การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ หรือการเป็นคน Productive ช่วยป้องกันอาการหมดไฟในการทำงานได้
แล้วเราต้องทำงานให้ Productive แค่ไหนถึงจะดี? เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล เราต่างคนต่างทำงาน ต่างสาขาอาชีพ ใช้เวลาทำงานไม่เท่ากัน และเป้าหมายของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน แต่อาจจะเป็นอีกมุมมองหนึ่งที่เราเองก็สามารถเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้นได้ด้วยการใช้ชีวิตและทำงานให้เป็นคน Productive ได้ เพราะสิ่งรอบข้างต่างพัฒนาตลอดเวลา และเราก็ต้องพัฒนาตนเองตามด้วยเช่นกัน
เราอยากให้คุณลองปลุกตัวเองขึ้นมาเป็นคน Productive หรือคนทำงานอย่างมีประสิทธิภาพกันอีกสักตั้ง เพื่อเติมพลังการทำงานให้ล้นเหลือและจุดประกายไอเดียสุดบรรเจิดให้กับการทำงานของตัวเองกัน
4 วิธีปรับนิสัยการใช้ชีวิตให้เป็นคน Super Productive
1. จัดระเบียบการทำงาน
สิ่งสำคัญที่ทำให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็คือการทำงานทีละอย่าง ถ้าคุณคือคนหนึ่งที่กำลังเปิดคอมพิวเตอร์ 3 หน้าจอ พร้อมกับอีก 3 แอปพลิเคชันในโทรศัพท์ไปพร้อมกัน ขอแนะนำให้เลิกทำ เพราะทำให้คุณเสียสมาธิมาก แต่ถ้าคุณทำงานให้เสร็จเป็นงาน ๆ ไป รับรองว่างานทุกชิ้นจะออกมามีประสิทธิภาพแน่นอน ที่สำคัญอย่าลืมหาเวลาพักสัก 10-15 นาที เพื่อออกไปเดินเล่น พักสมอง และพักสายตาด้วย
2. ขอความช่วยเหลือบ้าง
หลายคนมีความรับผิดชอบสูงจนรับทุกงานที่ได้รับมอบหมายมาทำเองคนเดียว ข้อดีคือได้คุณภาพงานอย่างที่ตั้งใจ แต่ข้อเสียคือคุณจะรู้สึกหมดพลังและสะสมความเครียด รวมถึงความกดดันไว้กับตัวเอง เปรียบเหมือนระเบิดเวลาที่รอจังหวะปล่อยตูมออกมาในที่สุด เพราะคุณจะทำงานเกินกำลังตัวเองจนเกินรับไหว ฉะนั้น คุณต้องรู้จักจัดสมดุลชีวิตตัวเองให้ได้ อย่าอายหรือกลัวที่จะขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น
3. ดูแลตัวเอง
อย่าละเลยการดูแลตัวเอง ทั้งร่างกายและจิตใจ และจำไว้ว่าการทำงานหนักโดยไม่สนใจสุขภาพเป็นสิ่งที่ต้องระวังและควรหลีกเลี่ยง ทุกคนควรจัดสรรและแบ่งเวลาสำหรับการออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการออกไปเดินเล่นในสวนสาธารณะหลังเลิกงาน หรือการออกกำลังกายเบา ๆ ไปกับคลิปทางยูทูบ ที่สำคัญควรใช้เวลาสั้น ๆ สัก 5 – 10 นาทีในตอนเช้าสำหรับการทำสมาธิ เพื่อให้ตัวเองจดจ่อกับสิ่งต่าง ๆ ที่ต้องทำในแต่ละวันได้เต็มที่ สละเวลาไม่มากในแต่ละวันเพื่อดูแลร่างกายและจิตใจตัวเอง แล้วคุณจะประหลาดใจกับผลลัพธ์ที่ได้และความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตัวเอง
4. พัฒนาตัวเองด้วยการทำสิ่งที่ชอบ และค้นหาสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ
ความรู้ต่าง ๆ อยู่รอบตัวเราเสมอ และการเรียนรู้ก็เป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิต คงไม่มีใครอยากยํ่าอยู่กับที่ โดยไม่พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นกว่าเดิม ‘จงทำตัวเป็นนํ้าครึ่งแก้ว’ เป็นคติประจำใจที่ใช้ได้ดีเสมอ เพราะเราสามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เพื่อนำมาปรับใช้ในทุกวันของการทำงาน และองค์กรทุกวันนี้ก็ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรอยู่ไม่น้อย เพื่อให้พนักงานได้มีโอกาสพัฒนาฝีมือและสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
จะเห็นได้ว่าการทำงานและใช้ชีวิตให้ Super Productive นั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะสามารถทำได้ภายในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์หรือหนึ่งเดือน เราต้องค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนนิสัยทีละนิดทีละหน่อย ทำให้เป็นกิจวัตร คอยสังเกตภาพรวมของตัวเอง แล้วจะพบว่าชีวิตของคุณจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน
ที่มา: gridmag.co