Shopping cart

     ทันทีที่คุณสัมผัสผ้าไหมไทยระหว่างนิ้วมือ ความนุ่มนวลและคุณภาพของเนื้อผ้าจะทำให้คุณรู้สึกทึ่ง ผ้าไหมเป็นมรดกอันล้ำค่าของประเทศไทย และประเพณีการผลิตผ้าไหมถือเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจสำหรับคนไทย ลวดลายเส้นไหมอันเป็นเอกลักษณ์บนผืนผ้านี้ทำให้ผ้าไหมของไทยมีความงดงามเป็นเอกลักษณ์และแตกต่างจากผ้าไหมจากส่วนอื่นๆ ของโลก ผ้าไหมของไทยเป็นวัสดุที่รู้จักและได้รับความนิยมทั่วโลก

     ในอดีตการทอผ้าไหมไทยมักจะทำกันในครัวเรือนเพื่อใช้ส่วนตัวหรือใช้ในพิธีต่างๆ เช่น งานแต่งงาน พิธีกรรมทางศาสนา และงานสังคม คนไทยได้ผสมผสานศิลปะเข้ากับวัสดุในท้องถิ่นจนเกิดเป็นลวดลายที่สวยงาม ผ้าไหมของไทยเป็นสัญลักษณ์ของความงามและเสน่ห์ของคนไทย แสดงถึงความสง่างามในอดีต และศิลปะในการสร้างสรรค์ลวดลายที่งดงามเหล่านี้ยังคงสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน

ประวัติผ้าไหมไทย

     หลักฐานและการค้นพบผ้าไหมที่เก่าแก่ที่สุดสามารถสืบย้อนไปได้ถึงประมาณ 4,700 ปีก่อนในประเทศจีน หนังสือโบราณของจีนชื่อ Kai Pi Yan Yi หรือ Epic Tales about the World Creation กล่าวถึงสตรีราชวงศ์จีนผู้ทอผ้าไหมเป็นคนแรก กล่าวกันว่าจักรพรรดินี Si Ling Chi เป็นคนแรกที่ค้นพบผ้าที่งดงามนี้

ผ้าไหมไทย

ภาพจาก: today.line.me

     อย่างไรก็ตาม หลักฐานที่เก่าแก่ที่สุดที่เกี่ยวข้องกับไหมในประเทศไทยสามารถสืบย้อนไปได้เมื่อประมาณ 3,000 ปีที่แล้ว เศษไหมจากวัฒนธรรมบ้านเชียงถูกค้นพบที่บ้านนาดี อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี ในประเทศไทย และพื้นที่อื่นๆ ในภาคอีสาน

     เชื่อกันว่ามีการเลี้ยงหนอนไหมแล้วนำมาทอไหมสำหรับทำเครื่องนุ่งห่มในภาคนี้ หนอนไหมที่ใช้เป็นหนอนไหมชนิดที่พบเห็นได้ทั่วไปและฟักไข่ตลอดปี มีลักษณะเป็นหนอนไหมรูปร่างเล็กเรียว สีเหลือง มีหลักฐานการทอไหมสำหรับทำเครื่องนุ่งห่มในภาคอื่นๆ ของประเทศไทยด้วย โดยปรากฏในจารึกพงศาวดารต่างๆ ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงสมัยกรุงธนบุรี และยังคงทอกันมาจนถึงปัจจุบัน

     การทอผ้าไหมได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา และทักษะดังกล่าวก็ได้รับการอนุรักษ์ไว้โดยผ่านโครงการต่าง ๆ มากมาย มีการปรับปรุงและปรับเปลี่ยนวิธีการทอผ้าไหมให้กลายเป็นศิลปะที่แพร่หลายมากขึ้นทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ การทอผ้าไหมยังคงเป็นที่นิยมสำหรับครอบครัวต่าง ๆ เพื่อใช้ในงานพิธีทางศาสนา เช่น งานบุญ หรือเป็นช่องทางในการหารายได้ให้ครอบครัว

     แม้ว่าประเทศอื่นๆ ทั่วโลกจะผลิตผ้าไหมเช่นกัน แต่ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในอุตสาหกรรมนี้ ฝีมือการทอผ้าไหมของช่างทอชาวไทยช่วยสร้างสรรค์ผ้าไหมของไทยที่สวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งเป็นที่ต้องการของผู้คนทั่วโลก

ภาพจาก: www.bangkokpost.com

ลวดลายและลักษณะพิเศษของผ้าไหมไทย

     เอกลักษณ์ของความเป็นไทยปรากฏอยู่ในลวดลายต่างๆ เช่น ดอกไม้ไทย รูปสัตว์ รูปทรงเรขาคณิต หรือสัญลักษณ์ประจำท้องถิ่น ซึ่งนำมาทอเป็นผืนผ้า ฝีมือและทักษะของชาวบ้านในการทอผ้าไหมทำให้ลวดลายมีความละเอียดอ่อนและสวยงาม โดยยังคงเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมไทยเอาไว้

     ผ้าไหมทออย่างประณีตทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกสบายตัวและสง่างามในเวลาเดียวกัน คุณสมบัติพิเศษของเส้นใยที่ใช้ทำผ้าไทยเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผ้าไทยแตกต่าง

     ผ้าไหมเป็นเส้นใยธรรมชาติที่ได้จากตัวไหม เส้นใยที่ได้จากตัวไหมจะถูกทอเป็นเนื้อผ้าที่เหนียว ยืดหยุ่นได้ดีแต่ก็นุ่มมาก ผ้าไหมสามารถดูดซับความชื้นได้ดีและสามารถย้อมสีได้หลากหลายสี นอกจากนี้คุณสมบัติในการดูดซับความชื้นยังทำให้ผ้าไหมเป็นผ้าที่สวมใส่สบายอีกด้วย

     แม้ว่าไหมไทยจะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการที่ต้องคำนึงไว้ เช่น เส้นใยไหมอาจเสื่อมสภาพได้ง่ายหากโดนความร้อนมากเกินไปขณะรีดหรือโดนแสงแดด ปัญหาอีกอย่างหนึ่งคือ แมลงชอบกินเส้นไหมเพราะเป็นเส้นใยโปรตีน ดังนั้นจึงควรเก็บไหมไว้ในที่แห้ง เพราะหากผ้าโดนความชื้นมากเกินไป อาจทำให้สีซีดจางได้

ภาพจาก: www.prestigeonline.com

     ผ้าไหมไทยเป็นผ้าที่มีความสวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ดูแลรักษาค่อนข้างยาก นี่จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยนิยมใช้ผ้าไหม ผ้าไหมมักได้รับความนิยมเฉพาะกลุ่มลูกค้าบางกลุ่มเท่านั้น

ชนิดของไหม

     ผ้าไหมมีหลายประเภทและแบ่งตามภูมิภาคที่ทอและประเพณีดั้งเดิม โดยผ้าไหมแต่ละประเภทจะมีรูปแบบและสีสันที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับว่าผลิตผ้าไหมประเภทใด ผ้าไหมแต่ละประเภทจะมีลวดลายที่แตกต่างกันออกไป การจำแนกประเภทจะทำตามรูปแบบการทอต่างๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

     เราจะยกตัวอย่างผ้าไหมของไทยประเภทต่างๆ ที่เหมาะสำหรับใช้ตกแต่งภายใน ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าควรใช้หรือซื้อผ้าไหมของไทยประเภทใดเมื่อพิจารณาเลือกใช้ผ้าไหมของไทยสำหรับตกแต่งภายใน

ผ้ายก

ภาพจาก: www.chobmai.com

     ไหมยก คือ ไหมที่มีลวดลายในตัว โดยใช้เส้นพุ่งเป็นเส้นโลหะสีเงินและสีทองแบบพิเศษ ไหมชนิดนี้มักทอในภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่และลำพูน และภาคใต้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเรียกว่า ไหมพุมเรียง

ผ้าจก

ภาพจาก: www.qsds.go.th

     ผ้าจกเป็นผ้าไหมชนิดหนึ่งที่มีวิธีการทอแบบเดียวกับผ้าขิดแต่มีลวดลาย โดยสามารถสลับสีและลวดลายได้โดยการเติมเส้นพุ่งพิเศษลงบนผ้าขิดเป็นระยะๆ ทำให้ผ้าไหมจกมีสีสันและลวดลายมากกว่าผ้าไหมที่ได้จากการทอลายขิด แหล่งผลิตผ้าไหมโชคที่มีชื่อเสียง ได้แก่ จังหวัดสุโขทัย จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดราชบุรี และจังหวัดอุตรดิตถ์ ผ้าที่ทอด้วยผ้าขิดหรือผ้าไหมจก เช่น ผ้ากาบบัว ถือเป็นผ้าที่มีชื่อเสียงมาก เนื่องจากเป็นผ้าที่มีเฉพาะในจังหวัดอุบลราชธานีเท่านั้น

ผ้าไหมแพรวา

ภาพจาก: kindconnext.com

     ผ้าไหมแพรวา คือ ผ้าไหมชนิดหนึ่งที่ทอด้วยลวดลายผสมระหว่างไหมขิดและไหมจก ผ้าไหมแพรวาได้ชื่อมาจากคำว่า “วา” ซึ่งเป็นหน่วยวัดของไทย โดย 1 วาเท่ากับ 2 เมตร ผ้าไหมชนิดนี้มักจะมีความยาว “วา” จึงเป็นที่มาของชื่อ ผ้าไหมแพรวาใช้พันรอบหน้าอกในพิธีกรรม ในวัฒนธรรมของชาวภูไท ผ้าไหมชนิดนี้จะมีสีแดงเป็นฐาน แต่ปัจจุบันมีการนำลวดลายต่างๆ มาประยุกต์ใช้ในการทอผ้า รวมทั้งความกว้างและความยาวของผ้าก็ถูกปรับเปลี่ยนจากรูปทรงเดิม สีของผ้าไหมแพรวายังถูกปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้น ไม่ใช่แค่สีแดงอีกต่อไป

ผ้าไหมมัดหมี่

ภาพจาก: www.ตลาดเกษตรกรออนไลน์.com

     ผ้ามัดหมี่เป็นผ้าไหมพื้นเมืองของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย เป็นที่นิยมทั้งในภาคเหนือและภาคกลาง ผ้ามัดหมี่ส่วนใหญ่จะผูกเฉพาะเส้นพุ่งเท่านั้น ผ้ามัดหมี่ที่มีชื่อเสียง ได้แก่ ผ้าหางกระรอก ผ้าโฮล และผ้าปูม ผ้าไหมมัดหมี่มี 2 ประเภท คือ 2 ตะกอและ 3 ตะกอ ซึ่งทั้งสองประเภทมีเนื้อเนียน ทอแน่น และด้านหน้าเป็นมันเงา ในขณะที่ด้านหลังจะมีความมันเงาน้อยกว่าเล็กน้อย

ผ้าไหมเกาะล้วง

ภาพจาก: www.facebook.com/ผ้าทอไทลื้อ แม่จิน

     ผ้าไหมเกาะหลวง เป็นลวดลายที่ชาวไทหลัวในภาคเหนือของประเทศไทย เช่น จังหวัดน่าน และจังหวัดพะเยา ทอขึ้น ลวดลายที่ทอขึ้นเรียกว่า ลายน้ำไหล หมายความว่า ดูเหมือนลำธารที่ไหลผ่าน ลวดลายนั้นอาจดูเรียบง่ายแต่ทำได้ยาก โดยทำด้วยเทคนิคพิเศษที่สืบทอดกันมายาวนาน โดยต้องใช้เวลาทอนานจึงจะมีลายทางแคบๆ ตรงกลางผืนผ้า

ผ้าไหมพื้น

ภาพจาก: handbag-asia.com

     ผ้าไหมพื้นเรียบ คือ ผ้าไหมที่ทอแบบเรียบ โดยใช้เส้นยืนและเส้นพุ่งธรรมดาทั้งผืน ผ้าไหมพื้นเรียบไม่มีลวดลาย มีทั้งเส้นยืนและเส้นพุ่งเป็นสีเดียวกันหรือหลายสีก็ได้ ผ้าไหมประเภทนี้เป็นที่นิยมใช้กันทั่วไป ผ้าไหมไทยประเภทนี้ยังส่งออกไปต่างประเทศด้วย

     ผ้าไหมของไทยมีลวดลายและลายทางที่หลากหลาย จึงง่ายต่อการเลือกใช้ให้เข้ากับเครื่องแต่งกายที่เหมาะกับยุคสมัยนี้ ด้วยเหตุนี้ ผ้าไหมของไทยจึงถูกนำมาใช้ผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากมาย เช่น เสื้อผ้า ของตกแต่ง เป็นต้น ผ้าไหมของไทยเป็นองค์ประกอบที่สวยงามที่สามารถเพิ่มเข้าไปในการตกแต่งภายในของคุณ

ศิลปะการทอผ้า

     การทอผ้าเป็นศิลปะที่คนไทยในยุคนี้ควรอนุรักษ์ไว้ ในอดีตผู้หญิงไทยมักจะทำเครื่องใช้ภายในบ้านเองเป็นจำนวนมาก หนึ่งในหน้าที่ที่สำคัญที่สุดในบ้านของพวกเธอก็คือการเตรียมเสื้อผ้า ผ้าห่ม และเสื้อผ้าสำหรับใช้ในครอบครัว หรือสำหรับพิธีกรรมสำคัญ เช่น การเกิด การแต่งงาน การบวช ซึ่งทุกโอกาสเหล่านี้จำเป็นต้องใช้ผ้าทอ ดังนั้นจึงถือเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของไทย

     หลักการสำคัญของการทอผ้าคือการใช้ด้ายฝ้ายหรือไหมมาทอเป็นลวดลาย กลุ่มด้ายหนึ่งเรียกว่าเส้นยืนและอีกกลุ่มเรียกว่าเส้นพุ่ง ซึ่งใช้เส้นพุ่งสอดข้ามเส้นยืน เมื่อด้ายทั้งสองประสานกันก็จะเกิดลวดลายต่างๆ ขึ้น

ที่มา www.bareo-isyss.com

เมษายน 2025
จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส. อา.
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930