Shopping cart

       หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่าการดื่มน้ำผลไม้สกัดเย็นจะได้รับคุณค่าทางสารอาหารเหมือนกับทานผลไม้สดหรือไม่ ซึ่งการดื่มน้ำผลไม้สกัดเย็น กับการทานผลไม้สดนั้นจะย่อมมีจุดแตกต่างกันอย่างแน่นอน 

       ในปัจจุบันนั้นผู้คนเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพของตัวเองกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายอย่างเป็นประจำ พักผ่อนให้เพียงพอ และเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น ในบทความนี้จึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเมนูผลไม้สกัดเย็น พร้อมวิธีทำ อีกเครื่องดื่มทางเลือกสำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้นดูแลสุขภาพ แต่ยังคงต้องการตัวช่วยให้รู้สึกสดชื่น และตื่นตัว พร้อมลุยกับภาระงานในแต่ละวัน 

       และผลไม้สกัดเย็นยังเป็นอีกทางเลือกที่เหมาะคนเวลาน้อย เร่งรีบ แต่ต้องการสุขภาพดีมากๆ มาเรียนรู้วิธีไปพร้อมๆ กัน

 

น้ำผลไม้สกัดเย็น คืออะไร?

       ผลไม้สกัดเย็น คือ การนำเนื้อผลไม้ไปเข้ากระบวนการสกัดเย็น ด้วยเครื่องทำผลไม้สกัดเย็น โดยกระบวนการทำงานของเครื่องทำผลไม้สกัดเย็นนั้นจะเป็นการใช้แรงอัดไฮโดรลิกในการบด บีบ และอัดผลไม้ด้วยรอบความเร็วต่ำประมาณ 33 – 150 รอบต่อนาที เพื่อเป็นการคงคุณค่าทางสารอาหาร อย่างเอนไซม์ ไฟเบอร์ วิตามิน และแร่ธาตุในผลไม้สกัดเย็นไว้อย่างครบถ้วน จึงทำให้เมนูผลไม้สกัดเย็นนั้นสามารถดื่มได้ทุกที่ ทุกเวลา และให้สารอาหารที่ร่างกายต้องการได้อย่างเต็มที่ แถมยังเป็นอีกทางเลือกในการดูแลสุขภาพที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

 

น้ำผลไม้สกัดเย็น vs ผลไม้สด แบบไหนดีกว่ากัน?

       การดื่มผลไม้สกัดเย็นจะได้รับคุณค่าทางสารอาหารเหมือนกับทานผลไม้สดหรือไม่ ซึ่งการดื่มผลไม้สกัดเย็น กับการทานผลไม้สดนั้นจะย่อมมีจุดแตกต่างกันอย่างแน่นอน 

       ถึงแม้ว่าผลไม้สกัดเย็นจะมีกระบวนการสกัดที่ยังช่วยคงคุณค่าทางสารอาหาร รสชาติ และกลิ่นของผลไม้ไว้ได้อย่างครบถ้วน แถมยังสามารถดื่มได้ง่าย และสะดวกสบายกว่าการทานผลไม้สดอีกด้วย แต่ว่าการทานผลไม้สดนั้นจะได้รับกากใยอาหารมากกว่าการดื่มน้ำผลไม้ ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญของผลไม้ เพราะมีวิตามินอยู่เป็นจำนวนมาก และเป็นส่วนที่ช่วยในระบบขับถ่ายอีกด้วย ดังนั้น การทานผลไม้สดจึงดีกว่าการดื่มผลไม้สกัดเย็น แต่ถ้าหากไม่สะดวก หรือไม่สามารถทานผลไม้สดได้ การดื่มผลไม้สกัดเย็นก็สามารถตอบโจทย์ได้ดีกว่าอย่างแน่นอน

 

ประโยชน์ของน้ำผลไม้สกัดเย็น

         ถึงแม้ว่าการทานผลไม้สดจะได้รับกากใยอาหารมากกว่า แต่การดื่มผลไม้สกัดเย็นก็ยังมีคุณค่าทางอาหาร และมีประโยชน์อีกมากมาย คล้ายกับการทานผลไม้สดเลยทีเดียว เพราะในน้ำผลไม้สกัดเย็นนั้นยังคงอุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามิน และแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการ โดยสารอาหารเหล่านี้มีส่วนช่วยในเรื่องของระบบการขับถ่าย และระบบย่อยอาหารให้ทำงานเป็นปกติ นอกจากนั้น ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ไม่ให้เจ็บป่วยได้ง่าย แถมยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ได้อีกด้วย 

 

7 เมนูน้ำผลไม้สกัดเย็น พร้อมวิธีทำ

        เมื่อทุกคนทราบถึงประโยชน์ของน้ำผลไม้สกัดเย็นไปแล้ว ต่อไปเรามาดูเมนูผลไม้สกัดเย็น พร้อมวิธีทำ ที่สามารถหาวัตถุดิบ และอุปกรณ์ได้ง่ายๆ สามารถทำเองได้ที่บ้าน โดย 7 เมนู และวิธีทำผลไม้สกัดเย็น มีดังนี้

 

1.น้ำกีวี และมะนาว

กีวี และมะนาว เป็นผลไม้ที่มีรสชาติเปรี้ยว ทำให้เมนูน้ำผลไม้อย่างเมนูน้ำกีวีและมะนาว เหมาะกับการดื่มในช่วงระหว่างวันเป็นอย่างมาก ด้วยรสชาติเปรี้ยวของผลไม้ทั้ง 2 ชนิด พร้อมกับเติมน้ำผึ้งเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความหวานที่ลงตัว จึงทำให้สามารถช่วยดับร้อน และช่วยเพิ่มความสดชื่นได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าใครที่ได้ดื่มน้ำผลไม้สกัดเย็นเมนูนี้แล้วจะต้องรู้สึกกระปรี้กระเปร่า และตื่นตัวเป็นอย่างแน่นอน

ส่วนประกอบ

  • กีวี 3 ลูก
  • มะนาว 2 ลูก
  • น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา
  • น้ำสะอาด 200 มิลลิลิตร

วิธีทำ

  1. ปอกเปลือกกีวี แล้วล้างน้ำให้สะอาด และหั่นเป็นชิ้นขนาดเล็ก หลังจากนั้นใส่ลงไปในเครื่องสกัดน้ำผลไม้
  2. บีบน้ำมะนาวใส่ภาชนะเตรียมไว้ หลังจากนั้นใส่น้ำมะนาวกับน้ำสะอาดตามลงไป และรอให้เครื่องสกัดส่วนประกอบทั้งหมดเข้าด้วยกัน
  3. ใส่น้ำผึ้งตามลงไป เพื่อเพิ่มความหวาน ถ้าหากต้องการให้มีรสชาติหวานมากขึ้น สามารถเพิ่มปริมาณน้ำผึ้งได้ตามใจชอบ
  4. เมื่อส่วนประกอบทั้งหมดเข้ากันแล้ว ให้นำไปเทใส่แก้วน้ำ และควรดื่มให้หมดทันที

 

2.น้ำสับปะรด และมะละกอ

        สับปะรด และมะละกอ เป็นผลไม้ที่ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น พร้อมกับช่วยบรรเทาอาการท้องผูก บำรุงโลหิต บำรุงระบบประสาท และบำรุงสายตา นอกจากนั้น ยังช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร และช่วยให้การทำงานของลำไส้ดีขึ้นอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่กำลังลดน้ำหนัก หรือมีปัญหาขับถ่ายยาก สามารถดื่มเมนูผลไม้สกัดเย็นเมนูนี้ เพื่อช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี และขับถ่ายได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

ส่วนประกอบ

  • สับปะรด ½ หรือ ¼ ลูก
  • มะละกอ ½ หรือ ¼ ลูก
  • น้ำสะอาด 200 มิลลิลิตร 

วิธีทำ

  1. ปอกเปลือกสับปะรด แล้วล้างน้ำให้สะอาด หลังจากนั้นหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ และจัดแบ่งใส่ภาชนะเตรียมไว้ในปริมาณที่ต้องการ
  2. ปอกเปลือกมะละกอ แล้วล้างน้ำให้สะอาด หลังจากนั้นหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ และจัดแบ่งใส่ภาชนะเตรียมไว้ในปริมาณที่ต้องการ
  3. นำผลไม้ทั้ง 2 ชนิดที่เตรียมไว้ใส่ลงไปในเครื่องสกัดน้ำผลไม้ พร้อมกับใส่น้ำสะอาดตามลงไป และรอให้เครื่องสกัดส่วนประกอบทั้งหมดเข้าด้วยกัน
  4. เมื่อส่วนประกอบทั้งหมดเข้ากันแล้ว ให้นำไปเทใส่แก้วน้ำ และควรดื่มให้หมดทันที

 

3.น้ำสับปะรด และกีวี

        สับปะรด และกีวี เป็นผลไม้ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ช่วยป้องกัน และบรรเทาอาการหวัด นอกจากนั้น ยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น เพิ่มการไหลเวียนของเลือด และลดระดับคอเลสเตอรอล แถมเมนูผลไม้สกัดเย็นเมนูนี้ยังช่วยเพิ่มความสดชื่น และเหมาะกับการดื่มเพื่อดับร้อนในระหว่างวันอีกด้วย

ส่วนประกอบ

  • สับปะรด ½ หรือ ¼ ลูก
  • กีวี 2 ลูก
  • น้ำสะอาด 200 มิลลิลิตร

วิธีทำ

  1. ปอกเปลือกสับปะรด แล้วล้างน้ำให้สะอาด หลังจากนั้นหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ และจัดแบ่งใส่ภาชนะเตรียมไว้ในปริมาณที่ต้องการ
  2. ปอกเปลือกกีวี แล้วล้างน้ำให้สะอาด หลังจากนั้นหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ และจัดแบ่งใส่ภาชนะเตรียมไว้
  3. นำผลไม้ทั้ง 2 ชนิดที่เตรียมไว้ใส่ลงไปในเครื่องสกัดน้ำผลไม้ พร้อมกับใส่น้ำสะอาดตามลงไป และรอให้เครื่องสกัดส่วนประกอบทั้งหมดนั้นเข้ากัน
  4. เมื่อส่วนประกอบทั้งหมดเข้ากันแล้ว ให้นำไปเทใส่แก้วน้ำ และควรดื่มให้หมดทันที

 

4.น้ำสับปะรด มะเขือเทศ และมะนาว

       เมนูน้ำสับปะรด มะเขือเทศ และมะนาว เป็นเมนูผลไม้สกัดเย็นที่มีรสชาติค่อนข้างเปรี้ยว โดยมีสรรพคุณในการช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ และความดันโลหิต ช่วยให้ระบบย่อยอาหาร และการขับถ่ายทำงานเป็นปกติ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีอีกด้วย และเมนูนี้ยังเหมาะกับผู้ที่ไม่สามารถทานมะเขือเทศเป็นผล หรือน้ำมะเขือเทศแบบ 100% ได้อีกด้วย

ส่วนประกอบ

  • สับปะรด ¼ ลูก
  • มะเขือเทศ 3 ลูก
  • มะนาว 1 ลูก
  • น้ำสะอาด 200 มิลลิลิตร

วิธีทำ

  1. ปอกเปลือกสับปะรด แล้วล้างน้ำให้สะอาด หลังจากนั้นหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ และจัดแบ่งใส่ภาชนะเตรียมไว้
  2. ล้างมะเขือเทศให้สะอาด หลังจากนั้นหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ และจัดแบ่งใส่ภาชนะเตรียมไว้
  3. บีบน้ำมะนาวใส่ภาชนะเตรียมไว้
  4. นำผลไม้ทั้ง 2 ชนิดที่เตรียมไว้ใส่ลงไปในเครื่องสกัดน้ำผลไม้ พร้อมกับใส่น้ำมะนาว และน้ำสะอาดตามลงไป และรอให้เครื่องสกัดส่วนประกอบทั้งหมดนั้นเข้ากัน
  5. เมื่อส่วนประกอบทั้งหมดเข้ากันแล้ว ให้นำไปเทใส่แก้วน้ำ และควรดื่มให้หมดทันที

 

5.น้ำส้ม แครอท และแอปเปิลเขียว

       เมนูน้ำส้ม แครอท และแอปเปิลเขียว เป็นเมนูผลไม้สกัดเย็นที่อุดมไปด้วยวิตามีนซี วิตามินเอ และเบต้าแคโรทีน ที่มีสรรพคุณในการช่วยสร้างคอลลาเจน และลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย นอกจากนั้น ยังช่วยบำรุงสายตา และช่วยเสริมสร้างกระดูก และฟันให้แข็งแรงอีกด้วย ถ้าหากสาวๆ คนไหนอยากให้ผิวพรรณดูอ่อนกว่าวัย ต้องห้ามพลาดเมนูผลไม้สกัดเย็นเมนูนี้อย่างเด็ดขาด

ส่วนประกอบ

  • ส้ม 1 ลูก
  • แครอท ½ ลูก
  • แอปเปิลเขียว 1 ลูก
  • น้ำสะอาด 200 มิลลิลิตร

วิธีทำ

  1. ปอกเปลือกส้ม แล้วล้างน้ำให้สะอาด หลังจากนั้นทำการแกะเม็ด พร้อมกับแยกส้มออกเป็นกลีบ และจัดแบ่งใส่ภาชนะเตรียมไว้
  2. ปอกเปลือกแครอท แล้วล้างน้ำให้สะอาด หลังจากนั้นหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ และจัดแบ่งใส่ภาชนะเตรียมไว้
  3. ปอกเปลือกแอปเปิลเขียว แล้วล้างน้ำให้สะอาด หลังจากนั้นทำการแกะเม็ด พร้อมกับหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ และจัดแบ่งใส่ภาชนะเตรียมไว้
  4. นำผลไม้ทั้ง 3 ชนิดที่เตรียมไว้ใส่ลงไปในเครื่องสกัดน้ำผลไม้ พร้อมกับใส่น้ำสะอาดตามลงไป และรอให้เครื่องสกัดส่วนประกอบทั้งหมดนั้นเข้ากัน
  5. เมื่อส่วนประกอบทั้งหมดเข้ากันแล้ว ให้นำไปเทใส่แก้วน้ำ และควรดื่มให้หมดทันที

 

6.น้ำแอปเปิลแดง กีวี และกล้วย

       เมนูผลไม้สกัดเย็นอย่างเมนูแอปเปิลแดง กีวี และกล้วย เป็นเมนูที่มีเส้นใย และกากใยอาหาร ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก และช่วยให้การขับถ่ายเป็นปกติ นอกจากนั้น ยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้น พร้อมกับช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และความดันโลหิต แถมยังช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย จึงทำให้เมนูผลไม้สกัดเย็นเมนูนี้เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาขับถ่ายยาก หรือมีอาการท้องผูกอยู่บ่อยครั้งเป็นอย่างมาก

ส่วนประกอบ

  • แอปเปิลแดง 1 ลูก
  • กีวี 2 ลูก
  • กล้วย 1 ลูก
  • น้ำสะอาด 200 มิลลิลิตร

วิธีทำ

  1. ปอกเปลือกแอปเปิลแดง แล้วล้างน้ำให้สะอาด หลังจากนั้นทำการแกะเม็ด พร้อมกับหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ และจัดแบ่งใส่ภาชนะเตรียมไว้
  2. ปอกเปลือกกีวี แล้วล้างน้ำให้สะอาด หลังจากนั้นหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ และจัดแบ่งใส่ภาชนะเตรียมไว้
  3. ปอกเปลือกกล้วย หลังจากนั้นหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ และจัดแบ่งใส่ภาชนะเตรียมไว้
  4. นำผลไม้ทั้ง 3 ชนิดที่เตรียมไว้ใส่ลงไปในเครื่องสกัดน้ำผลไม้ พร้อมกับใส่น้ำสะอาดตามลงไป และรอให้เครื่องสกัดส่วนประกอบทั้งหมดนั้นเข้ากัน
  5. เมื่อส่วนประกอบทั้งหมดเข้ากันแล้ว ให้นำไปเทใส่แก้วน้ำ และควรดื่มให้หมดทันที

 

7.น้ำแอปเปิลแดง เลมอน และสตรอว์เบอร์รี

       สำหรับเมนูแอปเปิลแดง เลมอน และสตรอว์เบอร์รี เป็นเมนูผลไม้สกัดเย็นที่มีรสชาติเปรี้ยวอมหวานให้ความรู้สึกสดชื่น มาพร้อมกับสรรพคุณอีกมากมาย อย่างเช่น ช่วยคุมระดับน้ำตาลให้คงที่ ช่วยลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัยด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ แถมยังช่วยลดความเครียด และลดอัตราการเกิดโรคมะเร็งได้อีกด้วย ถ้าหากใครอยากดื่มน้ำผลไม้ที่สามารถช่วยให้ความสดชื่น ต้องห้ามพลาดเมนูนี้เด็ดขาด

ส่วนประกอบ

  • แอปเปิลแดง 1 ลูก
  • เลมอน ½  ลูก
  • สตรอว์เบอร์รี 7 ลูก
  • น้ำสะอาด 200 มิลลิลิตร

วิธีทำ

  1. ปอกเปลือกแอปเปิลแดง แล้วล้างน้ำให้สะอาด หลังจากนั้นทำการแกะเม็ด พร้อมกับหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ และจัดแบ่งใส่ภาชนะเตรียมไว้
  2. ล้างเลมอนด้วยน้ำให้สะอาด หลังจากนั้นแบ่งออกเป็น 2 ซีก แล้วจัดแบ่งเลมอน 1 ซีก ใส่ภาชนะเตรียมไว้
  3. เด็ดขั้วสตรอว์เบอร์รี หลังจากนั้นล้างน้ำให้สะอาด พร้อมกับหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ และจัดแบ่งใส่ภาชนะเตรียมไว้
  4. นำผลไม้ทั้ง 3 ชนิดที่เตรียมไว้ใส่ลงไปในเครื่องสกัดน้ำผลไม้ พร้อมกับใส่น้ำสะอาดตามลงไป และรอให้เครื่องสกัดส่วนประกอบทั้งหมดนั้นเข้ากัน
  5. เมื่อส่วนประกอบทั้งหมดเข้ากันแล้ว ให้นำไปเทใส่แก้วน้ำ และควรดื่มให้หมดทันที

 

 

ข้อแนะนำในการดื่มน้ำผลไม้สกัดเย็น

       ถึงแม้ว่าการดื่มเมนูผลไม้สกัดเย็นนั้นจะมีประโยชน์ และอุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารมากมาย แต่เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากน้ำผลไม้ที่ดื่มไปมากที่สุด ทุกคนจึงควรทำตามคำแนะนำ ดังนี้

  • ควรดื่มภายใน 15 นาที

       วิธีทำผลไม้สกัดเย็นนั้น คือ การแยกระหว่างเนื้อผลไม้ และน้ำผลไม้ ดังนั้น น้ำผลไม้ที่ทำการสกัด หรือปั่นออกมาแบบสดใหม่ จะมีคุณค่าทางอาหารสูง จึงควรดื่มภายใน 15 นาที เพื่อคงคุณค่าทางโภชนาการสูงสุด ถ้าหากทำการแช่เย็น หรือวางตากแดดไว้ อาจทำให้สูญเสียคุณค่าทางโภชนาการได้

  • ไม่ควรผสมผลไม้เยอะเกินไป

       ผลไม้แต่ละชนิดนั้นมีสรรพคุณแตกต่างกัน โดยผลไม้บางชนิดนั้นไม่สามารถทานร่วมกัน หรือมีสารอาหารบางชนิดที่อาจทำปฏิกิริยาต่อกัน ซึ่งสามารถส่งผลให้ผู้ดื่มนั้นเกิดอาการคลื่นไส้ ท้องเสีย หรืออาเจียนได้ ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการผสมผลไม้ในปริมาณที่มากเกินไป

  • ไม่ควรผสมน้ำแข็ง

       การผสมน้ำแข็งเข้าไปในเมนูผลไม้สกัดเย็นนั้นนอกจากจะส่งผลให้คุณค่าทางอาหารลดลงแล้ว ยังส่งผลให้ร่างกายของเราต้องใช้พลังงาน เพื่อทำให้น้ำผลไม้ที่ดื่มเข้าไปนั้นมีอุณหภูมิสูงขึ้น ก่อนจะทำการดูดซึม ดังนั้น จึงไม่ควรผสมน้ำแข็งเข้าไปในน้ำผลไม้อย่างเด็ดขาด

 

       เห็นไหมล่ะค่ะ ว่าวัตถุดิบทำงาน แถมมีประโยชนืด้วย การดื่มผลไม้สกัดเย็นเหมาะมากสำหรับสายรักสุขภาพ หรือผู้ที่ต้องการทานผัก และผลไม้ แต่ไม่สามารถหรือไม่สะดวกรับประทานแบบเป็นผลได้ ซึ่งวิธีทำผลไม้สกัดเย็นนั้นมีขั้นตอนง่ายๆ จึงทำให้สามารถทำเมนูน้ำผลไม้สกัดเย็นด้วยตัวเองได้ที่บ้าน หรือจะเตรียมวัตถุดิบแช่เย็นไว้ แล้วนำมาทำวันต่อวันก็ยังได้

 

ที่มา: thestreetratchada.com

ใส่ความเห็น

มกราคม 2025
จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส. อา.
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031