Shopping cart

     จังหวัดลำปาง เป็นเมืองท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในภาคเหนือที่ยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายของบรรยากาศย้อนยุค เริ่มจากการเดินทางภายในตัวเมืองที่ยังใช้รถม้าเป็นพาหนะรับส่งผู้โดยสาร จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัด ตลอดจนอาคารสถาปัตยกรรมโบราณ เช่น ในกาดกองต้า ซึ่งเป็นย่านการค้าเก่าแก่ริมแม่น้ำวัง สะพานรัษฎาภิเศก หรือสะพานขาว แลนด์มาร์กเก่าแก่ของลำปางอายุกว่าร้อยปี และอุโมงค์ขุนตาน ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นอุโมงค์รถไฟที่สวยงามและยาวที่สุดในไทย 

     ถึงแม้จังหวัดลำปางจะเป็นเมืองรองที่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยนิยมมากนัก แต่ก็เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ทางวัฒนธรรมล้านนาที่สวยงาม เราจะได้สัมผัสวิถีชีวิตที่เนิบช้าแต่เปี่ยมไปด้วยความหมายในทุกย่างก้าว ได้ชิมอาหารพื้นเมืองแสนอร่อยที่หากินที่ไหนไม่ได้ รวมไปถึงได้เดินทางไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ใครที่อยากไปสัมผัสเมืองลำปาง เมืองล้านนาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แห่งนี้

1. วัดพระธาตุลำปางหลวง

จังหวัดลำปาง

ภาพจาก: CBT Thailand – dasta

     วัดพระธาตุลำปางหลวง ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลลำปางหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง อยู่ห่างจากตัวเมืองลำปางไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 18 กิโลเมตร วัดตั้งอยู่บนเนินสูง มีการจัดวางผังและส่วนประกอบของวัดสมบูรณ์แบบที่สุด มีสิ่งก่อสร้าง และสถาปัตยกรรมต่าง ๆ บริเวณพุทธาวาสประกอบด้วย องค์พระธาตุลำปางหลวง เป็นประธาน มีบันไดนาคนำขึ้นไปสู่ซุ้มประตูโขง ถัดซุ้มประตูโขงขึ้นไปเป็น วิหารหลวง บริเวณทิศเหนือขององค์พระธาตุมีวิหารบริวารตั้งอยู่คือ วิหารน้ำแต้ม และ วิหารต้นแก้ว ด้านตะวันตกขององค์พระธาตุประกอบด้วย วิหารละโว้ และ หอพระพุทธบาท ด้านใต้มี วิหารพระพุทธ และอุโบสถ ทั้งหมดนี้จะแวดล้อมด้วยแนวกำแพงแก้วทั้งสี่ด้าน นอกกำแพงแก้วด้านใต้มีประตูที่จะนำไปสู่เขตสังฆาวาส ซึ่งประกอบด้วยอาคาร หอพระไตรปิฎก กุฏิประดิษฐาน พระแก้วดอนเต้า อาคารพิพิธภัณฑ์และกุฏิสงฆ์

2. วัดพระธาตุดอยพระฌาน

ภาพจาก: Kapook Travel

     วัดพระธาตุดอยพระฌาน ตั้งอยู่ในอำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง วัดงามบนยอดดอยพระฌานมีความงดงามน่าประทับใจเป็นอย่างยิ่งด้วยศิลปะแบบล้านนาร่วมสมัยที่ละเอียดประณีต สวยงามและอ่อนช้อย ซึ่งนอกจากตัววัดจะมีความงดงามเป็นอย่างยิ่งแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถมาชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกยามเช้าได้ที่นี่อีกด้วย และยังได้มีแลนด์มาร์กใหม่คือ “พระพุทธรูปไดบุตสึ” องค์ใหญ่โดดเด่นอยู่บนยอดเขา เปรียบเสมือนอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น

3. ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย (สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์)

ภาพจาก: ททท. – Tourism Authority of Thailand

     ตั้งอยู่ที่บ้านทุ่งเกวียน ตำบลเวียงตาล อยู่ในความดูแลของอุตสาหกรรมป่าไม้ภาคเหนือ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.) แต่เดิม ออป. เป็นศูนย์ฝึกลูกช้างซึ่งเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในโลก โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ พ.ศ. 2512 เป็นสถานที่เลี้ยงและฝึกลูกช้างเพื่อให้เชื่อฟังคำสั่ง และมีความชำนาญในการทำไม้ขณะที่แม่ช้างไปทำงานในป่า และเนื่องจากมีนโยบายปิดป่าซึ่งทำให้ช้างต้องว่างงาน ศูนย์ฝึกลูกช้างจึงถูกปรับมาเป็นสถานที่ดูแลช้างแก่และเจ็บป่วย และที่นี่ยังเป็นสถานที่ตั้งของโรงพยาบาลช้างด้วย ต่อมาในเดือนมกราคม พ.ศ. 2535 ออป. ได้ก่อตั้งศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยขึ้นและจัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ ได้แก่ การแสดงช้าง การอาบน้ำช้าง การขี่ช้างชมธรรมชาติ การชมวิถีชีวิตช้างโขลง การฝึกควาญช้าง รวมไปถึงการพักโฮมสเตย์เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตช้าง

4. วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์

ภาพจาก: iStock

     วัดเฉลิมพระเกียรติฯ ตั้งอยู่บนยอดเขาที่เรียกกันว่า ดอยปู่ยักษ์ ในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าดอยพระบาท ซึ่งภายในวัดมีรอยพระพุทธบาทประดิษฐานอยู่ และมีเจดีย์ตั้งอยู่บนยอดเขาเป็นไฮไลท์ของวัด ในอดีตนั้นยังไม่ได้มีการสร้างทางขึ้นเขา ชาวบ้านที่ศรัทธาจะต้องเดินขึ้นเขาฝ่าดง เพื่อไปสักการะรอยพระพุทธบาทอย่างยากลำบาก ต่อมาเมื่อหลวงพ่อไพบูลย์ สุมัคโล เจ้าอาวาสวัดอนาลโยทิพยาราม จังหวัดพะเยา ได้เดินทางมาสักการะรอยพระพุทธบาท เกิดพลังศรัทธา และประสงค์จะพัฒนาสร้างวัด จนเมื่อปี พ.ศ.2547 คณะสงฆ์จึงมีมติให้สร้างวัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชาชานุสรณ์ขึ้น ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พระราชสมภพครบ 200 ปี

5. ถนนคนเดิน กาดกองต้า

ภาพจาก: Tour Planet

     กาดกองต้า หรือ ตลาดจีน ตั้งอยู่บนถนนตลาดเก่า ตำบลสวนดอก อำเภอเมืองลำปาง บนถนนที่เป็นที่ตั้งของตลาด มีอาคารโบราณอายุกว่าร้อยปี ที่เป็นเอกลักษณ์และมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ คำว่า กาดกองต้า มีความหมายว่า ตลาดตรอกท่าน้ำ เรียกตามที่ตั้งที่อยู่ขนานกันกับลำน้ำวัง เมื่อครั้งในอดีต ที่นี่เคยเป็นตลาดที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาก เนื่องจากลำปางเคยเป็นศูนย์กลางทางการค้าของภาคเหนือ ย่านการค้าส่วนมากมักจะเกิดขึ้นที่ริมฝั่งแม่น้ำสายใหญ่ เลยเกิดชุมชนที่เข้ามาทำการค้าทางธุรกิจต่างๆ ทั้ง ชาวอังกฤษ ชาวเมียนมาร์ และชาวจีน ที่เข้ามาทำการค้ามากที่สุด จึงกลายเป็นชุมชนชาวจีนขนาดใหญ่ขึ้นมา ชาวบ้านเลยเรียก กาดกองต้า ว่าตลาดจีน

6. หล่มภูเขียว

ภาพจาก: ข่าวสดออนไลน์

     หล่มภูเขียว ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท ตำบลบ้านอ้อน อำเภองาว เป็นความสวยที่เกิดจากธรรมชาติอย่างแท้จริง ลักษณะจะเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่คล้ายปล่องภูเขาไฟ ตั้งอยู่บนภูเขาอีกที ซึ่งที่นี่น่าจะเกิดจากการยุบตัวของผิวดิน หรือหลุมยุบ เป็นธรณีพิบัติภัยประเภทหนึ่ง ที่มีลักษณะพื้นผิวพังทลายจนเกิดเป็นหลุมขึ้นมา และบริเวณโดยรอบของหล่มภูเขียว มีลักษณะเป็นป่าดิบแล้ง ล้อมไปด้วยหน้าผาที่เกิดจากภูเขาหินปูน ส่วนภายในหลุมจะมีน้ำสีฟ้าและน้ำสีเขียวมรกต ที่มีความใส นิ่ง และลึก และยังเป็นที่อยู่อาศัยของปลาหลายชนิด ทำให้ที่นี่กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดอันซีนของธรรมชาติของจังหวัด

7. วัดศรีรองเมือง

     ตั้งอยู่บ้านท่าคราวน้อย ตำบลสบตุ๋ย เป็นวัดพม่าที่สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) โดยคหบดีชาวพม่าที่เข้ามาทำไม้ในเมืองลำปาง ก่อสร้างโดยช่างฝีมือพม่า เมืองมัณฑะเลย์ ใช้เวลาในการสร้างประมาณ 7 ปี ซึ่งชาวพม่ามีความเชื่อในเรื่องการสร้างวัดทดแทนต้นไม้ที่มีเทพสิงสถิตอยู่ สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด ได้แก่ 

ภาพจาก: Tripadvisor

     – วิหารไม้ หรือที่เรียกกันว่า “จอง” เป็นวิหารไม้ขนาดใหญ่ศิลปะพม่า มีหลังคาทรงจั่วซ้อนชั้น มียอดแหลม 9 ยอด เพดานเป็นไม้แกะสลัก และเสากลมใหญ่จำหลักลวดลายทอง ดอกไม้ พันธุ์พฤกษา ประดับด้วยกระจกสีตั้งแต่โคนเสาจนถึงปลายเสา โดยเฉพาะเสาหน้าพระประธานจะปั้นรักเป็นรูปเทพารักษ์ คน ยักษ์ วานร และสัตว์ป่า เหมือนในป่าหิมพานต์ ภายในประดิษฐานพระประธานปางมารวิชัย ศิลปะพม่า 

     – เทพทันใจ เป็นเทพที่ชาวบ้านและผู้ศรัทธาเชื่อว่าสามารถขอพรได้ตามประสงค์ดังหวัง มีผู้เดินทางมาแก้บนหลังได้พรสำเร็จดังหวังเป็นจำนวนมาก

8. สวนพฤกษชาติ, พิพิธภัณฑ์ศูนย์ถ่านหินลิกไนต์ศึกษเหมืองแม่เมาะ

     พิพิธภัณฑ์ศูนย์ถ่านหินลิกไนต์ศึกษาเหมืองแม่เมาะ  เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว  จัดตั้งขึ้นเพื่อให้ตระหนักถึงความสำคัญของพลังงานจากถ่านหินและความสำคัญของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ที่มีต่อความมั่นคง ด้านพลังงานของประเทศ  เข้าใจถึงกระบวนการผลิตกระแสไฟฟ้าและมาตรการในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และชุมชนอย่างใส่ใจ ภายในแบ่งการจัดแสดงออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ ๆ ส่วนแรกบริเวณโถงทางเข้า ต้อนรับผู้เข้าชมด้วยวิดีทัศน์แนะนำความเป็นมา ส่วนที่ 2 จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับธรณีวิทยาทั้งหมด ห้องแรกเป็นห้องถ่านน้อยที่จะเริ่มเตรียมความรู้เบื้องต้นให้แก่ผู้ชมเกี่ยวกับธรณีวิทยา การกำเนิดโลก วิวัฒนาการของโลก ส่วนที่ 3 จัดแสดงเรื่องเหมืองและโรงไฟฟ้าแม่เมาะ มีวิดีทัศน์สาธิตกระบวนการทำเหมืองถ่านหินลิกไนต์ แบบจำลองการทำเหมืองเปิดถ่านลิกไนต์

ภาพจาก: Dek-D.com

     และยังมีสวนพฤกษชาติ ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ดอกไม้นานาพันธุ์ไว้ให้ถ่ายรูปกัน ใครชอบวิวดอกไม้สวย ๆ อยากได้ภาพทุ่งดอกไม้อลัง ๆ ต้องแวะมาเช็คอิน โดยเฉพาะช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ทุ่งดอกบัวตองบานสะพรั่งสวยงามมาก มีพื้นที่สำหรับการเล่นสไลเดอร์จากเนินเขาภายในสวนพฤกษชาติ

9. พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดี

ภาพจาก: พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดี I DHANABADEE CERAMIC MUSEUM

     ท่านอาปาอี้ (ซิมหยู) แซ่ฉิน เป็นผู้บุกเบิกในการทำชามตราไก่ในประเทศไทย โดยเมื่อปี พ.ศ.2498 ท่านอาปาอี้ (ซิมหยู) ได้ค้นพบแร่ดินขาวครั้งแรกที่บ้านปางค่า อำเภอแจ้ห่ม ต่อมาได้ร่วมก่อตั้งโรงงานเซรามิคแห่งแรกของจังหวัดลำปาง ผลิตถ้วยขนมและถ้วยตะไลด้วยกรรมวิธีการผลิตแบบดั้งเดิม และส่งออกไปทั่วประเทศ พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดี มีโซนด้านใน ที่มีการบอกเล่าเรื่องราววิวัฒนาการแต่ละยุค แต่ละสมัย ช่วงสงครามโลก ชามไก่จากจีนสู่ธนบุรี การเดินทางของชามไก่ในเอเชีย ชามไก่ทองคำยักษ์ใหญ่ ชามไก่ที่บางที่สุดในโลก บางขนาดที่ว่าแสงทะลุผ่านได้เลย และที่สำคัญจะได้เห็น ชามไก่ที่เล็กที่สุดในโลกที่ต้องใช้แว่นขยายซูมดูเลย

ที่มา www.th-hellomagazine.com, thai.tourismthailand.org, travel.trueid.net 

ใส่ความเห็น

กุมภาพันธ์ 2025
จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส. อา.
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
2425262728