Shopping cart

       มลพิษทางอากาศฝุ่นละออง PM2.5 เป็นปัญหาสุขภาพที่ปัจจุบันเราต้องพบเจออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยิ่งอยู่ในแหล่งชุมชนแออัด ยิ่งทำให้เราพบเจอปัญหามลพิษทางอากาศที่หนาแน่นกว่าที่อื่นๆ สาเหตุอาจจะมาจากหลายปัจจัย จนส่งผลให้เราจะต้องดูแลตัวเองมากกว่าปกติ เรามาดูกันว่ามลพิษทางอากาศหรือที่เรียกกันว่า ฝุ่น PM2.5 นี้ส่งผลยังไงต่อสุขภาพเราบ้าง และมีวิธีดูแลป้องกันตัวเองอย่างไรจากฝุ่นละออง PM2.5

      ฝุ่น PM2.5 ที่มีค่าเกินมาตรฐาน เป็นมลพิษทางอากาศที่อันตรายต่อสุขภาพของเรา เนื่องด้วย PM2.5 เป็นฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ลอยอยู่ในอากาศได้เป็นวันหรือเป็นอาทิตย์ สามารถเข้าสู่ร่างกายของเราได้ง่ายผ่านระบบทางเดินหายใจ หากได้รับฝุ่น PM2.5 อย่างต่อเนื่องหรือในปริมาณที่มาก จะส่งผลกระทบสะสมต่อสุขภาพของเราโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โรคมะเร็งปอด โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหัวใจขาดเลือด เป็นต้น

 

อาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น หากได้รับฝุ่น PM2.5

     ฝุ่น PM2.5 สามารถเข้าสู่ร่างกายจากหลอดลมและเดินทางไปยังหลอดเลือด และกระจายไปส่วนต่าง ๆ ทั่วร่างกาย หากร่างกายได้รับฝุ่นนี้เป็นเวลานานจนเกิดการสะสม จะทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ โดยผู้ที่ได้รับฝุ่น PM 2.5 มักมีอาการไอเรื้อรัง ระคายเคืองตา คัดจมูก แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก ผิวหนังเป็นตุ่มหรือผื่นนูนแดง เป็นต้น และกลุ่มเสี่ยงที่ควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ได้แก่ เด็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคปอดเรื้อรัง ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ เป็นต้น

 

วิธีการดูแลตนเองให้ปลอดภัยจากฝุ่น PM2.5

  • สวมหน้ากาก N95 หรือหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี คือ คลุมจมูกลงมาถึงใต้คาง และต้องแนบสนิทกับใบหน้า เพื่อป้องกันฝุ่น
  • เลี่ยงกิจกรรมนอกบ้าน ในบริเวณที่มีค่ามลพิษอากาศสูง
  • หมั่นทำความสะอาดบ้าน เพื่อลดการสะสมของฝุ่นภายในบ้าน
  • เลี่ยงกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่น PM2.5 เช่น การเผาขยะ การเผาหญ้า การจอดรถติดเครื่องยนต์ไว้เป็นระยะเวลานาน และตรวจเช็คสภาพรถยนต์ให้อยู่ในสภาวะปกติ ไม่ก่อควันดำ
  • หากพบอาการผิดปกติของร่างกาย ให้รีบพบแพทย์
  • หากพบว่าตนเองมีอาการผิดปกติของร่างกาย เช่น ไอ เหนื่อย แน่นหน้าอก ควรปรึกษาแพทย์ทันที และที่สำคัญ ควรติดตามข้อมูลข่าวสารด้านมลพิษทางอากาศเป็นประจำ เพื่อป้องกันฝุ่นละอองและความปลอดภัยต่อสุขภาพของตนเองอย่างเหมาะสม

 

สำหรับคนที่อาการแพ้ฝุ่น PM 2.5  สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม คือ

  •     บุคคลทั่วไป หากมีอาการแพ้ฝุ่น จะมีอาการระคายเคืองโพรงจมูก มีจาม น้ำมูกใส ไอ หรือหายใจไม่สะดวก อาจมีตาแดง คันตา น้ำตาไหล
  •     ผู้ป่วยกลุ่มโรคภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบ โรคหอบหืด หรือโรคปอดอื่นๆ จะพบว่ามีอาการกำเริบของโรคตั้งแต่คัดจมูกมาก มีน้ำมูกไหล ไอ หอบเหนื่อย หายใจเสียงหวีด บางรายอาจรุนแรงถึงระบบหายใจล้มเหลวได้ 
  •     กลุ่มผู้ป่วยภูมิแพ้ผิวหนัง จะมีอาการกำเริบของโรคคันมาก เกิดผื่นแดงตามผิวหนังคุมโรคไม่ได้

 

สำหรับวิธีการดูแลตัวเองในช่วงฝุ่นในช่วงที่มีฝุ่น PM 2.5  

  • พักผ่อนให้เพียงพอ 
  • ทานอาหารครบ 5 หมู่ 
  • ดื่มน้ำให้มากๆ 
  • รับประทานผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ 
  • หลีกเลี่ยงการออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือออกกำลังกายกลางแจ้ง หากเป็นวันที่ค่าของฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน ให้พิจารณามาออกกำลังกายภายในอาคารแทน 
  • ปิดประตูหน้าต่างให้สนิทป้องกันการเล็ดลอดของฝุ่นเข้ามาในอาคาร 
  • ในผู้ป่วยกลุ่มโรคภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบ และหอบหืด ควรใช้ยาสูดทางปาก และยาพ่นจมูกต่อเนื่อง หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ พิจารณาการล้างจมูกอาจช่วยลดทั้งฝุ่น PM 2.5 ในทางเดินหายใจส่วนบน และสารก่อภูมิแพ้ได้

 

      ทั้งนี้ ในการเดินทางออกนอกเคหะสถานทุกครั้งควรพกหน้ากาก ที่สามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5  และถ้าใครที่อยู่ในบ้าน ก็อาจหาเครื่องกรองอากาศมาช่วย ซึ่งแพทย์ระบุว่าการมีเครื่องกรองอากาศในช่วงที่มีฝุ่นก็ดีกว่าไม่มี โดยต้องคำนึงถึงคุณภาพของเครื่องกรองอาการแต่ละชนิด และแผ่นกรองอากาศ

       ส่วนผู้ป่วยกลุ่มภูมิแพ้ผิวหนัง แนะนำใส่เสื้อผ้าที่ปกปิดร่างกายมิดชิด และหลังกลับเข้ามาภายในอาคารแนะนำเปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำ สระผมชำระล้างร่างกายที่อาจนำพาฝุ่นเข้ามาภายในอาคาร อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยแบบนี้ อย่าลืมดูแลและรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ 

 

 

ที่มา: princhealth.com

ใส่ความเห็น

ธันวาคม 2024
จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส. อา.
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031