อิทธิพลของแฟชั่นต่อการเมือง ในขณะที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีที่มีอิทธิพลมากที่สุดครั้งหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกากำลังจะเกิดขึ้น หลายคนรู้สึกสูญเสีย หวาดกลัว และไม่มั่นใจว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร เมื่อพูดถึงการเมือง เรามักจะนึกถึงนโยบาย วาระสุดโต่ง และข้อบกพร่องที่นักการเมืองมักทำ
อย่างไรก็ตาม เรามักไม่ค่อยคิดว่าบุคคลสำคัญทางการเมืองสวมชุดอะไร ทำไมจึงสวม และต้องการสื่อข้อความอะไรผ่านชุดที่เลือก ไม่ว่าจะเป็นแจ็กกี้ เคนเนดี (Jackie Kennedy) ที่สวมเสื้อผ้าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากชาแนล หรือกมลา แฮร์ริส (Kamala Harris) ที่สวมชุดสูทสีสันสดใส อิทธิพลของแฟชั่นต่อการเมืองอเมริกันนั้นชัดเจนอย่างยิ่งและจะไม่หายไปไหนในเร็วๆ นี้
อิทธิพลของแฟชั่นต่อการเมืองอเมริกัน ในเรื่องของการใช้ผ้า รูปทรง และสีสันบางชนิดในการแต่งกายเป็นเทคนิคที่ช่วยสร้างสถานะทางชนชั้น และมีอยู่มานานหลายศตวรรษแล้ว รวมถึงในประเทศประชาธิปไตยในระดับนานาชาติด้วย
แจ็คกี้ เคนนาดี และสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ภาพจาก: www.vogue.com
ยกตัวอย่างเช่น สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 ทรงสร้างกฎหมายคุ้มครองพิเศษที่อนุญาตให้เฉพาะพระองค์เองและพระบรมวงศานุวงศ์ที่สนิทเท่านั้นที่จะสวมชุดสีม่วง ซึ่งเป็นสีที่มีราคาแพงและเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะมาเป็นเวลานานหลายศตวรรษ
เมื่อสหรัฐอเมริกาได้รับเอกราชจากอังกฤษ จอร์จ วอชิงตัน บิดาผู้ก่อตั้ง รัฐบุรุษ ทหาร และเกษตรกรชาวอเมริกัน (George Washington) ก็สวมสูทสีน้ำตาลเข้มที่ผลิตในประเทศใหม่ เนื่องจากประเทศเพิ่งได้รับเอกราช การสวมเสื้อผ้าที่ไม่ได้ผลิตในประเทศจึงขัดต่อหลักการก่อตั้ง
นักการเมืองที่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่ดูเรียบร้อยไม่เคยได้รับความโปรดปรานเลยนับตั้งแต่ประเทศสหรัฐอเมริกานี้ก่อตั้งขึ้น เนื่องจากเสื้อผ้าเหล่านี้ทำให้ประชาชนทั่วไปไม่พอใจ ผู้คนในอเมริกาในยุคแรกๆ ได้รับการเตือนอยู่เสมอว่านักการเมืองที่แต่งกายดีไม่ถือว่าเป็นผู้นำ
ขบวนการเรียกร้องสิทธิเลือกตั้งของสตรีในช่วงปี ค.ศ. 1900 ขบวนการสิทธิพลเมืองในช่วงปี ค.ศ. 1960 และกระแสสตรีนิยมคลื่นลูกที่สองในช่วงปี ค.ศ. 1970 ต่างก็ใช้เสื้อผ้าเพื่อปลดปล่อยชุมชน แสดงออกถึงข้อความที่ขับเคลื่อนด้วยการเมือง และเป็นการกระทำเพื่อต่อต้านผู้กดขี่
ภาพจาก: www.vogue.com
ขณะที่สตรีมีบทบาทโดดเด่นในสังคมอเมริกัน ความสนใจของสื่อจะขึ้นอยู่กับวิธีที่พวกเธอแสดงออกถึงตนเองเท่านั้น
แจ็กกี้ เคนเนดี (Jackie Kennedy) อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งและภริยาของประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี (John F. Kennedy) ถือเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดที่แสดงให้เห็นว่าสไตล์ส่วนตัวของเธอสามารถสะท้อนถึงการเมืองได้อย่างไร แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้บุคลิกภาพของเธอโดดเด่นออกมา แจ็กกี้ เคนเนดีได้รับการยกย่องให้เป็น “สัญลักษณ์แห่งแฟชั่นของอเมริกา” และไม่กลัวที่จะสวมชุดที่มีสีสันตัดกับชุดสูทสีน้ำเงินกรมท่าสุดคลาสสิกของจอห์น เอฟ. เคนเนดี
แจ็กกี้ เคนเนดี้ รู้ว่าเธอมีอำนาจในการใช้เสื้อผ้าเป็นแรงผลักดันในการแสดงออกถึงบุคลิกภาพและความเป็นเอกลักษณ์ของเธอในฐานะสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เธอได้ร่วมงานกับนักออกแบบแฟชั่นโอเล็ก คาสสินี (Oleg Cassini) เพื่อสร้างชุดเดรส รองเท้า กระเป๋า และชุดสูทลายทวีดสตรอเบอร์รี่อันโด่งดังที่ได้รับแรงบันดาลใจจากฝรั่งเศส ซึ่งปัจจุบันกลายมาเป็นชิ้นเอกแห่งประวัติศาสตร์แฟชั่นของอเมริกา
ในขณะที่การเลือกตั้งยังคงดำเนินต่อไปในสหรัฐอเมริกา พรรคการเมืองหลักทั้งสองพรรคต่างก็มีสีประจำพรรคของตน ได้แก่ สีน้ำเงินสำหรับพรรคเดโมแครต และสีแดงสำหรับพรรครีพับลิกัน นักการเมืองมักสวมสูทสีน้ำเงินกรมท่า เสื้อเชิ้ตสีขาว และเนคไทสีแดงหรือน้ำเงินเข้ม ขึ้นอยู่กับพรรคของตน
ภาพจาก: spectrumlocalnews.com
เมื่อครอบครัวโอบามาเข้ารับตำแหน่งในทำเนียบขาว หลายคนมองว่ามิเชล โอบามา (Michelle Obama) สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งไม่เพียงแต่เป็นแบบอย่างที่ดีเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งแฟชั่นอีกด้วย มิเชลไม่เพียงแต่ช่วยเหลือชุมชนที่มีคนผิวสีและคนผิวสีเป็นส่วนใหญ่เพื่อสนับสนุนให้ครัวเรือนมีสุขภาพดีเท่านั้น แต่เธอยังทำไปพร้อมกับแสดงให้ชาวอเมริกันเห็นว่าคุณสามารถแสดงออกถึงตัวเองได้ผ่านเสื้อผ้า
ที่น่าสังเกตคือ ปกนิตยสาร Vogue ปี 2009 และบทสัมภาษณ์กับ André Leon Talley ผู้ล่วงลับ แสดงให้เห็นว่าถึงแม้เสื้อผ้าจะไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเธอ แต่เธอก็สนุกสนานกับชุดที่เธอใส่และสนับสนุนให้ผู้หญิงทำเช่นเดียวกัน ชุดเดรสสีเดียวที่ดูเรียบง่ายแต่สวยงามของเธอทำให้มิเชล โอบามา กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งแฟชั่นอเมริกันในยุคใหม่
อิทธิพลด้านแฟชั่นอันยิ่งใหญ่ของมิเชล โอบามาได้ถ่ายทอดไปยังสามีของเธอ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีบารัค โอบามา เมื่อเขาสวมชุดสูทสีแทนในงานแถลงข่าวเรื่องกลุ่มไอเอสในซีเรียเมื่อปี 2014 อดีตประธานาธิบดีผู้นี้ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเนื่องมาจากชุดสูท “ที่แตกต่างจากชุดอื่น” ซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่การเลือกใช้แฟชั่นของชายผู้มีอำนาจได้รับการตอบรับทั้งในแง่บวกและแง่ลบ
เมื่อตระกูลทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง พวกเขาก็ใช้แฟชั่นเพื่อตอบโต้ต่อ “ข่าวปลอม” และสร้างเหตุการณ์ที่ไม่เหมาะสมที่สุดเท่าที่ประเทศเคยเห็นมา
ภาพจาก: edition.cnn.com
จากหมวกสีแดงคลาสสิกที่มีชื่อว่า “Make America Great Again” ซึ่งขายได้กว่า 2 ล้านใบ ไปจนถึงแจ็คเก็ตสีเขียวของเมลาเนีย ทรัมป์ (Melania Trump) ที่มีชื่อว่า “I Really Don’t Care, Do U?” ที่เธอสวมไปเยี่ยมเด็กไร้เอกสารที่ชายแดน สิ่งเหล่านี้ขัดแย้งกับข้อความที่สนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในอเมริกาได้อย่างง่ายดาย
ขณะนี้ ขณะที่กมลา แฮร์ริส และโดนัลด์ ทรัมป์กำลังต่อสู้เพื่อชิงคะแนนเสียงให้ได้มากขึ้นทั่วประเทศ การใช้แฟชั่นก็มีบทบาทโดดเด่นมากกว่าที่เคย โดนัลด์ ทรัมป์สวมยูนิฟอร์มของแมคโดนัลด์ เสื้อกั๊กคนขับรถบรรทุกขยะ ชุดสูทสีน้ำเงินกรมท่าคลาสสิก เสื้อเชิ้ตสีขาว และเน็คไทสีแดง
เสื้อผ้าและเครื่องประดับตราสัญลักษณ์ Harris และ Trump จำนวนมากกำลังได้รับความนิยมไปทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแฟชั่นโชว์ธีม MAGA และเสื้อยืดตราสัญลักษณ์ Willy Chavarria “Harris” ซึ่งมีแนวโน้มสูงที่จะนำมาจัดแสดงเต็มรูปแบบในวันเลือกตั้ง
ภาพจาก: www.hollywoodreporter.com
เราไม่อาจหนีความจริงที่ว่าแฟชั่นเป็นเรื่องการเมืองโดยเนื้อแท้ ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ก็ตาม นักการเมืองรู้ดีถึงพลังของเสื้อผ้าของเราและข้อความที่เสื้อผ้าสามารถส่งถึงมวลชนได้อย่างง่ายดาย สิ่งที่เราสวมใส่เป็นตัวแทนของตัวเรา ความคิดของเรา และสภาพแวดล้อมของเรา
ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจสวมใส่อะไรในวันนี้เพื่อแสดงการสนับสนุนผู้สมัครคนใดคนหนึ่งก็ตาม โปรดแน่ใจว่าอุปกรณ์ทางการเมืองของคุณไม่ฝ่าฝืนกฎหมายของรัฐใดๆ และจำไว้ว่าสิ่งที่คุณสวมใส่จะสื่อถึงการเมืองเสมอ
ที่มา www.stitchfashion.com