17/05/2023 Admin Shop2 ไม่มีความเห็น ศิลปะเป็นศาสตร์ที่ไร้ขอบเขต มีความหลากหลายและเป็นวิชาที่ใครหลายๆ คนชอบ แต่ลองมาดูกันว่า มีความเข้าใจผิดอะไรบ้างต่อการเรียนศิลปะ ถ้าอยากเลือกเรียนและพัฒนาต่อยอดในวิชาศิลปะ 1) เรียนศิลปะ จบมาแล้วไส้แห้ง ไม่มีงานทำ เรามักจะคุ้นตาประโยคนี้จากหนังสือการ์ตูน ที่ศิลปินในสมัยนั้นนำมาเขียนเป็นมุกตลก หรือมาจากความเชื่อของผู้ใหญ่ในสมัยก่อน แต่ความเป็นจริงแล้วในปัจจุบัน มีสายอาชีพที่เกิดจากการนำศิลปะ การออกแบบ มาสร้างเป็นรายได้และมีมูลค่าสูงมาก เช่น นักออกแบบ-ตกแต่งภายใน กราฟิกดีไซน์เนอร์ นักวาดภาพ ออกแบบสื่อ มีเดีย หรือสินค้า นักวาดภาพ NFT ในปัจจุบันมีผลงานของศิลปินไทยหน้าใหม่ที่โดดเด่นและน่าจับตาอยู่มาก อาทิ Gongkan-กันตภณ เมธีกุล, Suntur-ยศนันท์ วุฒิกรสมบัติกุล, Alex face-พัชรพล แตงรื่น, และ Linecensor- เกียรติอนันต์ เอี่ยมจันทร์ ที่ผลงานอยู่ในมือนักสะสมทั้งไทยและต่างประเทศระดับหลักแสนไปจนถึงล้านเลยทีเดียว ภาพจาก: www.gathered.how 2) ศิลปะเป็นเรื่องง่ายๆ ถึงแม้ว่าศิลปะจะเป็นศาสตร์ที่เกิดจากความคิด จินตนาการอันไร้ขอบเขตของศิลปินผู้สร้างสรรค์ แต่ถ้าได้ศึกษาอย่างลึกซึ้ง จริงจังแล้ว ศิลปะเป็นวิชาที่ต้องอาศัยการฝึกฝนทักษะ และพัฒนาฝีมืออย่างต่อเนื่อง เพราะมีเทคนิคหลากหลายที่เราต้องเรียนรู้ ต้องมีความรับผิดชอบ มีระเบียบวินัยในการเรียนมากๆ 3) คนเรียนศิลปะ คือคนสิ้นคิด มุมมองของบางคน มักจะมีแนวคิดว่า คนที่เลือกเรียนศิลปะส่วนใหญ่ คือคนที่คิดอะไรไม่ออกแล้วเลยเลือกเรียนสิ่งนี้ จะต้องเลือกเรียนสายวิชาการอย่าง แพทย์ศาสตร์ ครุศาสตร์ หรือนิติศาสตร์ ถึงจะเป็นคนเก่ง จริงๆ แล้ว ศิลปะก็คือศาสตร์ที่มีทฤษฎีและมีความละเอียดลึกซึ้งไม่แตกต่างจากศาสตร์อื่น มีศิลปินหลายคนที่สร้างผลงานศิลปะที่มีชื่อเสียงโด่งดังไว้มากมายและสร้างมูลค่าอันมหาศาล อย่าให้ความชอบของเราถูกปิดกั้นจากความเชื่อที่ผิดๆ 4) เลือกเรียนศิลปะ เพราะไม่รู้จะเรียนอะไร ข้อนี้คล้ายๆ กับข้อ 3 แต่แตกต่างกันตรงที่ถ้ามุมมองนี้มาจากตัวเราเอง ที่ไม่รู้ว่าจะเรียนอะไรดี ถ้าอย่างนั้นเลือกเรียนศิลปะก็แล้วกัน น่าจะง่ายสุด อันนี้คือความคิดที่ผิดมาก เพราะการเรียนศิลปะต้องลงทุนทั้งเงินและเวลา ถ้าไม่ได้ชอบทางสายนี้อย่างจริงจัง แนะนำว่าให้ลองเริ่มเรียนรู้ในสิ่งที่เราชอบจริงๆ ทดลองทำไปเรื่อยๆ ดูว่าเราเหมาะกับอะไร และทำอะไรได้ดี แล้วเลือกเรียนเสริมทักษะทางด้านนั้น ภาพจาก: www.maerakluke.com 5) เรียนศิลปะ สิ้นเปลือง อุปกรณ์ในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ มีหลายรูปแบบ แต่เราสามารถเลือกใช้เฉพาะสิ่งที่จำเป็นและเราถนัดก่อนได้ แล้วค่อยๆ เก็บเงินซื้ออุปกรณ์ที่มีความหลากหลายมากขึ้น การลงทุนในอุปกรณ์และการเรียนรู้ ไม่ถือว่าเป็นการสิ้นเปลือง หากเราได้ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เราลงทุนไปแล้ว เพราะฉะนั้นก่อนตัดสินใจควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่เราจะเรียน และวางแผนให้ดี 6) เรียนศิลปะ เพราะไม่อยากเรียนทฤษฎี วิชาการ ในทางศาสตร์ศิลปะ ก็มีทฤษฎี มีกฎเกณฑ์มากมายที่เราต้องเรียนรู้ โดยเฉพาะถ้าอยากเรียนต่อในทางด้านการออกแบบ หรือศาสตร์เฉพาะทาง จะต้องมีการศึกษาทฤษฎีอย่างละเอียดและแม่นยำเพื่อมาใช้คำนวณประกอบกับงานศิลป์ ผสานกับคอนเซปต์ แรงบันดาลใจในการออกแบบสิ่งนั้น 7) เรียนศิลปะแล้วสนุก ไม่เครียด ศิลปะที่ดูเผินๆ เหมือนเป็นสิ่งที่เอาไว้เป็นงานอดิเรก เป็นกิจกรรมที่ทำเพื่อคลายเครียด บางครั้งอาจจะสร้างกดดันให้กับเราได้ เช่น การเปรียบเทียบผลงานกับคนที่เรามองว่าเก่งกว่า หรือผลงานไม่ออกมาเป็นไปตามที่คิด การเรียนศิลปะจะต้องเกิดจากความชอบจริงๆ และไม่ควรเปรียบเทียบตัวเองกับใคร ทุกคนต่างก็มีลายเส้นเป็นของตัวเอง เราถึงจะมีความสุขและมีความสนุกไปกับความกดดันเหล่านี้ได้ ภาพจาก: www.artnews.com 8) ศิลปะเกิดจากการทำอะไรก็ได้ ทุกอย่างคือศิลปะ ในความเป็นจริงแล้ว ศิลปะก็มีกฎเกณฑ์ และอยู่ภายใต้หลักการต่างๆ มากมาย และสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เราต้องเรียนรู้ เพื่อสร้างผลงานในรูปแบบที่ถูกต้อง แต่สิ่งที่ไร้ขอบเขตและไม่มีถูกผิด คือไอเดียในการสร้างสรรค์ผลงาน เราสามารถคิดและออกแบบผลงานจากจินตนาการของเรา โดยที่การสร้างผลงานต้องอยู่บนพื้นฐานของหลักกฎเกณฑ์นั่นเอง 9) ต้องวาดรูปเก่ง ถึงเรียนศิลปะได้ คนที่วาดรูปเก่งๆ ล้วนเกิดจากการฝึกฝนและพัฒนาฝีมือ ถ้าหากเราเริ่มจากการที่วาดรูปไม่เก่ง หรือวาดรูปไม่เป็นเลย เราสามารถเริ่มเรียนรู้จากพื้นฐานได้ ความเพียรพยายามและความสม่ำเสมอจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ 10) ไม่จำเป็นต้องเรียนพิเศษวิชาศิลปะ หลายๆ คนอาจจะคิดว่าเราสามารถเรียนรู้และฝึกฝนด้วยตัวเอง ก็สามารถไปเรียนต่อเฉพาะทางได้ แต่การที่เรียนกับครูที่มีประสบการณ์ มีผู้เชี่ยวชาญ คอยไกด์ไลน์และแนะนำแบบตัวต่อตัว ในสิ่งที่เป็นข้อบกพร่องของเรา จะทำให้เรามองเห็นข้อผิดพลาดได้เร็ว และไม่เสียเวลาฝึกฝนในแบบผิดๆ ทำให้เราได้รู้เทคนิคพิเศษต่างๆ เพิ่มมากขึ้นได้ด้วย การเรียนเสริมหรือเรียนพิเศษวิชาศิลปะ จึงถือว่ามีความจำเป็นมากๆ เลยทีเดียว ที่มา thailandcoursehub.com