคงใช้รูปแบบดั้งเดิมเป็นหลัก ซึ่งเกี่ยวข้องกับการยื่นเอกสารและการแสดงตน การทำความเข้าใจแต่ละขั้นตอนอย่างละเอียดจะช่วยให้การสมัครเป็นไปอย่างราบรื่นและเพิ่มโอกาสในการได้รับการอนุมัติวีซ่า
ขั้นตอนการสมัครที่ต้องดำเนินตามอย่างเคร่งครัด
กระบวนการขอวีซ่าเชงเกนสำหรับคนไทยยังคงต้องอาศัยการดำเนินการด้วยตนเองเป็นสำคัญ โดยมีขั้นตอนหลักที่ต้องปฏิบัติตามลำดับอย่างเคร่งครัด
- การกรอกแบบฟอร์มคำร้อง: ผู้สมัครต้องกรอกแบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าเชงเกนให้ครบถ้วนและถูกต้อง แม้ว่าในปัจจุบันสถานทูตบางแห่งจะอนุญาตให้กรอกและลงลายมือชื่อแบบดิจิทัลทางออนไลน์ได้ แต่ท้ายที่สุดแล้วแบบฟอร์มที่พิมพ์ออกมายังคงเป็นเอกสารสำคัญที่ต้องนำไปยื่น
- การนัดหมายเพื่อยื่นเอกสาร: ผู้สมัครจะต้องทำการนัดหมายล่วงหน้ากับสถานทูต สถานกงสุล หรือศูนย์บริการรับยื่นคำร้องขอวีซ่าที่ได้รับอนุญาต เช่น VFS Global เพื่อเข้าไปยื่นเอกสารด้วยตนเอง
- การยื่นเอกสารและการชำระค่าธรรมเนียม: ในวันนัดหมาย ผู้สมัครต้องนำเอกสารประกอบการพิจารณาทั้งหมดไปยื่นต่อเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าตามที่กำหนด
- การเก็บข้อมูลไบโอเมตริกซ์: สำหรับผู้สมัครส่วนใหญ่ จะต้องมีการเก็บข้อมูลไบโอเมตริกซ์ ซึ่งรวมถึงการสแกนลายนิ้วมือทั้งสิบนิ้วและการถ่ายภาพดิจิทัล
ความสำคัญของข้อมูลไบโอเมตริกซ์ (Biometrics)
ข้อมูลไบโอเมตริกซ์เป็นส่วนสำคัญของระบบสารสนเทศวีซ่า (Visa Information System – VIS) ซึ่งช่วยในการระบุตัวตนและเพิ่มความปลอดภัยให้กับเขตเชงเกน สำหรับพลเมืองไทย ข้อกำหนดนี้ยังคงบังคับใช้อย่างเข้มงวด
ผู้สมัครที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป และผู้ที่ยื่นขอวีซ่าเชงเกนเป็นครั้งแรก จำเป็นต้องเดินทางไปยื่นคำร้องด้วยตนเองเพื่อทำการเก็บลายนิ้วมือ ข้อมูลนี้จะถูกเก็บไว้ในระบบเป็นเวลา 59 เดือน (เกือบ 5 ปี) ซึ่งหมายความว่าในการยื่นขอวีซ่าครั้งต่อไปภายในระยะเวลานี้ อาจไม่จำเป็นต้องเก็บลายนิ้วมือซ้ำ อย่างไรก็ตาม การปรากฏตัวเพื่อยื่นเอกสารยังคงเป็นข้อบังคับในกรณีส่วนใหญ่ การเก็บข้อมูลไบโอเมตริกซ์นี้เป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่กระบวนการยังไม่สามารถทำผ่านระบบออนไลน์ได้ทั้งหมด
เอกสารประกอบการพิจารณาที่ต้องเตรียมให้พร้อม
การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและถูกต้องตามข้อกำหนดเป็นหัวใจสำคัญของการยื่นขอวีซ่าเชงเกน เอกสารที่จำเป็นยังคงเป็นรูปแบบดั้งเดิมและต้องจัดเตรียมอย่างรอบคอบ ประกอบด้วย:
- แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่า: ที่กรอกข้อมูลอย่างสมบูรณ์และลงลายมือชื่อ
- หนังสือเดินทาง (Passport): ต้องมีอายุใช้งานเพียงพอ (โดยทั่วไปคืออย่างน้อย 3 เดือนหลังวันที่จะเดินทางออกจากเขตเชงเกน) และมีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้าสำหรับติดสติ๊กเกอร์วีซ่า
- รูปถ่ายสี: ขนาดตามที่กำหนด (ส่วนใหญ่คือ 3.5 x 4.5 ซม.) พื้นหลังสีขาว และถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน
- หลักฐานแผนการเดินทาง: รวมถึงการจองตั๋วเครื่องบินไป-กลับ (ยังไม่ต้องชำระเงินเต็มจำนวน) และแผนการเดินทางโดยละเอียดในแต่ละวัน
- หลักฐานการจองที่พัก: ครอบคลุมตลอดระยะเวลาที่พำนักในเขตเชงเกน
- ประกันการเดินทาง: ต้องมีความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและการส่งกลับประเทศในกรณีฉุกเฉิน ด้วยวงเงินขั้นต่ำ 30,000 ยูโร และต้องมีผลบังคับใช้ในทุกประเทศสมาชิกเชงเกน
- หลักฐานทางการเงิน: เช่น รายการเดินบัญชีธนาคารย้อนหลัง 3-6 เดือน เพื่อแสดงให้เห็นว่ามีทุนทรัพย์เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายตลอดการเดินทาง
- หนังสือรับรองการทำงานหรือการศึกษา: เพื่อยืนยันสถานะทางสังคมและเศรษฐกิจในประเทศไทย
ความจริงเกี่ยวกับ “วีซ่าเชงเกนดิจิทัล” และระบบ ETIAS
ความสับสนส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการตีความข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาระบบการเข้าเมืองของสหภาพยุโรป การทำความเข้าใจคำจำกัดความและขอบเขตการใช้งานของ “วีซ่าเชงเกนดิจิทัล” และระบบ “ETIAS” จะช่วยให้เห็นภาพที่ชัดเจนว่าเหตุใดระบบเหล่านี้จึงยังไม่ถูกนำมาใช้กับพลเมืองไทยในปัจจุบัน
วีซ่าเชงเกนดิจิทัลคืออะไร และเหตุใดคนไทยยังใช้ไม่ได้
วีซ่าเชงเกนดิจิทัล คือแนวคิดในการเปลี่ยนกระบวนการยื่นขอวีซ่าทั้งหมดให้อยู่ในรูปแบบออนไลน์ ตั้งแต่การกรอกข้อมูล การอัปโหลดเอกสารประกอบ การชำระค่าธรรมเนียม ไปจนถึงการรับผลวีซ่าในรูปแบบดิจิทัล (อาจเป็นรหัส QR หรือไฟล์เข้ารหัส) โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปยังสถานทูตหรือศูนย์รับยื่นฯ และไม่ต้องมีสติ๊กเกอร์วีซ่าติดในหนังสือเดินทางอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม ณ เดือนกันยายน 2568 ระบบดังกล่าวนี้ยังอยู่ในช่วงการพัฒนาและยังไม่มีการประกาศใช้งานอย่างเป็นทางการสำหรับพลเมืองไทย การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเช่นนี้ต้องใช้เวลาในการวางระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี การปรับแก้กฎระเบียบ และการทำความตกลงระหว่างประเทศสมาชิก ซึ่งยังไม่มีการประกาศแผนการดำเนินงานหรือโครงการนำร่องที่เจาะจงสำหรับประเทศไทย
ทำความเข้าใจระบบ ETIAS: ทำไมจึงไม่เกี่ยวข้องกับคนไทย
อีกหนึ่งแหล่งที่มาของความเข้าใจผิดคือระบบ ETIAS (European Travel Information and Authorisation System) หลายคนอาจเข้าใจว่านี่คือระบบวีซ่าออนไลน์รูปแบบใหม่ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ETIAS ไม่ใช่ วีซ่า
ETIAS เป็นระบบอนุมัติการเดินทางทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ออกแบบมาสำหรับพลเมืองของประเทศที่ได้รับ การยกเว้นวีซ่า (Visa-exempt) ในการเดินทางเข้าเขตเชงเกน เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา ญี่ปุ่น หรือเกาหลีใต้ พลเมืองจากประเทศเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องขอวีซ่า แต่ในอนาคตจะต้องลงทะเบียนผ่านระบบ ETIAS เพื่อรับการอนุมัติก่อนการเดินทาง ซึ่งเป็นกระบวนการคัดกรองความปลอดภัยเบื้องต้น
เนื่องจากประเทศไทย ไม่ไช่ ประเทศที่ได้รับการยกเว้นวีซ่าเชงเกน พลเมืองไทยจึงจำเป็นต้องยื่นขอวีซ่าตามกระบวนการปกติ และไม่สามารถใช้ระบบ ETIAS ได้ ดังนั้น ข่าวสารเกี่ยวกับ ETIAS จึงไม่เกี่ยวข้องกับข้อกำหนดสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางไทย
การยืนยันจากหน่วยงานภาครัฐเกี่ยวกับกระบวนการปัจจุบัน
เพื่อยืนยันสถานะปัจจุบันให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงสถานการณ์ไว้อย่างเป็นทางการ
จากการยืนยันของกระทรวงการต่างประเทศ ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 พลเมืองไทยยังคงต้องดำเนินการยื่นขอวีซ่าเชงเกนผ่านกระบวนการปกติ และยังไม่สามารถสมัครผ่านระบบ ETIAS หรือระบบวีซ่าเชงเกนดิจิทัลใด ๆ ได้ในขณะนี้
คำชี้แจงนี้ตอกย้ำว่า แม้จะมีการพูดคุยถึงการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลในระดับนโยบายของสหภาพยุโรป แต่ในทางปฏิบัติสำหรับประเทศไทย กระบวนการยังคงเป็นไปตามระเบียบเดิมที่บังคับใช้มาโดยตลอด
เปรียบเทียบความเข้าใจและข้อเท็จจริง: วีซ่าเชงเกนสำหรับคนไทย
เพื่อขจัดความสับสนและให้ข้อมูลที่ชัดเจนที่สุด ตารางด้านล่างนี้จะเปรียบเทียบระหว่างความเข้าใจที่อาจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับวีซ่าเชงเกนดิจิทัล กับข้อเท็จจริงของกระบวนการที่บังคับใช้สำหรับพลเมืองไทย ณ ปัจจุบัน
หัวข้อ | ความเข้าใจ (ข่าวลือ/ความคาดหวัง) | ข้อเท็จจริง (ณ กันยายน 2568) |
---|---|---|
รูปแบบการสมัคร | สามารถยื่นคำร้องผ่านระบบออนไลน์ได้ทั้งหมด 100% | ยังคงต้องยื่นคำร้องด้วยตนเองที่สถานทูต/สถานกงสุล/ศูนย์รับยื่นฯ |
การยื่นเอกสาร | อัปโหลดเอกสารทั้งหมดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ | ต้องเตรียมเอกสารฉบับจริงและสำเนาเพื่อนำไปยื่นด้วยตนเองในวันนัดหมาย |
ข้อมูลไบโอเมตริกซ์ | ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปเก็บลายนิ้วมือ | ผู้สมัครครั้งแรกและผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป ต้องไปเก็บข้อมูลลายนิ้วมือด้วยตนเอง |
การรับผลวีซ่า | ได้รับวีซ่าในรูปแบบดิจิทัล (เช่น QR Code) ส่งทางอีเมล | ยังคงเป็นการออกสติ๊กเกอร์วีซ่าติดลงในเล่มหนังสือเดินทาง ซึ่งต้องไปรับคืนด้วยตนเองหรือผ่านบริการจัดส่ง |
ความเกี่ยวข้องกับ ETIAS | คนไทยสามารถใช้ระบบ ETIAS เพื่อเดินทางเข้ายุโรปได้ | ETIAS เป็นระบบสำหรับประเทศที่ได้รับการยกเว้นวีซ่าเท่านั้น ไม่สามารถใช้กับคนไทยได้ |
แนวโน้มและอนาคต: การพัฒนาระบบวีซ่าเชงเกน
แม้ว่าระบบวีซ่าดิจิทัลเต็มรูปแบบยังมาไม่ถึง แต่สหภาพยุโรปได้มีความพยายามในการปรับปรุงกระบวนการที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อลดปัญหาคิวยาวและความแออัด ซึ่งเป็นที่มาของความหวังในการเปลี่ยนแปลงสู่อนาคต
การปรับปรุงกระบวนการปัจจุบันเพื่อลดระยะเวลารอคอย
ปัจจุบัน ความพยายามในการแก้ปัญหาคิวยาวและความล่าช้าไม่ได้มุ่งไปที่การเปลี่ยนเป็นระบบดิจิทัลทั้งหมดในทันที แต่เน้นไปที่การปรับปรุงกระบวนการที่มีอยู่ให้คล่องตัวขึ้น มาตรการเหล่านี้รวมถึง:
- ขยายระยะเวลาการยื่นล่วงหน้า: กฎระเบียบใหม่ของสหภาพยุโรปอนุญาตให้ผู้สมัครสามารถยื่นคำร้องขอวีซ่าได้ล่วงหน้านานถึง 6 เดือนก่อนวันเดินทาง (จากเดิม 3 เดือน) เพื่อให้ผู้เดินทางมีเวลาในการวางแผนและกระจายจำนวนผู้ยื่นคำร้องไม่ให้กระจุกตัว
- ปรับปรุงแบบฟอร์มออนไลน์: สถานทูตหลายแห่งได้นำระบบการกรอกแบบฟอร์มออนไลน์มาใช้ ซึ่งช่วยลดความผิดพลาดและทำให้กระบวนการตรวจสอบเอกสารเบื้องต้นรวดเร็วยิ่งขึ้น แม้ว่าสุดท้ายยังต้องพิมพ์เอกสารไปยื่นด้วยตนเองก็ตาม
- การบริหารจัดการคิวนัดหมายที่ดีขึ้น: ศูนย์รับยื่นคำร้องขอวีซ่าได้พยายามพัฒนาระบบการจองคิวออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อลดความแออัดในวันที่มายื่นเอกสาร
การปรับปรุงเหล่านี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สมัคร แม้จะยังไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลเต็มรูปแบบตามที่คาดหวัง
อนาคตของวีซ่าดิจิทัลสำหรับคนไทย: สิ่งที่คาดหวังได้
แนวโน้มของโลกมุ่งหน้าสู่การทำธุรกรรมแบบดิจิทัลอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และกระบวนการขอวีซ่าก็เช่นกัน ในระยะยาว มีความเป็นไปได้สูงที่สหภาพยุโรปจะพัฒนาระบบวีซ่าเชงเกนดิจิทัลที่ครอบคลุมทุกประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วย
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้จะเกิดขึ้นเมื่อใดนั้นยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ สิ่งที่นักเดินทางชาวไทยสามารถคาดหวังได้ในอนาคตคือการค่อยๆ นำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ในแต่ละขั้นตอนมากขึ้น เช่น การยื่นเอกสารบางส่วนทางออนไลน์ หรือการแจ้งผลผ่านช่องทางดิจิทัล ก่อนที่จะเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบดิจิทัลเต็มรูปแบบในที่สุด การติดตามประกาศอย่างเป็นทางการจากสถานทูตของประเทศสมาชิกเชงเกนโดยตรงจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรับข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน
สรุปและคำแนะนำสำหรับผู้ที่วางแผนเดินทางไปยุโรป
โดยสรุปแล้ว แม้ข่าวลือเกี่ยวกับ “วีซ่าเชงเกนดิจิทัล” จะสร้างความหวังในการเดินทางที่สะดวกสบายขึ้น แต่ข้อเท็จจริง ณ เดือนกันยายน 2568 คือพลเมืองไทยยังคงต้องปฏิบัติตามกระบวนการยื่นขอวีซ่าเชงเกนในรูปแบบดั้งเดิม ซึ่งต้องมีการยื่นเอกสารและเก็บข้อมูลไบโอเมตริกซ์ด้วยตนเอง ระบบ ETIAS ไม่สามารถใช้กับผู้ถือหนังสือเดินทางไทยได้ และยังไม่มีการเปิดใช้ระบบวีซ่าดิจิทัลเต็มรูปแบบสำหรับประเทศไทย
สำหรับผู้ที่วางแผนจะเดินทางไปเที่ยวยุโรป คำแนะนำที่ดีที่สุดคือการเตรียมตัวตามข้อกำหนดปัจจุบันอย่างรอบคอบ ควรเริ่มกระบวนการยื่นขอวีซ่าล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 เดือนก่อนการเดินทาง หรือเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ (สูงสุด 6 เดือน) เพื่อเผื่อเวลาสำหรับกระบวนการพิจารณาซึ่งอาจใช้เวลานานถึง 15-45 วันในบางกรณี การตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสถานทูตประเทศที่จะเดินทางเข้าเป็นประเทศแรก หรือศูนย์บริการรับยื่นคำร้องขอวีซ่าที่ได้รับอนุญาต เป็นสิ่งสำคัญที่สุดเพื่อให้มั่นใจว่าการเตรียมตัวเป็นไปอย่างถูกต้องและครบถ้วน