ท่าทางที่ล้มล้างในงานแสดงศิลปะ เช่น ผลไม้ถูกติดกับเทปกาวซึ่งมีมูลค่า 120,000 ดอลลาร์ของ Maurizio Cattelan ที่แปะติดกับผนัง เป็นเพียงการหลอกลวงที่ดีขึ้นสำหรับผู้ค้าเท่านั้น Mark Hudson กล่าว
มันถูกพูดถึงแล้วว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงในประวัติศาสตร์ของศิลปะร่วมสมัย เมื่อฟองสบู่แห่งการเสแสร้งในโลกศิลปะพร้อมราคาที่สูงเกินจริงได้แตกออกในที่สุด
แน่นอนว่าฉันกำลังพูดถึงช่วงเวลากล้วยๆ เมื่อศิลปินชาวอิตาลี Maurizio Cattelan ติดเทปกาวที่ผลไม้เข้ากับผนังที่งานแสดงศิลปะ Art Basel Miami ด้วยป้ายราคา 120,000 ดอลลาร์ (ราว 4,000,000 บาท) จึงทำให้เกิดงานศิลปะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ความขัดแย้งตั้งแต่ภาพวาดที่ทำลายตัวเองของ Banksy เมื่อปีที่แล้ว เมื่อกล้วยถูก David Datuna ศิลปินการแสดงที่เกิดในจอร์เจียกินเพื่อประท้วงในราคาไร้สาระนั้น มันก็ถูกแทนที่ด้วย Banana ชนิดอื่นที่ถูกนำออกจากนิทรรศการหลังจาก “การเคลื่อนไหวของฝูงชนที่ควบคุมไม่ได้หลายครั้ง” เป็นการจลาจลในงานศิลปะเหรอ ช่างน่าสลดใจเสียจริง!
“Comedian” โดยศิลปินชาวอิตาเลียน Maurizio Cattelan ในพิพิธภัณฑ์ Leeum Museum of Art ภาพจาก: Kim Kyoungtae/Maurizio Cattelan/Leeum Museum of Art
ผลงาน “ฉบับพิมพ์” ทั้งสามชุดจำหน่ายในราคาเต็ม พร้อมใบรับรองและ “คำแนะนำในการเปลี่ยน” เมื่อผลไม้นั้นตาย นั่นคือภายในหนึ่งสัปดาห์ ในขณะเดียวกัน ศิลปินคนที่สองคือ Rod Webber ถูกจับหลังจากพ่นสี “Epstien ไม่ได้ฆ่าตัวตาย” บนผนังว่างเปล่าซึ่งมีกล้วยอยู่ต้นหนึ่ง
เมื่อผลงานชิ้นนี้มีอายุครบ 1 ปี Banana จำนวนมากจะเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่แน่นอนว่าทั้งหมดเป็นผลไม้ชิ้นเดียวกัน ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับ Banana ดั้งเดิม ซึ่งตามคำบอกเล่าของศิลปินและตัวแทนจำหน่าย Galerie Perrotin เป็น “ความคิด” ไม่ใช่วัตถุ ยังอยู่กับฉันไหม
Banana เป็นตัวบ่งชี้ความเฮฮาแบบดั้งเดิม เราเจาะความเสแสร้งของเราด้วยการไถลไปบนผิวหนัง พวกเขาเป็นตัวละครตลกสำหรับสมาชิกชาย และพวกเขาเป็นสีเหลือง ซึ่งเป็นสีที่มักถูกมองว่างี่เง่าเล็กน้อย ด้วยเหตุผลเหล่านี้และอีกมากมาย Cattelan วัย 59 ปีซึ่งเป็นหนึ่งในนักอุตริที่เป็นที่ยอมรับมากขึ้นของศิลปะร่วมสมัย (ผลงานก่อนหน้านี้ ได้แก่ โถส้วมทองคำตันที่ถูกขโมยไปจากพระราชวังเบลนไฮม์เมื่อต้นปีนี้) ตั้งชื่อผลงานของเขาว่า Comedian แต่ถึงกระนั้นแม้แต่นักโต้เถียงผู้ชำนาญการคนนี้ก็แทบจะคาดเดาเรื่องตลกอันน่าอัศจรรย์ภายในเรื่องตลกที่เขากำลังจะปลดปล่อยออกมาไม่ได้
ภาพล้อเลียนจาก Burger King โดยใช้เฟรนช์ฟรายแทน Banana
นับตั้งแต่งานเปิดตัว Comedian ก็เป็นผลงานที่ถูกพูดถึงมากที่สุด โอกาสเซลฟี่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับกลุ่มคนโพสท่า คนชอบถ่ายรูป และนักถ้ำมองที่เป็นกลุ่มผู้ชมงานศิลปะทั่วไป จากนั้นนาย Datuna หยิบกล้วยจากผนังอย่างใจเย็นและกินมันผ่านกล้อง โพสต์ภาพยนตร์เรื่องนี้บน Instagram: ท่าทางที่ดูเหมือนจะทำให้ Art Basel และทุกสิ่งที่โลกศิลปะเชิงพาณิชย์ยืนอยู่บนหัวของพวกเขา หากผู้สัญจรไปมาสามารถกินงานศิลปะมูลค่า 120,000 ดอลลาร์ได้โดยไม่ตั้งใจ นั่นไม่ได้เป็นการบ่อนทำลายพื้นฐานเชิงพาณิชย์ของงานศิลปะทั้งหมดใช่หรือไม่
ผลกระทบของ l’affaire banane ต่อวิธีที่เราเห็นงานศิลปะได้รับการกล่าวถึงอย่างมากแล้ว Sebastian Errazuriz ดีไซเนอร์จากนิวยอร์คซึ่งเป็นหนึ่งในหลาย ๆ คนที่สร้างผลงานเชิงเสียดสีตอบโต้ผลงานของเขาเอง ในกรณีของเขา ดิลโด้ติดอยู่กับผนังในราคา 12,000 เหรียญสหรัฐ โดยอ้างว่า “ไม่มั่นใจว่าโลกศิลปะจะฟื้นตัวเต็มที่ นี่อาจเป็นแรงผลักเล็กน้อยที่ทำให้ผู้คนตะโกนว่าจักรพรรดิไม่มีเสื้อผ้าและเริ่มผลักกลับในที่สุด”
The aftermath of the incident. ภาพจาก: shwan.han/Instagram
Jerry Saltz นักวิจารณ์ศิลปะรุ่นเก๋าของนิตยสารนิวยอร์กประกาศว่า ศิลปะจะดี; พวกเราก็เช่นกัน แต่ศิลปะมุกตลก นานะอาร์ตที่ทำให้ตกใจ ศิลปะเกี่ยวกับศิลปะเกี่ยวกับศิลปะ นั่นคือทั้งหมดที่ DOA เคยทำมาเป็นเวลากว่าทศวรรษหรือมากกว่านั้น การโยกย้ายกำลังดำเนินอยู่ – ศิลปะกำลังเคลื่อนไหว”
เสียงที่ยอดเยี่ยมเหรอ ถ้าเพียงแค่ใครๆ ก็คิดว่าทั้งคุณ Errazurie และคุณ Saltz ไม่เคยไปงานแสดงศิลปะ พวกเขาไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับความพึงพอใจในตนเองอย่างร้ายแรงของโลกศิลปะเชิงพาณิชย์และความสามารถในการเลือกแม้แต่ท่าทางที่บ่อนทำลายการแสดงตนของตนเอง ความสนใจ
นี่คือพายุในถ้วยชาแบบกระจกกันกระสุน ซึ่งผู้ชมซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักถ่ายเซลฟี่ที่เข้าคิวจะจ่ายอย่างงาม (ตั๋วรายวันราคา 65 ดอลลาร์) สำหรับภาพลวงตาของการมีส่วนร่วมในโลกที่หายวับไปชั่วขณะ ของความเย้ายวนใจเหนือธรรมชาติและเงินทอง ที่ซึ่งพลังสำคัญในชีวิตประจำวันจะถูกระงับ เมื่อดูที่ Comedian ของ Cattelan เราสามารถเห็นตัวอย่างและการอ้างอิงมากมายตั้งแต่ผลงาน 88 ของ Martin Creed ที่ได้รับรางวัล Turner Prize ในปี 2544 ลูกบอลกระดาษที่ขันติดไว้ที่ผนัง Tate ไปจนถึงภาพวาด “vanitas” ในศตวรรษที่ 17 ซึ่งผลไม้ที่เน่าเปื่อยทำให้เรานึกถึงความตายของเราผ่านทางกล้วยบนปกอัลบั้ม Velvet Underground อันโด่งดังของ Andy Warhol ในปี 1966 แต่ในสภาพแวดล้อมเช่น Art Basel Miami ทุกสิ่งที่รู้สึกบังเอิญโดยสิ้นเชิงเป็นอาหารสำหรับเล่ห์เหลี่ยมของตัวแทนจำหน่าย
ที่มา www.independent.co.uk